เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 06:46:38
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  พาเที่ยววัด~~พระธาตุดอยโตน~~
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน พาเที่ยววัด~~พระธาตุดอยโตน~~  (อ่าน 4793 ครั้ง)
nansom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 461



« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2011, 16:27:43 »

ประวัติพระธาตุดอยโตน
           
พระธาตุดอยโตน ตั้งอยู่บนดอยไม่สูงนัก ในเขตหมู่บ้านชัยพัฒนา  หมู่ที่  16  ตำบลห้วยซ้อ  อำเภอเชียงของ  จังหวัดเชียงราย  พิกัดที่ตั้ง  UTM 47 Q 0632564  2213376  สมัยก่อนนั้นดอยนี้เรียกว่า “ดอยเขาน้อย” ในบริเวณนั้นเคยเป็นป่าไม่มีถนนและหมู่บ้าน  และเมื่อมีการก่อตั้งหมู่บ้านที่ชื่อว่า บ้านผามงัว (ชื่อเดิมของหมู่บ้านห้วยซ้อ) ขึ้น ก็เริ่มมีผู้คนเริ่มอพยพมาตั้งถิ่นฐานกันมากขึ้น ซึ่งมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า ดอยเขาน้อยนี้ มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ใต้ดอย ซึ่งน้ำในสระได้ผุดออกมาเป็นบ่อน้ำ ชาวบ้านในละแวกนั้น มีความศรัทธาและนับถือ เรียกบ่อน้ำนี้ว่า “น้ำบ่อทิพย์” เมื่อมีคนป่วยเป็นไข้ ก็จะนำเอาดอกไม้ ธูป เทียน มากราบไหว้ หรือพูดขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้คนที่ป่วยหายจากอาการป่วย แล้วก็ตักเอาน้ำจากบ่อไปให้คนป่วยกิน แล้วคนป่วยนั้น ก็จะหายจากอาการเป็นไข้ นอกจากจะเป็นน้ำบ่อทิพย์แล้ว ยังเป็นแหล่งน้ำที่ชาวบ้านใช้ในการอุปโภคบริโภคอีกด้วย นับว่าเป็นแหล่งน้ำแหล่งแรกที่สะอาดที่สุดของหมู่บ้าน แต่ในปัจจุบันน้ำบ่อทิพย์นี้ไม่มีให้เห็นแล้ว
   พระธาตุดอยโตน เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน  ซึ่งเชื่อว่า มีลูกแก้วขนาดเล็กประมาณเท่ากับลูกแก้วที่เด็กๆ เล่นกันมีสีใส คล้ายกับสารส้ม ลูกแก้วจะอยู่รวมกับธาตุพระพุทธเจ้าที่อยู่ใต้หินใหญ่ ในคืนเดือนยี่เป็ง (วันเพ็ญเดือนสอง ตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบสองของภาคกลาง) ลูกแก้วจะลอยขึ้นจากก้นธาตุ ซึ่งก็ไม่มีใครทราบว่าลูกแก้ว จะลอยออกมาจากทางไหน ลูกแก้วที่ลอยออกมาจะมีแสงสว่างมากแผ่ออกเหมือนเป็นรัศมี ชาวบ้านบางคน มักจะเห็นแสงกระพริบของลูกแก้วลอยไปมาระหว่างพระธาตุดอยโตน ไปหาพระธาตุดอยเงิน ประมาณครึ่งคืน ลูกแก้วของพระธาตุดอยโตนก็จะกลับมาอยู่ที่เดิม
