เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 เมษายน 2024, 14:13:38
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  พระมหา กับ พระครู ต่างกันอย่างไร
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน พระมหา กับ พระครู ต่างกันอย่างไร  (อ่าน 35441 ครั้ง)
thang1
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68



« เมื่อ: วันที่ 05 ตุลาคม 2013, 14:16:55 »

ทำไมพระบางท่านมียศเป็นพระมหา
บางท่านมียศเป็นพระครู
ต่างกันอย่างไรครับ
IP : บันทึกการเข้า

■ถ้าอยากจะ "ประสบความสำเร็จ" ต้องกล้าที่จะ "เปลี่ยนแปลง" ตัวเอง
■ทางข้างหน้า 'ลางเลือน' เหมือนว่างเปล่า แดดจะเผาผิวผ่อง เธอหมองไหม้ ที่ตรงนั้นมีหุบเหว มีเปลวไฟ ถ้าอ่อนแอจะฝ่าไป อย่างไรกัน
■จงฟังความ
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 05 ตุลาคม 2013, 17:21:24 »

พระมหา ท่านเรียนภาษาบาลี แล้วไปสอบ ที่เค้าเรียกว่า ปธ.1 จนถึงสูงสุดคือ ปธ.9 ประโยคครับ

ส่วนพระครู ต้องได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ครับ เป็นลำดับ ๆ ไป ตามผลงานของท่านครับ

อันนี้ตอบแบบสรุปครับผม
IP : บันทึกการเข้า
ลุงหนาน
ผู้ดูแลบอร์ด
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 249



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 06 ตุลาคม 2013, 12:36:19 »

พระมหา ท่านเรียนภาษาบาลี แล้วไปสอบ ที่เค้าเรียกว่า ปธ.1 จนถึงสูงสุดคือ ปธ.9 ประโยคครับ

ส่วนพระครู ต้องได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ครับ เป็นลำดับ ๆ ไป ตามผลงานของท่านครับ

อันนี้ตอบแบบสรุปครับผม
สาตุ๊
IP : บันทึกการเข้า

อย่ายึดมั่นกับสิ่งใดๆ เพราะอะไรๆ ก็ไม่แน่นอน
udom pingwong
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 74


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 06 ตุลาคม 2013, 21:04:48 »

พระมหาหรือเณรมหา จะเรียนหนักเรียนยากกว่าเรียนนักธรรม หรือแผนกอื่นจบมาแล้วคุ้มครับเพราะเรียนภาษาบาลี ซึ่งเป็นแม่ของภาษาไทย ผมเองก็จบเปรียญธรรมสามารถนำความรู้ภาษาบาลีมาใช้ในการแต่งบทแต่งกลอนแต่งเพลง ตั้งชื่อ เปลี่ยนชื่อและอื่น ๆฯลฯ
จากหนานเปรียญ
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 07 ตุลาคม 2013, 13:51:39 »

ไหว้สา

พระ เณร มหา จะต้องสอบได้ เปรียญธรรม 3 ประโยค  แล้วจึงได้รับการพระราชทานถวาย  คำว่า มหา  จาก พระเจ้าแผ่นดิน  อีกด้วย

หาก ยังไม่ได้เปรียญ 3 ยังไม่ได้รับพระราชทานถวายคำว่า มหา ก็ยังเรียกมหาไม่ได้

สามเณร ทีสอบได้ 9 ประโยค  จะได้เป็น  นาคหลวง  เมื่ออุปสมบทเป็น พระภิกษุ

นาคหลวงองค์แรก  ของ รัชกาล ที่ 9  คือ  อาจารย์เสฐียรพงษ์  วรรณปก , มหา  ราชบัณฑิต

