อยากให้คนไทยได้อ่าน Chemtrail หรือเมฆสารพิษ ผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นภัยต่อมนุษย์

[[T][o][d]SaPhon]

รู้ตัวหรือไม่ว่า เรากำลังหายใจเอาอากาศที่มีสารพิษปนเปื้อนอยู่ !!! ใช่ค่ะ มันอยู่บนหัวคุณน่ะแหละ  หากคุณแหงนมองบนฟ้า รับรองว่าต้องมีซักวันนึงในหนึ่งอาทิตย์ ที่คุณจะเห็นเมฆที่เป็นเส้นยาวๆ หรืออาจจะโป๊ะเช๊ะได้เห็นเครื่องบินกำลังพ่นมันอยู่อย่างหน้าด้านๆ แบบที่รูปภาพด้านล่าง เค้าทำมันบ่อยมากๆ เห็นมันแทบจะทุกวัน โดยเฉพาะตอนเช้าๆ  ไอ้เมฆเคมีนี้มันเรียกว่า Chemtrails หรือภาษาไทยเรียกว่าเมฆเคมี  จริงๆแล้วไอ้โครงการสเปรย์ยาพิษนี่มันมีมาหลายปีแล้วในหลายประเทศทั่วโลก แต่ตอนนี้เราเริ่มเห็นมันมากจนเว่อร์แล้วในกรุงเทพ  ลองมาดูรูปที่เฟิร์สตื่นมาถ่ายได้พอดีในเช้าวันนึง

นี่คือรูปแรก ตื่นมาจ๊ะเอ๋กับมันตอนเช้าช่วง 7 โมง โอ้โห อึ้งกันเลยทีเดียว ม่างมีตั้ง 3 เส้น แล้วดูมันกำลังทำอีกเส้นนึง ดู ดู๊ ในวงกลมสีเหลืองน่ะ



กำัลังพ่นอย่างต่อเนื่อง เป็นเส้นยาว



ยาวเลยพี่น้อง


ผ่านไปซักพัก ไอ้เส้นนี้ก็กลายเป็นเส้นใหญ่ขึ้น เอียงไปทางซ้ายเล็กน้อย เนื่องจากโดนลมพัด หลังจากนั้นซัก 15 - 20 นาีที มันก็กำลังขยายใหญ่ขึ้น


พอจะเห็นแล้วนะคะ ภาพของเมฆเคมี ที่เรียกว่า "เมฆเคมี" ก็เพราะว่า เจ้าเมฆเส้นขาวๆยาวๆที่เค้าพ่นมันออกมา มันเต็มไปด้วยสารพิษที่เป็นผลเสียแก่ร่างกาย บางข้อมูลบอกว่ามันเทียบได้กับอาวุธชีวภาพดีๆนี่เองเลยล่ะ มันทำลายทุกชีวิตบนโลกนี้ ทั้งคน สัตว์เีลี้ยง และพืช มีการบันทึกไว้ในปี 2001-2003 ว่าสัตว์เลี้ยงของชาวอเมริกันนั้นไม่ยอมออกจากบ้านในทุกๆพื้นที่ของประเทศอเมริกา  แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกมันคุ้นชินจนยอมรับกับสภาพมลภาวะที่เลวร้ายได้แล้ว

ลองมาดูซิว่าเค้ากำัลังยัดเยียดสารพิษอะไรบ้างในอากาศให้เราหายใจเข้าไป



1.แบเรียมคลอไรด์ (Barium)
     เป็นสารทำลายหัวใจ ประสาท ไต ระบบทางเดินอาหาร ไขกระดูก ม้าม ตับ เมื่อหายใจเอาไอ้สารแบเรี่ยมคลอไรด์เข้าไปจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ระดับโปแตสเซียมในโลหิตต่ำกว่าปกติ ทำให้อ่อนเพลีย กล้ามเนื้อไม่มีแรง ท้องอืด คลื่นไส้ ปวดท้อง ความดันโลหิตสูงขึ้น เจ็บคอ หายใจติดขัด และหากระดับโปแตสเซียมต่ำมากๆ จะเกิดอาการกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรงถึงอัมพาต ถ้าอัมพาตที่กล้ามเนื้อหายใจ จะทำให้หยุดการหายใจ, คลื่นหัวใจผิดปกติ  สัมผัสถูกผิวหนังจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ถ้าสัมผัสนานๆจะทำให้ระดับของโปแตสเซียมในโลหิตลดต่ำลง รวมทั้งมีอาการคลื่นไส้ ปวดท้องเกิดผื่นแดงและปวดได้ มีการทดสอบสารแบเรี่ยมในน้ำ พบว่าในน้ำมีสารแบเรี่ยมปนเปื้อนอยู่มากกว่าที่กำหนดให้ใช้ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