ประมาณปี พ.ศ. 2490  ก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งคือ ครูบาแก้ว  อาโน ตอนเด็กครูบาแก้ว  อาโน มีชื่อว่า แก้ว และเมื่ออุปสมบทแล้วมีฉายาว่า พระอาโน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่า ท่านมีบุญญาธิการ  มีคาถาอาคมที่ศักดิ์สิทธิ์ ท่านจึงได้มีชื่อว่า “ครูบา”  ครูบาแก้ว ได้ขึ้นไปบนดอยเขาน้อย และได้พบหลุมใหญ่กลางดอย ซึ่งในหลุมนั้นมีก้อนหินก้อนใหญ่อยู่ในหลุมนั้น ครูบาแก้วได้ชักชวนชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เพื่อจะขุดเอาหินในหลุมขึ้นมา  ขณะที่กำลังจะขุดก็เกิดพายุขึ้นอย่างแรง เพราะใต้หินมีธาตุของพุทธเจ้าบรรจุอยู่ และมีแก้ว แหวน เงินทองอยู่ด้วย ซึ่งใต้หินนั้นอาจมีเครื่องป้องกันทางไสยศาสตร์ หรือคาถาอาคมป้องกันอยู่ หรือที่ชาวเรียกว่า “โยน” ครูบาแก้ว และชาวบ้านก็เลยรวบรวมของมีค่าเล็กๆ น้อยๆ ใส่ลงในผอบ แล้วนำไปใส่ในหลุมนั้น นำดินมาถมทับอีกทีหนึ่ง และหลังจากนั้นประมาณปี พ.ศ. 2494 ครูบาแก้ว ได้พาช่างมาสร้างธาตุ สร้างได้ไม่ถึง 1 ปี ธาตุก็ได้ล้มลง และประมาณปี พ.ศ. 2495 ครูบาแก้วได้จ้างให้หนานวัง  คนชวา (ลาว)  มาสร้างพระธาตุ และชาวบ้านต่างเรียกกันว่า พระธาตุดอยโตน ซึ่งพระธาตุที่หนานวังสร้าง คือองค์พระธาตุที่ปรากฏอยู่ถึงปัจจุบัน
ครูบาแก้ว  อาโน  ผู้เป็นบุคคลสำคัญ ที่ได้ร่วมสร้างพระธาตุดอยโตนขึ้นมา ท่านได้มรณภาพไปแล้ว ท่านมรณภาพตอนทำพิธีสักการบูชาพระธาตุดอยโตน มีทั้งชาวบ้าน เณรและพระสงฆ์ ที่ขึ้นไปรับศีลรับพร หลังจากที่รับศีลรับพรเสร็จ มีการจุดบั้งไฟ ระหว่างที่จุดบั้งไฟก็มีการให้พรพร้อมกันไป ในระหว่างนั้น ครูบาแก้วก็เกิดล้มลงทั้งที่ท่านประนมมืออยู่  พระสงฆ์และชาวบ้านได้เก็บร่างหรือศพของครูบาแก้วไว้ 1 ปี โดยก่ออิฐครอบโลงศพของท่านเอาไว้ เมื่อครบ 1 ปี  ก็นำร่างของพระครูบาแก้ว ไปทำพิธีฌาปนกิจศพ  ชาวบ้านบางคน (ผู้ชาย) ที่มีความศรัทธา และเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธ์ ก็นำลูกประคำที่คล้องคอครูบาแก้ว มากิน เพราะเชื่อว่าฟัน แทงไม่เข้า ไม่ทราบว่าผลออกมาเป็นอย่างไร ครูบาแก้วมรณภาพได้ประมาณ 4-5 ปี ก็มีต้นโพธิ์ (ต้นสะหรี) 2 ต้น โผล่ออกมา โดยต้นโพธิ์ต้นแรกอยู่ทางทิศใต้ (เท้าของครูบาแก้ว) ต้นที่ 2 อยู่ทางทิศเหนือ (ศีรษะของครูบาแก้ว) ซึ่งจะเป็นความบังเอิญหรือเป็นเพราะท่านมีบุญมาก จึงทำให้ต้นโพธิ์ 2 ต้น โตเป็นร่มเงาตรงที่ท่านมรณภาพพอดี
