ผมอยู่เวียงชัยทำนา 7 ไร่ หว่านข้าว กข.41 นาปรับปีที่แล้วได้น้ำหนักข้าว 7,025 กก. ราคารับจำนำกก.ละ 11.47บาท เป็นเงิน 80,576.75 บาท ต้นทุนอยู่ที่ 23,600.-บาท มานาปรับปีนี้หว่านข้าว กข.41 เหมือนเดิม เกี่ยวแล้วเมื่อเช้าวันนี้ ได้นำหนักข้าว 7,235 กก. ราคารับจำนำวันนี้อยู่ที่ 10.80 บาท เป็นเงิน 78,135,-บาท ต้นทุนอยู่ที่ 28,800.-บาท สรุปแล้วได้นำหนักข้าวเพิ่ม แต่ได้ปริมาณเงินลดลง ราคาโรงสีเป็นคนกำหนด เมื่อเช้าผมได้ร้องเรียนไปยัง 1569 กรมการค้าภายในแล้ว ไม่เป็นผล บอกให้ไปหานายอำเภอ ผมไปแล้วนายอำเภอไม่อยู่ หน้าห้องบอกให้ไปหาเกษตรอำเภอ พอไปพบก็ให้คำตอบที่ไม่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่แนะนำว่าให้ฝากข้าวไว้กับโรงสีได้หากราคาไม่น่าพึงพอใจ แต่พอไปถามโรงสีบอกว่าไม่ได้ ถ้ามาขายวันใดก็กำหนดราคาวันนั้นไปเลย ไม่รู้จะทำอย่างไร ข้าวก็แห้งลงทุกวัน ฝนก็ตก พายุก็มา ข้าวร่วงเยอะ นี่ถ้าหากมีลูกเห็บอีกก็คงแย่กว่านี้แน่ เกษตรกรรับกรรมต่อไป
ผมก็อยู่เวียงชัยครับ คือราคาที่โรงสีรับซื้อจริงก็ 11 บาทกว่าเหมือนปีที่แล้วครับ แต่ว่าต้องเป็นราคาที่โรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำครับ ซึ่งอำเภอเวียงชัยไม่มีโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการเลย ใกล้สุดก็โรงสีเชียงรายศิริชัย ที่อยู่ท่าสายแต่ตอนนี้ก็ยังไม่เปิดรับข้าวเพราะต้องระบายข้าวโพดออกเสียก่อนวันก่อนโทรไปคุยจะเปิดรับช่วงกลางเดือนครับ ที่เวียงชัยที่รับข้าวอยู่ตอนนี้ก็เป็นท่าข้าวของเอกชน สหกรณ์ที่นำข้าวส่งโรงสีที่รับจำนำอีกต่อครับ ซึ่งแน่นอนว่าราคาต้องต่ำกว่าราคารับจำนำหน้าโรงสีที่เข้าโครงการเพราะต้องคิดค่าแรง ค่าดำเนินการ และค่าขนส่งครับ ซึ่งราคาอยู่ที่ 10.80 บาทก็ถือว่าโชคดีแล้วครับเพราะวันก่อนที่มีปัญหาว่าปิดท่าข้าวไม่ให้รับจำนำอยู่ 2 วันจนมีการประท้วงให้เปิดจุดผ่อนปรนรับจำนำข้าว ผมก็ติดต่อทางญาติที่อยู่ทำโรงสีที่รับจำนำที่ป่าแดดว่าจะขนข้าวตัวเองไปส่งให้แต่พอไปถามเช่ารถสิบล้อเพื่อขนข้าวไปปรากฎว่ามีค่าใช้จ่ายสูงกว่าราคาที่ขายอยู่ที่ 10.80 บาทอีกครับ หากขนไปขายที่นู่นเองคำนวนแล้วเท่ากับว่าเราขายข้าวเพียงราคา 10.50 บาท หากช่วงรับจำนำปีหน้าก็ต้องลุ้นแล้วครับว่าโรงสีในเวียงชัยจะเข้าเกณฑ์มาตราฐานที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการรับจำนำได้ครับจะได้ราคาดีเหมือน อำเภออื่น ๆ เค้าครับ