2.สารหนู (Arsenic)
สารหนูพบได้ในพวกยาฆ่าแมลง เป็นสารก่อมะเร็งที่ผิวหนังและปอด ทำลายตับ ไต ปอด ระบบหายใจ เลือด ก่อให้เกิดเนื้องอกการหายใจเข้าไปจะก่อให้เกิดอันตราย เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจส่วนบน และเป็นพิษเมื่อสารดูดซึมสู่ผิวหนัง

3. สารปรอท
สารนี้มีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง ถูกจัดให้เป็นสารก่อมะเร็งต่อมนุษย์และเป็นสารก่อมะเร็งในสัตว์ระบบการย่อยอาหาร ไต โลหิต หัวใจ การเจริญพันธุ์ การพัฒนาการของทารกในครรภ์สัมผัสทางหายใจ หายใจเข้าไป จะทำให้ปวดศีรษะ เมื่อยล้า คลื่นไส้ ปวดท้อง ปวดข้อต่อ อาเจียน ท้องผูก นอนไม่หลับ อุจจาระเป็นเลือด การสะสมของตะกั่วทำให้เป็นโรคแพ้พิษตะกั่ว

4. Aluminum
     จากการทดลองในสัตว์พบว่า เซลล์สมองของสัตว์ที่ได้รับอลูมินั่นนั้นโดนบล๊อค เกิดภาวะสมองเสื่อม เพราะความเป็นพิษของอลูมิเนียมทำให้เกิดการสูญเสียความทรงจำ ทำให้เป็นอัลไซเมอร์ และยังส่งผลทำให้ระบบขับถ่ายแย่ลงด้วย



นอกจากนี้ยังพบโรคที่เกิดจาก Chemtrail อีก คือ  Morgellons disease คือโรคที่มีไฟเบอร์อยู่ใต้ผิวหนัง ไปเจอข้อมูลในเว็บหมอชาวบ้าน บอกว่าโรคนี้ไม่มี๊ ไม่มีจริง คนป่วยคิดไปเองว่าตัวเองน่ะมีไฟเบอร์ใต้ผิวหนัง  แล้วก็พยามแคะแกะเกา เอาไฟเบอร์ออกมาให้ได้  แต่จากเว็บต่างประเทศ บอกว่าโรคนี้เป็นเรื่องจริง ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ที่มือ เค้าไปหาหมอและพบไฟเบอร์จริงๆ แบบในรูป  และนักวิทยาศาสตร์ก็เป็นคนวิเคราะห์เส้นใยไฟเบอร์ที่ว่านี้ และก็ต้องต๊กใจหลังจากพบว่าไอ้เจ้าไฟเบอร์ที่พบนั้น เป็นเส้นใยลึกลับไม่เคยพบเห็นไฟเบอร์ประเภทนี้มาก่อน ! ลองดูรูปไฟเบอร์ส่องกล้องนี้





คนที่เป็นโรคนี้นั้นถือว่าโชคร้ายสุดๆนะ เพราะนอกจากจะมีไฟเบอร์ประหลาดมาอยู่ใต้ผิว ไปหาหมอยังโดนบอกว่าเป็นโรคจิตคิดไปเอง ไหนจะต้องเสียเงินค่ายารักษาโรคจิต ยังต้องกลับบ้านมาแคะออกเองอีก สาธุ ขออย่าได้เกิดกับเฟิร์สเลย เฮ้อ..

