เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 19 เมษายน 2024, 17:48:39
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ⒷⒼ*, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  +++ถนน R3a ท่าเรือเชียงแสน 2 และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4+++
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 [12] 13 14 15 16 พิมพ์
ผู้เขียน +++ถนน R3a ท่าเรือเชียงแสน 2 และโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4+++  (อ่าน 152074 ครั้ง)
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #220 เมื่อ: วันที่ 07 ธันวาคม 2012, 08:59:34 »



http://www.thairath.co.th/content/eco/311393
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #221 เมื่อ: วันที่ 10 ธันวาคม 2012, 18:45:26 »

สะพานข้ามโขง วันที่ 10 ธ.ค.55

IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #222 เมื่อ: วันที่ 10 ธันวาคม 2012, 19:01:28 »

ท่าเรือน้ำโขงมูลค่า 1.5 พันล้านแทบร้าง-เอกชนเมิน ยอมจ่ายค่าปรับแลกเทียบท่าเอกชนแทน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   19 พฤศจิกายน 2555

เชียงราย - ท่าเรือเชียงแสน 2 มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านป่วน เอกชนเมินล่องเรือสินค้าเข้าเทียบท่าหลังเจอปัญหาน้ำโขงแห้ง-ต้นทุนเพิ่ม-ถนนเชื่อมต่อไม่รองรับ แถมไร้สิ่งอำนวยความสะดวกลูกเรือ ฯลฯ จนยอมจ่ายค่าปรับลำละ 3 พันแลกเข้าเทียบท่าเอกชนกันเป็นแถว ล่าสุด กมธ.จีเอ็มเอสยกคณะเข้าตรวจสอบ
       
       วันนี้ (19 พ.ย.) นายสมคิด บาลไธสง ประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการชายแดน (อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง : GMS) สภาผู้แทนราษฎร ได้นำคณะเดินทางไปตรวจสอบการดำเนินการของท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 บนเนื้อที่ประมาณ 387 ไร่ 1 งาน 44 ตารางวา ติดชายแดนไทย-สปป.ลาว ที่กระทรวงคมนาคมใช้งบประมาณ 1,546.4 ล้านบาท ก่อสร้างและเปิดใช้งานได้ทันตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 55 ที่ผ่านมา โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกิจการท่าเรือเข้าร่วม
       
       ดร.กิตติรัตน์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ในฐานะเลขานุการคณะฯ ได้แจ้งสาเหตุการตรวจสอบว่าเกิดจากการได้รับแจ้งว่าท่าเรือประสบปัญหาเรือสินค้าไม่ยอมเข้าใช้บริการ และยังจะมีการเปิดจุดผ่านแดนถาวรเชียงแสนแห่งที่ 2 ขึ้นที่สามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน เพิ่มอีกแห่งหนึ่งด้วย รวมทั้งต้องการทราบการดำเนินการของชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของด้วย
       
       นายวีระ จินนิกร ผู้จัดการท่าเรือเชียงแสน กล่าวว่า ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 สร้างขึ้นเพื่อรองรับสินค้าชายแดนที่เพิ่มมากขึ้นได้ถึง 6 ล้านตันต่อปี รองรับเรือสินค้าขนาด 500 ตันได้ครั้งละ 10 ลำ ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว และมีหน่วยงานเข้าไปประจำทั้ง 9 หน่วย และจะเพิ่มเป็น 10 หน่วยคือสรรพสามิต เพื่อรองรับสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงในเร็วๆ นี้
       
       สภาพปัจจุบันยังมีเรือสินค้าไปใช้บริการ โดยเฉพาะไก่แช่แข็งที่ส่งออกวันละกว่า 20-30 ตู้คอนเทนเนอร์ สำหรับกรณีที่ระบุว่าเรือสินค้าไม่ไปใช้บริการที่ท่าเรือทั้งหมดนั้นพบว่าเกิดจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงในปัจจุบันลึกประมาณ 2.50 เมตร เรือสินค้าจีนกินน้ำลึกตั้งแต่ 1.80 เมตร และในฤดูแล้งนี้คาดว่าระดับน้ำก็คงจะลดลงอีกตามปกติทุกปี โดยคาดว่าสภาพน้ำโขงลึกพอแล่นเรือได้ต่อไปอีกราว 2 เดือนก่อนจะแห้งกว่านี้
       
       ดังนั้น จึงทำให้เรือไปใช้บริการเทียบท่าเรือห้าเชียง ซึ่งเป็นของเอกชนที่บ้านสบรวก สามเหลี่ยมทองคำแทน รวมทั้งมีอุปสรรคถนน 4 ช่องจราจร ระยะทาง 14.550 กิโลเมตรที่จะเชื่อมท่าเรือ-อ.เมืองเชียงราย มูลค่า 809.580 ล้านบาท ยังไม่แล้วเสร็จ ที่มีกำหนดก่อสร้างตั้งแต่ 22 ก.ย. 2554-9 มี.ค. 2557 ด้วย แต่ถ้าเสร็จจะย่นระยะทางได้กว่า 30 กิโลเมตร ทำให้ปัจจุบันท่าเรือต้องกำหนดมาตรการจูงใจด้วยการพยายามหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้เรือสินค้ามากขึ้น และลดราคา 50% เป็นเวลา 3 เดือนด้วย
       
       ด้านนางเกศสุดา สังขกร รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย ฝ่ายการค้าชายแดน อ.เชียงแสน กล่าวว่า สาเหตุที่ผู้ประกอบการค้าไม่ไปใช้บริการท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 มากและหันไปใช้ท่าเรือเอกชนที่สามเหลี่ยมทองคำเพราะต้นทุนสูงกว่า โดยต้องเดินทางไกลจากท่าเรือแห่งที่ 1 ในปัจจุบันถึง 6 กิโลเมตร เสียค่าใช้จ่ายเที่ยวละนับหมื่นบาท
       
       ทั้งนี้ เมื่อตอนเปิดใช้ท่าเรือเชียงแสน 2 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 55 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการถูกบีบให้ไปใช้บริการ แต่ปรากฏว่าสะพานข้ามลำน้ำคำที่เชื่อมไปยังท่าเรือพังเสียหาย ต้องหันไปใช้เส้นทางอ้อมก็ผ่านถนนในหมู่บ้านทำให้ถนนพังเสียหาย เมื่อจะกลับไปใช้ท่าเรือแห่งเดิมก็ถูกปิดการใช้งานเสียแล้ว จึงจำเป็นต้องไปใช้บริการจอดนอกท่าเรือ โดยเสียค่าปรับเรือลำละ 3,000 บาท ซึ่งก็เดือดร้อนหนักเพราะถ้าเป็นเรือสินค้าจีนขนาดใหญ่ก็คงคุ้มค่า แต่ถ้าเป็นเรือ สปป.ลาวที่ใช้ขนไก่แช่แข็งกันเป็นจำนวนมากคงไม่คุ้มค่า เพราะระวางบรรทุกมีน้อย นอกจากนี้ ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 ไม่มีสถานที่รองรับลูกเรือ เช่น สินค้า อาหาร ที่พักผ่อน ฯลฯ
       