พระธาตุดอยโตน บ้านชัยพัฒนา (กลุ่มบ้านห้วยซ้อ) และพระธาตุนางแล บ้านกาสลองคำ (กลุ่มบ้านแก่น) มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คือ พ.ศ. 2495 และ พ.ศ.2497 ตามลำดับ และอาจจะเป็นนายช่างคนเดียวกัน ทำให้รูปลักษณะของพระธาตุคล้ายคลึงกัน 
  พระธาตุดอยโตนมีการก่อกำแพงล้อมรอบองค์พระธาตุ มีบันไดทางขึ้นและประตูทางเข้าเล็กๆ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการสร้างพระธาตุ ที่ต้องจำกัดบริเวณไว้เป็นเขตบริสุทธิ์  ห้ามผู้หญิงเข้าไปยุ่งเกี่ยวในบริเวณเหล่านี้  ห่างจากกำแพงเข้าไปประมาณ  1  เมตร  เป็นองค์พระธาตุ มีฐานเขียงที่ก่ออิฐถือปูนขึ้นแบบธรรมดาจำนวน  1  ชั้น  ฐานสูงถัดขึ้นไปเป็นฐานย่อเก็จไม้สิบสองจำนวน  4  ชั้น  แล้วสร้างเป็นฐานบัวหงายรองรับซุ้มปราสาท ถัดจากนั้นสร้างเป็นซุ้มปราสาทซึ่งยังคงย่อเก็จไม้สิบสองอยู่ ตรงกลางซุ้มปราสาทแต่ละด้าน เป็นซุ้มจรนำเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ถัดขึ้นไปเป็นฐานบัวคว่ำ และฐานย่อไม้สิบสองรองรับองค์ระฆัง จากนั้นเป็นองค์ระฆัง (ไม่ประดับประดับกระจกสี หรืออาจจะชำรุด) ถัดไปเป็นปล้องไฉนหรือฐานบัวหงายบัวคว่ำรองรับองค์ระฆังอีกลูกหนึ่ง  ถัดจากองค์ระฆังลูกเล็กแล้ว เป็นคอระฆัง และปลียอด  มีการประดับฉัตรโลหะอย่างสวยงาม 
ปี พ.ศ.2551 มีการสำรวจเพิ่มเติม พบว่ามีการต่อเติมสร้างสิ่งก่อสร้างประกอบหลายประการ ซึ่งด้วยเจตนาดีแต่อาจจะทำให้บรรยากาศของโบราณวัตถุสถานเสียไปได้ โดยมีการปรับปรุงสถานที่ใหม่ มีการสร้างถนนคอนกรีตจากทางเข้าไปจนถึงพระธาตุ ปรับลานดินให้เรียบโดยการขุดดินให้ลึกเพื่อเกลี่ยดินให้เสมอกัน ทำให้ต้องมีการหล่อฐานรากเสริมองค์พระธาตุ เพราะกลัวพระธาตุจะพังลงมา มีการสร้างศาลาจัดกิจกรรมพิธีทางด้านข้าง 1 หลัง ส่วนทางด้านหน้าองค์พระธาตุ มีการสร้างพระพุทธรูปปูนปางมารวิชัย ขนาดใหญ่คอเอียง ไม่สังกัดศิลปะแบบไทยและล้านนา การสร้างพระพุทธรูปดังกล่าว ทำให้บดบังองค์พระธาตุดอยโตน  เมื่อมองจากด้านล่าง หมดสภาพของโบราณสถานไปอีก 1 แห่ง

