เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 30 กรกฎาคม 2025, 04:15:01
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  งาน 100 ปี กาดหลวง นครเชียงใหม่
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน งาน 100 ปี กาดหลวง นครเชียงใหม่  (อ่าน 2179 ครั้ง)
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 18:49:37 »

ขณะที่ชาวเชียงรายกำลังปลื้มกับเซ็นทรัล พลาซ่า แหล่งช็อปปิ้งแห่งใหม่
คนเชียงใหม่กลับสวนกระแส หันไปเห่อของเก่า
จัดงาน 100 ปี กาดหลวง นครเชียงใหม่ ในชื่อ "มหากาด"
มีการเปิดตึกเก่าให้ชม มีการจัดนิทรรศการทั่วพื้นที่
ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2553 - 6 กุมภาพันธ์ 2554 ครับ

ช่วงนี้ใครได้ไปเชียงใหม่ก็อย่างลืมแวะเยี่ยมชมงานได้ครับ


สำหรับตลาดวโรรส หรือที่รู้จักกันในนาม “กาดหลวง” สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2453 จากพระประสงค์ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี โดยทำการย้ายกู่หรืออัฐิเจดีย์ของเจ้านายฝ่ายเหนือ จากสุสานข่วงเมรุไปรวบรวมไว้ที่วัดสวนดอกก่อนจะสร้างตลาดขึ้นทดแทน และตั้งชื่อตามพระนามของเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ ผู้ครองนครเชียงใหม่
      
ชุมชนในบริเวณกาดหลวงประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและศาสนา นอกจากนี้บริเวณรอบๆกาดหลวงยังมีตลาดต้นลำไย ตลาดนวรัฐและตลาดเทศบาลตั้งอยู่ใกล้กัน จึงถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมตลาดของเชียงใหม่ และในปัจจุบันกาดหลวงเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งซื้อขายอาหาร สินค้าและของที่ระลึกพื้นเมืองที่มีผู้คนมากมายมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก


* 001.jpg (83.79 KB, 640x589 - ดู 458 ครั้ง.)

* 002.jpg (110.39 KB, 455x600 - ดู 461 ครั้ง.)

* 003.jpg (67.9 KB, 300x426 - ดู 443 ครั้ง.)

* 004.jpg (36.74 KB, 393x303 - ดู 458 ครั้ง.)

* 005.jpg (76.89 KB, 600x475 - ดู 445 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 มกราคม 2011, 19:11:05 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 18:51:34 »

100 ปีของกาดหลวงน่าสนใจไม่แพ้ตลาดเก่า ๆ ในประเทศไทย มีเรื่องราวที่เล่าได้อย่างมีสีสัน เพราะมีชีวิตผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ศาสนาอยู่ในตลาดนั้น ผุ้คนชาวเชียงใหม่ผูกพันเป็นตลาดคู่เมือง มากกว่าความรู้สึกที่มีต่อ Modern Trade ที่ตีโอบล้อมเมืองเชียงใหม่ดักกินกำลังซื้อผู้บริโภคอยู่ทุกวัน

ข้อมูลของศูนย์สนเทศภาคเหนือ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ได้เก็บรวบรวมประวัติและภาพถ่ายเก่าของ อ.บุญเสริม ศาตราภัย ได้บันทึกไว้ว่า กาดทั้งสามตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ตั้งขึ้นในช่วงที่การค้าทางเรือระหว่างเชียงใหม่และกรุงเทพฯ มีความเจริญเติบโตมาขึ้น ในช่วงนั้นมีเรือสินค้าเข้ามาจอดรับส่งสินค้าที่ท่าน้ำทางฝั่งตะวันตกเป็นจำนวนมาก ท่าเรือสำคัญทางฝั่งนี้คือ คุ้มท่าซึ่งตั้งอยู่หน้าคุ้มเจดีย์กิ่ว (ปัจจุบันคือสถานกงสุลอเมริกัน) ท่าเรือแห่งนี้เป็นท่าเรือสำหรับจอดขบวนเรือของเจ้าหลวงและเรือหางแมงป่องที่เดินทางไปมาระหว่างเชียงใหม่และกรุงเทพฯ