       นางเกศสุดากล่าวอีกว่า ปัญหาสำคัญอีกประการคือ ร่องน้ำในแม่น้ำโขงบางจุดตื้นเขิน และไม่ชัดเจนเป็นไปตามทรายที่ถูกน้ำพัดพา ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 55 ที่ผ่านมามีเรือสินค้าเกยตื้นร่องน้ำที่ป่าแลว ชายแดนพม่า-สปป.ลาว ถึง 5 ลำ ขณะที่เส้นทางจากท่าเรือ 1 ถึงท่าเรือ 2 ก็มีความตื้นเขินในบางจุดเช่นกัน จึงเสนอให้มีการร่วมมือกับจีนที่ดูแลเขื่อนด้านบนให้เปิด-ปิดน้ำให้เหมาะสม และขุดลอกให้เดินเรือได้สะดวก รวมทั้งปรับปรุงถนนเชื่อมท่าเรือให้รองรับรถบรรทุกได้ 50 ตันมากกว่าสภาพในปัจจุบันที่รองรับได้เพียง 15 ตัน
       
       ขณะที่นายพัชระ สินสวัสดิ์ รองเลขานุการคณะฯ ซึ่งเป็นอดีตนายด่านศุลกากรเชียงแสน กล่าวว่า ท่าเรือแห่งที่ 2 เกิดจากมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรขยายจากท่าเรือแห่งที่ 1 ซึ่งแออัดอยู่กลางตัวเมืองเชียงแสน ดังนั้นจึงไปสร้างแห่งที่ 2 แต่ปรากฏว่าช่วงที่ผลักดันให้เรือสินค้าไปใช้บริการและปิดท่าเรือแห่งที่ 1 เพื่อพัฒนาเป็นท่าเรือท่องเที่ยวกลับมีเอกชนเปิดท่าเรือเพิ่มมากขึ้นถึง 6-7 แห่ง ซึ่งตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเมื่อมีปัญหาแห่งที่ 2 ก็หันมาใช้ท่าเรือแห่งที่ 1 แทนชั่วคราวก่อนได้ เมื่อระดับน้ำดีในฤดูน้ำหลากก็ค่อยให้ไปใช้ท่าเรือแห่งที่ 2 เป็นหลักตามเดิม
       
       ขณะเดียวกัน ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้ไปเปิดจุดผ่านแดนถาวรที่สามเหลี่ยมทองคำ แต่ควรจะเปิดท่าเรือแห่งที่ 1 แทน เพราะมีอาคารสำนักงานและท่าเรือโป๊ะถึง 2 โป๊ะ สามารถรองรับทั้งสินค้าและคนได้
       
       ส่วนสาเหตุที่ระบุว่ามีด่านถาวรของ สปป.ลาวไปตั้งอยู่ที่สามเหลี่ยมทองคำนั้น ตนเห็นว่าเราไม่ควรจะไปตามเขามากเกินไป เราควรเอาความเหมาะสมของประเทศไทยหากว่าฝั่ง สปป.ลาวเห็นความจำเป็นก็สามารถย้ายมาสร้างบริเวณตรงกันข้ามท่าเรือแห่งที่ 1 เพื่อรองรับการเข้าออกแดนได้ต่อไป
       
       “ปัญหาปัจจุบันเกิดจากการศึกษาไม่ครบถ้วนและไม่มองประสิทธิภาพการใช้งาน ทำให้เกิดการเปิดให้เรือสินค้าไปจอดนอกท่า ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ถึงได้มีการปรับครั้งละ 3,000 บาท แต่ถ้าเปิดให้ใช้ท่าเรือแห่งที่ 1 ไปก่อนปัญหาก็จบ และยังดำเนินการตามความจำเป็นของมติคณะรัฐมนตรีในอดีตด้วย ส่วนระยะยาวก็คงเป็นหน้าที่ของกรมเจ้าท่าที่จะต้องประสานกับคณะทำงานลุ่มน้ำโขง หรือ JCCCN (The Joint Committee on Coordination of Commercial Navigation on the Lancang-Mekong River) เพื่อขุดลอกร่องน้ำโขงเพื่อให้ความลึกของน้ำอยู่ที่ 2-3 เมตรตลอดปี” นายพัชระกล่าว
       
       รายงานข่าวแจ้งอีกว่า จากนั้นที่ปรึกษาของคณะฯ ได้สอบถามสาเหตุและความจำเป็นในการก่อสร้างท่าเรือแห่งที่ 2 จากกรมเจ้าท่า ทำให้เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าอธิบายว่า เกิดจากการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาซึ่งเคยศึกษาพื้นที่ก่อสร้างที่เหมาะสม 5 จุด และได้เลือกที่บ้านสบกกดังกล่าวเพราะไม่มีปัญหาการถือครองที่ดินและมีความกว้างขวางเหมาะสมที่สุด
       
       จากนั้น ดร.กิตติรัตน์สรุปการประชุมว่า สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการก่อสร้างและมอบพื้นที่ให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทยดูแลอย่างจำกัด ส่งผลให้ภาคเอกชนเดือดร้อน หน่วยงานต่างๆ ก็ต่างฝ่ายต่างทำไม่ได้บูรณาการกัน ดังนั้นจะกลับไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดต่อไป
       
       ด้านนายสมคิดกล่าวว่า คณะฯ จะนำข้อมูลที่ได้รับทั้งหมดไปสรุปผล และเสนอปัญหา-แนวทางแก้ไขต่อรัฐบาล หรือถ้าจำเป็นจะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ตาม การจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างคงต้องใช้เวลา คงไม่สามารถไปคาดการณ์ได้ว่าจะแก้ไขได้เสร็จสิ้นเมื่อไหร่อย่างไร

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000141322
ช่วงนี้มีแต่เรือ สปป.ลาวเข้าออกทุกวัน เรือจีนเริ่มหายไปละเพราะระดับน้อยจริงๆ 2.50-3 เมตรเท่านั้น
 





ที่มา  http://www.sobkok.com/community/index.php?topic=743.0

IP : บันทึกการเข้า

corolado4
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,835


บ้านสวน ดอยพระบาท11 (ธารน้ำกรณ์2)


« ตอบ #223 เมื่อ: วันที่ 11 ธันวาคม 2012, 05:52:24 »

วันที่ ๑๒ /๑๒ /๑๒   เวลา ๑๒.๑๒ น  มีพิธีเทปูนเชื่อมต่อสะพาน
วันเดียวกันที่ท่าเรือสบกกเชียงแสน ก็จะมีพิธีเปิดทำการ (?)
เวลาไล่ๆกัน จะไปทั้งสองที่ได้ยังไง?
IP : บันทึกการเข้า

boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #224 เมื่อ: วันที่ 11 ธันวาคม 2012, 15:10:21 »

วันพรุ่งนี้ (๑๒ ธ.ค. ๕๕) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เดินทางขึ้นเหนือไปที่จังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเทคอนกรีตจุดเชื่อมสะพานมิตรภาพแห่งที่ ๔ ร่วมกับนายทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำพิธีเทคอนกรีตจุดเชื่อมสะพาน ในเวลา ๑๒.๑๒ น.