จาก สมชาย วิริจินดา ประวัติพระธาตุดอยโตน รายงานการศึกษาโบราณสถานที่สำคัญในตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
IP : บันทึกการเข้า
@ไอ้อ้วน@
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,031


2 มือ ที่ดูเหมือนจะบอบบาง


« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 18 กันยายน 2011, 16:29:45 »

เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ถ้าไปเองจะไปถูกทางไหมคะ กลัวหลงจัง
IP : บันทึกการเข้า

สมองดี แกมโกง แต่เลือกที่จะเดินทางผิดเอง ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เป็นไป
bom doyton
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 15:05:48 »

มีคนไม่ หวังต่อวัดพระธาตุดอยโตนอยู่  ใครรู้  ใครเห็น    ชิบด้วย
 ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
vonja9669
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 05 มีนาคม 2012, 01:05:35 »

จากเรื่องจริงที่โดนกับตัวครับ ความจริงสถานที่พระธาตุมีไม่ถึง 3-4 ครับ แต่มีพวกคนทำใจบุญพากันยึดที่ของชาวบ้านที่อยู่รอบบริเวณพระธาตุ(แต่หาประโยชน์เข้าตัวครับและคงตกนรกในไม่ช้านี้สาธุ)เพราะตอนนั้น ใบ สปก. กำลังจะออกครับ และที่พื้นของคนมีตังหน่อยก็ทำเป็นให้ยึด(แต่โดนแค่ไม่ถึงไร่ครับ)ส่วนของคนจนที่ทำมาหากินกลับโดนหมดเลยไม่เหลือเลยก็มีพวกมันใจทำด้วยอะไรและที่ดินของบางคนมีสัด 10 ไร่ ก็เหลือไม่ถึง 3 ไร่ คิดดูครับว่ามันทำกันได้ยังไง(ใช้อำนาจไม่เป็นทำรังแก้ชาวบ้านเห็นๆ)และผมอยากให้รัฐบาลมาดูแลหน่อยครับว่าฟ้องร้องเรียกคืนที่ดินได้ไหมครับมันทำกับคนบ้านเดียวกันได้ยังไง(ผมอยากให้ทุกคนที่อ่านข้อความนี้อย่าทำบุญกับพวกคนใจปาบเลยครับ)พื้นที่นั้นคือน้ำตาของชาวบ้านตาดำๆที่ไม่มีทางสู้ครับ ที่ต้องยอมแบบนั้นเพราะว่า ถ้าไม่ยอมจะไม่เซ็นออกใบ สปก. ให้ครับ ทั้งที่ดินพื้นนั้นใช้ทำไรกันมาตั้ง 70-80 ปีแล้ว ส่วนของคนที่โดนยึดหมดตัวผมละสงสารแทนครับ เหมือนตายทั้งเป็น
ส่วนคนรวยโดนกันนิดเดียวนี้หรือที่ดินที่จะสร้างที่เรียกว่าวัดนะมันคือเลือดและน้ำตาทั้งนั้นครับคงได้บุญกันละครับ ผมขอสาปพวกคนปาบให้มันไม่มีอันจะกินที่จะนอนก็ไม่มีร้อนก็ไม่ได้อาบอยากก็ไม่ได้กินสาธุสาธุสาธุ จาก ชาวบ้านตาดำๆ
IP : บันทึกการเข้า
vonja9669
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 05 มีนาคม 2012, 01:15:51 »

และสอบถามความจริงได้ตามชาวบ้านบริเวณนั้นครับ ไม่ใช้ไปถาม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยนะ เพราะเขาเป็นคน...นะครับ
และผมคิดว่าจะส่งจดหมายถึงนายกเลยให้ท่านช่วยครับ ถ้าท่านช่วยได้คงดีมากนะครับ
วอนท่านผู้อ่านช่วยอีกแรงนะครับ
IP : บันทึกการเข้า
bom doyton
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2012, 21:35:30 »

ขอเเก้ข่าวว่า ทางวัดพระธาตุดอยโตน

มีคนไม่หวังดีต่อวัดพระธาตุดอยโตน เป็นคนใจบาป ต่อต้านวัดนี้ คอยคิดเเต่ที่จะใส่ร้าย
สถานที่นี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เคารพนับถือของ หก
หมู่บ้าน ห้วยซ้อ โกรธ โกรธ โกรธ โกรธ โกรธ
IP : บันทึกการเข้า
bom doyton
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 09 มีนาคม 2012, 21:43:46 »

เกรียดคนใส่ร้าย     จาก  สามเณร  วัดดอยโต โกรธ โกรธ โกรธ โกรธ โกรธ โกรธ โกรธ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!