อยากฮู้ประวัติเจ้าป้อกิ่วทัพยั้ง

[watinta]

เข้ามาติดตามครับ
ม่วนขนาด

ตวยคนครับ น่าสนใจ๋ติดต๋ามมากๆ ไค้ฮู้ความจริงจากผู้ฮู้แต่ๆเหมือนกั๋นว่า ตกลงประวัติกิ่วตัพยั้งเป๋นจะใดกั๋นแน่ครับ

[คนแม่จัน]

ตุ๊เจ้าทูนวัดปงตองครับ ต๋อนนี้กำลังสร้างพลับพลาสมเด็จพระนเรศวรอยู่บนวัดไผไคร่ร่วมทำบุญเชิญทุกเวลา   ประวัติศาสตร์เฮาต้องนำเอาหลายๆส่วนมารวมกั๋นทั้งของล้านนาและของไทยภาคกล๋างเพราะส่วนมากประวัติบ้านเฮาบ่าค่อยมีเนื่องจากเป๋นผู้ก๊านสงครามเมืองใหญ่ตลอดจึงบ่ามีโอกาสเขียนประวัติเป็นของตั๋วบางครั้งเขียนแล้วเมื่อก๊านสงครามก็ถูกไฟใหม้ไปกับกองเพลิง น่าเสียดายแต๊ ๆ แต่ก็จะพยายมค้นหาครับและจะไปถามท่านชรินร์แถมตางนึ่งครับ

[แมงคอลั่น]

ท่านทำให้ผมได้ข้อคิดอีกแล้ว  คำว่าตั๊บ ที่มีความหมายคล้ายๆที่พัก เหมือนกับ ป๋าง
และมีต้นยาง  "ตั๊บยาง" - จุดพักที่มีต้นยาง น่าจะได้เรื่องพ่องเนาะ

[คนแม่จัน]

น่าจะประมวลเข้ากั๋นได้เนื่องจากปุโรหิต(นายดำ)ได้รอสมเด็จพระนเรศวรตี้ตั๊บยางก็หมายความว่า อยู่ป๋างแถวๆต้นยาง(สมัยนั้นคงบ่ามีบ้านคงมีแต่ป๋างชั่วคราว)เมื่ออยู่เมิน ๆเข้าคนทั่วไปก็ฮ้องว่าหลวงปู่หรือป้อปู้องค์ดำ(ซึ่งบ่าไจ้สมเด็จนเรศวร)จนถึงปัจจุบัน ครับผม ขอแทรกประวัติสมเด็จพระนเรศวรน้อยนึ่งผมได้คัดลอกมาจากเวปอื่นดังนี้เน่อ

พระราชกรณียกิจ
พ.ศ. 2113 เสด็จออกร่วมรบกับทหารโดยขับไล่กองทัพเขมรได้สำเร็จ
พ.ศ. 2114 ได้รับสถาปนาให้ปกครองเมืองพิษณุโลก เมื่อพระชนมายุ ๑๖ พรรษา
พ.ศ. 2117 เสด็จไปรบที่เวียงจันทน์ เผอิญทรงประชวรเป็นไข้ทรพิษจึงเสด็จกลับ
พ.ศ. 2121 ทรงทำสงครามขับไล่พระยาจีนจันตุออกไปจากกรุงศรีอยุธยา
พ.ศ. 2127 ทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง และกวาดต้อนคนไทยกลับพระนคร
พ.ศ. 2127-พ.ศ. 2130 พม่ายกกองทัพมาตีไทยถึง ๔ ครั้ง แต่ถูกไทยตีแตกพ่ายกลับไป
พ.ศ. 2133 ทรงเสด็จครองราชย์ ณ กรุงศรีอยุธยาเมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา
พ.ศ. 2135 ทรงทำสงครามยุทธหัตถี จนมังกะยอชวา สิ้นพระชนม์
พ.ศ. 2136 ทรงยกกองทัพไปตีเขมรและจับพระยาละแวกทำพิธีปฐมกรรม
พ.ศ. 2138 และ พ.ศ. 2141 ทรงกรีฑาทัพไปตีกรุงหงสาวดี ครั้งที่ ๑ และครั้งที่ ๒
พ.ศ. 2148 ทรงกรีฑาทัพไปตีกรุงอังวะ โดยยกทัพหลวง ๑๐๐,๐๐๐ นาย ออกจากอยุธยา ไปทางเมืองเชียงใหม่ และแรมทัพในเชียงใหม่ ๑ เดือน เพื่อรอการระดมทหารล้านนา
เข้าสมทบอีก ๑๐๐,๐๐๐ คนเมื่อยกทัพหลวงออกจากเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าไปยัง เมืองนาย ครั้นกรีฑาทัพช่วงระหว่างเมืองเชียงใหม่กับแม่น้ำสาละวิน และไปถึงเมืองหลวง หรือเมืองห้าง
หลวง หรือเมืองห่างหลวง หรือเมืองหางหลวง ก็ทรงพระประชวรโดยเร็วพลัน เป็นหัวระลอกขึ้นที่พระพักตร์ และเสด็จสวรรคต ณ เมืองหลวง ตำบลทุ่งดอนแก้ว ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๘ ค่ำ
เดือน ๖ ปีมะเส็ง ซึ่งตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๑๔๘ พระชนมายุ ๕๐ พรรษา ครองราชย์สมบัติได้ ๑๕ ปี