ฆราวาส ใช้คำ  มหา ต่อท้าย 

พระภิกษุ  ใช้  มหาต่อ ท้ายพระ  แล้วนำหน้าชื่อ ของท่าน คือ พระ+มหา+ชื่อ  ยกตัวอย่างจะเห็นชัดเจนกว่า   พระมหาว.วชิรเมธี  หรือ  พระมหาวุฒิชัย  นักปราชญ์ชาวเชียงราย นั่นเอง

นอกจากท่าน จะเป็น ผู้รู้แปลภาษาบาลี ยังเป็น  นักทำสมาธิภาวนา นักเผยแพร่พระพุทธธัมม์  ทีมีผลงานอย่างมากมายอีกด้วย

พระอาจารย์วอ เป็น  พระนักเทศน์ชื่อก้องฟ้าเมืองไทย  แต่ ท่านไม่นิยม  เอาธัมมะ  มาเทศน์  ออกแนวตลกโปกฮา  ไม่เป็นการประมาท  พลาดพลั้ง  พระธัมม์ อย่างพระมหาสมปอง  พระพยอม  เป็นต้น

สาธุ ครับ

IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2013, 21:02:21 »

ไหว้สา
พระครู เป็น ผู้ทรงคุณสมบัติ อันพึงจะได้ รับพุดยศ  ตราตั้ง อย่างเป็น ทางการ
มีตั้งแต่ ชั้นประทวน  ชั้นสัญญาบัตร พระราชาคณะ คือ พระ ที่เป็นหมู่พวก ของ พระราชามหากษัตริย์
โดย  ท่านไม่ต้องเรียน แปล ภาษาบาลี หรือ หาก มีเปรียญธัมม์บาลี  ยิ่งมีโอกาส เป็น พิเศษ ในบางกรณี

สาธุ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
Phupha
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 14


« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 15 พฤศจิกายน 2013, 01:42:14 »

ที่เห็นและที่เคยพบมาไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ รอยศฐาบรรดาศักดิ์ รอขั้นใบฎีกา รอพัดยศเป็นพระครู แล้วไม่หลุดจากกองกิเลส เหมือนกันละครับ
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2013, 00:51:45 »

ไหว้สา

สมเด็จ พระราชาคณะ อาจมี ถานานุศักดิ์ มีฐานะ ใน การมอบ ถานานุกรม คือ ฐานะ ยศศักดิ์ ตาม ลำดับ ที่ ท่านมี สิทธิ

กราบ ขออนุญาต นำมาจาก หนังสือ ศีล ของ พระ และ สมณวิสัย  ที่ได้ นำเอาประวัติ ผู้แปลจาก  พระปาติโมกข์  คือ  สมเด็จพระวันรัตน์ (แดง  สีลวฑฺฒนมหาเถร)  อดีตเจ้าอาวาส องค์ ที่ 3 วัดสุทัศน์  กรุงเทพ

ครั้ง ท่าน เป็น  พระธรรมวโรดม  แล้วได้รับ  พระราชโองการ จาก พระเจ้าแผ่นดิน  รัชกาล ที่ 5  ในปี พ.ศ. 2435 เป็น  สมเด็จพระวันรัตน์

สมเด็จพระวันรัตน์  สามารถ ตั้ง  ถานานุกรม  ได้ 10 รูป คือ

พระครูปลัด 1       พระครูวินัยธร 1     พระครูวินัยธรรม 1        พระครูธรรมคุต 1     พระครูพุทธบาล 1   พระครูพรหมสร 1  พระครูอมรศัพท์ 1  พระครูสังฆกิจจารักษ์ 1 พระครูสมุห์     1 พระครูใบฎีกา 1

การ มียศศักดิ์  ของ  พระภิกษุ  ไม่มีบัญญัติ ห้ามไว้ใน พระธัมมวินัย  เป็น เรื่องทางโลก  จักเกื้อกูล ต่อ พระภิกษุ พุทธบุตร

พระพุทธเจ้า  ทรงมอบภาระ  ฝากการพระศาสนา ไว้แก่  พระมหากษัตริย์  ผู้เป็นใหญ่ เป็น ตัวแทน ของ   ปวงชน ใน แผ่นดิน

