เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 กรกฎาคม 2025, 07:03:05
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  +++ส่งเสริมปลูกเผือก เดือน พ.ย - ธ.ค - ม.ค
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 ... 21 พิมพ์
ผู้เขียน +++ส่งเสริมปลูกเผือก เดือน พ.ย - ธ.ค - ม.ค  (อ่าน 25314 ครั้ง)
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #40 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2014, 14:06:38 »

 ยิ้มกว้างๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2014, 08:08:05 โดย mixnet » IP : บันทึกการเข้า
kannan
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 30


« ตอบ #41 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2014, 18:15:16 »

อยู่น่านสนใจปลูกจะได้ไหมครับ
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #42 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2014, 18:31:37 »

อยู่น่านสนใจปลูกจะได้ไหมครับ

ได้เลยครับ  ขอพิกัด  ที่ปลูกครับ
089-4343454     095-6870944
IP : บันทึกการเข้า
maiake007
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,210


« ตอบ #43 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2014, 19:12:52 »

ลงทุนเองไร่ละประมาณเท่าไรครับ
ดูแปลงสาธิตได้ที่ไหนครับ
IP : บันทึกการเข้า
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #44 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2014, 19:54:14 »

เผือกก่อน่าสนเน๊าะครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #45 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2014, 21:12:29 »

ลงทุนเองไร่ละประมาณเท่าไรครับ
ดูแปลงสาธิตได้ที่ไหนครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2014, 08:08:29 โดย mixnet » IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #46 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2014, 21:13:18 »

เผือกก่อน่าสนเน๊าะครับ ยิงฟันยิ้ม
เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #47 เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2014, 22:33:54 »

พันธ์พร้อมปลูก อายุ 30 วัน  ตัดใบออก ป้องกันคายน้ำ


* 10364276_630652997025916_508676053_n.jpg (40.49 KB, 720x960 - ดู 544 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #48 เมื่อ: วันที่ 18 พฤษภาคม 2014, 08:36:10 »

วันนี้ มี การปลูก  ใครสนใจ  เยี่ยมชมได้ครับ
089-4343454   095-6870944


* 10262216_394395854034562_5109112423956362398_n.jpg (18.52 KB, 296x394 - ดู 527 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #49 เมื่อ: วันที่ 18 พฤษภาคม 2014, 15:03:28 »

ขึ้นแปลงปลูก


* 10314504_394478064026341_718779390887129596_n.jpg (41.13 KB, 480x360 - ดู 537 ครั้ง.)

* 10309022_394477150693099_5231546773278072314_n.jpg (7.57 KB, 154x206 - ดู 516 ครั้ง.)

* 10369746_394473804026767_8902373752872281689_n.jpg (35.83 KB, 480x360 - ดู 590 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #50 เมื่อ: วันที่ 18 พฤษภาคม 2014, 15:05:16 »

เจ้าของแปลงปลูก


* 10402868_394474114026736_8312260920992395792_n.jpg (25.59 KB, 296x394 - ดู 686 ครั้ง.)

* 10380356_394477820693032_1565855152988200663_n.jpg (10.16 KB, 160x213 - ดู 507 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2014, 08:09:16 โดย mixnet » IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #51 เมื่อ: วันที่ 18 พฤษภาคม 2014, 15:07:16 »

ปลูกเสร็จเอาน้ำใส่  เป็นอันเสร็จ  ง่ายๆ  ไม่ยุ่งยาก
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #52 เมื่อ: วันที่ 19 พฤษภาคม 2014, 07:05:30 »

เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.

089-43434545   095-6870944
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #53 เมื่อ: วันที่ 19 พฤษภาคม 2014, 11:34:33 »

เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.

089-43434545   095-6870944
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #54 เมื่อ: วันที่ 19 พฤษภาคม 2014, 22:20:20 »

เผือกหอมเป็นพืชล้มลุก ต้นมีลักษณะคล้ายต้นบอน เรารู้จักเผือกกันมานาน เพราะเป็นพืชอาหารและสามารถกินเผือกแทนข้าวได้ ในยามขาดแคลนอาหารจำพวกแป้ง แต่ที่นิยมคือนำหัวเผือกมาทำขนมหวาน ทำได้หลายรูปหลายแบบ ขนมที่ทำจากเผือกมีรสชาดดี จึงทำให้มีคนนิยมรับประทานเผือกกันมาก จนเกษตรกรสามารถยึดอาชีพปลูกพืชเป็นอาชีพหลักได้ และหารายได้ให้แก่ผู้ปลูกมากพอสมควร
สำหรับเผือกหอม เป็นเผือกที่มีหัวใหญ่ น้ำหนักมาก ก้านใบใหญ่และมีสีเขียว เมื่อต้มสุกแล้วจะมีกลิ่นหอม เกษตรกรสนใจปลูกเผือกหอมมากกว่าชนิดอื่นๆ เพราะขายได้ราคาดี

ทำเลและฤดูปลูก
         เผือกเป็นพืชต้องการน้ำมาก แหล่งที่ปลูกต้องมีน้ำ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ ซึ่ง ถ้าขาดน้ำเผือกจะหยุดการเติบโต ชอบดินร่วนปนทราย  ต้นเผือกชอบดินที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำดี น้ำไม่ขังเมื่อมีฝนตกชุก

