โปรโมชั่นพิเศษ กิ่งมะนาวราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท (หน้า 32)

[mao_cafe]

สวัสดีครับ ผมสนใจอยากปลูกมะนาวตาฮิติ บ่ฮู้ว่ากิ่งตอนยังไม่ได้ชำ เอาลงปลูกได้เลยก่อครับปลูกแบบลงดินนะครับ คิดว่าอยากจะทดลองปลูกสัก 2-3 ไร่ครับ

[Rath]

สวัสดีครับ ผมสนใจอยากปลูกมะนาวตาฮิติ บ่ฮู้ว่ากิ่งตอนยังไม่ได้ชำ เอาลงปลูกได้เลยก่อครับปลูกแบบลงดินนะครับ คิดว่าอยากจะทดลองปลูกสัก 2-3 ไร่ครับ

จริงๆ ถ้าจะปลูกลงดินเลยก่อได้เหมือนกั๋นครับ แต่มันก่อเสี่ยงอยู่นะครับเพราะขนาดเฮาเลี้ยงอยู่ในถุงดำจนรากมันแข็งแรงได้ดูแลอย่างเต๋มที่ บางครั้งยังมีโอกาสรอดบ่ครบทุกต้นเลยครับ แล้วยิ่งอากาศหน้าแล้ง ร้อนจัดมาก อย่างใดเสียผมคิดว่าต้องอนุบาลก่อนโดยลงถุงชำฮื้อ รากและกิ่งพันธุ์แข็งแรงก่อน อย่างน้อยสัก 10 วัน ถ้าจะเอาไปลงเองก่อบ่ยากนะครับ วัสดุดินปลูกหาเอาเท่าที่มีในบ้านเฮา แต่โอกาสรอดสูง อาจจะ 100% เลยก่อได้ครับ

[Rath]

วันนี้ไปกรมที่ดินมา เพื่อขอรับสารภาพ พด. กะว่าจะทำปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้กับสวนมะนาวครับ ท่านที่สนใจ ทางกรมพัฒนาที่ดินมีแจกสำหรับเกษตรกรที่สนใจนะครับ

[Rath]

แป้นวโรชาที่ซื้อมาปลูกแทงหน่อแทงยอดแล้วครับ

[Rath]

การขยายพันธุ์มะนาว

วิธีนิยมขยายพันธุ์มะนาวมากที่สุดในบ้านเราขณะนี้คือ การตอนกิ่งซึ่งมีขั้นตอนการทำดังนี้

1. เลือกกิ่งมะนาวกิ่งกึ่งอ่อนกึ่งแก่ สีของกิ่งเริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาลอ่อน ยาว ประมาณ 30-50 เซนติเมตร ต้นพันธุ์ ควรเลือกจากต้นที่แข็งแรงปราศจากเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อไวรัส

2. ควั่นกิ่งเป็น 2 รอย ถึงเนื้อไม้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นลอกเปลือกออก

3. ใช้สันมีดขูดเนื้อเยื่อเจริญออกให้หมดโดยจะขูดจากข้างบนลงล่าง

4. หาสารเร่งรากพวกเซราดิกซ์ เบอร์ 3 ตรงบริเวณด้านบนของรอยควั่น

5. หุ้มด้วยกาบมะพร้าวที่มีความชื้น หรือหุ้มด้วยขุยมะพร้าว มัดกระเปาะหัวท้ายให้แน่น

6. ทิ้งไว้ประมาณ 30-45 วัน รากจะแทงออกมาให้เห็น เมื่อเห็นว่ามีรากมากแล้วก็ตัดลงไปชำในถุง เก็บไว้ในที่ร่มรำไร เพื่อเลี้ยงไว้สำหรับปลูกในแปลงต่อไป

การปักชำ

วิธีการนี้สามารถทำได้ โดยการปักชำกิ่งกึ่งอ่อนกึ่งแก่ นำมาตัดเป็นอ่อน ๆ ยาวท่อนละ 6-8 นิ้ว ตัดให้ชิดข้อ ส่วนด้านปลายตัดเหนือตาบนสุดประมาณ 0.5 เซนติเมตร ควรตัดเฉียงเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำขังซึ่งจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กิ่งปักชำเน่า ส่วนโคนกิ่งตัดเป็นรูปปากฉลามใต้ข้อ กิ่งปักชำควรไว้ใบประมาณ 4-6 ใบ ทำการกรีดโคนกิ่ง 3-4 รอย ยาวประมาณ 1 นิ้ว นำไปจุ่มสาร NAA ความเข้มข้น 4,000 ส่วนต่อล้าน นาน 1-2 นาที จากนั้นนำกิ่งมะนาวไปผึ่งลมให้แห้ง แล้วนำมาปักชำในกระบะพ่นหมากประมาณ 30 วัน กิ่งปักชำเริ่มติดราก

[Rath]