เหตุผลนึงที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นจริง แต่จากข้อมูลหลายๆข้อมูลที่พบเกี่ยวกับ Chemtrails  บอกว่า 1 เหตุผลหลักที่เราโดนยัดเยียดสารพิษพวกนี้ ก็คือการสมคบคิดกันระหว่างโรงพยาบาลกับรัฐบาล เพราะเมื่อ วันนึงเกิดเราป่วยขึ้นมา ก็ต้องไปหาหมอ เสียค่ารักษาพยาบาล  เพราะจริงๆแล้วหมอก็คือนักธุรกิจที่หากินกับคนป่วย  คงไม่ใช่ความฝันสูงสุดของอาชีพหมอ ที่จะให้โลกนี้จะมีแต่คนสุขภาพดี

อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ เพื่อการลดจำนวนประชากร ที่ตอนนี้กำลังดำเนินการลดอยู่ตามเป้าหมายที่ต้องการลดลง 80 % เลยทีเดียว (Georgia Guidestones)


น่าแปลกใจ ที่คนไทยส่วนใหญ่เหมือนจะตาบอด แม้แต่ในเว็บพันทิพที่ดังๆในห้องหว้ากอ ที่ดูเหมือนจะชอบค้นหาความจริง ก็ยังไม่มีใครพูดถึงมัน เคยพยามโพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้งนะ แ่ต่ก็เงียบยิ่งกว่าเป่าสาก ..

แต่ถ้าคุณเสิร์ชดูหาคำว่า Chemtrails ใน Google เอย YouTube เอย คุณจะพบข้อมูลมหาศาล  ลองเริ่มจากแหงนหน้ามองขึ้นฟ้าทุกๆวัน คุณจะเห็นมันแน่ๆ  ทั่วโลกเค้าตื่นตัวกันมากแล้วค่ะ และเค้ากำลังรณรงค์ให้หยุดการกระทำทุเรศนี้ให้จงเร็วซะที

สิ่งที่เราทุกคนทำได้ในตอนนี้ก็คือพยายามกระจายข้อมูลให้เพื่อนๆของคุณหรือคนที่คุณรู้จัก ให้ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณเองก็ควรที่จะค้นหาข้อมูล อัพเดทตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้มากๆ และอย่าลืมแหงนหน้ามองบนฟ้าเื่รือ่ยๆ เพราะอย่างน้อยคุณก็จะได้รู้ ได้เห็นเองว่า Chemtrails นั้นมันมีอยู่จริงหรือไม่ และเค้าทำมันตอนไหน เยอะขนาดไหน



.ขอลาไปด้วยภาพ Chemtrails ที่ภูเก็ต  
มีฝรั่งคนนึงใช่ชื่อว่า Robinhoodlum เค้าเก็บภาพไว้ได้แล้วเอามาลงในยูทูป  เค้าพูดบรรยายภาพตลอดและมีคำเขียนอธิบายใต้ภาพด้วย ถึงเค้าไม่ได้บอกว่าเค้ารู้สึกยังไง แต่ก็พอจะเข้าใจว่าคงรู้สึกไม่ต่างกัน ความรู้สึกที่เวลาเห็นไอ้เครื่องบินมันกำลังพ่น Chemtrails   หรือจะเห็นตอนที่มันทำเสร็จแล้วก็ตาม มันเกิดความรู้สึกโกรธในใจ สลด หดหู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เป็นความอึดอัดที่โคตรแย่จริงๆ

[[T][o][d]SaPhon]

ผมเห็นบ่อยมากที่ นครสวรรค์ แต่ก็ได้แต่สงสัย จนเพื่อนๆในกลุ่ม นักวิจัย ยูเอฟโอประเทศไทย(ในเฟชบุค) หาข้อมูลมาให้

[kasama]

ทำ ทำไมเนอะ 

[[T][o][d]SaPhon]

ทำ ทำไมเนอะ 

ตามนี้

[แมวเมียวๆแมวเมี๊ยวๆ]

แย่แล้วคับ

[เมฆพัตร]

