mana.
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 357
|
 |
« ตอบ #920 เมื่อ: วันที่ 10 มีนาคม 2014, 14:58:46 » |
|
แวะเข้ามาหาความสำราญจากกว่างกรุง....ม่วนขะหนาด ...ผมเพิ่งใช้เส้นทางเชียงตุง > มัณฑะเลย์(มันดะเลย์) มีแต่เหวกับเหว บัสจีนแอร์ Tiger ทัวร์ 24 ที่นั่ง 1000 โค้งแม่ฮ่องสอนที่ว่าหวาดเสียวสุดยอดยังไม่ถึงครึ่งของเส้นทางพม่าหฤโหดสายนี้ โซเฟอร์นุ่งโสร่ง ใส่รองเท้าแตะ เหยียบคันเร่งพุ่งเข้าหาโค้งหักตัวยูแคบมากๆ ด้วยความเร็วสูงเพื่อเร่งส่งกำลังหลังพ้นโค้งเจอลาดชัน 30 องศาเหยียบคันเร่งดังสนั่นหวั่นไหว วิ่งสูงขึ้นๆๆๆๆ เส้นทางถนนเหมือนริบบิ้นยามโบกสบัด ด้านข้างก็เป็นหุบเหว ลำธารโขดหิน รถพม่าวิ่งขวาล้อรถห่างปากเหวไม่ถึงครึ่งเมตรไม่มีแม้แต่รั้วกั้น คนโดยสารพากันชะโงกมองข้างหน้าต่างไม่เห็นถนน เห็นแต่หุบเหว ส่งเสียงคราง ฮู้ๆๆๆๆๆ ...สุดยอดคือโซเฟอร์พม่า พี่แกใช้มือข้างเดียวไม่เรียกว่าหมุนพวงมาลัย น่าจะเรียกว่าควงพวงมาลัยรถซะมากกว่า เพราะพี่แกเดี๋ยวควงซ้าย ควงขวา มือ วนเหมือนโม่แป้ง ทั้งๆ ที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงเพื่อเร่งส่งกำลังขึ้นเขา ...ยามมีรถสวนทางลงมาก็ต้องชะลอค่อยๆ คลานผ่านกัน ทั้งๆ ที่อยู่บนทางสูงชัน รถฝั่งตีนเขาจะหยุดให้รถที่วิ่งขึ้นเขาด้านขอบเหวผ่านไปก่อน พม่าเค้ามีน้ำใจต่อกันมาก โบกมือให้กันและกัน หรือม่ายก็บีบแตรทักทายกัน ถ้าเป็นพี่ไทยละก็ เมาแกล้งเบียดให้ตกเหวตายไปเลย อิ อิ. ...ช่วงตอนลงเขาก็สนุก มองผ่านหน้าต่างไปข้างรถ เห็นถนนหลายชั้น เห็นเป็นเส้นๆ ลดหลั่นกันลงไป แสดงว่าเป็นเส้นทางงูเลี้อยลงเขาลาดชัน เกียร์ต่ำเบรกอย่างเดียวกว่า 100 กิโลเมตรมั้ง ถึงจุดพักรถเอาน้ำสาดล้อรถเพื่อลดความร้อน ล้างเอาฝุ่นตามตัวรถออกไป ...จากเชียงตุง > มัณฑะเลย์ นั่งรถทั้งวันเป็นเวลา 2 วันกะ 1 คืน นี่เดินทางอย่างเดียวนะครับ แวะนอนโฮมสเตร์เมืองเล็กๆ (ไม่มีโรงแรม)ใช้ขันตักน้ำอาบเหมือนค่ายทหารยังไงยังงั้น นอนรวมแบบเตียงเดี่ยว 30 คน เรียงกันเป็นตับ ไม่มีมุ้ง(ยุงไม่มีแม้แต่ตัวเดียว) ไม่มีพัดลมเพราะหนาวๆๆ น่าจะสูงกว่าดอยอินทนนท์ สรุปคือ ผ้าชุบน้ำอาบแห้ง บางคนแปะน้ำ อิ อิ. ...ถนนใช่ว่าจะเรียบนอนสบาย ทำถนนด้วยมือนั่งเรียงก้อนหินผา จึงไม่เรียบ สะเทือนตึกๆ กระชึกกระชัก(ถนนชำรุด ดังเจ้าของกระทู้มีภาพกำลังซ่อมแซมถนน) ไม่ใช่ช่วงเดียวนะครับ มันทั้งสายกว่าพันกิโลเมตรละครับ เพราะรถบรรทุกประเทศจีนเข้ามาวิ่ง มีด่านชั่งน้ำหนักถนนก็ยังพัง การซ่อมถนนใช้แรงงานคนเพื่อประชาชนจะได้มีรายได้(ดังรูปเจ้าของกระทู้) บ้างก็เอาเด็กๆ ในครอบครัวมาขายแรงงานด้วย มันก็คือรายได้ของครอบครัว พม่าจนจริงๆ ครับ ต้องปลูกผัก เลี้ยงสัตว์กินเอง ซื้อมันแพงมากๆๆๆๆ เงิน 100 จ๊าดไม่มี คนพม่าไม่รู้จักด้วยซ้ำ ธนบัตรมี 500 จ๊าด( 20 บาท) 1000 จ๊าด(40 บาท) ใช้จ่ายเงินไทยได้สบาย พม่าไม่อยากได้เงินจ๊าด เพราะค่าเงินไม่แน่นอนขึ้นลงเร็ว ...