ขอบคุณพี่วันชัยนะครับที่เข้ามาอุดหนุนกิ่งพันธุ์ ส่วนลูกค้าทางฝั่งประเทศลาวถ้าพร้อมก้อติดต่อมานะครับ เรื่องราคาคุยกันได้อยู่ครับ

[Rath]

วันนี้ผมขอเสนอการทำสวนมะนาวทางเลือก โดยการใช้ชีวภาพในการกำจัดโรคพืช สำหรับผู้ที่สนใจ ยังไงก็ลองติดตามดูนะครับ เป็นข้อมูลที่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ที่เคยซื้อมาลองที่สวนด้วย และอาศัยหาอ่านเอาจากในเว็บด้วยครับ

บาซิลลัส-พลายแก้ว

บีเอสพลายแก้ว คือผลิตภัณฑ์จากจุลินทรีย์ที่เป็นปฏิัปักษ์ ในกลุ่มแบคทีเรียบาซิลลัส ซับติลิส ที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่สำัคัญในประเทศไทย เช่น โรคกรากเน่า โคนเน่า โรคผลเน่าของทุเรียน พริกไทย พืชตระกูลส้ม มะนาว มะละกอ สับปีรด และยางพาราที่เกิดจากเชื้อราฟัยท๊อพธอรา โรคเกล้าเน่ายุบตาย ในพืชตระกูลแตง มะเขือเทศ ถั่ว พริก ผักชนิดต่างๆ และไม้ดอกไม้ประดับที่เกิดจากเชื้อเรา พิธเทียม ไรซอคโทเนียและ สเคอร์โรเทียม ฯลฯ และที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ สามารถกำจัดเชื้อราที่เป็นศัตรูในเห็ดเกือบทุกชนิด

หลักการและเทคนิคการใช้เชื้อ บีเอสพลายแก้ว

- เชื้อบีเอสพลายแก้ว เป็นสิ่งทีมีชวิตที่จะถูกทำลายโดยรังสีอุลตร้าไวโอเลต (UV) จากแสงแดด ดังนั้นควรฉีดพ่นตอนเย็นแดดอ่อน ๆ จะช่วยยืดอายุเชื้อบีเอสพลายแก้วบนต้นพืชให้มีประสิทธิภาพอยู่ได้นาน

- เชื้อราและโรคบางชนิด เช่น โรคเน่าคอรวง โรคผลเน่า หน้ายางตาย ราสนิม มักอาศัยอยู่ด้านล่างของใบและผล ดังนั้นการพ่นให้ครอบคลุมบริเวณส่วนบนและส่วนล่างของใบพืชด้วย จึงจะสามารถควบคุมเชื้อเราโรคพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ปรับหัวฉีดเครื่องพ่นเชื้อพลายแก้ว ให้ละอองเล็กที่สุด จะช่วยให้ละอองเชื้อเกาะผิวใบได้ดี

- ควรผสมสารจับใบ (ม้อยเจอร์แพล้น) ในการพ่นทุกครั้ง ตามอัตราที่แนะนำในฉลาก

- ควรฉีดพ่นเชื้อบีเอสพลายแก้ว เมื่อสำรวจพบเชื้อราโรคพืชตั้งแต่ยังระบาดไม่มากจะให้ผลในการควบคุมดีกว่าในช่วงที่พบเชื้อราโรคพืชระบาดรุนแรง

- ไม่ควรผสมเชื้อบีเอสพลายแก้วกับสารป้องกันกำจัดเชื้อราในคราวเดียวกัน เนื่องจากสารเคมีบางชนิดอาจทำให้เชื้อบีเอสพลายแก้วเสื่อมประสิทธิภาพลงได้

- เนื่องจากเชื้อบีเอสพลายแก้ว เป็นจุลินทรีย์ที่รักษาเชื้อราโรคพืช จึงอาจทำงานช้ากว่าการใช้ยาเคมี ดังนั้นการใช้อัตราสูงกว่าคำแนะนำไม่ช่วยให้รักษาโรคได้เร็วขึ้นการใช้อัตราต่ำกว่าคำแนะนำ จะส่งผลให้รักษาไม่ได้ผล และทำความเสียหายแก่ผลผลิต จึงควรใช้เชื้อพลายแก้วตามอัตราที่แนะนำ

- เมื่อพบการระบาดของเชื้อรา โรคพืชรุนแรง ควรฉีดพ่นตามอัตราที่แนะนำโดยการพ่นติดต่อกัน 2 ครั้ง ระยะห่าง 3 - 4 วันครั้ง จะช่วยลดความเสียหายได้ดีกว่าการพ่นครั้งเดียว


การขยาย (บาซิลลัส-พลายแก้ว) ฆ่าเชื้อรา

1. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยมะพร้าวอ่อน ใช้มะพร้าวอ่อน 1 ผล เจาะเปิดฝาแง้มพอใส่เชื้อลงไปได้ ใส่เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 1 ช้อนชา ( 1ซอง ) ปิดฝาทิ้งไว้ 1-2 วัน นำมาผสมน้ำได้ 20 ลิตร

2. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยน้ำมะพร้าวแก่จากตลาด นำน้ำมะพร้าวแก่จากตลาดมาต้มให้เดือด 5 นาที ช้อนฟองทิ้ง ตั้งให้เย็น ใส่เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 5 ช้อนชา ( 5 ซอง ) ต่อน้ำมะพร้าว 15 ลิตร (ถ้าน้ำมะพร้าวไม่พอเติมน้ำเปล่าจนได้รวม 15 ลิตรก่อนต้ม ) ให้อากาศแบบที่ใช้ในตู้ปลา 24 ชั่วโมง,นำไปผสมกับน้ำได้รวม 100 ลิตร สำหรับฉีดพ่น

3. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยนมข้นหวานและน้ำตาลทราย ใช้น้ำ 15 ลิตร เติมนมข้นหวาน 1 กระป๋อง น้ำตาลทราย 3 ช้อน เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 5 ช้อนชาหรือ 5 ซอง ให้อากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง สามารถใช้ผสมน้ำได้ 100 ลิตรหรือ 5 ปี๊ป

4. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยไข่ไก่สด ใช้น้ำ 15 ลิตร ไข่ไก่ 5 ฟอง เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 5 ช้อนชาหรือ 5 ซอง สเม็คไทต์ 5 ขีด (500 กรัม) น้ำมันพืช 1.5-2 ช้อนชา เป่าอากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง ใช้ผสมน้ำ 5 ปี๊ป ( 100 ลิตร )

5. การขยายพลายแก้วด้วยนมกล่อง ใช้นมกล่องพาสเจอร์ไลท์ตามท้องตลาดทั่วไป 1 กล่อง (250 ซี.ซี.) เปิดฝาออกให้เทเชื้อใส่ได้ เติมเชื้อพลายแก้ว 1 ซอง (5 กรัม) หมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงมาผสมน้ำได้

6. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยแป้ง อยู่ระหว่างการทดลอง

7. ฉีดพ่นตอนเย็น เพื่อป้องกันเชื้อถูกทำลายด้วยยูวีในแสงแดด

8. ฉีดพ่นเปียกชุ่มโชกเหมือนอาบน้ำ

[Rath]

เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ทุริงเยนซีส ( Bacillus thuringiensis )
รายละเอียดย่อ :
เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ทุริงเยนซีส ( Bacillus thuringiensis ) ใช้ในการกำจัดหนอนศัตรูพืชหลายชนิดเช่น หนอนใยผัก หนอนกระทู้หอม หนอนหนังเหนีบว หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนกระทู้ผักและหนอนกินใบต่างๆ
รายละเอียดทั้งหมด :


เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ทุริงเยนซีส สายพันธุ์ เคอร์สตากี้ เข้มข้น 32,000 IU/mg WP
ใช้สำหรับผสมน้ำฉีดพ่น เพื่อควบคุมหนอนศัตรูพืชหลายชนิด เช่น หนอนใยผัก หนอนกระทู้หอม (หนอนหนังเหนียว) หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนกระทู้ผัก หนอนกินใบ ฯลฯ สามารถผสมน้ำฉีดพ่นพร้อมกันกับปุ๋ยทางใบ ธาตุอาหารเสริม ฮอร์โมนต่างๆอัตราการใช้  ผสมน้ำ  50-80  กรัม  ต่อน้ำ  20  ลิตร  ฉีดพ่น  ตั้งแต่เริ่มเห็นใข่หนอน และทุกระยะการเจริญเติบฌโตของพืชผัก ม้ผล ไม้ดอกไม้ประดับ

[chate]

แวะมาผ่อ มากอย

[Rath]

วันนี้น้องดิวกับน้องนกจากแม่อ้อเข้ามาเยี่ยมชมที่สวน ถ้าทั้งสองคนพร้อมจะลงกิ่งเมื่อไหร่ก้อแจ้งมาอีกทีนะครับ เดี๋ยวผมจะช่วยเข้าไปดูให้อีกทีครับ

[Rath]

ไตรโคเดอร์ม่า (Trichoderma sp.) (ฉีดพ่น)

เป็นผลิตภัณฑ์จากจุลินทรีย์ที่เป็นปฏิปักษ์ในกลุ่มเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า ที่ได้รับคัดเลือกว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกัน กำจัดโรคพืช ที่เกิดจากเชื้อราที่สำคัญในประเทศไทย เช่น โรครากเน่า โคนเน่า และกลุ่มเชื้อราที่เกิดจากฟัยท็อพธอร่า (Phytopthora) โรคก้านเน่ายุบตาย ในพืชตระกูลแตงที่เกิดจากเชื้อ พิชเซียม (Pytium spp) ฟิวซาเรียม(Fusarium spp.)