[คนแม่จัน]

เพิ่มเติมแหมน้อย

สวรรคต
  พ.ศ. ๒๑๓๗ พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงก็ให้พระเจ้าแปรมาตีกรุงศรีอยุธยาแต่ก็แตกทัพกลับไป พ.ศ. ๒๑๔๒ เสด็จฯออกไปตีกรุงหงสาวดี พระเจ้าหงสาวดีหนีไปเมืองตองอู กอง
ทัพอยุธยาตามไปถึงเมืองตองอูแต่ขาดเสบียง พ.ศ. ๒๑๔๗ ยกกองทัพหลวง ๑๐๐,๐๐๐ นายออกจากกรุงศรีอยุธยาไปตีกรุงอังวะ ผ่านทางเมืองเชียงใหม่ โดยแรมทัพอยู่ที่เมือง
เชียงใหม่เป็นเวลา ๑ เดือน ระดมทหารในดินแดนล้านนาสมทบอีก ๑๐๐,๐๐๐ นาย และทรงมอบหมายให้สมเด็จพระเอกาทศรถเป็นทัพหน้าออกเดินทางไปรับไพร่พลทหารล้านนาที่
เมืองฝาง (อำเภอฝาง เชียงใหม่) หลังจากนั้นกองทัพหลวงจึงกรีฑาทัพออกจากเมืองเชียงใหม่ไปยัง เมืองนายและกรุงอังวะ ครั้นกองทัพหลวงเดินทัพอยู่ระหว่างเมืองเชียงใหม่กับแม่น้ำ
สาละวิน ครั้นถึง เมืองหลวง หรือเมืองห้างหลวง หรือเมืองห่างหลวง หรือเมืองหางหลวง อันเป็นเมืองขึ้นของเมืองเชียงใหม่และเป็นเมืองอยู่ชายพระราชอาณาเขตในสมัยนั้น เมื่อปลายเดือน
๕ ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๑๔๘ ได้เสด็จฯ ประทับแรมอยู่ ณ ตำบลทุ่งดอนแก้ว (ขณะที่กองทัพสมเด็จพระเอกาทศรถอยู่ที่เมืองฝางหรืออำเภอฝาง เชียงใหม่) เกิดประชวรเป็นหัวระลอกขึ้น
(บ้างว่าถูกตัวสัตว์พวกแมลงมีพิษต่อย) ที่พระพักตร์แล้วเลยเป็นบาดพิษจนเสด็จสวรรคต ณ เมืองห้างหลวง หรือ เมืองหางวันจันทร์ เดือน ๖ ขึ้น ๘ ค่ำ พ.ศ. ๒๑๔๘ เรื่องวัน
สวรรคตนี้มีรายละเอียดกล่าวต่างกัน พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขากล่าวว่า เสด็จสวรรคตวันจันทร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ เพลาชายแล้ว ๒ บาท ปีมะเส็ง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางประวัติ
ศาสตร์คำนวณแล้วตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๕ เมษายน ๒๑๔๘ ในหนังสือ A History of Siam ของ W.A.R. Wood กล่าวว่าสวรรคตวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ค.ศ.
๑๖๐๕ (พ.ศ. ๒๑๔๘) พระชันษาได้ ๕๐ ปี เสวยราชสมบัติได้ ๑๕ ปี

