เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 กรกฎาคม 2025, 16:54:16
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์
| |-+  ยา เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
| | |-+  ราคา ถูก ที่สุด !! __High, Ultra Energy Now__ ลดนํ้าหนัก, ลดความอ้วน, รีวิวเยอะ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 พิมพ์
ผู้เขียน ราคา ถูก ที่สุด !! __High, Ultra Energy Now__ ลดนํ้าหนัก, ลดความอ้วน, รีวิวเยอะ  (อ่าน 5615 ครั้ง)
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 07 มิถุนายน 2013, 16:43:52 »

มา ๆ  ๆ
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 08 มิถุนายน 2013, 10:48:21 »

^^
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 10 มิถุนายน 2013, 09:28:18 »

สั่งกันเข้ามาได้เรื่อย ๆ นะค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2013, 09:03:15 »

 แลบลิ้น แลบลิ้น แลบลิ้น
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 13 มิถุนายน 2013, 12:39:52 »

พร้อม ส่ง มาก ๆ ค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 14 มิถุนายน 2013, 09:45:57 »

Ultra Energy Now

Ultra Energy Now

Ultra Energy Now แฟนเพจ

Ultra Energy Now

Ultra Energy Now

Ultra Energy Now เว็บไซต์

Ultra Energy Now

Ultra Energy Now

Ultra Energy Now Meedmoh

Ultra Energy Now

Ultra Energy Now


 ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 15 มิถุนายน 2013, 15:27:41 »


 ตกใจ ตกใจ ตกใจ
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 19 มิถุนายน 2013, 09:30:02 »

 ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 21 มิถุนายน 2013, 15:16:55 »

 ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2013, 15:08:25 »

 ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 26 มิถุนายน 2013, 09:56:46 »

 ฮืม ฮืม ฮืม
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2013, 10:18:02 »

 ตกใจ ตกใจ ตกใจ
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2013, 08:42:18 »

 จุมพิต จุมพิต จุมพิต
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 03 กรกฎาคม 2013, 09:22:04 »

^^
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 06 กรกฎาคม 2013, 15:01:40 »

 ตกใจ ตกใจ ตกใจ
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 09 กรกฎาคม 2013, 14:41:03 »


 ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 11 กรกฎาคม 2013, 09:14:10 »

 จุมพิต จุมพิต จุมพิต
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2013, 09:27:51 »

การอดอาหารคือ การลดน้ำหนักแบบผิดๆ แต่มื้อเย็นเป็นมื้อที่สาวๆ กลัวอ้วนกันที่สุด

การลดน้ำหนัก วิธีที่ 1. ไม่ควรงดอาหารมื้อเย็น
สาวๆ หลายท่านชอบลดน้ำหนักด้วยวิธีการงดอาหารเย็น ซึ่งไม่ควรค่ะ นอกจากจะหิวแล้ว ยังไม่ทำให้ น้ำหนักลด เท่าไรค่ะ เนื่องจากเมื่อถึงเวลาอาหาร โดยปกติร่างกายจะหลั่งกรดออกมาเพื่อทำการย่อยอาหาร ดังนั้น เมื่อไม่มีอาหารในกระเพาะ น้ำย่อยก็จะมาย่อยกระเพาะแทน เราจึงควรลดมากกว่างด เลือกทานอาหารเบา ๆ หรืออาหารที่ให้พลังงานน้อยที่สุด อย่างเช่น เน้นผักและผลไม้ ส่วนเนื้อสัตว์ติดไขมัน ของมัน ๆ ทอด ๆ ควรงดจะดีกว่านะคะและเวลาที่ควรทานคือหกโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม ไม่ควรทานดึกกว่านี้

การลดน้ำหนัก วิธีที่ 2. หลังทานอาหารเย็นไม่ควรออกกำลังกายต่อทันที
บาง ท่านกลัวอ้วน หลังทานอาหารเย็นจึงออกกำลังกายทันที ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ควรนัก ถ้าเราทานอาหารภายในเวลา 1-2 ช.ม. แล้วไปออกกำลังกายทันที อาจทำให้เราเกิดอาการจุกได้ ถ้าเป็นไปได้ควรเดินเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร่ง เพราะเวลาเราเดินลำไส้จะมีการขยับตัว อาหารก็จะย่อยง่ายและยังเป็นการใช้พลังงานไปในตัวอีกด้วย เป็นแนวทางที่ดีในการปฏิบัติจะได้ไม่อ้วนนะคะ...ส่วนสาว ๆ ที่ต้องการออกกำลังกายหลังเลิกงาน เป็นต้นว่าไปเข้าฟิตเนส จะมีหลักการทานมื้อเย็นอย่างไร ความจริงแล้วถ้าคิดจะออกกำลังกายในช่วงเย็น พอเลิกงานควรทานอาหารเบาๆ อาหารที่ย่อยง่าย เคี้ยวให้ละเอียด เว้นประมาณ 1-2 ช.ม. ก่อนการออกกำลังกาย งดอาหารย่อยยาก เช่น ของมัน ของทอด อาหารที่มีกะทิเหล่านี้จะย่อยยาก