นอกจากนี้แล้วยังมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และเจ้าแขวงบ่อแก้ว ร่วมเทคอนกรีตในครั้งนี้ด้วย
สะพานมิตรภาพแห่งที่ ๔ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยที่บ้านดอนมหาวันอำเภอเชียงของ กับประเทศลาวที่บ้านดอน เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ระยะทาง ๒.๔๘ กิโลเมตร เป็นสะพานขนาดสองเลน นอกจากสะพานแล้วยังมีโครงการก่อสร้างถนนไปอีกประมาณ ๖ กิโลเมตรเข้าในเขตเมืองห้วยทราย ซึ่งเป็นถนนลาดยางขนาดสองเลน รวมทั้งมีการก่อสร้างด่านตรวจคนเข้าเมืองด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง เป็นการเชื่อมต่อกับเส้นทาง R3A ที่เชื่อมต่อระหว่างจีน – ลาว –ไทย

สำหรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ๑ เชื่อมต่อระหว่าง (หนองคาย-เวียงจันทน์) / สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ๒ (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) ขณะที่สะพานมิตรภาพ ๒ (นครพนม-คำม่วน)

เครดิต : ประชาสัมพันธ์จังหวัดเจียงฮาย
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
RateX
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 308



« ตอบ #225 เมื่อ: วันที่ 11 ธันวาคม 2012, 22:41:52 »

กำหนดแล้วเสร็จเลื่อนเป็นเมื่อไหร่ครับ  ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

การถก เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ ถือเป็นเรื่องดี
แต่ การเถียง เพื่อที่จะให้ตัวเองชนะ ถือว่าเป็นเรื่อง โง่
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #226 เมื่อ: วันที่ 13 ธันวาคม 2012, 00:33:22 »

12/12/12เชื่อมสะพานข้ามโขง 4 ต่อยอดขนส่งไทย-ลาว-จีน
วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2012 เวลา 19:08


วันนี้(12 ธ.ค.) นายสุรพงศ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการทรวงการต่างประเทศ ดร.ทองพูน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชนลาว(สปป.ลาว)

ร่วมกันเป็นประธานในพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ณ บ้านดอนมหาวัน ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมมาตร พลเสนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธิการและขนส่ง สปป.ลาว นายหลี เป่ย รองผู้ว่าการมณฑลยูนาน ประเทศจีน เข้าร่วม โดยเทคอนกรีตชุดสุดท้ายบริเวณกลางสะพานในเวลาประมาณ 12.12 น. ซึ่งตรงกับวันที่ 12 เดือน 12 ปี 2012

 นายสุรพงศ์ กล่าวว่า สะพานแห่งนี้เชื่อมกลุ่มอาเซียนเข้าด้วยกัน และรัฐบาลก็มีนโยบายการเชื่อมโยงโดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง หลังจากที่ผ่านมาก็มีสะพานไทย-สปป.ลาว แล้วหลายแห่ง โดยแห่งนี้ถือเป็นแห่งที่ 4 ซึ่งถือเอาฤกษ์ 12/12/12 ในการเทคอนกรีตเชื่อมแผ่นดิน จากนั้นคาดว่าภายในเดือนเมษายน 2556 จะสร้างเสร็จ ได้ ซึ่งจะทำให้มูลค่าการค้าที่สูงอยู่แล้วมีมากขึ้นไปอีก โดยตนจะรวบรวมตัวเลขการค้าสิ้นปีนี้ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับปีหน้าหลังสะพานก่อสร้างเสร็จ ซึ่งการประชุมระดับรัฐบาลกับสปป.ลาว ราวเดือนมีนาคมปีหน้า จะได้หารือกันในรายละเอียดเรื่องนี้
         
 "ผลจากการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ทำให้ที่ดินใกล้เคียงพุ่งสูงขึ้น บางแห่งซื้อ-ขายกันไร่ละกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนเมืองชายแดนเชียงของในอนาคต คาดว่าจะคึกคักใกล้เคียงกับชายแดนไทย-พม่า ด้านอ.แม่สาย ซึ่งคนในพื้นที่มีความพร้อม เพราะคุ้นเคยกับด่านแม่สายอยู่แล้ว"
         
ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า สะพานแห่งนี้เชื่อมถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ ซึ่งที่เชียงราย ยังมีถนนอาร์สามบีไทย-พม่า-จีนตอนใต้ ผ่านทางอ.แม่สาย ทั้งสองเส้นทางเชื่อมกรุงเทพฯ-คุนหมิง มณฑลยูนาน ระยะทางประมาณ 1,800 กิโลเมตร คาดว่าเมื่อเชื่อมสะพานแล้วจะเปิดใช้งานได้ทันเดือนเมษายนปีหน้าแน่นอน จากนั้นจะเปิดให้เดินรถบรรทุกสินค้า ขณะเดียวกันทางกระทรวงคมนาคมได้จัดเตรียมที่ดินเอาไว้ใกล้สะพานประมาณ 200 ไร่ และใช้งบประมาณราว 1,000 ล้านบาทสร้างศูนย์กระจายสินค้า เพราะตามปกติจะมีรถบรรทุกสินค้าไทย-จีนเป็นจำนวนมาก ถ้ารถบรรทุกของจีนสามารถเปลี่ยนถ่ายสินค้าในฝั่งไทยได้ จะลดปัญหาสภาพรถและการจราจรที่ต่างกันได้
         

http://www.thanonline.com
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #227 เมื่อ: วันที่ 13 ธันวาคม 2012, 01:56:27 »



ดูข่าววันใหม่เมื่อคืนได้อัดมา ครับ..
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #228 เมื่อ: วันที่ 13 ธันวาคม 2012, 17:07:52 »

ทล.เร่ง4เลนกว่า10เส้นทาง

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2012 เวลา 18:01 น.    กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ    อสังหา REAL
กรมทางหลวงเร่งถนนกว่า 10 เส้นทางขนาด 4 เลนเชื่อมโยงภาคเหนือรับเปิดท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน - สะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 หวังเชื่อมสู่คุนหมิงของจีนผ่านสปป.ลาว  จ่อประกวดราคาปี 2556