เที่ยวมัณฑะเลย์ ไปถึงพุกาม แล้วบินกลับเชียงตุงด้วยเครื่องบินเที่ยวพิเศษ 10 โมงเช้า(ตกลงกันเองจะไม่นั่งรถกลับล่ะ ตอนขามาดูตื่นเต้น แต่ขากลับหัวใจจะวายเอา) เครื่องบินดีเลย์ 1 ชั่วโมงเพราะเที่ยวกันเพลินไปหน่อย เหมาลำ(เราเป็นคณะแรกของพม่าที่เช่าเหมาลำ)การดีเลย์ก็เป็นเรื่องของเรา เพราะเป็นที่ยวบินของเรา อิ อิ ... ลงรถบัสนำเที่ยวเดินเข้าอาคารสนามบิน ผ่านเครื่องเอ๊กเรย์ขึ้นเครื่อง ใบพัดหมุนบินทันที สงสารผู้โดยสารชาวพม่าเที่ยวบินปกติ เที่ยวบินบ่าย 2 ไปเมืองเชียงตุงเหมือนกัน นั่งรอเช็กอินตั้งแต่ 11 โมงเช้า เสียเวลาก่อนขึ้นเครื่อง 3 ชั่วโมง พวกเรารีบเร่งเดินผ่านพวกเค้า ทุกคนมองตาค้างไปตามๆ กัน คงสงสัยพวกเราเป็นใคร เที่ยวบินพิเศษแบบนี้มีแต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเมียนม่าร์เท่านั้น ...สุดท้ายนะครับ แอร์โฮสเตสสวยน่ารักมากๆๆๆ อิ อิ. ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่มีที่ว่างให้เขียนเล่าสู่กันฟังครับ. อันนี้ก็น่าเป๋นดีไปแอ่วแต้ ท่าจะหัวแม่ตี๋..หง้อมเหียก้า...ต่านน่าจะปิ๊กตางเก่าเน๊าะ.. 
|
|
|
|
|
konkothai
ชั้นประถม

ออฟไลน์
กระทู้: 269

|
 |
« ตอบ #922 เมื่อ: วันที่ 11 มีนาคม 2014, 13:23:11 » |
|
...ผมเพิ่งใช้เส้นทางเชียงตุง > มัณฑะเลย์(มันดะเลย์) มีแต่เหวกับเหว บัสจีนแอร์ Tiger ทัวร์ 24 ที่นั่ง 1000 โค้งแม่ฮ่องสอนที่ว่าหวาดเสียวสุดยอดยังไม่ถึงครึ่งของเส้นทางพม่าหฤโหดสายนี้ โซเฟอร์นุ่งโสร่ง ใส่รองเท้าแตะ เหยียบคันเร่งพุ่งเข้าหาโค้งหักตัวยูแคบมากๆ ด้วยความเร็วสูงเพื่อเร่งส่งกำลังหลังพ้นโค้งเจอลาดชัน 30 องศาเหยียบคันเร่งดังสนั่นหวั่นไหว วิ่งสูงขึ้นๆๆๆๆ เส้นทางถนนเหมือนริบบิ้นยามโบกสบัด ด้านข้างก็เป็นหุบเหว ลำธารโขดหิน รถพม่าวิ่งขวาล้อรถห่างปากเหวไม่ถึงครึ่งเมตรไม่มีแม้แต่รั้วกั้น คนโดยสารพากันชะโงกมองข้างหน้าต่างไม่เห็นถนน เห็นแต่หุบเหว ส่งเสียงคราง ฮู้ๆๆๆๆๆ ...สุดยอดคือโซเฟอร์พม่า พี่แกใช้มือข้างเดียวไม่เรียกว่าหมุนพวงมาลัย น่าจะเรียกว่าควงพวงมาลัยรถซะมากกว่า เพราะพี่แกเดี๋ยวควงซ้าย ควงขวา มือ วนเหมือนโม่แป้ง ทั้งๆ ที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงเพื่อเร่งส่งกำลังขึ้นเขา ...