การลดน้ำหนัก วิธีที่ 3. หลังอาหารเย็นไม่ควรอาบน้ำในทันที
เพราะ เมื่อเราทานอาหาร ขณะที่อาหารกำลังย่อย กระเพาะต้องทำงาน เลือดต้องถูกไปหล่อเลี้ยงกระเพาะเพื่อช่วยในการย่อย ถ้าเราไปอาบน้ำทันทีหลังอาหาร ซึ่งโดยปกติแล้วมนุษย์เป็นสัตว์เลือดอุ่น เมื่อร่างกายโดนน้ำเย็น ๆ ก็จะทำให้เลือดจำเป็นต้องมาที่บริเวณผิวหนัง เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ดังนั้นแล้วเลือดจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งแน่นอนว่า มันต้องถูกแบ่งมาที่ผิวหนังก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้เลือดส่งไปที่กระเพาะได้น้อย สิ่งที่เกิดขึ้นคือระบบการย่อยทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ท้องจะอืด แน่นท้อง จุก จึงควรเว้นอย่างน้อยที่สุด 30 นาที และทางที่ดีที่สุดต้องประมาณ 1 ชม. สำหรับอาหารที่ย่อยง่าย และ 2 ช.ม. ถ้าเรารับประทานอาหารที่ย่อยยาก

การลดน้ำหนัก วิธีที่ 4. หากสาวๆ ต้องการ ลดความอ้วน ด้วยให้ทานผักหรือผลไม้ในมื้อเย็น
ผู้ที่ต้องการ ลดน้ำหนัก มื้อเย็นอาจทานเป็นผักผลไม้ และจะต้องไม่เลือกผลไม้ที่เป็นกรด เพราะขณะท้องว่างร่างกายจะมีกรดมากอยู่แล้ว และเลี่ยงการทานผักหรือผลไม้ดิบขณะท้องว่าง เพราะจะทำให้ท้องอืดได้ แนะนำว่าให้ทานผักสุก เช่น การลวก การต้ม แกงจืด หรือยำที่รสชาติไม่จัดมาก เช่น ยำแตงกวา ยำวุ้นเส้น ที่ไม่เผ็ดหรือ เปรี้ยวเกินไป

การลดน้ำหนัก วิธีที่ 5. อาหารมื้อเย็นที่ควรหลีกเลี่ยง
ได้แก่ อาหารที่ย่อยยาก เช่น ของมัน ของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง ถ้าต้องทานควรทานในปริมาณเล็กน้อย อาหารที่เป็นกรดมาก เพราะอาจทำให้เกิดภาวะกรดย้อนหลอดอาหารได้ สำหรับวัยผู้ใหญ่ แนะนำว่าอาหารมื้อเย็นควรเป็นอาหารย่อยง่าย มีโปรตีนสูง มีคาร์โบไฮเดรตบ้าง แต่ไม่ต้องมาก เช่น ข้าว ข้าวซ้อมมือ (จะทำให้อยู่ท้องกว่า) ผักลวก ผักต้ม และต้องคำนึงถึงสารอาหารที่ครบทั้ง 5 หมู่ด้วยนะคะ

อย่า คิดว่าอาหารมื้อเย็นไม่สำคัญนะคะ ควรใส่ใจและให้ความสำคัญกับการเลือกทานมื้อเย็นให้มาก แต่ต้องทานแค่พอเหมาะไม่ทานจุเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนแล้วยังมีอีกหลายโรคตามมาจากการทานอาหารมื้อเย็นที่ ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ นอกจากนี้แล้วยังส่งผลถึงคุณภาพการนอนอีกด้วย อย่าลืมว่าตอนกลางคืนเราแทบจะไม่ได้ใช้พลังงานเลย อดก็เป็นโรค ทานมากเกินไปก็เป็นโรค ควรทานให้พอเหมาะพอดีนะคะ ดังคำกล่าวที่ว่า "อโรคยา ปรมา ลาภา" ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ



Cr. Pantip
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #38 เมื่อ: วันที่ 17 กรกฎาคม 2013, 13:19:35 »





Yo-Yo Effect คือ อะไร
    โย-โย่ เอฟเฟค คือ การเรียกขานที่เปรียบเทียบปรากฏการณ์ที่เกิดหลัง การลดน้ำหนัก กับการเล่นลูกดิ่งโย-โย่ เมื่อคนอ้วนที่พยายาม ลดความอ้วน จนกลายเป็นคนผอม แต่ผอมอยู่ได้ไม่นานก็กลับไปอ้วนอีกครั้ง ต้องเพียร พยายามลดกันให้ผอมลงใหม่ และพบว่าครั้งนี้ต้อง ใช้ความพยายามมากกว่าครั้งก่อน ๆ เพราะว่าอ้วน เร็วขึ้น มิหนำซ้ำยังอ้วนมากกว่าเก่า เป็นอย่างนี้อยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกับลูกดิ่งที่เมื่อปล่อยจากมือลงสู่พื้นแล้วก็จะม้วนตัวกลับมาสู่มือของเราอีก ยิ่งปล่อยลูกดิ่งออกไปแรงและไกลเท่าไร ลูกดิ่งก็จะกลับคืนสู่มือเร็วเท่านั้น

โย-โย่ เอฟเฟค เกิดขึ้นได้อย่างไร
ความจริงข้อหนึ่งที่เกิดในคนที่ตั้งใจจะลดความอ้วนคือ แทบไม่มีใคร เลยที่คิดจะค่อย ๆ ลดน้ำหนัก ลงทีละน้อย ๆ มีแต่คนใจร้อน อยากลดได้มาก ๆ เร็ว ๆ ทั้ง ๆ ที่การสะสมไขมันจนอ้วนนั้นต้องใช้เวลาแรมปี

    สปีดที่เหมาะสม ที่สุดใน การลดน้ำหนัก คือ ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ตัวเลขมาตรฐานที่ สวยและเหมาะสมที่สุด เพราะไม่เป็นการทรมานหรือหักโหมร่างกาย มากเกินไป คือ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ถ้าหวังมากกว่านั้นต้องระวังว่าโย-โย่เอฟเฟ็กต์ จะเกิดขึ้น
    การหักดิบด้วย การลดน้ำหนัก ให้ได้มากๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างเช่น 1-2 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ทำให้เกิดกลไกป้องกันการอดตายตามธรรมชาติ เนื่องจากการอดอาหารทำให้ร่างกายขาดอาหาร ร่างกายจึงปรับการใช้พลังงานเสียใหม่ โดยสงวนพลังงานไว้มากที่สุด(เพราะไม่รู้ว่าจะต้องอดอีกนานไหม)
    เมื่อใดก็ตามที่เราเลิกอด แล้วเริ่มกลับมากินใหม่ ร่างกายก็จะเร่งสะสมพลังงานไปเก็บไว้ในรูปของไขมัน จนอ้วนเด้งขึ้นเหมือนลูกดิ่ง ทั้งนี้เป็นความรอบคอบและวางแผนล่วงหน้า เพื่อจะได้ไม่ขาดอาหารจนตายของร่างกายนั่นเอง