ถ้าไม่ได้เขียนเอง ก็น่าจะแนบ link ข้อมูลอ้างอิงด้วยน่ะครับ

อย่างน้อยก็ให้เครดิตคนเขียนบ้าง เพื่อผู้ที่สนใจ จะได้หาข้อมูลเพิ่มเติม

และจะได้ตามลิงค์ไปได้

*****************************
ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวสักหน่อย

1.ถ้าเป็นสารเคมีจริง ทำไหมเขาต้องมาพ้นที่แถวรังสิต เสี่ยงต่อการพบเห็น

และอยู่ใกล้ชุมชนเมืองอย่างมาก ทำไหทไม่ไปโปรยแถวนครนายก สระบุรี

หรืออยุทธยา  หรือไปโปรลงอ่าวไทยยังได้ มาโปรยแถวรังสิตแบบนี้ไม่สมเหตุสมผล

2.ช่วงระยะเวลาการโปรยเป็นช่วงเดือน 6 คือ เดือนพฤษภาคม เป็นไปได้หรือไม่ ว่าสาร

เคมีเหล่านั้นเกี่ยวกับการทำฝนเทียม

3.สำหรับประเทศผมก็ยังคิดว่าถ้าจะใส่เครื่องบินไปโปรยบนอากาศ สู่ขุดหลุมฝังตามพื้นดิน

น่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า

[[T][o][d]SaPhon]

ถ้าไม่ได้เขียนเอง ก็น่าจะแนบ link ข้อมูลอ้างอิงด้วยน่ะครับ

อย่างน้อยก็ให้เครดิตคนเขียนบ้าง เพื่อผู้ที่สนใจ จะได้หาข้อมูลเพิ่มเติม

และจะได้ตามลิงค์ไปได้

*****************************
ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวสักหน่อย

1.ถ้าเป็นสารเคมีจริง ทำไหมเขาต้องมาพ้นที่แถวรังสิต เสี่ยงต่อการพบเห็น

และอยู่ใกล้ชุมชนเมืองอย่างมาก ทำไหทไม่ไปโปรยแถวนครนายก สระบุรี

หรืออยุทธยา  หรือไปโปรลงอ่าวไทยยังได้ มาโปรยแถวรังสิตแบบนี้ไม่สมเหตุสมผล

2.ช่วงระยะเวลาการโปรยเป็นช่วงเดือน 6 คือ เดือนพฤษภาคม เป็นไปได้หรือไม่ ว่าสาร

เคมีเหล่านั้นเกี่ยวกับการทำฝนเทียม

3.สำหรับประเทศผมก็ยังคิดว่าถ้าจะใส่เครื่องบินไปโปรยบนอากาศ สู่ขุดหลุมฝังตามพื้นดิน

น่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า

ผมกอปมากจากในเฟสอีกที เครดิตคนเขียนเป็นใครผมก็ไม่ทราบครับ ต้องขออภัยด้วย 

ข้อสงสัย 1  2 3 คุณ ผมขอตอบตามความคิดผมนะ 1 มันมีทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะรังสิต ภูเกตก็มีถามน้องตอนเย็นนี้มาแลวด้วย  ที่นครสวรรค์ผมก็เห็น เขาชอบปล่อยกลางใจเมืองที่มีคนหนาแน่น 2  ขุดหลุม เหรอ ผมว่ามันยากไปมั้งสำหรับคนมีตัง  โปรยให้กระจายทางอากาศ ง่ายกว่ามั้ง ไม่มีใครแหงนมองฟ้าตลอด  หากมองก็คิดว่าเป็นเพียงเครื่องบิน และมันก็ทำให้คนคิดว่าเป็นการทำฝนเทียม หรือเมฆ เหมือนที่ผมเคยคิดและ ถ้าฝังมันจะกระจายในวงกว้างได้ยังไง ละ  ครับ

[music1255]

เวงกำ น่ากลัวมากๆเลย

[AserityShop]

เชียงรายมีไหมหนอ ขออย่ามีเลยเนาะ 

[Kodchaporn009]

ที่บ้านเราก็เคยเห็นควันขาวแบบนี้นะ จำได้ไหมที่เราเคยถามกันว่านี่คือควันอะไร

[Maxza555]

ที่บ้านเราก็เคยเห็นควันขาวแบบนี้นะ จำได้ไหมที่เราเคยถามกันว่านี่คือควันอะไร

เขาเผาหญ้าแห้งหรือเปล่าว ?