เล่ากันว่า ในแต่ละวันมีเรือมาจอดเรียงรายยาวจากคุ้มท่าจนถึงคุ้มเจ้าแก้วนวรัฐ (ปัจจุบันคือกาดเจ๊กโอ้ว) ในขณะเดียวกันก็มีผู้คนค่อยๆ ทยอยเข้ามาตั้งถิ่นฐานทำมาหากิน บางคนเป็นพ่อค้าคนกลางซื้อขายสินค้าที่มาจากกรุงเทพฯ และซื้อสินค้าจากภาคเหนือส่งลงไปขายที่กรุงเทพฯ บางคนทำการค้ากับพ่อค้าคนกลางขายสินค้าอุปโภคและบริโภค เช่น อาหาร พืชผัก เนื้อสัตว์ ของแห้ง และเสื้อผ้า เป็นต้น เมื่อรถไฟมาถึงเชียงใหม่ สะพานข้ามน้ำปิงสร้างเสร็จก็ยิ่งทำให้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาตั้งร้านค้าทำมาหากินหนาแน่นมากขึ้น ทำให้ตลาดทั้งสามแห่งนี้ค่อยๆ เติบโตขึ้นตามการหลั่งไหลของผู้คนที่เข้ามาทำมาหากิน

กาดหลวงหรือตลาดวโรรส ตั้งอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นข่วงเมรุหรือสุสานเก่าของเจ้านายฝ่ายเหนือ ในปีพ.ศ. 2452 พระราชชายาเจ้าดารารัศมีโปรดให้ย้ายสุสานไปไว้รวมกันที่วัดสวนดอก และในปีพ.ศ. 2453 พระองค์ได้พัฒนาพื้นที่นี้ขึ้นเป็นกาด เพื่อให้คนได้แลกเปลี่ยนซื้อขายกัน ชื่อกาดวโรรสนำมาจากพระนามของเจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ พระองค์ที่ 8

กาดต้นลำไย หรือตลาดต้นลำไย ในหนังสือเรื่องเล่าจาวกาด เล่ม 2 กล่าวว่า เดิมบริเวณนี้เป็นแหล่งเลี้ยงช้างและที่อาบน้ำช้างของเจ้าหลวงผู้ปกครองเมืองเชียงใหม่ ต่อมาหลวงโยนการพิจิตร (หม่องปันโหย่ว อุปโยคิน) เข้ามาขอเช่าที่เพื่อใช้เป็นที่เลี้ยงช้างชักลากซุง ล่องตามน้ำปิงของบริษัทบอร์เนียวและบอมเบย์เบอร์มา พร้อมกับสร้างห้องแถวติดแม่น้ำปิงให้คนงานอาศัยอยู่ ทำให้บริเวณนี้กลายเป็นชุมชนย่อยๆ และมีพ่อค้าแม่ค้าทยอยนำสินค้ามาตั้งขายใต้ต้นลำไยให้กับคนงานและคนที่สัญจรไปมา เมื่อแรกตั้งมีลักษณะเป็นกาดก้อมเล็กๆ ต่อมาได้พัฒนาขึ้นเป็นตลาดขนาดใหญ่ เรียกว่ากาดต้นลำไย

กาดเจ๊กโอ้วหรือตลาดนวรัฐ ตั้งขึ้นตามชื่อของเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าหลวงองค์ที่ 9 (พ.ศ.2452-2482 ) ทั้งนี้เพราะตั้งอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นคุ้มของเจ้าแก้วนวรัฐ ในปีพ.ศ. 2488 เถ้าแก่โอ้ว (นายชู โอสถาพันธุ์) ได้ซื้อคุ้มหลังนี้ และอพยพครอบครัวเข้าไปอยู่ ในปี พ.ศ. 2500 เถ้าแก่โอ้วได้รื้อคุ้มออกและพัฒนาพื้นที่ให้เป็นตลาด เพราะเห็นว่าบริเวณนี้อยู่ติดกับแม่น้ำปิง มีผู้คนสัญจรไปมามาก ประกอบกับตัวคุ้มเองก็ชำรุดและเสื่อมโทรมลงมากแล้ว