[corolado4]

จะมีกี่ตำนาน หรือ ถูกต้องใกล้เคียงแค่ไหน
ก็ค้นคว้า มาลำดับเป็นข้อความ แม้จะเป็นเรื่องเล่าขาน ตำนานแสนนานจนละเอียด
ถ้าได้มีบันทึกเป็นข้อคิดเห็นของคนรุ่นเก่า บวกกับบันทึกหน้าประวัติศาสตร์
อย่างน้อย คนรุ่นหลัง จะได้ประมวล วิเคราะห์ และเชื่อถือได้ ดีกว่ารอการชำระประวัติศาสตร์
ผมเคยเรียน หนังสือ ที่ว่า คนไทย อพยพมาจากเทือกเขาอัลไต........
.............................
แต่พออ่านมาก ผ่านเรื่องราวหลากหลาย ก็ได้เก็บมาเป็นข้อมูลในตัวเอง
ถึงไม่มีหน้าที่ไปเปลี่ยนแปลง หรือเขียนประวัติศาสตร์ใหม่
แต่ก็นำความรู้เหล่านี้มาประกอบกับการได้ไปพบเห็น เรียนรู้เพิ่มเติมให้กับตนเอง
เวลา ลูกหลานสอบถาม ก็สามารถตอบแบบให้เขาได้ไปค้นคว้าเพิ่มเอาเองในส่วนที่เราขาด
.................
กิ่ว.....ช่องเขา........ในอดีต การเดินทัพ ไม่ว่าใหญ่น้อย มาถึงนี้ ก็ต้องทะยอยกันไป
ทัพ....ตามที่ภาษาราชการ(กลาง) เขียน ก็ต้องเข้าใจว่า มาจาก คำว่า กองทัพ
ยั้ง....เห็นครั้งแรก ใครก็ต้องตีความว่า เป็นการหยุดยั้ง(ภาษากลาง)..กองทัพ เพื่อพัก
     และรอทะยอยกันข้ามเขาไปมา.....
.........นี่คือ..ความเข้าใจของผมมาตลอดตั้งแต่เริ่มรู้จักเชียงราย..............
และบวกกับเส้นทางเดินทัพ พระนเรศวร ที่ไปทางแม่แตง...เวียงแหง....
ทัพอื่นที่เป็นทัพรองๆ ก็คงมาทางแม่สรวย...ฝาง...
หรือมาทางเชียงแสน หรือทางเชียงแสนส่งกำลังไปร่วมกับทางแม่สรวย....
อันนี้ ได้ศึกษาและนำความรู้ทีได้มาเรียบเรียงให้เกิดภาพความเข้าใจใน ประวัติศาสตร์
ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นจริงตามนี้นะครับ.............
ก้อปปี้้ข้อความจากหลายๆกระทู้ที่ส่งมาลงนี่
สามารถเขียนหนังสือ...."ตำนานกิ่วทัพยั้ง"........ได้เล่มนึงเต็มๆเลยนะครับ

[คนแม่จัน]

ขอบคุณครับตี้หื้อกำลังใจ๋ ใผมีประวัติสถานที่อื่นๆก็นำมารวบรวมไว้ใน กท.นี้ได้เน้อ เปื้อจะได้ประมวลเป๋นเรื่องราวต่อไป

[เชียงรายพันธุ์แท้]

ถ้ามีศาลของ ออกญารามเดโช เจ้าเมืองเชียงแสนที่พระนเรศวรแต่งตั้งด้วยก็จะดีครับ
ป.ล. ขอทราบที่มาของตำนานปุโรหิตดำด้วยครับ
ที่มานะครับ ไม่ใช่รายละเอียดของตำนาน

[Billy The Kid.]