ชนิดละเอียด (ฉีดพ่น) ขนาดบรรจุ 1 กิโลกรัม/กระป๋อง

เป็นผลิตภัณฑ์จากจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ในกลุ่มเชื้อราไตรโคเดอม่า (Trichoderma) ที่ได้คัดเลือกแล้วจากธรรมชาติว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่สำคัญในประเทศไทย เช่น โรครากเน่า , โคนเน่า , โรคผลเนาของทุเรียน พริกไทย พืชตระกูลส้ม , มะนาว , มะละกอ , สับปะรด และยางพารา ที่เกิดจากเชื้อรา ฟัยท้อพธอร่า ( Phytophthora) โรคกล้าเน่ายุบตายในพืชตระกูลแตง , มะเขือเทศ , มะละกอ , ถั่ว , พริก , ผักชนิดต่างๆ และไม้ดอกไม้ประดับ ที่เกิดจากเชื้อราพิธเทียม (Pythium spp) ไรซอกโทเนีย (Rhizogtonia spp) และสเคอร์ไรเทียม (Stentium spp)

วิธีการใช้และอัตราการใช้

ใช้ไตรโคเดอร์ม่า 1 ส่วน ผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 50 ส่วน ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนนำไปใช้โดยใช้รองก้นหลุมก่อนปลูกหรือโรยบางๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูก โดยใช้ทุกๆ 1-2 เดือน

• ไม้ผล เช่น ทุเรียน ส้ม มะนาว มะม่วง พริกไทย ลำไย กระท้อน ลิ้นจี่ ฯลฯ ใช้เชื้อผสมอัตรา 50-100 กรัม เชื้อผสมโรยบางๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่ได้ทรงพุ่ม 1-2 ตารางเมตร

• พืชผักชนิดต่างๆ และพืชไร่ เช่น คะน้า ผักกาด กะหล่ำปลี คื่นฉ่าย พริก หอม กระเทียม พืชตระกูลแตง พืชตระกูลถั่ว ฝ้าย เป็นต้น ใช้เชื้อผสมในอัตรา 15 กิโลกรัมต่อพื้นที่เพาะปลูก 1 งาน (400 ตารางเมตร ) โดยใช้เชื้อผสมโรยบางๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่แปลงเพาะปลูก

• ไม้ดอกและไม้ประดับเช่น โป้ยเซียน กุหลาบ บอนสี เยอบีร่า เข็ม มะลิ ดาวเรือง บานไม่รู้โรย บานชื่นเฟื่องฟ้า เป็นต้น ใช้เชื้อผสมในอัตรา 15 กิโลกรัมต่อพื้นที่เพาะปลูก 1 งาน (400 ตารางเมตร ) โดยใช้เชื้อผสมโรยบางๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่แปลงเพาะปลูกหรือใช้เชื้อผสมในอัตรา 10-20 กรัม เชื้อผสมโรยโคนต้นไม้ในกระถาง

ใช้ผสมวัสดุปลูกหรือดินสำหรับการย้ายกล้าไม้มาอนุบาล ใช้เชื้อผสม 1 ส่วน ( ยาเชื้อ 1 ส่วนผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 50 ส่วน ) ผสมกับวัสดุปลูกหรือดิน 2 ส่วน

[TFR 2882 SR 20 DET]

ดินที่ใช้ปลูกมะนาวในท่อใช้ดินแบบไหนครับหรือมีขาย

[Rath]

ดินที่ใช้ปลูกมะนาวในท่อใช้ดินแบบไหนครับหรือมีขาย

จะซื้อก็มีขาย หรือจะทำเองก้อได้ครับง่ายๆ  สูตรดินผสม นี้ใช้ได้ครอบจักรวาล ทั้งเป็นดินเพาะกล้า, ดินกลบหลุมปลูก, ดินปลูกต้นไม้ในกระถาง

สูตร 1
ดินร่วน  1 กระสอบปุ๋ย
แกลบดิบ  2 กระสอบปุ๋ย
ปุ๋ยสูตร  15-15-15  จำนวน  1 กำมือ
ปุ๋ยน้ำชีวภาพ  200 cc.

สูตร 2
ดินร่วน  1 กระสอบปุ๋ย
แกลบดิบ  3 กระสอบปุ๋ย
แกลบดำ(แกลบเผา)  3 กระสอบปุ๋ย
ปุ๋ยสูตร  15-15-15  จำนวน  1 kg.

สูตร 3
ดินร่วน  1 กระสอบปุ๋ย
แกลบดิบ  1 กระสอบปุ๋ย
โบกาจิ(ปุ๋ยหมัก EM )  1/2 กระสอบปุ๋ย
ปุ๋ยน้ำชีวภาพ  500 cc.