แผ่นดิน ใด  มี พระยา หรือ มหากษัตริย์  ทรงเป็น  ประมุข  ย่อมมี  กิจพระพุทธศาสนา  เจริญรุ่งเรือง  กว่า  ประมุข เป็น  ตำแหน่งอื่น

ตำแหน่ง  ประมุขพระภิกษุสงฆ์ ของ แผ่นดิน ที่มี ประมุข คือ
เท้าพระยา  มหากษัตริย์  จัดเป็น  สังฆราชา  หรือ  พระสังฆราช    

 ส่วนประมุข  ศักดิ์ เทียบเท่า กษัตริย์ ( ไม่ใช่ ในพระราชวงศ์ เจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์  หรือ ไม่จัดว่า เป็น King หรือ Royal  family ขออภัยหากมีข้อ ผิดพลาด )
เป็น  ตำแหน่ง พระสังฆนายก  ที่  อนุโลม เรียกว่า  พระสังฆราช
พระนายกคณะ  อนุโลมเรียก  พระราชาคณะ

ยศช้าง  ขุนนางพระ  เป็น  คำโบราณ เปรียบเทียบ  ไม่ให้  ยึด  ไม่ให้  ติด

การ ที่ พระภิกษุ  ได้รับ  ยศ ก็เป็น  การมี ภาระกิจ  ดูแล การพระศาสนา เป็น  กรณีพิเศษ  อย่างเช่น  การปกครองสงฆ์  ดูแลอาวาส

เป็น  วาสนา  บารมี  จะเป็น  บุญกุศล  ก็ได้     เป็น  อกุศล  ก็ได้

จัดเป็น มาร  อันเป็น ตัวตัดรอน  ความดี ของ พระ

เป็น มารในฝ่ายบุญ กุศลมาร ก็ได้  
พระ มี ลาภยศ เกิดแต่ บุญกุศล แต่ ก็  มีภาระ ทำให้ ไม่สะดวก ใน การเจริญสมณธัมม์ อย่างพระธัมมดา ๆ

หรือ  จัดเป็น  เทพพรหม  เกื้อหนุน ความดี แก่ พระภิกษุ ก็ได้  มีลาภยศ มีหน้าที่ มีอำนาจ มีความชัดเจน  ใน  การทำภารกิจ พระศาสนา

พระ ผู้มียศ พระผู้ปกครอง  ที่ เข้าใจ  พระนักภาวนา  พระธุดงค์  พระกัมมัฎฐาน ได้  มีความเข้าใจ ส่งเสริม ใน การเรียนพระปริยัติธัมม์ ดี

ภิกษุผู้นำ ที่ดี ๆ  ย่อมดูแล  หมู่สงฆ์ ได้ดี  พระศาสนา จัก รุ่งเรือง

การคันถธุระ คือ ธุระ  การจดจำ  การเรียนศาสนา พระปริยัติธัมม์
การวิปัสสนาธุระ  คือ  การใช้ ปัญญา  เพียรในการละกิเลส

พระศาสนา ก็ต้องการ  มี  ผู้นำ ที่ดี  ที่เข้มแข็ง  นำพา  พุทธบริษัท  หมู่คณะ ของ  พระพุทธเจ้า


แม้น ใน พุทธกาล  พระพุทธองคเจ้า  ยังทรง ยกย่อง  ทั้ง พระภิกษุ  ภิกษุณี  อุบาสก และ อุบาสิกา  ให้  ปรากฎเกียรติยศ เป็น  เลิศ ในด้านต่าง ๆ

ตั้งแต่  ตำแหน่ง  พระอัครสาวก เบื้องซ้าย  เบื้องขวา  เป็น ลำดับลงมา

มอง ได้ หลายแง่ หลายมุม  โปรด พิจารณา   


ขอสมมา สาธุ  จาก  ตุ๊เจ้า ใน อดีต

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 พฤศจิกายน 2013, 11:35:59 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
makawen
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2013, 01:18:22 »