ยามมีรถสวนทางลงมาก็ต้องชะลอค่อยๆ คลานผ่านกัน ทั้งๆ ที่อยู่บนทางสูงชัน รถฝั่งตีนเขาจะหยุดให้รถที่วิ่งขึ้นเขาด้านขอบเหวผ่านไปก่อน พม่าเค้ามีน้ำใจต่อกันมาก โบกมือให้กันและกัน หรือม่ายก็บีบแตรทักทายกัน ถ้าเป็นพี่ไทยละก็ เมาแกล้งเบียดให้ตกเหวตายไปเลย อิ อิ. ...ช่วงตอนลงเขาก็สนุก มองผ่านหน้าต่างไปข้างรถ เห็นถนนหลายชั้น เห็นเป็นเส้นๆ ลดหลั่นกันลงไป แสดงว่าเป็นเส้นทางงูเลี้อยลงเขาลาดชัน เกียร์ต่ำเบรกอย่างเดียวกว่า 100 กิโลเมตรมั้ง ถึงจุดพักรถเอาน้ำสาดล้อรถเพื่อลดความร้อน ล้างเอาฝุ่นตามตัวรถออกไป ...จากเชียงตุง > มัณฑะเลย์ นั่งรถทั้งวันเป็นเวลา 2 วันกะ 1 คืน นี่เดินทางอย่างเดียวนะครับ แวะนอนโฮมสเตร์เมืองเล็กๆ (ไม่มีโรงแรม)ใช้ขันตักน้ำอาบเหมือนค่ายทหารยังไงยังงั้น นอนรวมแบบเตียงเดี่ยว 30 คน เรียงกันเป็นตับ ไม่มีมุ้ง(ยุงไม่มีแม้แต่ตัวเดียว) ไม่มีพัดลมเพราะหนาวๆๆ น่าจะสูงกว่าดอยอินทนนท์ สรุปคือ ผ้าชุบน้ำอาบแห้ง บางคนแปะน้ำ อิ อิ. ...ถนนใช่ว่าจะเรียบนอนสบาย ทำถนนด้วยมือนั่งเรียงก้อนหินผา จึงไม่เรียบ สะเทือนตึกๆ กระชึกกระชัก(ถนนชำรุด ดังเจ้าของกระทู้มีภาพกำลังซ่อมแซมถนน) ไม่ใช่ช่วงเดียวนะครับ มันทั้งสายกว่าพันกิโลเมตรละครับ เพราะรถบรรทุกประเทศจีนเข้ามาวิ่ง มีด่านชั่งน้ำหนักถนนก็ยังพัง การซ่อมถนนใช้แรงงานคนเพื่อประชาชนจะได้มีรายได้(ดังรูปเจ้าของกระทู้) บ้างก็เอาเด็กๆ ในครอบครัวมาขายแรงงานด้วย มันก็คือรายได้ของครอบครัว พม่าจนจริงๆ ครับ ต้องปลูกผัก เลี้ยงสัตว์กินเอง ซื้อมันแพงมากๆๆๆๆ เงิน 100 จ๊าดไม่มี คนพม่าไม่รู้จักด้วยซ้ำ ธนบัตรมี 500 จ๊าด( 20 บาท) 1000 จ๊าด(40 บาท) ใช้จ่ายเงินไทยได้สบาย พม่าไม่อยากได้เงินจ๊าด เพราะค่าเงินไม่แน่นอนขึ้นลงเร็ว ...เที่ยวมัณฑะเลย์ ไปถึงพุกาม แล้วบินกลับเชียงตุงด้วยเครื่องบินเที่ยวพิเศษ 10 โมงเช้า(ตกลงกันเองจะไม่นั่งรถกลับล่ะ ตอนขามาดูตื่นเต้น แต่ขากลับหัวใจจะวายเอา) เครื่องบินดีเลย์ 1 ชั่วโมงเพราะเที่ยวกันเพลินไปหน่อย เหมาลำ(เราเป็นคณะแรกของพม่าที่เช่าเหมาลำ)การดีเลย์ก็เป็นเรื่องของเรา เพราะเป็นที่ยวบินของเรา อิ อิ ... ลงรถบัสนำเที่ยวเดินเข้าอาคารสนามบิน ผ่านเครื่องเอ๊กเรย์ขึ้นเครื่อง ใบพัดหมุนบินทันที สงสารผู้โดยสารชาวพม่าเที่ยวบินปกติ เที่ยวบินบ่าย 2 ไปเมืองเชียงตุงเหมือนกัน นั่งรอเช็กอินตั้งแต่ 11 โมงเช้า เสียเวลาก่อนขึ้นเครื่อง 3 ชั่วโมง พวกเรารีบเร่งเดินผ่านพวกเค้า ทุกคนมองตาค้างไปตามๆ กัน คงสงสัยพวกเราเป็นใคร เที่ยวบินพิเศษแบบนี้มีแต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเมียนม่าร์เท่านั้น ...สุดท้ายนะครับ แอร์โฮสเตสสวยน่ารักมากๆๆๆ อิ อิ. ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่มีที่ว่างให้เขียนเล่าสู่กันฟังครับ.