ช่วงเชียงแสน-เชียงราย เตรียมเสนอตั้งงบปี 2557 กว่า 1,800 ล้านบาท สร้างถนนเชื่อมโยงสปป.ลาวผ่านเส้นทางเชียงราย- ขุนตาล-เชียงของ
ชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ    นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างถนนที่จะเชื่อมโยงและรองรับการเปิดให้บริการท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน และสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4  ให้เป็นขนาด 4 เลนในหลายเส้นทาง เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงในพื้นที่ภาคเหนือและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)ตลอดจนเมืองคุนหมิงของสาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้ที่ปัจจุบันมีเส้นทาง R3A - R3B ผ่านไปยังเมืองสำคัญๆ ตอนใต้ของจีนเปิดให้บริการแล้ว พร้อมกันนี้ทล.ยังเดินหน้าการพัฒนาถนนเมนหลักในแต่ละเส้นทางโดยจะหาจุดพักรถเพิ่มขึ้นซึ่งปี 2558 จะเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่นำร่อง 4 ศูนย์คือ 1.ขุนตาล จ.ลำปาง 2.ชัยนาท 3.ลำตะคอง จ.นครราชสีมา และ 4.เขาโพธิ์ จ.ชุมพร
    โดยเส้นทางหลักๆ ประกอบด้วย 1.เส้นทางพหลโยธิน-เชียงราย-แม่สายที่ปัจจุบันปรับเป็น 4 เลนหมดแล้ว 2.เส้นทางแม่สาย-เชียงแสน-เชียงของ ปัจจุบันขนาด 4 เลนถึงเฉพาะช่วงเชียงแสน ส่วนช่วงเชียงแสน-เชียงของอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และบางช่วงจะประกวดราคาปีหน้า  3.เส้นทางเชียงราย-ขุนตาล-เชียงของ เพื่อรับสปป.ลาว ซึ่งบางช่วงดำเนินการไปแล้ว จากระยะทางทั้งสิ้น 72 กิโลเมตร ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้ว 20 กิโลเมตร ดังนั้นส่วนที่เหลืออีกประมาณ 52 กิโลเมตร จะตั้งงบประมาณปี 2557 จำนวน 1,800 ล้านบาทดำเนินการต่อไป
    สำหรับถนนเส้นทางต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือที่กรมทางหลวงดำเนินการไปแล้วและเส้นทางที่อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันประกอบด้วย 1. เส้นทาง 1290 อ.แม่สาย-อ.เชียงแสน ส่วนที่ 1 ระยะทาง 30.46 กม. มูลค่าโครงการ 598 ล้านบาท ผลงาน 100% 2. เส้นทาง 1290 อ.แม่สาย-อ.เชียงแสน ส่วนที่ 2 ระยะทาง 8.90 กม. มูลค่า 300 ล้านบาท ผลงาน 100%  3. เส้นทาง 1016 อ.แม่จัน-อ.เชียงแสน(รวมทางเลี่ยงเมืองเชียงแสน) ส่วนที่ 2 ระยะทาง 16.40 กม. ค่างาน 630 ล้านบาท ผลงาน 100% 4.เส้นทาง 1020 เชียงราย-เชียงของ ตอน 2 ระยะทาง 18.9 กม.มูลค่า 663 ล้านบาท ผลงาน 100%
5. เส้นทาง 1016 อ.แม่จัน-อ.เชียงแสน(รวมทางเลี่ยงเมืองเชียงแสน) ส่วนที่ 2 ระยะทาง 16.40 กม.มูลค่า 540 ล้านบาท ผลงาน 71.36%  6.เส้นทาง 1129 เชียงแสน-เชียงของ ตอน 1 ระยะทาง 10 กม. มูลค่า 300 ล้านบาท อยู่ระหว่าง    การหาตัวผู้รับจ้าง 7.สะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของ มูลค่า 1,432 ล้านบาท ผลงาน 61.60% โดยได้อนุมัติให้ขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือน คาดว่าแล้วเสร็จเปิดให้บริการเดือนมิถุนายน 2556
    โครงการที่เตรียมของบประมาณดำเนินการปี 2557 ประกอบด้วย 1.เส้นทาง 1152 และ 1020 เชียงราย-เชียงของ ตอน 3 ระยะทาง 25 กม.มูลค่า 1,300 ล้านบาท 2.เส้นทาง 1129 อ.เชียงแสน-อ.เชียงของ ตอน 2 ระยะทาง 43 กม. มูลค่า 1,200 ล้านบาท .3เส้นทาง 1152 เชียงราย-ขุนตาล ตอน 1 ระยะทาง 24 กม.มูลค่า 1,000 ล้านบาท  4.เส้นทาง 1152 เชียงราย-ขุนตาล ตอน 2 ระยะทาง 24.3 กม. มูลค่า 800 ล้านบาท 5.ทางเลี่ยงเมืองเชียงราย ระยะทาง 28 กม.มูลค่า 1,200 ล้านบาท  6.ทางเลี่ยงเมืองเชียงของ ระยะทาง 6 กม. มูลค่า 350 ล้านบาท
    7.เส้นทาง 1155 แยก ทล.1021-บรรจบ ทล.1020 ระยะทาง 75.26 กม.มูลค่า 380 ล้านบาท 8.เส้นทาง 1020 อ.เทิง-บ้านต้าตลาด ระยะทาง 25 กม. มูลค่า 850 ล้านบาท 9.เส้นทาง 1093 กม.12+000-กม.29+000 ระยะทาง 49.29 กม.มูลค่า 250 ล้านบาท 10.เส้นทาง 1098 ทล.1016-บรรจบทล.1174 ระยะทาง 55.01 กม.มูลค่า 280 ล้านบาท
    โครงการที่อยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบ ประกอบด้วย 1.ทางเลี่ยงเมืองเชียงราย ระยะทาง 28 กม. มูลค่า 900 ล้านบาท เสนองบปี 2555 สำรวจออกแบบเดือนมิถุนายน 2554 - มิถุนายน 2555 2.เส้นทาง 1021 ตอนเทิง - ดอกคำใต้ ตอน 1 เดือนมิถุนายน 2554-มิถุนายน 2555 และ 3.เส้นทาง 1021 ตอนเทิง-ดอกคำใต้ ตอน 2 เดือนมิถุนายน 2554-มิถุนายน 2555

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,800 วันที่  13-15  ธันวาคม พ.ศ. 2555
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #229 เมื่อ: วันที่ 14 ธันวาคม 2012, 12:23:14 »

มีท่านใดได้ดูท่าเรือ เชียงแสน รายงานพิเศษ ช่อง 3 ข่าวเที่ยงไหม ครับ
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
atzcret
โทรสั่งได้ทันที
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 261


08.2759.6554 / 08.6355.9519


« ตอบ #230 เมื่อ: วันที่ 14 ธันวาคม 2012, 18:36:18 »

ดีจัง ^^
IP : บันทึกการเข้า

เพิ่มความสูง สูงขึ้นจริง100% สินค้านำเข้าจากเกาหลี
เสื้อกล้ามทอม คุณภาพดีอันดับ 1
Moo Mengkato
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 659


กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย...น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม


« ตอบ #231 เมื่อ: วันที่ 15 ธันวาคม 2012, 19:04:52 »

ทล.เร่ง4เลนกว่า10เส้นทาง

วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2012 เวลา 18:01 น.    กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ    อสังหา REAL
กรมทางหลวงเร่งถนนกว่า 10 เส้นทางขนาด 4 เลนเชื่อมโยงภาคเหนือรับเปิดท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน - สะพานข้ามโขงแห่งที่ 4 หวังเชื่อมสู่คุนหมิงของจีนผ่านสปป.ลาว  จ่อประกวดราคาปี 2556