เมื่อแรกตั้งกาดทั้งสามยังเป็นลานโล่งๆ ติดตลาดไม่นาน เริ่มตั้งแต่เช้ามืดพอสายหน่อยแดดแรงก็กลับบ้าน เมื่อมีคนเข้ามาค้าขายมากขึ้น จึงมีการสร้างอาคารร้านค้าถาวรเรียงรายอยู่บนสองฝั่งถนน เป็นอาคารไม้บ้าง ตึกบ้าง ความน่าสนใจของกาดทั้งสามนี้คือ การทำมาหากินร่วมกันอย่างลงตัวระหว่างชุมชนต่างเชื้อชาติ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือชาวจีน ชาวพื้นเมือง และชาวซิกข์ ชาวจีนและชาวพื้นเมืองขายของจิปาถะทั้งของกินและของใช้อยู่ในตลาด ส่วนชาวซิกข์ ที่เรียกว่านายห้าง ตั้งร้านขายผ้าเมตรจากโรงงานอยู่รอบนอกตลาดจากตรอกเล่าโจ๊วอ้อมไปทางถนนช้างม่อยทั้งสองฝั่ง ชาวซิกข์กลุ่มนี้ย้ายมาจากแคว้นปัญจาบ ทางตอนเหนือของอินเดีย นับถือศาสนาซิกข์ ส่วนหนึ่งเป็นนิกายนามธารี ศูนย์กลางของชาวซิกข์กลุ่มนี้อยู่ที่วัดนามธารี บนถนนช้างม่อยตัดใหม่ใกล้ๆ กับกาดหลวงนี้เอง

เมื่อพ.ศ. 2511 ได้เกิดโศกนาฏกรรมที่สร้างความเศร้าโศกให้กับผู้คนในกาดอย่างใหญ่หลวง กล่าวคือในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ได้เกิดเพลิงไหม้ที่กาดต้นลำไยและลามมาที่กาดหลวง ด้วยอาคารที่เป็นไม้ และสินค้าที่เป็นผ้า ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ในที่สุดไฟก็เผาผลาญตลาดทั้งสองแห่งเสียหายอย่างยับเยิน ทำให้พ่อค้าแม่ขายประสบปัญหาอย่างมากต้องนำของออกไปขายที่อื่นๆ เช่น บริเวณสี่แยกโรงแรมสุริวงศ์ บนถนนช้างคลาน เป็นต้น ต่อมาจึงได้มีการสร้างตลาดขึ้นใหม่เป็นอาคารแบบตะวันตกตามที่เราเห็นทุกวันนี้ ในสมัยนั้นนับว่าเป็นอาคารที่มีความทันสมัยมาก

แม้ว่ากาดทั้งสามนี้ตั้งอยู่ใกล้กัน แต่มิได้แย่งลูกค้ากัน เพราะแต่ละแห่งมีลูกค้าคนละกลุ่มเรียกว่าแบ่งเซ็กเมนท์เตชั่นไว้อย่างลงตัวเช่น กาดหลวงเป็นศูนย์กลางของผ้านานาชนิด ทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูป และผ้าเมตร รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางสินค้าของฝาก ตั้งแต่เสื้อผ้าพื้นเมือง พืชผักนานาชนิด และของกินพื้นเมือง

กาดเจ๊กโอ้ว เป็นศูนย์กลางของสินค้าจากโรงงานทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค
ส่วนกาดต้นลำไย เป็นศูนย์กลางของพืชผลทางการเกษตร ทั้งพืชผักผลไม้ และเนื้อสัตว์ เป็นต้น
ส่วนกลางคืนผมก็ว่ามีสีสันและเป็นแหล่งท่องเที่ยวไม่แพ้กลางวันเช่นกัน คือ ตอนนี้เริ่มมีการปิดถนนเพื่อทำเป็นถนนคนเดิน มีสินค้าสารพัดสารเพ และที่น่าสนใจคือเมนูขนมจีนใต้สะพานลอยตลาดต้นลำไย ที่เป็นที่รู้จักของคนเชียงใหม่มานานเกือบ 20 ปี ซึ่งหากนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสขนมจีนน้ำเงี้ยวที่มีบรรยากาศเชียงใหม่จริง ๆ ก็ต้องลองลิ้มชิมรส โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่มาซื้อของช็อปปิ้งบนถนนย่านกาดต้นลำไย   