หรือจะใช้สูตรนี้ก็ได้ครับ
(1)  ทรายหยาบ 1 ส่วน        (4)  ดิน 1/2 ส่วน
(2)  ขุยมะพร้าว 1 ส่วน          (5)  ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า 1/2 ส่วน
(3)  ถ่านแกลบ 1 ส่วน           (6) แกลบดิบ 1/2 ส่วน

[Rath]

ลูกมะนาวแป้นพิจิตร1 ราคาเก็บขายหน้าสวนตอนนี้อยู่ที่ลูกละ 4 บาทครับ 

[Rath]

การเลือกพันธุ์มะนาว
   ปกติแถวบ้านเราในเขตเชียงราย, เชียงใหม่ หรือลำพูน ส่วนมากพันธุ์มะนาวที่นิยมปลูกก็จะมี
1. แป้นทวาย
2. แป้นรำไพ
3.ไร้เมล็ด(ทูลเกล้าตาฮิติ)
4. แป้นพิจิตร1
5. แป้นดกพิเศษ

   ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก้อจะมีข้อเด่นข้อด้อยต่างกันไป หากท่านใดสนใจพันธุ์ไหน ผมเคยลงรายละเอียดไว้ในบอร์ดกระทู้ ยังไงลองหาอ่านกันดูเป็นความรู้ก่อนตัดสินใจปลูกมะนาวจริงๆ จังๆ ก็ได้ครับ

[mr_siwadon]

วันนี้ผมขอเสนอการทำสวนมะนาวทางเลือก โดยการใช้ชีวภาพในการกำจัดโรคพืช สำหรับผู้ที่สนใจ ยังไงก็ลองติดตามดูนะครับ เป็นข้อมูลที่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ที่เคยซื้อมาลองที่สวนด้วย และอาศัยหาอ่านเอาจากในเว็บด้วยครับ

บาซิลลัส-พลายแก้ว

บีเอสพลายแก้ว คือผลิตภัณฑ์จากจุลินทรีย์ที่เป็นปฏิัปักษ์ ในกลุ่มแบคทีเรียบาซิลลัส ซับติลิส ที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่สำัคัญในประเทศไทย เช่น โรคกรากเน่า โคนเน่า โรคผลเน่าของทุเรียน พริกไทย พืชตระกูลส้ม มะนาว มะละกอ สับปีรด และยางพาราที่เกิดจากเชื้อราฟัยท๊อพธอรา โรคเกล้าเน่ายุบตาย ในพืชตระกูลแตง มะเขือเทศ ถั่ว พริก ผักชนิดต่างๆ และไม้ดอกไม้ประดับที่เกิดจากเชื้อเรา พิธเทียม ไรซอคโทเนียและ สเคอร์โรเทียม ฯลฯ และที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ สามารถกำจัดเชื้อราที่เป็นศัตรูในเห็ดเกือบทุกชนิด

หลักการและเทคนิคการใช้เชื้อ บีเอสพลายแก้ว

- เชื้อบีเอสพลายแก้ว เป็นสิ่งทีมีชวิตที่จะถูกทำลายโดยรังสีอุลตร้าไวโอเลต (UV) จากแสงแดด ดังนั้นควรฉีดพ่นตอนเย็นแดดอ่อน ๆ จะช่วยยืดอายุเชื้อบีเอสพลายแก้วบนต้นพืชให้มีประสิทธิภาพอยู่ได้นาน

- เชื้อราและโรคบางชนิด เช่น โรคเน่าคอรวง โรคผลเน่า หน้ายางตาย ราสนิม มักอาศัยอยู่ด้านล่างของใบและผล ดังนั้นการพ่นให้ครอบคลุมบริเวณส่วนบนและส่วนล่างของใบพืชด้วย จึงจะสามารถควบคุมเชื้อเราโรคพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ปรับหัวฉีดเครื่องพ่นเชื้อพลายแก้ว ให้ละอองเล็กที่สุด จะช่วยให้ละอองเชื้อเกาะผิวใบได้ดี

- ควรผสมสารจับใบ (ม้อยเจอร์แพล้น) ในการพ่นทุกครั้ง ตามอัตราที่แนะนำในฉลาก

- ควรฉีดพ่นเชื้อบีเอสพลายแก้ว เมื่อสำรวจพบเชื้อราโรคพืชตั้งแต่ยังระบาดไม่มากจะให้ผลในการควบคุมดีกว่าในช่วงที่พบเชื้อราโรคพืชระบาดรุนแรง

- ไม่ควรผสมเชื้อบีเอสพลายแก้วกับสารป้องกันกำจัดเชื้อราในคราวเดียวกัน เนื่องจากสารเคมีบางชนิดอาจทำให้เชื้อบีเอสพลายแก้วเสื่อมประสิทธิภาพลงได้

- เนื่องจากเชื้อบีเอสพลายแก้ว เป็นจุลินทรีย์ที่รักษาเชื้อราโรคพืช จึงอาจทำงานช้ากว่าการใช้ยาเคมี ดังนั้นการใช้อัตราสูงกว่าคำแนะนำไม่ช่วยให้รักษาโรคได้เร็วขึ้นการใช้อัตราต่ำกว่าคำแนะนำ จะส่งผลให้รักษาไม่ได้ผล และทำความเสียหายแก่ผลผลิต จึงควรใช้เชื้อพลายแก้วตามอัตราที่แนะนำ