ช่วงเชียงแสน-เชียงราย เตรียมเสนอตั้งงบปี 2557 กว่า 1,800 ล้านบาท สร้างถนนเชื่อมโยงสปป.ลาวผ่านเส้นทางเชียงราย- ขุนตาล-เชียงของ
ชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ    นายชัชวาลย์ บุญเจริญกิจ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างถนนที่จะเชื่อมโยงและรองรับการเปิดให้บริการท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน และสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4  ให้เป็นขนาด 4 เลนในหลายเส้นทาง เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงในพื้นที่ภาคเหนือและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)ตลอดจนเมืองคุนหมิงของสาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้ที่ปัจจุบันมีเส้นทาง R3A - R3B ผ่านไปยังเมืองสำคัญๆ ตอนใต้ของจีนเปิดให้บริการแล้ว พร้อมกันนี้ทล.ยังเดินหน้าการพัฒนาถนนเมนหลักในแต่ละเส้นทางโดยจะหาจุดพักรถเพิ่มขึ้นซึ่งปี 2558 จะเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น จากปัจจุบันที่นำร่อง 4 ศูนย์คือ 1.ขุนตาล จ.ลำปาง 2.ชัยนาท 3.ลำตะคอง จ.นครราชสีมา และ 4.เขาโพธิ์ จ.ชุมพร
    โดยเส้นทางหลักๆ ประกอบด้วย 1.เส้นทางพหลโยธิน-เชียงราย-แม่สายที่ปัจจุบันปรับเป็น 4 เลนหมดแล้ว 2.เส้นทางแม่สาย-เชียงแสน-เชียงของ ปัจจุบันขนาด 4 เลนถึงเฉพาะช่วงเชียงแสน ส่วนช่วงเชียงแสน-เชียงของอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และบางช่วงจะประกวดราคาปีหน้า  3.เส้นทางเชียงราย-ขุนตาล-เชียงของ เพื่อรับสปป.ลาว ซึ่งบางช่วงดำเนินการไปแล้ว จากระยะทางทั้งสิ้น 72 กิโลเมตร ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้ว 20 กิโลเมตร ดังนั้นส่วนที่เหลืออีกประมาณ 52 กิโลเมตร จะตั้งงบประมาณปี 2557 จำนวน 1,800 ล้านบาทดำเนินการต่อไป
    สำหรับถนนเส้นทางต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือที่กรมทางหลวงดำเนินการไปแล้วและเส้นทางที่อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันประกอบด้วย 1. เส้นทาง 1290 อ.แม่สาย-อ.เชียงแสน ส่วนที่ 1 ระยะทาง 30.46 กม. มูลค่าโครงการ 598 ล้านบาท ผลงาน 100% 2. เส้นทาง 1290 อ.แม่สาย-อ.เชียงแสน ส่วนที่ 2 ระยะทาง 8.90 กม. มูลค่า 300 ล้านบาท ผลงาน 100%  3. เส้นทาง 1016 อ.แม่จัน-อ.เชียงแสน(รวมทางเลี่ยงเมืองเชียงแสน) ส่วนที่ 2 ระยะทาง 16.40 กม. ค่างาน 630 ล้านบาท ผลงาน 100% 4.เส้นทาง 1020 เชียงราย-เชียงของ ตอน 2 ระยะทาง 18.9 กม.มูลค่า 663 ล้านบาท ผลงาน 100%
5. เส้นทาง 1016 อ.แม่จัน-อ.เชียงแสน(รวมทางเลี่ยงเมืองเชียงแสน) ส่วนที่ 2 ระยะทาง 16.40 กม.มูลค่า 540 ล้านบาท ผลงาน 71.36%  6.เส้นทาง 1129 เชียงแสน-เชียงของ ตอน 1 ระยะทาง 10 กม. มูลค่า 300 ล้านบาท อยู่ระหว่าง    การหาตัวผู้รับจ้าง 7.สะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของ มูลค่า 1,432 ล้านบาท ผลงาน 61.60% โดยได้อนุมัติให้ขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือน คาดว่าแล้วเสร็จเปิดให้บริการเดือนมิถุนายน 2556
    โครงการที่เตรียมของบประมาณดำเนินการปี 2557 ประกอบด้วย 1.เส้นทาง 1152 และ 1020 เชียงราย-เชียงของ ตอน 3 ระยะทาง 25 กม.มูลค่า 1,300 ล้านบาท 2.เส้นทาง 1129 อ.เชียงแสน-อ.เชียงของ ตอน 2 ระยะทาง 43 กม. มูลค่า 1,200 ล้านบาท .3เส้นทาง 1152 เชียงราย-ขุนตาล ตอน 1 ระยะทาง 24 กม.มูลค่า 1,000 ล้านบาท  4.เส้นทาง 1152 เชียงราย-ขุนตาล ตอน 2 ระยะทาง 24.3 กม. มูลค่า 800 ล้านบาท 5.ทางเลี่ยงเมืองเชียงราย ระยะทาง 28 กม.มูลค่า 1,200 ล้านบาท  6.ทางเลี่ยงเมืองเชียงของ ระยะทาง 6 กม. มูลค่า 350 ล้านบาท
    7.เส้นทาง 1155 แยก ทล.1021-บรรจบ ทล.1020 ระยะทาง 75.26 กม.มูลค่า 380 ล้านบาท 8.เส้นทาง 1020 อ.เทิง-บ้านต้าตลาด ระยะทาง 25 กม. มูลค่า 850 ล้านบาท 9.เส้นทาง 1093 กม.12+000-กม.29+000 ระยะทาง 49.29 กม.มูลค่า 250 ล้านบาท 10.เส้นทาง 1098 ทล.1016-บรรจบทล.1174 ระยะทาง 55.01 กม.มูลค่า 280 ล้านบาท
    โครงการที่อยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบ ประกอบด้วย 1.ทางเลี่ยงเมืองเชียงราย ระยะทาง 28 กม. มูลค่า 900 ล้านบาท เสนองบปี 2555 สำรวจออกแบบเดือนมิถุนายน 2554 - มิถุนายน 2555 2.เส้นทาง 1021 ตอนเทิง - ดอกคำใต้ ตอน 1 เดือนมิถุนายน 2554-มิถุนายน 2555 และ 3.เส้นทาง 1021 ตอนเทิง-ดอกคำใต้ ตอน 2 เดือนมิถุนายน 2554-มิถุนายน 2555

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,800 วันที่  13-15  ธันวาคม พ.ศ. 2555
ยังงง..ท่านใดจะให้คำตอบได้ไหมครับว่าจากเชียงรายจะออกที่บ้านต้า หรือว่า ตรงไหนครับ ฮืม ฮืม
IP : บันทึกการเข้า
corolado4
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,835


บ้านสวน ดอยพระบาท11 (ธารน้ำกรณ์2)


« ตอบ #232 เมื่อ: วันที่ 15 ธันวาคม 2012, 19:52:42 »