รสชาติของขนมจีนใต้สะพานตลาดต้นลำไยนั้นมีหลายน้ำให้ชิมกัน ทั้งน้ำเงี้ยว น้ำยาปลา น้ำพริก น้ำยาป่า แกงเขียวหวาน ไข่ต้ม แคบหมู สนนราคาชามละ 12 บาท ซึ่งหากเวลาหิวต้องชิมให้ครบทุกน้ำ ภายใต้บรรยากาศร้านใต้โคมแสงเทียน กินแบบไม่ต้องกลัวใครมองเพราะแสงสลัวโรแมนติกเหลือเกิน

วันนี้ครบ 100 ปี กาดหลวง หรือ ตลาดวโรรส มีกิจกรรมหนึ่งที่ชาวกาดจำนวนหนึ่งมีความคิดร่วมกันที่จะจัดงานเฉลิมฉลองกับความเจริญรุ่งของ กาดแห่งนี้ที่มีมาตลอดหนึ่งศตวรรษ และเพื่อเป็นการฟื้นฟูย่านกาด,ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี และสร้างสุขภาวะให้เกิดขึ้นในชุมชน หนึ่งในจำนวนนั้นคือ นาวิน ลาวัลย์ชัยกุล ศิลปิน ไทยเชื้อสายอินเดีย ผู้เกิดและเติบโตมาในครอบครัวค้าขายที่กาดหลวง มีผลงานเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติและเป็นเจ้าของรางวัลศิลปาธร สาขาทัศนศิลป์ ประจำปี พ.ศ.2553

นาวินได้ร่วมกับ ทีมงานนาวินโปรดักชั่น รวมถึงร่วมมือกับองค์กรภาครัฐและเอกชน จัดเทศกาล “มหากาด” ขึ้นบริเวณกาดหลวงและพื้นที่ใกล้เคียง โดยการสร้างสรรค์กิจกรรมหลายรูปแบบที่เน้นการมีส่วนร่วมของชาวชุมชนย่านกาดหลวงทุกเชื้อชาติ

นิทรรศการหลักและศูนย์ข้อมูลจัดขึ้นที่ บ้านหลวงอนุสารสุนทร(บ้านตึก) อาคารเก่าแก่ที่สำคัญในย่าน ซึ่งมีการจัดแสดงภาพถ่ายในอดีตของเมืองเชียงใหม่ฝีมือการถ่ายภาพของ หลวงอนุสารสุนทร ถ่ายขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2450 - 2475 ผลงานส่วนใหญ่ไม่เคยปรากฎต่อสายตาสาธารณชนมาก่อน และภาพถ่ายย่านกาดในอดีตผลงานของช่างภาพอาวุโส บุญเสริม ศาตราภัย รวมถึงภาพวาดและวีดีทัศน์สารคดีบอกเล่าเรื่องราวความทรงจำของชุมชน  ภายใน อาคารพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรเชียงใหม่ ( ซึ่งปีนี้มีอายุครบ 100 ปี เช่นกัน) รวมถึงสะพานจันทร์สม และวัดเกตการาม ถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานของศิลปินหลายท่าน อาทิ ดาว วาสิกศิริ,พรชัย ใจมา,จักรกฤช ฉิมนอก ฯลฯ สอบถามได้ที่ โทร.053-890-21

อ้างอิงจาก
http://www.oknation.net/blog/akom/2010/12/27/entry-1


* 006.jpg (60.98 KB, 480x380 - ดู 433 ครั้ง.)

* 007.jpg (84.26 KB, 600x475 - ดู 455 ครั้ง.)

* 008.jpg (87.06 KB, 600x475 - ดู 432 ครั้ง.)

* 009.jpg (81.8 KB, 600x475 - ดู 445 ครั้ง.)

* 010.jpg (91.62 KB, 600x475 - ดู 430 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 18:55:32 »

.