ฤดูกาลปลูก
  เผือกหอมสามารถปลูกได้ทุกฤดูไม่จัด ขอแค่พื้นที่ต้องมีแหล่งน้ำรองรับ เช่น ห้วยหนองคลองบึง ชลประทาน หรือ บ่อบาดาลก็ได้ แต่สำหรับพื้นที่ ที่ไม่มีแหล่งน้ำก็สามารถปลูกได้ช่วงฤดูฝน

การเตรียมดินแปลงปลูก
ไถ พรวน เก็บหญ้าออกให้หมดแล้วยกร่องทำแปลงปลูก ยาวไปตามพื้นที่ดิน ให้แต่ละร่องอยู่ห่างกันประมาณ 80ซม.-1 ม. เพื่อให้เป็นทางระบายน้ำเมื่อฝนตกหนัก น้ำจะได้ไม่ขังบนแปลงปลูก แต่เนื่องจากดินในท้องที่เป็นดินเปรี้ยว หรือดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง เกษตรกรจึงควรแก้ความเป็นกรดด้วยการใส่หินปูน หรือปูนขาว คลุกเคล้าลงในดิน ขณะทำการไถพรวน ประมาณไร่ละ 500 กก. เพราะดินที่มีสภาพเป็นกรดสูง ทำให้ต้นพืชไม่สามารถดูดอาหารและแร่ธาตุในดินไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าปลูกไม่มากจะใช้ขี้เถ้าแทนปูนขาวก็ได้

การเก็บเกี่ยว
เผือกหอมมีอายุนับจากวันปลูกถึงวันเก็บเกี่ยวประมาณ 5– 6 เดือน เมื่อเผือกอายุใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ใบจะค่อยๆ เป็นสีเหลืองตั้งแต่ใบล่างขึ้นไปจนหลือใบตรงส่วนยอด 2-3 ใบ ก็แสดงว่าหัวเผือกแก่จัดชุดยอดขึ้นได้แล้ว    ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในดินนานกว่านี้น้ำหนักของหัวเผือกจะลดลง วิธีขุดใช้จอบฟันดิน หรือใช้เสียมขุดใกล้ต้นเผือกแล้วงัดต้นเผือกขุดกองรวมกันไว้ เมื่อขุดหมดแล้วจึงตามเก็บลูกเผือกหรือลูกซอที่หักออกจากหัวเผือกติดอยู่ในดิน ในบางท้องที่ที่ไม่มีการทำนา เกษตรกรที่ปลูกเผือกเพียงอย่างเดียวจะปล่อยลูกเผือกไว้ในดินก็ได้แล้วหาฟางหรือหญ้าคลุมดินไว้กันความร้อนจากแดด ซึ่งสามารถจะเก็บปลูกไว้ในดินได้นาน สำหรับทำพันธุ์ในการปลูกคราวต่อไป แต่ถ้ามีฝนตกลงมามากต้องเก็บลูกเผือกขึ้นจากดิน มิฉะนั้นจะเน่า และนำไปไว้ในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก
ต้นเผือกที่ขุดมาได้แล้วนี้ต้องนำมาลอกกาบแห้งๆ ออกตัดลูกเผือกไว้ต่างหาก ตัดรากและส่วนยอดทิ้งเหลือแต่หัวเผือก สำหรับลูกเผือกจะขายหรือเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อไปก็ได้ ในเนื่อที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิตเผือกประมาณ 3,500 กก จน ถึง 10,000 กก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลแต่ละพื้นที่ การเอาใจใส่ดูแลรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ย กำจัดวัชพืช.

089-43434545   095-6870944
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #55 เมื่อ: วันที่ 20 พฤษภาคม 2014, 06:45:59 »



สนใจสอบถามรายละเอี่ยดเพิ่มเติม  089-4343454

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 07 พฤศจิกายน 2014, 08:09:38 โดย mixnet » IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #56 เมื่อ: วันที่ 20 พฤษภาคม 2014, 07:06:16 »

ปลุกครั้งต่อไป วันที่ 5-25 มิถุนายน  ยังเหลืออีก  25 ไร ครับ
089-4343454   095-6870944
IP : บันทึกการเข้า
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #57 เมื่อ: วันที่ 20 พฤษภาคม 2014, 09:54:21 »

ปลุกครั้งต่อไป วันที่ 5-25 มิถุนายน  ยังเหลืออีก  25 ไร ครับ
089-4343454   095-6870944

รอบแรก เหลือ 20 ไร่ ครับ (20/5/57)
IP : บันทึกการเข้า
oshiri566
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,073


« ตอบ #58 เมื่อ: วันที่ 20 พฤษภาคม 2014, 10:10:19 »

น่าสนคับ  ว่าแต่ปุ๋ย กับ ยา คุณจัดให้หรือต้องซื้อเองครับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

ติดต่อ 081-7240147
mixnet
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 363


« ตอบ #59 เมื่อ: วันที่ 20 พฤษภาคม 2014, 18:34:49 »

น่าสนคับ  ว่าแต่ปุ๋ย กับ ยา คุณจัดให้หรือต้องซื้อเองครับ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
ผมไม่ได้ขาย ครับ  ต้องหาเอง
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 ... 21 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!