[Girl-Hair]

ความคิดส่วนตัวนะค่ะเรื่องแบบนี้รัฐบาลไม่ทราบเรื่องเหรอค่ะ ปล่อยให้ทำมันอยู่ได้ น่าสงสัยนะ

[ปวดตับ]

อ๋อ .... ที่โพสถามกันบ่อยๆนั่นไงครับ

ที่ว่าเมฆทำไมเป็นเส้นตรงแหน่วเลย มีทั่วฟ้าเมืองไทยเลย

ถามว่าทำไปทำไม ก็ไม่มีใครรู้

[MarkGclass]

ไม่มีเหตุผลเลยครับว่าใครจะต้องทำอะไรแบบนี้
ถ้าเป็นเรื่องจริงก็คงมีองค์กร ngo เอย hrw เอย who เอย 40สว เอย
ออกมาประท้วงกันใหญ่โตแล้วล่ะครับ
จขกท.คิดมากไปเองมากกว่า มองโลกแง่ร้ายมากไปปะเนี่ย

[Four_DKT]

ผมก็เห็นหลายๆ โพส ไม่ค่อยใส่เครดิต เท่าไร ไม่มี ลิ้ง บอกที่มา

[เมฆพัตร]

พอดีติดงานเลยมาตอบช้า ยิ่ง จขกท มาตอบยิ่งมีข้อสงสัยมากมาย

ถ้าไม่ได้เขียนเอง ก็น่าจะแนบ link ข้อมูลอ้างอิงด้วยน่ะครับ

อย่างน้อยก็ให้เครดิตคนเขียนบ้าง เพื่อผู้ที่สนใจ จะได้หาข้อมูลเพิ่มเติม

และจะได้ตามลิงค์ไปได้

แก้ไขเพิ่มรูปน้องยุนอาค่ะ ^__^

*****************************
ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวสักหน่อย

1.ถ้าเป็นสารเคมีจริง ทำไหมเขาต้องมาพ้นที่แถวรังสิต เสี่ยงต่อการพบเห็น

และอยู่ใกล้ชุมชนเมืองอย่างมาก ทำไหทไม่ไปโปรยแถวนครนายก สระบุรี

หรืออยุทธยา  หรือไปโปรลงอ่าวไทยยังได้ มาโปรยแถวรังสิตแบบนี้ไม่สมเหตุสมผล

2.ช่วงระยะเวลาการโปรยเป็นช่วงเดือน 6 คือ เดือนพฤษภาคม เป็นไปได้หรือไม่ ว่าสาร

เคมีเหล่านั้นเกี่ยวกับการทำฝนเทียม

3.สำหรับประเทศผมก็ยังคิดว่าถ้าจะใส่เครื่องบินไปโปรยบนอากาศ สู่ขุดหลุมฝังตามพื้นดิน

น่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า

ผมกอปมากจากในเฟสอีกที เครดิตคนเขียนเป็นใครผมก็ไม่ทราบครับ ต้องขออภัยด้วย  

ข้อสงสัย 1  2 3 คุณ ผมขอตอบตามความคิดผมนะ 1 มันมีทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะรังสิต ภูเกตก็มีถามน้องตอนเย็นนี้มาแลวด้วย  ที่นครสวรรค์ผมก็เห็น เขาชอบปล่อยกลางใจเมืองที่มีคนหนาแน่น 2  ขุดหลุม เหรอ ผมว่ามันยากไปมั้งสำหรับคนมีตัง  โปรยให้กระจายทางอากาศ ง่ายกว่ามั้ง ไม่มีใครแหงนมองฟ้าตลอด  หากมองก็คิดว่าเป็นเพียงเครื่องบิน และมันก็ทำให้คนคิดว่าเป็นการทำฝนเทียม หรือเมฆ เหมือนที่ผมเคยคิดและ ถ้าฝังมันจะกระจายในวงกว้างได้ยังไง ละ  ครับ

