ขอความรู้เรื่องเคลือบแก้วคริสตันรถยนต์ครับ

[mcprachy]

สำหรับผู้ที่สนใจงานเคลือบสีรถยนต์(ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแวกซ์(WAX), กลุ่มซีลแลนท์(Sealant), กลุ่มสารโพลีเมอร์หรือเรซิน หรือกลุ่มเคลือบแก้ว)

ผมอยากฝากให้ท่านสงสัยและสอบถามข้อมูลผู้ให้บริการให้ดีว่าน้ำยาที่ร้านต่างๆใช้นั้นเป็นน้ำยาเคลือบที่อยู่ในกลุ่มใด และควรจะสอบถามข้อมูลยี่ห้อของน้ำยามาด้วย เพื่อเราจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปหาในอินเตอร์เน็ตว่าตรงกับที่ผู้ให้บริการกล่าวอ้างหรือไม่(โดยเฉพาะการเคลือบแก้วที่ค่าบริการเคลือบต่อครั้งค่อนข้างสูง) และทำให้เรามั่นใจว่าไม่ได้โดนหลอก กรณีนี้ผมขอรวมถึงผู้ให้บริการด้วยนะครับว่าท่านทั้งหลายก็ต้องตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตด้วย(โดยพิจารณาจากเอกสารเท่านั้น) ไม่ใช่เชื่อเซลส์ที่ขายน้ำยาเพียงอย่างเดียว

เนื่องจากปัจจุบันมีข้อมูลเกี่ยวกับงานเคลือบแก้วออกมาเยอะ และการที่ผู้้ใช้ไม่ค่อยจะหาข้อมูลทำให้เกิดช่องทางที่ผู้ให้บริการหลายๆเจ้านำน้ำยาที่ไม่ใช่เคลือบแก้วแท้ๆมาหลอกให้บริการท่าน อีกกรณีที่พบก็คือผู้ให้บริการเองไม่ได้หลอกผู้ใช้ แต่ตัวผู้ให้บริการเองก็ยังไม่รู้และไม่เข้าใจถึงคุณสมบัติของน้ำยาเคลือบแก้วแท้ๆเช่นกัน ทำให้ท่านเจ้าของที่รักรถไม่ได้รับความคุ้มค่าจากการเคลือบแก้วและเกิดปัญหาหลายๆประการตามมาหลังจากเคลือบรถไปแล้ว

สรุปนะครับ จะเคลือบแก้วหรือจะเคลือบน้ำยาอะไรที่ช่วยปกป้องสีรถยนต์ ท่านเจ้าของรถควรจะสอบถามข้อมูล(ยี่ห้อน้ำยา, บริษัทที่ผลิต, น้ำยาเริ่มต้นเซ็ทตัวที่อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศเท่าไหร่, คุณสมบัติต่างๆของน้ำยาเคลือบ)และตรวจสอบข้อมูลที่ได้มาอีกครั้งจากช่องทางอินเตอร์เน็ต(Google, Youtube, Facebook) แล้วใช้วิจารณญาณของท่านเองว่าควรจะเชื่อถือข้อมูลที่ได้มาหรือไม่ 

ขอบคุณครับ...^^

[mcprachy]

ขออธิบายเพิ่มเติมนะครับ...งานเคลือบสีรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาเคลือบชนิดใดก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมสภาพผิวแลคเกอร์ให้ดีที่สุดก่อนเคลือบน้ำยาทับลงไป การเตรียมผิวแลคเกอร์ที่ดีคือการทำให้หน้าแลคเกอร์ไม่มีรอยขีดข่วนต่างๆเหลืออยู่(หรือเหลือรอยน้อยที่สุด) ซึ่งเมื่อไม่มีรอยแล้วผลที่ได้คือความใสและการสะท้อนภาพที่คมชัดขึ้น(เปรียบเทียบจากขั้นตอนก่อนและหลังทำการปรับสภาพผิว) โดยขั้นตอนทั้งหมด(รวมเคลือบน้ำยา) จะใช้เวลาทำงานประมาณ 8-12 ชั่วโมง โดยไม่ต้องนำรถไปจอดทิ้งข้ามวันไว้กับผู้ให้บริการ ซึ่งลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วยครับ(เหมือนกับร้านคาร์แคร์ร้านนึงที่เชียงราย ที่ลูกน้องแอบเอารถลูกค้าไปขับและเกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าเมื่อประมาณต้นปี 56)