ประวัติศาสตร์ตามหนังสือเรียนที่รัฐสยามกำหนดให้เรียน กับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ข้อเท็จจริงอาจจะไปคนละทิศ คนละทางก็ได้


ท่านเชื่อจริงๆหรือว่า "คนไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไต"

[คนแม่จัน]

ตุ๊ลุงทูนวัดปงตอง(สวรรณคีรี)เป๋นคนบอกมาครับเรื่องปุโรหิตในแม่จันยังมีศาลเจ้าป้อคำแดง(อยู่สามแยกบ้านท่าต้นแฟน)เจ้าป้อบุญเรือง(อยู่บ้านห้วยเวียงหวาย)กำเดียวจะลงรูปประกอบ

[แมงคอลั่น]

ฝากให้คนแม่จันรวบรวมและเรียบเรียงจากกระทู้พอจะเป็นเล่มเล็กๆให้บุคคลทั่วไปได้อ่านแล้ววิเคราะห์ว่าควรจะเป็นได้หรือไม่ แค่พอเป็นตำนานไม่ถึงกับต้องเป็นวิชาการมากนัก แต่ถ้ามีหลักฐานอ้างอิงได้คงจะ"แหน้นใจ๋คนอ่าน"

[คนแม่จัน]

ขอบคุณครับ รอ แห๋มหน้อยนึ่งก่อนใจ๋เย็น ๆ ครับ

[คนแม่จัน]

ช่วงนี้จะไดเงียบไปหา ขอเสียงหน่อยเน้อ

[แมงคอลั่น]

ดั๋กไปเพราะบ่าฮู้จะเอาหยังมาว่าแล้ว

[Ck 401]

ดั๋กไปเพราะบ่าฮู้จะเอาหยังมาว่าแล้ว

อั้นเนอะ

[แมงคอลั่น]

หันตวยกับ corolado 4 ครับ สมเหตุสมผล

[คนแม่จัน]

น่าจะมีอยู่หนาอยากฮู้ว่าเจ้าป้อคำแดงแม่สายกับแม่จัน(บ้านท่าต้นแฟน)องค์เดียวกั๋นก่อครับ ไผฮู้บอกตวยเน้อ

[ล้อล้านนา]

ขอสูมางามง้ามมมมมมมมมมมมมมมม ครับ ท่านที่จะผูกเรื่องราวเป็นนิทานมาเล่าโดยยึดประวัติศาสตร์กระแสหลักอยู่ ขอหื้อตีกรอบ "พระนเรศ วรราชา" แค่ชื่อของกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาท่านยังเรียกไม่ถูกต้องกันเลย ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดของเมืองอโยธิยาได้มาเหยียบแผ่นดินเชียงรายแม้แต่คนเดียวครับ และในขณะนั้นกองทัพล้านนาก็ได้ไปถล่มอโยธิยามาแล้ว (ไปกับทัพพม่า) ขออย่าได้โยงเป็นละครเรื่องเดียวกันเลยครับ มันคนละฉากคนละภาคกันครับ แล้วที่เชียงรายก็สร้างอะไรต่อมิอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นไปตามประวัติศาสตร์กระแสหลักทั้งหมด จนลืมวีรบุรุษขุนพลกษัตริย์ของเมืองตัวเองหมดแล้ว ขนาด "อนุสาวรีย์พญามังราย" เรียกว่า "อนุสาวรีย์" แต่พระรูปสมเด็จย่าเรียกว่า "พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จย่า" ขอสิทธิ์นี้ให้กษัตริย์ล้านนาหน่อยครับ ผมอยากเห็นอนุสารีย์ ศาล หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประวัติศาสตร์กระแสตรงล้านนาบ้างได้ไหมครับ

ผมมีเอกสารอยู่ในมือ "จดหมายเหตุเมืองเชียงราย" ของพระครูปัญญาลังการ วัดศรีบุญเรือง เวียงเชียงราย จารต้นฉบับเมื่อ ๑๐๐ กว่าปีก่อน กล่าวถึง "กิ่วตั๊บยาง" อย่างชัดเจน ไม่มีคำว่า "กิ่วทัพยั้ง" แม้แต่ตัวเดียว ปริวรรตโดย อ.บุญยัง ชุมศรี (ถึงแก่กรรม) ตรวจทาน อ.ชรินทร์  แจ่มจิตต์ รับรองความถูกต้อง อ.อินทร์  สุใจ จัดทำขึ้นปี ๒๕๒๕ ติดตามข้อมูลในวารสารล้อล้านนา ขอฝากไว้ให้คิด