การเกิด โยโย่  ต้องเกิดจากการที่เราทาน ยาลดความอ้วน เท่านั้นมั้ย ??
    การเกิด *YOYO EFFECT* นั้นสามารถเกิดจากการที่เราพยายามควบคุมอาหาร เปลี่ยนชนิดอาหารได้ด้วย ไม่ได้เกิดจากการทานยาลดความอ้วนได้เพียงอย่างเดียว
    อันที่จริงแล้วมันคือสภาวะการขาดความสมดุลของร่างกายนั่นเอง ร่างกายของคนเรามีความสลับ ซับซ้อนมากกว่า คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งซะอีก ระบบการทำงานสามารถสั่งได้ ด้วยกิจวัตรประจำวัน สมดุลเคมี ฮอร์โมนจาก ต่อมไร้ท่อ ระบบประสาทส่วนกลาง และอื่นๆอีกมากมาย ร่างกายคนเราอาศัยความเคย ชินกับปริมาณอาหารและปริมาณแคลลอรี่ ที่ได้รับในแต่ละวัน รวมทั้งกิจกรรมที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองในแต่ละวัน กำหนดขนาดการเมตาบอลิซึ่ม (การเผาผลาญพลังงาน)
    ซึ่งจะต้องทำงานควบคุมกับการผลิต ฮอร์โมนบางตัวจากต่อมไร้ท่ออย่างไทรอยด์ฮอร์โมน เพื่อควบคุมการเผาผลาญพลังงาน ความสมดุลของการกิน การใช้พลังงานและระดับไทรอยด์ฮอร์โมน ในคนปกติจะแตกต่างจากผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ (มี 2 แบบ คือทำงานมากไปกับน้อยไป ถ้ามากไปจะกระตุ้นให้เมตาบอลิซึ่มมากเกินไป จะผอม ใจสั่น เหนื่อยง่าย ถ้าน้อยไปจะอ้วนง่าย เฉื่อยชา หนาวง่าย เพราะเมตาบอลิซึ่มน้อยเกินไป)
    การลดน้ำหนักโดยการลดปริมาณอาหารที่ ทาน หรือเปลี่ยนชนิดอาหาร เพื่อควบคุมแคลลอรี่ที่ได้รับให้แต่ละวัน เป็นวิธีที่นิยมและน่าจะไม่เป็นอันตราย อย่างสูตร สามวันเจ็ดวันที่เห็นๆกันอยู่
    มันก็เป็นวิธีที่ดีและถูกต้อง เช่น ปกติเราใช้พลังงานวันละ 800-1200 kcal ถ้าเราทานอาหารวันละ 400 kcal เราก็จะสามารถดึงเราของเก่าที่สะสมใน ร่างกายเราออกมาใช้ได้วันละ 400-600 kcal
    แต่.. เมื่อเราลดปริมาณอาหารลงอย่างรวดเร็วอย่างนี้ติดต่อกันสัก 3 วัน ร่างกาย จะรับรู้ไปว่า ชั้น...กำลังจะอดตาย ช่วยด้วย !!! จะลดการเผาผลาญ พลังงานลง จากวันละ 800-1200 kcal เป็น 400-600 kcal เพื่อกักเก็บไอ้ที่เราสะสมไว้ให้มากที่สุด
    แล้วน้ำหนักก็จะลดลงในระยะแรกเร็วมาก แต่พอซักระยะ มันก็ไม่ลงซักขีด ก็จะท้อ พอดีกว่า กลับมากินอย่างเดิม อาหารแบบเดิม ยัดเข้าไปวันละ 1200 kcal
    แต่... ร่างกายที่กำลังจะอดตายของเรากลับยังเผาผลาญวันละ 400 kcal เท่านั้นเอง หมายความว่าเราเหลือวันละ 800 kcal ที่เปลี่ยนเป็นไขมันไปกักเก็บตามส่วนต่าง ๆ จากที่ลดไป 9 กิโล ก็สามารถกลับมาเพิ่มอีก 15 กิโลได้อย่างง่ายดาย
    ดังนั้น วิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลในระยะยาวคือการควบคุมอาหารอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับออกกำลังกายค่ะ เพื่อคงระดับการเมตาบอลิซึ่มให้พอดี กับอาหารที่ทาน และกิจกรรมที่ทำ
    อย่าง สูตรต่าง ๆ 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง 15 วันบ้าง ไม่ใช่ไม่ดี ทำได้ แถมลดเร็วด้วยเป็นกำลังใจให้คนลดความอ้วนอย่างมากเลย แต่หลังจากสูตรนั้นแล้วก็ขอให้ยังคงควบคุมปริมาณ อาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายชินกับปริมาณอาหารที่ได้รับ จนไม่เกิดอาการคิดว่าจะอดตายแล้ว จึงค่อย ๆ ปรับมากินเท่าคนปกติ แต่จะให้ดีนี่ต้องเปลี่ยน อุปนิสัยในการกินเลย เพราะถ้าลดได้ 10 กิโล แต่ยังกลับมาทานขาหมู พิซซ่าขอบชีส จังก์ฟู๊ดต่าง ๆ มันก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่างที่ห้ามลืม คือ ระดับการเมตาบอลิซึ่ม ยิ่งอายุมากก็จะยิ่งน้อยลง
สรุปว่า ยิ่งเรามีอายุเพิ่มขึ้น เราก็ยิ่งต้องหาทางเพิ่มกระบวนการนี้เพื่อให้เกิดความสมดุลในร่างกาย


ที่มา : Women.Thaiza
IP : บันทึกการเข้า
plengiiz
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142


« ตอบ #39 เมื่อ: วันที่ 18 กรกฎาคม 2013, 09:05:34 »

 ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์ ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!