งั้นผมขอถามในกรณีแบบนี้หน่อยครับ
สมมุติ ว่า ผมขับรถไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่มีใบขับขี่จักรยานยนต์ แต่มี ของรถยนต์
เวลาโดนจับ ตำรวจจะยึดกุญแจรถไป + บัตรอะไรก็แล้วแต่ที่เรามี แบบนี้ผิดมั้ยครับ
แถมบางที ไม่ได้พกตังไปแล้วไม่มีรถไป(เพราะโดนยึดกุญแจ) เราจะเอาผิดกับพนักงานได้มั้ย หรือว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากเดินกลับ ไปเอาตังมาจ่าย
หรือเอาง่ายๆ มีในกรณีไหนบ้างที่ ตำรวจสามารถยึดกุญแจรถได้ ผมจะได้เอาไปเถียง
ในกรณี สมมุติของคุณนั้น ไม่สวมหมวกกันน็อค+ไม่มีใบอนุญาติขับขี่ 2ข้อนี้ก็ผิดเต็มๆแล้วครับ ส่วนของรถยนต์ไม่สามารถนำมา่ใช้กับมอเตอร์ไซค์ได้ครับ
ส่วนเรื่องกุญแจ ยึดไม่ได้แน่นอนเพราะเป็นทรัพย์สินของเรา ยิ่งเป็นตำรวจชั้นประทวนทั่วไปแล้ว ยิ่งไม่มีอำนาจใหญ่เลย ถือว่ากระทำการโดยไม่มีอำนาจ
ตำรวจมีอำนาจจับกุมผู้ทำผิดกฏหมายก็จริง
ส่วนการเรียกตรวจรถถือว่าทำการตาม พรบ.จราจร หากว่าผู้ขับขี่กระทำผิดกฏจราจรข้อใด ก็ต้องออกใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับ ที่ สน ตามที่ร้อยเวรกำหนด
ตามกฏหมายจราจร การยึดกุญแจ ตำรวจไม่มีอำนาจยึด
ส่วนด้านการยึดรถ ตำรวจจะมีอำนาจยึดแต่เฉพาะยึดไว้เพื่อในการสืบสวนสอบสวนประกอบสำนวนคดีซึ่งร้อยเวรเจ้าของคดีมีอำนาจยึดไว้ชั่วคราวได้ แต่เมื่อเสร็จคดีแล้วต้องคืนให้แก่เจ้าของไป
ยึดกุญแจ มีความผิดฐานกระทำการโดยปราศจากอำนาจ ส่วนมากตำรวจจราจร ที่มาตรวจก็ชั้นประทวนทั้งนั้นครับ ในทางทฤษฎีแล้ว ไม่ได้ให้อำนาจแก่ตำรวจในการที่จะยึดกุญแจครับ
แต่ในทางปฏิบัติ ตร. สามารถที่จะขอความร่วมมือจากเราได้ครับ หากเรา ไม่ ก็จะเจอขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนังงานครับ
มันจะแย้งกันไปหมดนะครับ ทางที่ดี เคราพกฏจราจรอย่างเคร่งครัดครับ

มาตรา 142(1) เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้ขับขี่หยุดรถในเมื่อ
(1) รถนั้นมีสภาพไม่ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 6
(2) เห็นว่าผู้ขับขี่หรือบุคคลใดในรถนั้นได้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอันเกี่ยว
กับรถนั้น ๆ
(26)(2) ในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่าผู้ขับขี่ฝ่าฝืนมาตรา 43 (1)
หรือ (2) ให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ดังกล่าวว่าหย่อนความ สามารถในอันที่จะขับหรือเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่
(3)ในกรณีที่ ผู้ขับขี่ตามวรรคสองไม่ยอมให้ทดสอบ ให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจกักตัวผู้นั้นไว้ดำเนินการทดสอบได้ภายในระยะ เวลาเท่าที่จำเป็นแห่งกรณีเพื่อ
ให้การทดสอบเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว และเมื่อผู้นั้นยอมให้ทดสอบแล้ว เหตุผลการทดสอบปรากฏว่าไม่ได้ฝ่าฝืน
มาตรา 43 (1) หรือ (2) ก็ให้ปล่อยตัวไปทันที
(4)การทดสอบตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
กฎหมายบัญญัติไว้แค่มีอำนาจสั่งให้หยุด ไม่มีตรงไหนบอกว่าให้ยึดกุญแจไว้ได้