- เมื่อพบการระบาดของเชื้อรา โรคพืชรุนแรง ควรฉีดพ่นตามอัตราที่แนะนำโดยการพ่นติดต่อกัน 2 ครั้ง ระยะห่าง 3 - 4 วันครั้ง จะช่วยลดความเสียหายได้ดีกว่าการพ่นครั้งเดียว


การขยาย (บาซิลลัส-พลายแก้ว) ฆ่าเชื้อรา

1. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยมะพร้าวอ่อน ใช้มะพร้าวอ่อน 1 ผล เจาะเปิดฝาแง้มพอใส่เชื้อลงไปได้ ใส่เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 1 ช้อนชา ( 1ซอง ) ปิดฝาทิ้งไว้ 1-2 วัน นำมาผสมน้ำได้ 20 ลิตร

2. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยน้ำมะพร้าวแก่จากตลาด นำน้ำมะพร้าวแก่จากตลาดมาต้มให้เดือด 5 นาที ช้อนฟองทิ้ง ตั้งให้เย็น ใส่เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 5 ช้อนชา ( 5 ซอง ) ต่อน้ำมะพร้าว 15 ลิตร (ถ้าน้ำมะพร้าวไม่พอเติมน้ำเปล่าจนได้รวม 15 ลิตรก่อนต้ม ) ให้อากาศแบบที่ใช้ในตู้ปลา 24 ชั่วโมง,นำไปผสมกับน้ำได้รวม 100 ลิตร สำหรับฉีดพ่น

3. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยนมข้นหวานและน้ำตาลทราย ใช้น้ำ 15 ลิตร เติมนมข้นหวาน 1 กระป๋อง น้ำตาลทราย 3 ช้อน เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 5 ช้อนชาหรือ 5 ซอง ให้อากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง สามารถใช้ผสมน้ำได้ 100 ลิตรหรือ 5 ปี๊ป

4. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยไข่ไก่สด ใช้น้ำ 15 ลิตร ไข่ไก่ 5 ฟอง เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 5 ช้อนชาหรือ 5 ซอง สเม็คไทต์ 5 ขีด (500 กรัม) น้ำมันพืช 1.5-2 ช้อนชา เป่าอากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง ใช้ผสมน้ำ 5 ปี๊ป ( 100 ลิตร )

5. การขยายพลายแก้วด้วยนมกล่อง ใช้นมกล่องพาสเจอร์ไลท์ตามท้องตลาดทั่วไป 1 กล่อง (250 ซี.ซี.) เปิดฝาออกให้เทเชื้อใส่ได้ เติมเชื้อพลายแก้ว 1 ซอง (5 กรัม) หมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงมาผสมน้ำได้

6. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยแป้ง อยู่ระหว่างการทดลอง

7. ฉีดพ่นตอนเย็น เพื่อป้องกันเชื้อถูกทำลายด้วยยูวีในแสงแดด

8. ฉีดพ่นเปียกชุ่มโชกเหมือนอาบน้ำ

แถวเชียงรายมีขายที่ไหนบ้างครับ

[Rath]

วันนี้ผมขอเสนอการทำสวนมะนาวทางเลือก โดยการใช้ชีวภาพในการกำจัดโรคพืช สำหรับผู้ที่สนใจ ยังไงก็ลองติดตามดูนะครับ เป็นข้อมูลที่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ที่เคยซื้อมาลองที่สวนด้วย และอาศัยหาอ่านเอาจากในเว็บด้วยครับ

บาซิลลัส-พลายแก้ว

บีเอสพลายแก้ว คือผลิตภัณฑ์จากจุลินทรีย์ที่เป็นปฏิัปักษ์ ในกลุ่มแบคทีเรียบาซิลลัส ซับติลิส ที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันกำจัดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราที่สำัคัญในประเทศไทย เช่น โรคกรากเน่า โคนเน่า โรคผลเน่าของทุเรียน พริกไทย พืชตระกูลส้ม มะนาว มะละกอ สับปีรด และยางพาราที่เกิดจากเชื้อราฟัยท๊อพธอรา โรคเกล้าเน่ายุบตาย ในพืชตระกูลแตง มะเขือเทศ ถั่ว พริก ผักชนิดต่างๆ และไม้ดอกไม้ประดับที่เกิดจากเชื้อเรา พิธเทียม ไรซอคโทเนียและ สเคอร์โรเทียม ฯลฯ และที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือ สามารถกำจัดเชื้อราที่เป็นศัตรูในเห็ดเกือบทุกชนิด

หลักการและเทคนิคการใช้เชื้อ บีเอสพลายแก้ว

- เชื้อบีเอสพลายแก้ว เป็นสิ่งทีมีชวิตที่จะถูกทำลายโดยรังสีอุลตร้าไวโอเลต (UV) จากแสงแดด ดังนั้นควรฉีดพ่นตอนเย็นแดดอ่อน ๆ จะช่วยยืดอายุเชื้อบีเอสพลายแก้วบนต้นพืชให้มีประสิทธิภาพอยู่ได้นาน