* 011.jpg (88.13 KB, 600x475 - ดู 435 ครั้ง.)

* 012.jpg (50.05 KB, 480x320 - ดู 415 ครั้ง.)

* 013.jpg (49.61 KB, 480x320 - ดู 419 ครั้ง.)

* 014.jpg (60.6 KB, 640x480 - ดู 416 ครั้ง.)

* 015.jpg (60.81 KB, 640x480 - ดู 418 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 18:58:09 »

ภาพจาก
http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V10138424/V10138424.html


* 016.jpg (133.72 KB, 700x530 - ดู 423 ครั้ง.)

* 017.jpg (96.93 KB, 455x600 - ดู 410 ครั้ง.)

* 018.jpg (122.68 KB, 700x530 - ดู 413 ครั้ง.)

* 019.jpg (124.85 KB, 700x530 - ดู 424 ครั้ง.)

* 020.jpg (123.94 KB, 700x530 - ดู 415 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
watinta
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 19:11:01 »

เดี๋ยวจะไปเชียงใหม่แวะเที่ยวดูซื้อของดีกว่า เสียนิดหนึ่งกาดหลวงเชียงใหม่หาทีจอดรถยากไปหน่อยครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 19:14:01 »

เดี๋ยวจะไปเชียงใหม่แวะเที่ยวดูซื้อของดีกว่า เสียนิดหนึ่งกาดหลวงเชียงใหม่หาทีจอดรถยากไปหน่อยครับ ยิงฟันยิ้ม

จอดรถที่ สนง.เทศบาลนครเชียงใหม่ ตรงเจดีย์กิ่ว (เจดีย์ขาว) แล้วเดินไปก็ได้ครับ แต่ไกลหน่อย

หรือจะให้ดีไปจอดรถในวัดเกตการามฝั่งน้ำปิงตรงข้ามกาดหลวง
แล้วเดินข้ามขัวจันทร์สมมาซื้อของที่กาดหลวงก็ได้ครับ


* กาดหลวง.jpg (250.52 KB, 744x558 - ดู 452 ครั้ง.)

* 021.jpg (178.5 KB, 700x530 - ดู 434 ครั้ง.)

* 022.jpg (237.28 KB, 640x480 - ดู 411 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 มกราคม 2011, 19:41:43 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
watinta
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 20:25:54 »

ขอบคุณครับผม ปกติผมไปส่งแฟนซื้อของลงที่กาดหลวงแล้ว ผมก็ขับรถตรงไปเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานนวรัฐ เลี้ยวซ้ายที่หัวสะพานอีกที แล้วจอดรถข้างทางตรงสวนผักผ่อนหัวสะพานริมน้ำปิงนั่งรออยู่ตรงนั้น พอแฟนซื้อของเสร็จโทรฯมาบอก ผมก็ขับรถตรงไปวนซ้ายขึ้นสะพานนครพิงค์ข้ามแม่น้ำปิงไปรับอีกที ไม่ค่อยได้ไปเดินซื้อของเพราะมันไกลขี้เกียจเดินไป นอกจากหาที่จอดรถใกล้ๆได้ถึงจะมีโอกาสเดินซื้อของครับ ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 20:48:45 »

ขอบคุณครับผม ปกติผมไปส่งแฟนซื้อของลงที่กาดหลวงแล้ว ผมก็ขับรถตรงไปเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานนวรัฐ เลี้ยวซ้ายที่หัวสะพานอีกที แล้วจอดรถข้างทางตรงสวนผักผ่อนหัวสะพานริมน้ำปิงนั่งรออยู่ตรงนั้น พอแฟนซื้อของเสร็จโทรฯมาบอก ผมก็ขับรถตรงไปวนซ้ายขึ้นสะพานนครพิงค์ข้ามแม่น้ำปิงไปรับอีกที ไม่ค่อยได้ไปเดินซื้อของเพราะมันไกลขี้เกียจเดินไป นอกจากหาที่จอดรถใกล้ๆได้ถึงจะมีโอกาสเดินซื้อของครับ ยิ้ม