เป๋นดีพ่าน ครับ
|
คนมักม่วน
|
|
|
AEK13@กว่างกรุง
ระดับ ป.ตรี
  
ออฟไลน์
กระทู้: 1,990

กว่างกรุง
|
 |
« ตอบ #923 เมื่อ: วันที่ 15 มีนาคม 2014, 09:05:13 » |
|
...ผมเพิ่งใช้เส้นทางเชียงตุง > มัณฑะเลย์(มันดะเลย์) มีแต่เหวกับเหว บัสจีนแอร์ Tiger ทัวร์ 24 ที่นั่ง 1000 โค้งแม่ฮ่องสอนที่ว่าหวาดเสียวสุดยอดยังไม่ถึงครึ่งของเส้นทางพม่าหฤโหดสายนี้ โซเฟอร์นุ่งโสร่ง ใส่รองเท้าแตะ เหยียบคันเร่งพุ่งเข้าหาโค้งหักตัวยูแคบมากๆ ด้วยความเร็วสูงเพื่อเร่งส่งกำลังหลังพ้นโค้งเจอลาดชัน 30 องศาเหยียบคันเร่งดังสนั่นหวั่นไหว วิ่งสูงขึ้นๆๆๆๆ เส้นทางถนนเหมือนริบบิ้นยามโบกสบัด ด้านข้างก็เป็นหุบเหว ลำธารโขดหิน รถพม่าวิ่งขวาล้อรถห่างปากเหวไม่ถึงครึ่งเมตรไม่มีแม้แต่รั้วกั้น คนโดยสารพากันชะโงกมองข้างหน้าต่างไม่เห็นถนน เห็นแต่หุบเหว ส่งเสียงคราง ฮู้ๆๆๆๆๆ ...สุดยอดคือโซเฟอร์พม่า พี่แกใช้มือข้างเดียวไม่เรียกว่าหมุนพวงมาลัย น่าจะเรียกว่าควงพวงมาลัยรถซะมากกว่า เพราะพี่แกเดี๋ยวควงซ้าย ควงขวา มือ วนเหมือนโม่แป้ง ทั้งๆ ที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูงเพื่อเร่งส่งกำลังขึ้นเขา ...ยามมีรถสวนทางลงมาก็ต้องชะลอค่อยๆ คลานผ่านกัน ทั้งๆ ที่อยู่บนทางสูงชัน รถฝั่งตีนเขาจะหยุดให้รถที่วิ่งขึ้นเขาด้านขอบเหวผ่านไปก่อน พม่าเค้ามีน้ำใจต่อกันมาก โบกมือให้กันและกัน หรือม่ายก็บีบแตรทักทายกัน ถ้าเป็นพี่ไทยละก็ เมาแกล้งเบียดให้ตกเหวตายไปเลย อิ อิ. ...ช่วงตอนลงเขาก็สนุก มองผ่านหน้าต่างไปข้างรถ เห็นถนนหลายชั้น เห็นเป็นเส้นๆ ลดหลั่นกันลงไป แสดงว่าเป็นเส้นทางงูเลี้อยลงเขาลาดชัน เกียร์ต่ำเบรกอย่างเดียวกว่า 100 กิโลเมตรมั้ง ถึงจุดพักรถเอาน้ำสาดล้อรถเพื่อลดความร้อน ล้างเอาฝุ่นตามตัวรถออกไป ...จากเชียงตุง > มัณฑะเลย์ นั่งรถทั้งวันเป็นเวลา 2 วันกะ 1 คืน นี่เดินทางอย่างเดียวนะครับ แวะนอนโฮมสเตร์เมืองเล็กๆ (ไม่มีโรงแรม)ใช้ขันตักน้ำอาบเหมือนค่ายทหารยังไงยังงั้น นอนรวมแบบเตียงเดี่ยว 30 คน เรียงกันเป็นตับ ไม่มีมุ้ง(ยุงไม่มีแม้แต่ตัวเดียว) ไม่มีพัดลมเพราะหนาวๆๆ น่าจะสูงกว่าดอยอินทนนท์ สรุปคือ ผ้าชุบน้ำอาบแห้ง บางคนแปะน้ำ อิ อิ. ...