- เชื้อราและโรคบางชนิด เช่น โรคเน่าคอรวง โรคผลเน่า หน้ายางตาย ราสนิม มักอาศัยอยู่ด้านล่างของใบและผล ดังนั้นการพ่นให้ครอบคลุมบริเวณส่วนบนและส่วนล่างของใบพืชด้วย จึงจะสามารถควบคุมเชื้อเราโรคพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ปรับหัวฉีดเครื่องพ่นเชื้อพลายแก้ว ให้ละอองเล็กที่สุด จะช่วยให้ละอองเชื้อเกาะผิวใบได้ดี

- ควรผสมสารจับใบ (ม้อยเจอร์แพล้น) ในการพ่นทุกครั้ง ตามอัตราที่แนะนำในฉลาก

- ควรฉีดพ่นเชื้อบีเอสพลายแก้ว เมื่อสำรวจพบเชื้อราโรคพืชตั้งแต่ยังระบาดไม่มากจะให้ผลในการควบคุมดีกว่าในช่วงที่พบเชื้อราโรคพืชระบาดรุนแรง

- ไม่ควรผสมเชื้อบีเอสพลายแก้วกับสารป้องกันกำจัดเชื้อราในคราวเดียวกัน เนื่องจากสารเคมีบางชนิดอาจทำให้เชื้อบีเอสพลายแก้วเสื่อมประสิทธิภาพลงได้

- เนื่องจากเชื้อบีเอสพลายแก้ว เป็นจุลินทรีย์ที่รักษาเชื้อราโรคพืช จึงอาจทำงานช้ากว่าการใช้ยาเคมี ดังนั้นการใช้อัตราสูงกว่าคำแนะนำไม่ช่วยให้รักษาโรคได้เร็วขึ้นการใช้อัตราต่ำกว่าคำแนะนำ จะส่งผลให้รักษาไม่ได้ผล และทำความเสียหายแก่ผลผลิต จึงควรใช้เชื้อพลายแก้วตามอัตราที่แนะนำ

- เมื่อพบการระบาดของเชื้อรา โรคพืชรุนแรง ควรฉีดพ่นตามอัตราที่แนะนำโดยการพ่นติดต่อกัน 2 ครั้ง ระยะห่าง 3 - 4 วันครั้ง จะช่วยลดความเสียหายได้ดีกว่าการพ่นครั้งเดียว


การขยาย (บาซิลลัส-พลายแก้ว) ฆ่าเชื้อรา

1. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยมะพร้าวอ่อน ใช้มะพร้าวอ่อน 1 ผล เจาะเปิดฝาแง้มพอใส่เชื้อลงไปได้ ใส่เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 1 ช้อนชา ( 1ซอง ) ปิดฝาทิ้งไว้ 1-2 วัน นำมาผสมน้ำได้ 20 ลิตร

2. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยน้ำมะพร้าวแก่จากตลาด นำน้ำมะพร้าวแก่จากตลาดมาต้มให้เดือด 5 นาที ช้อนฟองทิ้ง ตั้งให้เย็น ใส่เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 5 ช้อนชา ( 5 ซอง ) ต่อน้ำมะพร้าว 15 ลิตร (ถ้าน้ำมะพร้าวไม่พอเติมน้ำเปล่าจนได้รวม 15 ลิตรก่อนต้ม ) ให้อากาศแบบที่ใช้ในตู้ปลา 24 ชั่วโมง,นำไปผสมกับน้ำได้รวม 100 ลิตร สำหรับฉีดพ่น

3. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยนมข้นหวานและน้ำตาลทราย ใช้น้ำ 15 ลิตร เติมนมข้นหวาน 1 กระป๋อง น้ำตาลทราย 3 ช้อน เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 5 ช้อนชาหรือ 5 ซอง ให้อากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง สามารถใช้ผสมน้ำได้ 100 ลิตรหรือ 5 ปี๊ป

4. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยไข่ไก่สด ใช้น้ำ 15 ลิตร ไข่ไก่ 5 ฟอง เชื้อบาซิลลัส-พลายแก้ว 5 ช้อนชาหรือ 5 ซอง สเม็คไทต์ 5 ขีด (500 กรัม) น้ำมันพืช 1.5-2 ช้อนชา เป่าอากาศแบบตู้ปลา 24 ชั่วโมง ใช้ผสมน้ำ 5 ปี๊ป ( 100 ลิตร )

5. การขยายพลายแก้วด้วยนมกล่อง ใช้นมกล่องพาสเจอร์ไลท์ตามท้องตลาดทั่วไป 1 กล่อง (250 ซี.ซี.) เปิดฝาออกให้เทเชื้อใส่ได้ เติมเชื้อพลายแก้ว 1 ซอง (5 กรัม) หมักทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงมาผสมน้ำได้