ขอสูมาแต้ๆ ผมเชื่อได้ว่าอาจจะเคืองใจหลายๆ ท่าน แต่ฐานะคนเชียงราย จะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์บิดเบือนครับ

ด้วยความเคารพ
บ.ก.ล้อล้านนา

[คนแม่จัน]

ว่างๆขอท่านล้อล้านนาสะแกนปั๊บลงมาหื้ออ่านพ่องก็จะดีเน๊าะสำหรับจื้อสมเด็จนเรศวรเฮาก็ฮ้องไปต๋ามส่วนก๋างไผผิดไผถูกก็บ่ฮู้เน๊าะ  ยินดีจ๊าดนักเน๊อ ท่านผู้ฮู้ทั้งหลาย

[Ck 401]

ขอสูมางามง้ามมมมมมมมมมมมมมมม ครับ ท่านที่จะผูกเรื่องราวเป็นนิทานมาเล่าโดยยึดประวัติศาสตร์กระแสหลักอยู่ ขอหื้อตีกรอบ "พระนเรศ วรราชา" แค่ชื่อของกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาท่านยังเรียกไม่ถูกต้องกันเลย ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดของเมืองอโยธิยาได้มาเหยียบแผ่นดินเชียงรายแม้แต่คนเดียวครับ และในขณะนั้นกองทัพล้านนาก็ได้ไปถล่มอโยธิยามาแล้ว (ไปกับทัพพม่า) ขออย่าได้โยงเป็นละครเรื่องเดียวกันเลยครับ มันคนละฉากคนละภาคกันครับ แล้วที่เชียงรายก็สร้างอะไรต่อมิอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นไปตามประวัติศาสตร์กระแสหลักทั้งหมด จนลืมวีรบุรุษขุนพลกษัตริย์ของเมืองตัวเองหมดแล้ว ขนาด "อนุสาวรีย์พญามังราย" เรียกว่า "อนุสาวรีย์" แต่พระรูปสมเด็จย่าเรียกว่า "พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จย่า" ขอสิทธิ์นี้ให้กษัตริย์ล้านนาหน่อยครับ ผมอยากเห็นอนุสารีย์ ศาล หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประวัติศาสตร์กระแสตรงล้านนาบ้างได้ไหมครับ

ผมมีเอกสารอยู่ในมือ "จดหมายเหตุเมืองเชียงราย" ของพระครูปัญญาลังการ วัดศรีบุญเรือง เวียงเชียงราย จารต้นฉบับเมื่อ ๑๐๐ กว่าปีก่อน กล่าวถึง "กิ่วตั๊บยาง" อย่างชัดเจน ไม่มีคำว่า "กิ่วทัพยั้ง" แม้แต่ตัวเดียว ปริวรรตโดย อ.บุญยัง ชุมศรี (ถึงแก่กรรม) ตรวจทาน อ.ชรินทร์  แจ่มจิตต์ รับรองความถูกต้อง อ.อินทร์  สุใจ จัดทำขึ้นปี ๒๕๒๕ ติดตามข้อมูลในวารสารล้อล้านนา ขอฝากไว้ให้คิด

ขอสูมาแต้ๆ ผมเชื่อได้ว่าอาจจะเคืองใจหลายๆ ท่าน แต่ฐานะคนเชียงราย จะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์บิดเบือนครับ

ด้วยความเคารพ
บ.ก.ล้อล้านนา

ผมว่ากำเรียกขานมันคงเพี้ยนไปตามยุคสมัยละครับ
จริๆแล้วคำว่า"กิ่วตั๊บยาง" ถ้าเอามาฮ้องแตน กิ่วทัพยั้ง
น่าจะมีเสน่ห์เป๋นเอกลักษณ์ของอ.แม่จันขนาด
ป.ล. ตะวาลุกเจียงใหม่มา ปะแม่อุ้ยขึ้นรถเมล์เขียว มากับหลาน
อู้กับคนอื่นอู้เมืองแหลวแล้ด พออู้กับหลาน ดันมาอู้ไท(ปะแล้ดแหมต่างหาก)
...ก้ายง่าว..อิอิ