ตอบ คุณ Moo Mengkato
"..จากเชียงรายจะออกที่บ้านต้า หรือว่า ตรงไหนครับ.."
 1. เส้นทาง 1290 อ.แม่สาย-อ.เชียงแสน ส่วนที่ 1 ระยะทาง 30.46 กม. มูลค่าโครงการ 598 ล้านบาท ผลงาน 100%
2. เส้นทาง 1290 อ.แม่สาย-อ.เชียงแสน ส่วนที่ 2 ระยะทาง 8.90 กม. มูลค่า 300 ล้านบาท ผลงาน 100% 
3. เส้นทาง 1016 อ.แม่จัน-อ.เชียงแสน(รวมทางเลี่ยงเมืองเชียงแสน) ส่วนที่ 2 ระยะทาง 16.40 กม. ค่างาน 630 ล้านบาท ผลงาน 100%
4.เส้นทาง 1020 เชียงราย-เชียงของ ตอน 2 ระยะทาง 18.9 กม.มูลค่า 663 ล้านบาท ผลงาน 100%
5. เส้นทาง 1016 อ.แม่จัน-อ.เชียงแสน(รวมทางเลี่ยงเมืองเชียงแสน) ส่วนที่ 2 ระยะทาง 16.40 กม.มูลค่า 540 ล้านบาท ผลงาน 71.36% 
6.เส้นทาง 1129 เชียงแสน-เชียงของ ตอน 1 ระยะทาง 10 กม. มูลค่า 300 ล้านบาท อยู่ระหว่าง    การหาตัวผู้รับจ้าง
7.สะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของ มูลค่า 1,432 ล้านบาท ผลงาน 61.60% โดยได้อนุมัติให้ขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือน คาดว่าแล้วเสร็จเปิดให้บริการเดือนมิถุนายน 2556
    โครงการที่เตรียมของบประมาณดำเนินการปี 2557 ประกอบด้วย
1.เส้นทาง 1152 และ 1020 เชียงราย-เชียงของ ตอน 3 ระยะทาง 25 กม.มูลค่า 1,300 ล้านบาท
2.เส้นทาง 1129 อ.เชียงแสน-อ.เชียงของ ตอน 2 ระยะทาง 43 กม. มูลค่า 1,200 ล้านบาท .
3เส้นทาง 1152 เชียงราย-ขุนตาล ตอน 1 ระยะทาง 24 กม.มูลค่า 1,000 ล้านบาท  4.เส้นทาง 1152 เชียงราย-ขุนตาล ตอน 2 ระยะทาง 24.3 กม. มูลค่า 800 ล้านบาท 5.ทางเลี่ยงเมืองเชียงราย ระยะทาง 28 กม.มูลค่า 1,200 ล้านบาท 
6.ทางเลี่ยงเมืองเชียงของ ระยะทาง 6 กม. มูลค่า 350 ล้านบาท
7.เส้นทาง 1155 แยก ทล.1021-บรรจบ ทล.1020 ระยะทาง 75.26 กม.มูลค่า 380 ล้านบาท(เส้นนี้ดูแผนที่ คือ แยกไป ต.ตับเต่า ล่องใต้ไป อ.เชียงคำ ถึง อ.ดอกคำใต้)
8.เส้นทาง 1020 อ.เทิง-บ้านต้าตลาด ระยะทาง 25 กม. มูลค่า 850 ล้านบาท
9.เส้นทาง 1093 กม.12+000-กม.29+000 ระยะทาง 49.29 กม.มูลค่า 250 ล้านบาท
(ในแผนที่ คือเส้นทาง อ.ภูซางไปชายแดน ช่องบ้านฮวกออกลาว)
10.เส้นทาง 1098 ทล.1016-บรรจบทล.1174 ระยะทาง 55.01 กม.มูลค่า 280 ล้านบาท
(ในแผนที่ คือ จาก ท่าข้าวเปลือก ผ่าน  อ.ดอยหลวง ไปออก ต.ห้วยซ้อ เชียงของ)
    โครงการที่อยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบ ประกอบด้วย
1.ทางเลี่ยงเมืองเชียงราย ระยะทาง 28 กม. มูลค่า 900 ล้านบาท เสนองบปี 2555 สำรวจออกแบบเดือนมิถุนายน 2554 - มิถุนายน 2555 (อันนี้ไม่รู้ตรงไหนไม่มีผังบอก)
2.เส้นทาง 1021 ตอนเทิง - ดอกคำใต้ ตอน 1 เดือนมิถุนายน 2554-มิถุนายน 2555 
3.เส้นทาง 1021 ตอนเทิง-ดอกคำใต้ ตอน 2 เดือนมิถุนายน 2554-มิถุนายน 2555
(ข้อ 2 และ 3 คือ ถนนสาย อ.เทิง ไป อ.ดอกคำใต้ จนออกแยกแม่ต๋ำ พะเยา)
...จากข้างบน คำถามว่าจาก เชียงราย ไป ต้า หรือ ที่เป็นชุมทาง ต้าตลาด มีแต่เส้นทาง
จาก แยก อ.เทิง ไปเท่านั้น
..ถ้าเป็นเส้นทางเดิม คือ อ.เมือง - อ.เวียงชัย-ต.ผางาม -อ.พญาเม็งราย -ต.ต้า- แยกต้าตลาด คือ ถนนสาย 1152 ครับ..ไล่ดูข้างต้น ไม่มีโครงการปรับปรุง..
..ถ้ามองภาพรวม คือ เขาจะเชื่อมท่าขี้เหล็ก ไปทางสามเหลี่ยมทองคำ หรือจากทางน้ำท่าเรือเชียงแสน บ.สบกก ต.บ้านแซว ไปจีน ไปลาว โดยเส้นทางผ่าน อ.ดอยหลวง
ไปที่สะพานข้ามโขงเชียงของ และมีเส้นทางล่องใต้ จากเชียงของ ก็ให้วิ่งลงมาทาง
อ.เทิง ไป เชียงคำ วิ่งออกดอกคำใต้ ที่แยกแม่ต๋ำ แล้ว ล่องไปกรุงเทพฯ..
......ท่าน  จขกท.boondham คิดว่าผมวิเคราะห์ถูกไหมครับ..?
IP : บันทึกการเข้า

boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #233 เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 08:49:26 »

วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8053 ข่าวสดรายวัน


สะพานมิตรภาพแห่งที่4 ถือฤกษ์ดี 12-12-12

คอลัมน์ ข่าวสดอาเซียน
จันท์เกษม รุณภัย รายงาน



การเตรียมการก่อนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่มีความสำคัญยิ่ง คือการเชื่อมช่องทางการติดต่อระหว่างผู้คนเข้าด้วยกัน

ล่าสุดมีความคืบหน้าสำคัญคือโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงตามแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ แห่งที่ 4 ระหว่าง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ไปจรดกับผืนดินอีกฟากโขงของห้วยทราย เมืองเอกแขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิป ไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว ใกล้สำเร็จเป็นรูปธรรม มีความคืบหน้าการก่อสร้างไปกว่าร้อยละ 70 คาดว่าจะเปิดใช้ได้ภายในเดือนมิ.ย.2556



เป็นที่มาของพิธี "เทคอนกรีต" โดย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ เดินทางไปเป็นประธานร่วมกับนายทองลุน สีสุลิด รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศสปป.ลาว พร้อมด้วยรมว.คมนาคม บรรดาเอกอัครราชทูต ผู้แทนจากจีนและอินโดนีเซีย รวมทั้งประชาชนคนไทยและลาวเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง



ไฮไลต์ของพิธีนี้ ถือเอาตัวเลขเก๋ไก๋ 12/12/12 เป็นฤกษ์ชัย คือ วันที่ 12 เดือน 12 ปีค.ศ.2012 พร้อมคณะครูอาจารย์ นักเรียนและวงโยธวาทิตจากโรงเรียนอนุบาลเชียงของ ร่วมจัดการแสดงและกล่าวต้อนรับ 4 ภาษา (ไทย อังกฤษ ลาว และจีน) แก่ผู้มาเยือนเป็นสีสันประทับใจ ก่อนนับถอยหลังและกดเครื่องเทคอนกรีตลงไปในเวลา 12.12 น. ปล่อยลูกโป่งสวรรค์และโคมลอย ปลิวขึ้นท้องฟ้าใสล่องลอยไปกับสายลมหนาวเป็นสิริมงคลส่งท้ายปี2555



สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 นี้ มีความยาว 1.2 กิโลเมตร กว้าง 14.7 เมตร เป็นแบบ 2 ช่องการจราจร (ไป-กลับ) แยกมาจากทางหลวงหมายเลข 1020 ในอ.เชียงของ ทอดตัวยาวข้ามลำน้ำโขงระหว่างไทย-ลาว ไปเชื่อมต่อตามแนวถนนหมายเลข "อาร์ 3" ในสปป.ลาว ยาวไปถึงคุนหมิง เมืองเอกมณฑลยูนนานของจีน เป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ ภายใต้ กรอบความร่วมมือภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ จีเอ็มเอส ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือ 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม พม่า กัมพูชา ลาว และจีน ใช้งบราว 47.35 ล้านดอลลาร์ (1,600 ล้านบาท)



ฝ่ายไทยและจีนตกลงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายกันฝ่ายละร้อยละ 50 โดยไทยเป็นผู้ดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียด ส่วนผู้รับจ้างก่อสร้าง คือกิจการร่วมค้า "ซีอาร์ 5 -เคที" ระหว่างบริษัทกรุงธน เอนจิเนียร์ส จำกัด และกลุ่มบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 5 จำกัด มีที่ปรึกษาควบคุมงานจาก 3 ฝ่าย ได้แก่ เอเชียน เอนจิเนียริ่ง คอนซัลแตนต์ส จำกัด ของไทย บริษัทเซี่ยน ฝางโจว คอนซัลติ้ง จำกัด ของจีน และบริษัทลาวทรานสปอร์ต เอนจิเนียริ่ง คอนซัลแตนต์ของลาว เริ่มก่อสร้างเมื่อ 11 มิ.ย.2553 และมีกำหนดเสร็จสิ้นในเดือนธ.ค.ปีนี้ แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องงบประมาณทำให้การก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด



ความเป็นมาของสะพานมิตรภาพแห่งนี้ เริ่มตั้งแต่การประชุมจีเอ็มเอส ระดับรัฐมนตรี ที่เมืองต้าลี่ ประเทศจีน ในปี2546 สมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายกร ทัพพะรังสี เป็นรองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นขอให้จีนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายใน โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เนื่องจากจีนจะได้ประโยชน์มากจากโครงการดังกล่าว



ต่อมาเมื่อ 21 มิ.ย. 2550 มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู ระหว่างรัฐมนตรีของไทย ลาว และจีน ที่สำนักงานใหญ่ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ เอดีบี ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อการก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 กระทั่งพิธีเทคอนกรีตในครั้งนี้ที่ฝ่ายลาวเป็น ผู้เสนอให้จัดขึ้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สะพานมิตรภาพแห่งใหม่ระหว่างไทยและลาว



นายสุรพงษ์กล่าวว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายเน้นเรื่องการเชื่อมโยงประชาคมอาเซียน โดยได้ใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านล้านบาทในการก่อสร้างและเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมต่างๆ เพราะในอนาคตประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางที่จะมีนักลงทุนจากทวีป อื่นๆ เดินทางมายังไทยและจะนำสินค้าไปขายยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียนได้



การเดินทางมาครั้งนี้ พบว่าการก่อสร้างมีความสมบูรณ์ขึ้นมาก หลังจากที่ตนได้เดินทางมาเมื่อราว 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้พบปัญหาของโครงการว่าขาดงบประมาณการลงทุน จึงนำเรื่องไปหารือในระดับรัฐบาลและระหว่างประเทศ นำมาสู่การอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม รู้สึกดีใจแทนชาวเชียงราย เพราะพื้นที่แถวนี้ราคาที่ดินจะขึ้นแน่นอน จึงขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมตัวเพราะคนจะมาเที่ยว การค้าขายจะเจริญรุ่งเรือง



สำหรับพิธีการเปิดด่าน รมว.ต่างประเทศกล่าวว่าจะมีขึ้นในปีหน้า โดยต้องดำเนินการต่อ เพราะมีในส่วนของฝ่ายตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะทำมาแล้วถึง 3 แห่ง โดยทางรัฐบาลสปป.ลาวจะกราบทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯ มาทรงเป็นประธานพิธีเปิดใช้อย่างเป็นทางการ และจะให้เปิดการใช้งานได้ก่อนเมื่อเสร็จสิ้น เพื่อไม่ให้ติดขัดเรื่องการค้าขาย



ด้านนายทองลุน กล่าวว่า สะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 จะส่งเสริมความสัมพันธ์ ความร่วมมือ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ของทั้งสองประเทศดีขึ้นและสะดวกขึ้น เพราะเส้นทางอาร์ 3 ถือเป็นเส้นทางที่มีความสำคัญในการเชื่อมโยงประเทศสมาชิกอาเซียน จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศอาเซียนและจีน และทำให้การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น



สะพานมิตรภาพนี้ นอกจากจะเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานของ 3 ประเทศเข้าด้วยกันแล้ว ยังช่วยเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตประชาชน และเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลว่าด้วยการเชื่อมโยงในภูมิภาค การปฏิสัมพันธ์ภาคประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมของไทยและลาว เข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558 และส่งเสริมศักยภาพของอาเซียนในเวทีโลกต่อไป

หน้า 10
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
Moo Mengkato
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 659


กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย...น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม


« ตอบ #234 เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 21:52:51 »

เรียนคุณ corolado4 ครับจากข้อมุลของท่าน boondham ในหน้า ต้นๆบอกไว้ว่า
"ส.ส.เพื่อไทยเชียงราย ชักธงค้านแผนตัดถนนเชื่อมสะพานข้ามโขง 4

เชียงราย - กรรมาธิการคมนาคม-ส.ส.เพื่อไทย ตั้งธงค้านสร้างถนนเชื่อมเมืองเชียงราย-สะพานข้ามโขง 4 บอกไม่ตรงแนวปฏิบัติผู้ค้าชายแดน แถมเลี่ยงเขตชุมชนทั้งที่ชาวบ้านต้องการให้ตัดถนนเข้าพื้นที่ ถึงขั้นพร้อมยกที่วัดให้ ขณะที่นักวิชาการ ม.ราชภัฏเชียงราย ร่วมซักค้านกระทบ “หนองหลวง” เผยพบทุนรับเหมาอิงรัฐบาลก่อนเอี่ยวงานก่อสร้าง
       วันนี้ (27 ม.ค.55) ที่ห้องประชุมทรัพย์ล้อม สำนักงานแขวงการทาง จ.เชียงราย คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางไปศึกษาข้อเท็จจริง โครงการก่อสร้างเส้นทางหลวงสาย อ.เมือง-อ.เชียงของ เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายถนนในประเทศกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 และถนน R3a ไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้      
       นายธีรพจน์ กล่าวว่า หลังไทย จีน สปป.ลาว ได้ร่วมกันก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เชื่อมกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว-ถนน R3a นั้น กรมทางหลวง ได้ศึกษาแนวก่อสร้างถนนภายในประเทศที่รองรับ โดยเฉพาะถนนสาย อ.เมือง-เชียงของ ซึ่งถนนเดิมคับแคบ ระยะทางไกลกว่า 110 กิโลเมตร ดังนั้น จึงได้ทำการศึกษารูปแบบเอาไว้หลายแบบ
      
       แต่ล่าสุดได้คัดเลือกแบบที่เหมาะสมที่สุดได้แล้วโดยสามารถย่นระยะทางเหลือเพียง 92 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นที่บริเวณบ้านหัวดอย ต.ท่าสาย อ.เมือง ผ่านหนองหลวง อ.เวียงชัย ซึ่งจะมีการก่อสร้างสะพนข้ามหนองน้ำขนาดใหญ่ และเลี่ยงเขตชุมชนใน ต.บ้านต้าตลาด อ.ขุนตาล เพื่อไปเชื่อมกับถนนสาย อ.เทิง-เชียงของ ที่บ้านใหม่พัฒนา ต.ยางฮอม อ.ขุนตาล ที่เป็นถนนสายหลัก 4 ช่อง
จราจรรอเอาไว้อยู่แล้ว รวมทั้งกำลังศึกษาเพื่อก่อสร้างถนนไปทาง อ.ขุนตาล
      