6. ขยายเชื้อบาซิลลัส-พลายแก้วด้วยแป้ง อยู่ระหว่างการทดลอง

7. ฉีดพ่นตอนเย็น เพื่อป้องกันเชื้อถูกทำลายด้วยยูวีในแสงแดด

8. ฉีดพ่นเปียกชุ่มโชกเหมือนอาบน้ำ

แถวเชียงรายมีขายที่ไหนบ้างครับ

มีที่ร้านชื่นชอบการเกษตร ตรงสี่แยกแม่กรณ์ครับ

[Rath]

วันนี้ได้แลกเปลี่ยนความรู้กับพี่ๆ ที่มาเยี่ยมชมสวน เรื่องของการเลือกกิ่งพันธุ์มะนาวแป้นแบบเสียบยอดตอส้มต่างๆรวมทั้งตอมะขวิดและส้มโอ กับกิ่งตอนธรรมดา ซึ่งผมเองก็ศึกษามาบ้างเล็กน้อยแต่วันนี้พี่ๆลูกค้าจากเชียงรายให้ความรู้และความกระจ่างกับผมได้มากจริงๆ และผมก็ค้นคว้าข้อมูลมาเพิ่มเติม ดังนี้ครับ
 "ความแตกต่างระหว่างเสียบยอดบนตอมะขวิด แตกต่างกับตอนกิ่งธรรมดาที่ระบบรากครับ กิ่งตอนส่วนมากจะมีปัญหาเรื่องโรครากเน่าโคนเน่าที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งแสดงออกทางใบ ลักษณะของใบเหมือนกับการขาดธาตุอาหารครับ ส่วนต้นตอมะขวิดจะไม่มีปัญหาเรื่องรากเ่น่าโคนเน่าครับ ทนแล้ง ทนน้ำท่วมขังได้ดี จากที่ทดลองปลูกในท่อซีเมนต์ต้นตอมะขวิดกับกิ่งตอนการเจริญเติบโตไม่แตกต่างกันครับ อยู่ที่การปรุงดินคลุกผสมลงท่อครับ " ดังนั้นหากต้องการประหยัดค่ากิ่งพันธุ์ไม่จำเป็นจะต้องเลือกกิ่งเสียบยอดหรอกครับเพราะราคากิ่งเสียบยอดจะแพงกว่ามาก หากต้องการให้กิ่งพันธ์ุปลอดจากรากเน่าและมีอายุยืนขึ้นใช้วิธีเสริมรากแก้วโดยการทาบกิ่งก้อได้ครับ

   

[Rath]

สนใจซื้อกล้าพันธุ์มะนาวแป้น (แป้นพิจิตร1, แป้นรำไพ, แป้นดกพิเศษ, ตาฮิติ ฯลฯ)
ติดต่อ คุณสิรภพ (ดอน) 087-1934028
ราคากิ่งตอนมะนาวแป้นมีราคาตั้งแต่ 45 บาทขึ้นไปครับ (ถ้าสั่งจำนวนมากทางเรามีบริการจัดส่งถึงที่ในเชียงราย นอกนั้นเรายังมีการจัดส่งทางไปรษณีย์ด้วยครับ)
** สนใจการทำนอกฤดู ปลูกในวงบ่อ มีคำแนะนำและคำปรึกษาให้ได้
    สวนอยู่ที่ ต.แม่อ้อ อ.พาน เชียงรายครับ

สำหรับรายละเอียดราคามีดังนี้ครับ

-กิ่งตอนมะนาวแป้นพิจิตร1 ราคากิ่งละ 45 บาท (ตัดจากต้นไม่ได้ลงถุง)
-กิ่งตอนพิจิตร 1 แบบลงถุงชำ ราคากิ่งละ 60 บาท
-กิ่งตอนมะนาวแป้นรำไพ ราคากิ่งละ 40 บาท
-กิ่งตอนแป้นรำไพ แบบลงถุงชำ ราคากิ่งละ 60 บาท
- กิ่งตอนแป้นดกพิเศษ ราคากิ่งละ 80 บาท
- กิ่งตอนแป้นดกพิเศษ แบบลงถุงชำ  ราคากิ่งละ 100 บาท
- กิ่งตอนตาฮิติ ราคากิ่งละ 30 บาท
- กิ่งตอนตาฮิติ แบบลงถุงชำ ราคากิ่งละ 50 บาท
- กิ่งตอนแป้นทวาย ราคากิ่งละ 30 บาท
- กิ่งตอนแป้นทวาย แบบลงถุงชำ ราคากิ่งละ 50 บาท

ขอบคุณพี่หนุ่ยจากแม่อ้อที่อุดหนุนกิ่งพันธุ์แป้นพิจิตร1 และยังสั่งแป้นดกพิเศษอีก 100 กว่ากิ่ง เดี๋ยวถ้าพร้อมแล้วผมแจ้งไปทันทีเลยครับ

[youdon]

ขอถามหน่อยครับมะนาวเมืองตามชาวบ้านเรียก กับมะนาวแป้นรำไพเป็นพันธ์เดียวกันหรือต่างกันยังไงครับ