1.ผมขอถามหน่อยถ้าเป็นสารเคมีจริง เขาจะมาปล่อยทำไมใจกลางเมือง เพราะเสี่ยงต่อการผม

เห็นคุณก็ยังไม่ตอบคำถามเลยหรือฝากถามเพื่อนคุณด้วยน่ะครับ

2.การขุดหลุมฝังนี้มันยากตรงไหนครับ ค่าใช้จ่ายจ้างเครื่องบิน กับจ้างรถ 10 ล้อ รถขุดดินอย่าง

ไหนมันประหยัดกว่าครับ

3.โรงงานที่ผลิตยาส่วนมากก็ตั้งอยู่แทบภาคตะวันออกนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ถ้าเป็นของเสียจริง

ขนใส่เครื่องบินแล้วบินมาโปรที่เชียงรายหรือโปรยไปทั่วประเทศนี้กับใส่เครื่องบินแล้วบินออกอ่าว

ไทยไปโปรยลงอ่าวไทยระยะทางก็ใกล้กว่าบินมาเชียงราย นครสวรรค์อีก ซึ่งข้อนี้คุณก็ยังไม่ได้

ตอบคำถามผมเลย ซึ่งเหตุผลต่างๆที่ผมตั้งขอสังเกตุคุณก็ยังไม่ได้ตามคำถามผมสักข้อ

ส่วนตัวผมก็สงสัยกับคุณตั้งแต่คุณแจ้งว่า "เคยเห็นข่าวจากแหล่ง นักวิทย์เขา

บอกว่าน้ำมันที่เราใช้ ที่เขาบอกว่ามันจะหมดโลกหากใช้เยอะ มันเป็นข้ออ้างโก่งราคา   น้ำมัน

ที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการทับถมของสากพืชสากสัตว์  แต่เกิดจากใต้ผิวโลก ซึ่งมันจะไหลออก

มาไม่มีวันหมดแค่เราไปเจาะในที่ ที่มันมี" ซึ่งน้ำมันเขาก็พิสูจน์จากแหล่งข้อมูลและนัก

วิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นพลังงานฟอสซิล

ที่มาตั้งขอสังเกตุนี้เพราะมีขอสงสัยมากมายในข้อมูลที่คุณเอามาลง ถ้าจะให้ดีขอ link ก็ดีครับ

ผมจะได้ไปถามต้นต่อของบทความเลย ไม่สะดวกก็ PM มาก็ได้



ปล.แก้ไขเพิ่มรูปน้องยุนอาค่ะ

[Four_DKT]

ผมเอาแหล่งข้อมูลมา เคยได้ยินเหมือนกัน แต่ผม เชื่อแบบ นี้มาก กว่า

จากลิ้งข้างล่าง ที่ได้รับการโหวดมากที่สุด กล่าวไว้ว่า

เป็นทางไอน้ำครับจะเกิดเฉพาะเครื่องบินเจ็ทที่บินในระดับสูงครับ จำได้ไม่ค่อยแม่น
เพราะพ่ออธิบายตั้งแต่ยังไม่สิบขวบ (ป่าป๊าซ่อมเครื่องให้ทอ.จ้า) ตามลิ้งค์ข้างบนที่
ตอบไว้ค่อนข้างดีคร้บแต่อธิบาย กว้างมาก ทำให้งง
ประมาณว่าเครื่องเจ็ทปรกติจะอัดอากาศจากภายนอกในปริมาณสูงมาก เข้าด้านหน้าเตรื่อง
แล้วเข้ามารวมจุดกับ ไอน้ำมันในห้องสันดาปที่ท้ายเครื่องแล้วก็ตึ้มระเบิดเป็น กระแสเจ็ทออกทางท่อท้าย
อากาสที่อัดเข้าไปนี่มากมายมหาศาลจริงๆครับไม่ใช่ล้อเล่น ก็พอๆกับความเร็วของกระแสเจ็ทที่พุ่งออกมาละครับ
คราวนี้ความชื้นในอากาศอันน้อยนิด แต่ปริมาณอากาศมันมหาศาลก็จะถูกทำให้กลายเป็นไอน้ำ
พุ่งออกมาทางพวยกา หรือ ปนออกมากับกระแสเจ็ทที่ท่อท้ายนั่นละ
พอออกมาเจอกับความเย็น ในชั้นอากาศระดับสูงมากๆ มันก็ควบแน่นจับตัวเป็นกลุ่มก้อน
คราวนี้พอเครื่องบินเคลี่อนที่ ก็จะขีดวาดเป็นเส้นไปบนท้องฟ้าครับ เพราะฉะนั้นมันจะไม่เกิดทุกวันทุกครั้ง ครับ
หน้าหนาวจะเจอง่ายกว่าและเครื่องบินต้องบินสูงมาก และความชื้นน้อยนิดก็น่าจะพอมีส่วนด้วย
นานมากแล้วครับ
จำได้ประมาณนี้ โหตั้งแต่อยู่ป.2 น่ะ ใครแม่นกว่าก็ช่วยเสริมท้วงติงละกัน