       รูปแบบถนนสายใหม่จะเป็น 4 ช่องจราจรเขตทางกว้าง 30-60 เมตร ความกว้างช่องจราจร 3.50 เมตร ไหล่ทาง 2.50 เมตร แบ่งเป็น 3 ช่วง รวมงบประมาณทั้งหมดประมาณ 1,000 ล้านบาท
      
       ทั้งนี้ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา โครงการได้ศึกษา และพบปะประชาชนจนออกแบบให้เส้นทางเลี่ยงเขตชุมชนหลายพื้นที่ของ อ.ขุนตาล และ อ.พญาเม็งราย ซึ่งหลายแห่งต้องการให้ถนนผ่านหมู่บ้านเพื่อความเจริญแต่หลายแห่งไม่ต้องการ ซึ่งทางโครงการฯ ต้องดูความเหมาะสมเพราะต้องใช้เขตทางกว้าง ขณะที่หลายแห่งกว้างแค่ 10-20 เมตร
      
  
       อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมนายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ โฆษกคณะกรรมาธิการฯ และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้นำทีมคัดค้านในหลายเรื่องทั้งความคุ้มค่า ผลกระทบ ความต้องการชุมชน ฯลฯ โดยระบุว่า ไม่เข้าใจเรื่องแนวคิดการก่อสร้าง ซึ่งเน้นใช้เพื่อประโยชน์ในการขนส่งสินค้าเป็นสำคัญ
      
       ทั้งที่ปัจจุบันผู้ประกอบการค้าชายแดนใช้เส้นทางขนส่งสินค้าจาก อ.เชียงของ-เทิง ไปทาง อ.จุน-ดอกคำใต้ จ.พะเยา เพื่อเชื่อมกับถนนพหลโยธินไปยังกรุงเทพฯ แต่กรมทางหลวงกลับสร้างถนนสายใหม่เชื่อมกับ อ.เมือง เป็นการดึงการจราจรสู่ตัวเมืองเชียงราย ที่เริ่มคับคั่งมากขึ้น
      
       “ที่น่าตกใจเมื่อทราบว่า ถนนสายนี้เป็นเพียงสายรอง แต่กลับจะมีการเสนอเพื่อการก่อสร้างก่อน ดังนั้น มีแนวคิดว่าสร้างถนนสายนี้เพื่อการขนส่งถือว่าผิด 100%”
      
       นายรังสรรค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หากก่อสร้างถนนจะต้องสร้างสะพานข้ามหนองหลวงใน อ.เวียงชัย ซึ่งจะกระทบต่อวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน แนวของเส้นทางยังตัดเลี่ยงชุมชนหลายพื้นที่ เช่น อ.พญาเม็งราย ซึ่งตนได้พบปะชาวบ้านพบว่าชาวบ้านต้องการให้ถนนผ่านชุมชนพวกเขามาก วัดบางวัดถึงขั้นสามารถให้พังกำแพงวัดเพื่อใช้เป็นถนนได้เลยด้วย ดังนั้น จึงขอให้มีการทบทวนพิจารณาเรื่องนี้ให้ละเอียดด้วย
      
  http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000012275"
ทำให้(มสงสัยครับว่าถนน 4 เลน มันจะมาจากหัวดอย ผ่านบ้านสบเปา  ออกแยกสายบ้านป่าม่วงตัดออกที่เอกชน หมื่นไร่ออกบ้านใหม่พัฒนา..............หรือจะตามเดิมออกบ้าแยกบ้านต้านะครับ ฮืม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 22:09:21 โดย Moo Mengkato » IP : บันทึกการเข้า
Moo Mengkato
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 659


กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย...น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม


« ตอบ #235 เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 22:10:41 »

หรือว่าท่าน ส.ส. จะดึงไปทางเทิง ได้จริง ฮืม ฮืม ฮืม
IP : บันทึกการเข้า
boondham
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,111


« ตอบ #236 เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 22:23:28 »


ผมเป็นคนเทิง แต่อยากให้ทำเข้าตัวเมืองมากกว่า เพราะน่าจะเกิดประโยชน์ กับ เชียงรายมากกว่า ถ้าผ่านเทิง ลงพะเยา จ.เชียงรายจะเป็นเพียงทางผ่าน

แต่

คิดว่าคงทำทุกทาง...ที่สำคัญโครงการเหล่านี้ระหว่างของบประมาณ และในเมืองก็เตรียมทำเลี่ยงเมือง...ไว้แล้ว ลดปัญหาจราจรในอนาคต

แต่อยากให้เน้นเส้นมุ่งตัวเมืองมากกว่า  น่าจะเกิดประโยชน์สูงสุด..
IP : บันทึกการเข้า

กลุ่มคุยแลกเปลี่ยน เรื่องการพัฒนา สิ่งปลูกสร้าง เรื่องราวต่างๆของเชียงราย https://www.facebook.com/groups/273622956012759/
HARLEY DAVIDSON
BIKER
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,537


HARLEY DAVIDSON & MERCEDES BENZ


« ตอบ #237 เมื่อ: วันที่ 16 ธันวาคม 2012, 22:25:15 »


ผมเป็นคนเทิง แต่อยากให้ทำเข้าตัวเมืองมากกว่า เพราะน่าจะเกิดประโยชน์ กับ เชียงรายมากกว่า ถ้าผ่านเทิง ลงพะเยา จ.เชียงรายจะเป็นเพียงทางผ่าน

แต่

คิดว่าคงทำทุกทาง...ที่สำคัญโครงการเหล่านี้ระหว่างของบประมาณ และในเมืองก็เตรียมทำเลี่ยงเมือง...ไว้แล้ว ลดปัญหาจราจรในอนาคต

แต่อยากให้เน้นเส้นมุ่งตัวเมืองมากกว่า  น่าจะเกิดประโยชน์สูงสุด..
เห็นด้วยครับ
IP : บันทึกการเข้า

ขาดแคลนเงินตรา  แต่งชุดนักศึกษามาหาพี่
สุขใดไหนจะเท่า เมื่อล้วงกระเป๋าแล้วเจอตังค์
Moo Mengkato
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 659


กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย...น้ำเต้าอันลอยนั้นจะถอยจม


« ตอบ #238 เมื่อ: วันที่ 23 ธันวาคม 2012, 18:00:26 »

ค้นหากระทู้หลายหน้า .. ยังอยากทราบอยู่ว่า แถวป่าตาล จะออกที่บ้านต้า หรือ บ้านใหม่พัฒนา หรือ เส้นใหม่เข้าเทิงครับ ฮืม ฮืม
....แต่ถ้าเข้าเทิง คงแย่ เพราะถนนใหม่งบเกือบ 900 ล้านพึ่งเสร็จ ตกใจ
IP : บันทึกการเข้า
!DeePack!
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,110


« ตอบ #239 เมื่อ: วันที่ 23 ธันวาคม 2012, 20:02:30 »

ผมว่าไม่น่าจะเข้าเทิงนะเพาะจากเทิงไปเชียงของ กำลังก่อสร้างทางแบบขยายไหล่ทางสร้างมาถึงบ้านต้าแล้วเพึ่งเช่ือมกันยังไม่ได้ตีเส้นเลย แล้วจะทำสี่เลนซ้ำอีกเหรอ ตกใจ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 [12] 13 14 15 16 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!