อ๋อ สวนริมน้ำนั่นเอง จากตรงนั้นขับมาอีกหน่อยก็จะถึงวัดเกตครับ
ข้างในวัดเป็นโรงเรียนเทศบาล มีลานกว้าง จอดรถได้ครับ
แถมที่วัดยังพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงภาพเก่าและของใช้โบราณ
ลุงคนดูแลพิพิธภัณฑ์แกเป็นลูกครึ่งฝรั่ง-คนเมือง พูดคำเมืองคล่องปร๋อครับ

ตามภาพครับ จากสวนริมน้ำปิง ขับรถมาตามเส้นสีเขียว วนไปจอดในวัดเกต
จากนั้นเดินออกหลังวัดตามเส้นสีน้ำเงิน แล้วข้ามขัวจันทร์สม ไปกาดหลวง

อ้อ ลืมบอกไป ย่านวัดเกตเป็นย่านอนุรักษ์ครับ ชาวบ้านยังรักษาบ้านเรือนที่เป็นตึกแถวไม้แบบเมื่อ 100 ปีก่อนไว้ครับ
สภาพถนนธนาลัยของเชียงรายเมื่อก่อนคงไม่ต่างจากย่านวัดเกต
เพราะเป็นแหล่งการค้าและที่อยู่ของคนจีนเหมือนกัน
จะต่างกันตรงที่วัดเกตเป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าก็เท่านั้นครับ
ซึ่งตอนหลังย่านการค้าจะย้ายข้ามไปยังฝั่งกาดหลวงแทน


* กาดหลวง.jpg (265.98 KB, 749x562 - ดู 356 ครั้ง.)

* ขัวจันทร์สม.jpg (157.69 KB, 820x553 - ดู 358 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 23 มกราคม 2011, 21:03:21 โดย เชียงรายพันธุ์แท้ » IP : บันทึกการเข้า
watinta
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 23 มกราคม 2011, 21:02:31 »

 ขอบคุณมากครับ ต่อไปผมจะได้ไปจอดที่วัดเกตุแล้วเดินข้ามขัวจันทร์สมไปซื้อของที่กาดหลวง ใกล้และสะดวกดีครับ เจ๋ง
IP : บันทึกการเข้า
เชียงรายพันธุ์แท้
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,024



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2011, 21:21:44 »

ยู้
IP : บันทึกการเข้า
updoon
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,082



« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2011, 23:34:46 »

กึ๊ดเติงหา คะน๋มเส้นน้ำเงี้ยวโท๊ะ...

วันนั้นปิ๊กบ้าน ไปฟาดเหีย 3 จาน ตอนตี 4...
ได้บรรยากาศ รำลึกวันเก่าๆ...
เสียดายไปคนเดียว เลยเงียบไปหน่อย
IP : บันทึกการเข้า

ตกลงจะเบี้ยวใช่ใหม แค่เนี๊ยะนะ...กระจอกว่ะ...
ⒷⒼ*
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,368

นิพพานคือนิรันดร์


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 24 มกราคม 2011, 23:39:40 »

ขอบคุณข้อมูล และภาพงามๆมาฝากนะครับ
กึดตึงขนมเส้นเหมือนกัน ผ่อสาว ผ่อหนูวิ่งไปมา ม่วนขนาด
  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
T Nakamura
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 347



« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 25 มกราคม 2011, 08:55:08 »

เจ้าประจำ
ต้องมีรูปของคุณบุญเสริม  ศาสตราภัย   ยิงฟันยิ้ม

ถ้าได้ไปเชียงใหม่ คุณเชียงรายพันธุ์แท้ช่วยพาไปแอ่วได้ก่อครับ
IP : บันทึกการเข้า
nalismenox
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 849


สุดท้ายก็กลับมายืนจุดเดิม


« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 25 มกราคม 2011, 16:18:36 »

ก็เป็นงานที่ดีนะครับ

แต่  จะให้จัดงาน มหากาดเจียงฮาย ด้วยไหมอ่ะ?  อิอิอิอิ
IP : บันทึกการเข้า
A1essandro
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 25 มกราคม 2011, 20:11:31 »

ท่าจะม่วนเนาะ อิอิ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!