จากรูปคือข้อมูลตัวอย่างงานในเพจของผู้ให้บริการที่กรุงเทพ(ผมตัดข้อมูลชื่อร้านออกจากรูปแล้ว จะได้ไม่มีปัญหาว่ามาแอบอ้างโฆษณา) ผมขอนำมาให้ดูเป็นตัวอย่างและเป็นข้อมูลคร่าวๆ เพื่อให้ทุกท่านที่สนใจงานได้เข้าใจความสำคัญของการเตรียมผิว ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญ"ที่สุด" ของกระบวนการเคลือบสีรถยนต์ครับ

รูปที่1 เป็นภาพเปรียบเทียบระหว่างผิวแลคเกอร์ที่มีรอยจากการใช้งาน(ฝั่งขวา) และการปรับสภาพผิวให้เรียบรวมถึงขจัดรอยขีดข่วนออกไปแล้ว(ฝั่งซ้าย)
ปล.การใช้ไฟสปอตไลท์ส่องเพื่อตรวจสอบรอยขีดข่วนเนื่องจากรถอยู่ในที่ร่ม ปรกติการตรวจสอบรอยดังกล่าวสามารถทำได้โดยนำรถออกไปตรวจกลางแจ้งที่มีแสงดวงอาทิตย์ส่องโดยตรง(ตามรูปที่2)

รูปที่2 เป็นการแสดงให้เห็นถึงงานขัดปรับผิว(แบบรูปที่1)ที่ไม่ได้มาตรฐาน(ยิ่งทำสีรถยิ่งไม่สวย) ในกรอบสี่เหลี่ยมคือการแก้ไขงานให้กลับมาได้มาตรฐานทำให้รอยต่างๆหมดไป และภาพสะท้อนคมชัดขึ้น(เปรียบเทียบเฉพาะก่อนและหลังการขัดเท่านั้น)
ปล.ท่านที่สนใจจะตรวจสภาพสีรถ ให้นำรถของท่านออกสู่แสงแดด และตรวจงานได้เลยครับ(วิธีนี้ไม่ยุ่งยาก แต่อาจจะแสบตานิดหน่อย...^^)

รูปที่3 หลังจากเตรียมผิวเสร็จแล้ว จะดูว่ารถสวยหรือไม่ ให้นำออกมาดูที่แสงธรรมชาติเลยครับ ไม่ใช่ดูในห้องขัดแล้วเปิดไฟเป็น 10ดวง(กรณีนี้ผมถือว่าเจตนาจัดแสงไฟให้มากผิดปรกติเพื่อทำให้รถเงา แต่เมื่อออกจากร้านและกลับถึงบ้าน เจ้าของรถก็จะพบว่าทำไมรถไม่เงาเหมือนอยู่ที่ร้านเลยหวา)

รูปที่4 เหมือนรูปที่3 แต่เป็นสภาพแสงในเดือน เม.ย. ตอนประมาณ 18:00น ที่จะอธิบายว่ารถที่มีความเงา แสงเหลือน้อยก็ยังต้องคงความเงางามไว้ ไม่ใช่อัดแสงไฟมากๆแล้วบอกว่ารถเงา

รูปทีี่5 อายุรถ44ปี ทำสีครั้งล่าสุดเมื่อ 8ปีที่แล้ว โดยภายหลังจากการทำสีก็มีการนำมาใช้งานบ้างโดยช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2555-2556 จะจอดไว้ในโกดังเป็นส่วนใหญ่
แต่ประเด็นที่อยากจะขออธิบายสำหรับกรณีนี้ ที่เจ้าของรถดูแลรักษาสีรถได้ดีมาก ก็คือแลคเกอร์เดิมที่มาตั้งแต่โรงงานผลิตรถยนต์สามารถอยู่ได้ตั้ง 36ปี!!!...(44ปี - 8ปี = 36ปี)  
และแลคเกอร์ที่ทำใหม่เมื่อ 8ปีที่แล้ว(คุณภาพงานพ่นจากอู่สี ยังไงก็สู้งานสีเดิมๆที่มาจากโรงงานประกอบรถยนต์ไม่ได้) ผ่านการใช้งานและเมื่อฟื้นฟูกลับมาก็ได้สภาพสีรถอย่างในรูปที่นำมาแสดงนี่ล่ะครับ

ขอให้ผู้รักรถทุกท่านสนุกกับการดูแลรักษาสีรถยนต์ และรู้เท่าทันผู้ให้บริการนะครับ...^^

[เท้าสะเอวคลับ Ver.CaZzAmAnIaN]

ความรู้ทั้งนั้น