วัดม่านประตูหวาย ที่ตั้งบริเวณที่ฮ้องว่าประตู๋หวาย ซึ่งเป๋นจื่อของวัดนี้ใกล้สี่แยกหอนาฬิก๋า
ถนนเจ็ดยอด ต๋ำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเจียงฮาย
วันนี้เหลือเพียงองค์เจดีย์ขนาดย่อม ศิลปะพม่า โดยฝีมือสล่าจาวไทยใหญ่ (เงี้ยว)
ตี้ฮ้องกั๋นว่า “กองมูลีกข์” หรือ ธัมมเจ๋ติยะ ตั้งอยู่โดยเดี่ยว มีปริมณฑลบ่น่าเกิ๋น ๕x๕ เมตร
ปัจจุบันยังมีคนนำธูปเทียนมาไหว้อยู่ประจ๋ำ
ความเป๋นมา บริเวณตี้ตั้งวัดในอดีตเป๋นป่าหวาย มีช่องก๋ำแปงเมืองตี้สร้างไว้เหลืออยู่
ซึ่งบ่กว้างขวางเต้าใด ประตู๋นี้ดั้งเดิมมีคนไจ๊หน้อย
พ.ศ. ๒๔๕๖ อุเหย่วาต๊ะ (อุเหย่วาทะ) พระภิกษุจาวพม่าได้ธุดงค์มาปักกลด
ปฏิบัติธุดงควัตร ณ สถานที่ที่มีเจ้าของ แต่ถูกละไว้เป๋นบ้านห่าง อันเป๋นตี้ตั้งของวัดในเวลาต่อมา
อุเหย่วาต๊ะได้ฮับนิมนต์จากคนเถ้าจาวไทยใหญ่ หื้อฮ่วมสร้างตี้นี้หื้อเป๋นอาราม
โดยคนเถ้าจาวไทยใหญ่เป๋นผู้ขออนุญาตเจ้าของตี้หื้อ ซึ่งเจ้าของก่คือป้าบัวขาวก่บ่ขัดข้อง
เพราะว่าเป๋นสวนห่าง มีศรัทธาจาวบ้านและจาวไทยใหญ่มาจ่วยกั๋นเผ้วถางสถานตี้
แล้วก่อตั้งอารามขึ้น เนื่องจากจาวไทยใหญ่และพม่ามีความผูกพันกั๋นมาแต่เมืองเจียงตุ๋ง
ในส่วนตี้เกี่ยวข้องกับไทยใหญ่หรือเงี้ยวกับพม่า ไทยใหญ่ฮ้องตุ๊เจ้าตี้เป๋นเจ้าอาวาสหรือเป๋นผู้นำว่า เจ้าสล่า
ส่วนพม่าก่จะฮ้องตวยแต่จะออกเป๋นสำเนียงพม่าว่า “ซวาเสี่ย”
เสียง เสี่ย จะออกคล้าย สี่แหย่ ส่วนพระสงฆ์ตี้มีระดับ พม่าจะฮ้องว่า อะปุงกี๋ (อะพุงคี)
คำว่าสล่าตี้จาวล้านนาฮ้องนายช่างนั้น เป๋นกำพม่าแต่ออกเสียงแบบล้านนา
ฮ้องผู้มีฝีมือทางช่าง หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์กับวัด
เป๋นตี้ยอมฮับของคนทั่วไปว่า สล่า และกำตี้ฮ้องตุ๊เจ้าว่า เจ้าสล่า โดยเฉพาะตุ๊เจ้าหัววัด.....
ข้อมูลจาก...สารสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มิถุนายน 2543ขอยืมรูปป้าวายมาแปะเน้อ