ช้าง1ตัว 1เชือกนี่ผลิตพัดยศได้เยอะไหมครับ งาหลุดเอง หรือล้มเอางา ถ้าไม่ใช้งาช้างใช้อย่างอื่นแทนได้หรือเปล่า
IP : บันทึกการเข้า
nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2013, 15:17:52 »

ไหว้สา
งาช้าง ที่ ได้มาเป็น พัดยศ  ไม่ว่าจักล้มเอง  ถูกล้ม  อาจเป็น  ไปตามเหตุ
พระพุทธศาสนา  สอนเรื่อง เหตุ  กับ  ผล  เป็นธัมมะ  ที่มีอยู่ใน ธัมมชาติ  เป็นไป  ตามกฎธัมมชาติ  
ถ้าได้ ไปศึกษา  กฎธัมมชาติ  จะเข้าใจดีขึ้น กว่า ว่าในนี้

ช้างสาร  ก็มี  วิบากกรรมดี  เลว  ของตัวเก่า  อย่างน้อย ก็คือ จิตตกต่ำ ด้วย  โมโห ๆ แปลว่า  ความหลง  ในชนกกัมม์  กัมม์นำไปเกิด ในเดรัจฉาน

แม้นแต่  พระโพธิสัตว์ พระองค์ต่าง ๆ ก็อาจเคยไปเป็น  เดรัจฉานมา  พญาช้างฉัททันต์  คือ  พระศรีศากยมุนี  ที่ทรงถูก  นายพรานป่า  น่าจะคือ  พระเทวทัต  เอางา  ของ  ท่าน
ไป  ถวาย พ่อพระยาเจ้าเมือง  เนื่องด้วย  การเป็น เจ้ากัมม์นายเวรกัน  จาก  สมัยเป็น  พ่อค้า  ซื้อของ ตัดหน้ากัน  จานเก่าทองคำแท้

ไม่รู้ว่า  งา จะไปเป็น เครื่องประกอบพัดยศไหม ใน ครั้งกระนั้น ?

งาช้าง  ดวงจิตขันธ์ดี  แม้น  งา  อันเป็น  ส่วนกายภายนอก  ก็ถูกนำไป ใช้ประโยชน์ ทาง ดี
ไป เป็น งา ของ เท้าพระยามหากษัตริย์  งา ประกอบ ตาลปัตรพัดยศ  พระภิกษุ สามเณร

บ้าง หมอแผนโบราณ แพทย์ทางเลือก  เอา  งาสะเดาะ ที่คาต้นไม้   เอาไปทำพิธีแหกคุณผี  เจ้ากัมม์นายเวร  ปัดเสนียด  ไล่เคราะห์

คนเรา  ตายเป็นผี  กระดูกอาจได้  เป็น  อาจารย์ใหญ่  ถึงมี  แต่ เทียบ เปอร์เซนต์  ยังน้อยกว่า  ดูกผี  ที่  เขาเอาไป เผาขว้าง

เหลือ แต่ เพื่อนสองคน  ติดตามไป ในเมืองผี

สรีสวัสสดี  สาธุ
จาก  หนานธง
เสวนาธัมมทานนี้  จงมีบุญกุศล  ถึง  งาสะเดาะ ที่ เป็น ของสืบมาแต่  อี่ป่อตา(คุณตา)จันทร์  แสงแก้ว  และ ดวงจิต ของ คุณตาจันทร์ ตลอดจน ผู้เกี่ยวข้อง กับ งานี้

ญาติธัมม์ผู้ใด  ต้องการบุญกุศลด้วย  ขอจงโปรด ตั้งจิตยินดี ร่วม อนุโมทนาบุญ เอาเถิด

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 25 พฤศจิกายน 2013, 15:22:01 โดย nantong » IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!