ถนนใช่ว่าจะเรียบนอนสบาย ทำถนนด้วยมือนั่งเรียงก้อนหินผา จึงไม่เรียบ สะเทือนตึกๆ กระชึกกระชัก(ถนนชำรุด ดังเจ้าของกระทู้มีภาพกำลังซ่อมแซมถนน) ไม่ใช่ช่วงเดียวนะครับ มันทั้งสายกว่าพันกิโลเมตรละครับ เพราะรถบรรทุกประเทศจีนเข้ามาวิ่ง มีด่านชั่งน้ำหนักถนนก็ยังพัง การซ่อมถนนใช้แรงงานคนเพื่อประชาชนจะได้มีรายได้(ดังรูปเจ้าของกระทู้) บ้างก็เอาเด็กๆ ในครอบครัวมาขายแรงงานด้วย มันก็คือรายได้ของครอบครัว พม่าจนจริงๆ ครับ ต้องปลูกผัก เลี้ยงสัตว์กินเอง ซื้อมันแพงมากๆๆๆๆ เงิน 100 จ๊าดไม่มี คนพม่าไม่รู้จักด้วยซ้ำ ธนบัตรมี 500 จ๊าด( 20 บาท) 1000 จ๊าด(40 บาท) ใช้จ่ายเงินไทยได้สบาย พม่าไม่อยากได้เงินจ๊าด เพราะค่าเงินไม่แน่นอนขึ้นลงเร็ว ...เที่ยวมัณฑะเลย์ ไปถึงพุกาม แล้วบินกลับเชียงตุงด้วยเครื่องบินเที่ยวพิเศษ 10 โมงเช้า(ตกลงกันเองจะไม่นั่งรถกลับล่ะ ตอนขามาดูตื่นเต้น แต่ขากลับหัวใจจะวายเอา) เครื่องบินดีเลย์ 1 ชั่วโมงเพราะเที่ยวกันเพลินไปหน่อย เหมาลำ(เราเป็นคณะแรกของพม่าที่เช่าเหมาลำ)การดีเลย์ก็เป็นเรื่องของเรา เพราะเป็นที่ยวบินของเรา อิ อิ ... ลงรถบัสนำเที่ยวเดินเข้าอาคารสนามบิน ผ่านเครื่องเอ๊กเรย์ขึ้นเครื่อง ใบพัดหมุนบินทันที สงสารผู้โดยสารชาวพม่าเที่ยวบินปกติ เที่ยวบินบ่าย 2 ไปเมืองเชียงตุงเหมือนกัน นั่งรอเช็กอินตั้งแต่ 11 โมงเช้า เสียเวลาก่อนขึ้นเครื่อง 3 ชั่วโมง พวกเรารีบเร่งเดินผ่านพวกเค้า ทุกคนมองตาค้างไปตามๆ กัน คงสงสัยพวกเราเป็นใคร เที่ยวบินพิเศษแบบนี้มีแต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเมียนม่าร์เท่านั้น ...สุดท้ายนะครับ แอร์โฮสเตสสวยน่ารักมากๆๆๆ อิ อิ. ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่มีที่ว่างให้เขียนเล่าสู่กันฟังครับ.
เป๋นดีพ่าน ครับ ประสบการณ์มันอธิบายเป็นคำพูดได้ไม่หมดไม่สิ้น
|
วีรบุรุษไซร้ ไร้น้ำตา ร่ำสุราหยาดโลหิตคลุกเคล้า หมื่นพันอดีตกาลแสนเศร้า ยิ้มเยาะเย้ามลายสิ้น กระบี่เดียว
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|