http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20100817135444AAczxXz


ผมว่าอันนี้ มีหลักการมากกว่า เพราะ ยิ่งสูง อากาศยิ่งเย็น

[[T][o][d]SaPhon]

พอดีติดงานเลยมาตอบช้า ยิ่ง จขกท มาตอบยิ่งมีข้อสงสัยมากมาย

ถ้าไม่ได้เขียนเอง ก็น่าจะแนบ link ข้อมูลอ้างอิงด้วยน่ะครับ

อย่างน้อยก็ให้เครดิตคนเขียนบ้าง เพื่อผู้ที่สนใจ จะได้หาข้อมูลเพิ่มเติม

และจะได้ตามลิงค์ไปได้

แก้ไขเพิ่มรูปน้องยุนอาค่ะ ^__^

*****************************
ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวสักหน่อย

1.ถ้าเป็นสารเคมีจริง ทำไหมเขาต้องมาพ้นที่แถวรังสิต เสี่ยงต่อการพบเห็น

และอยู่ใกล้ชุมชนเมืองอย่างมาก ทำไหทไม่ไปโปรยแถวนครนายก สระบุรี

หรืออยุทธยา  หรือไปโปรลงอ่าวไทยยังได้ มาโปรยแถวรังสิตแบบนี้ไม่สมเหตุสมผล

2.ช่วงระยะเวลาการโปรยเป็นช่วงเดือน 6 คือ เดือนพฤษภาคม เป็นไปได้หรือไม่ ว่าสาร

เคมีเหล่านั้นเกี่ยวกับการทำฝนเทียม

3.สำหรับประเทศผมก็ยังคิดว่าถ้าจะใส่เครื่องบินไปโปรยบนอากาศ สู่ขุดหลุมฝังตามพื้นดิน

น่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า

ผมกอปมากจากในเฟสอีกที เครดิตคนเขียนเป็นใครผมก็ไม่ทราบครับ ต้องขออภัยด้วย  

ข้อสงสัย 1  2 3 คุณ ผมขอตอบตามความคิดผมนะ 1 มันมีทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะรังสิต ภูเกตก็มีถามน้องตอนเย็นนี้มาแลวด้วย  ที่นครสวรรค์ผมก็เห็น เขาชอบปล่อยกลางใจเมืองที่มีคนหนาแน่น 2  ขุดหลุม เหรอ ผมว่ามันยากไปมั้งสำหรับคนมีตัง  โปรยให้กระจายทางอากาศ ง่ายกว่ามั้ง ไม่มีใครแหงนมองฟ้าตลอด  หากมองก็คิดว่าเป็นเพียงเครื่องบิน และมันก็ทำให้คนคิดว่าเป็นการทำฝนเทียม หรือเมฆ เหมือนที่ผมเคยคิดและ ถ้าฝังมันจะกระจายในวงกว้างได้ยังไง ละ  ครับ

1.ผมขอถามหน่อยถ้าเป็นสารเคมีจริง เขาจะมาปล่อยทำไมใจกลางเมือง เพราะเสี่ยงต่อการผม

เห็นคุณก็ยังไม่ตอบคำถามเลยหรือฝากถามเพื่อนคุณด้วยน่ะครับ

2.การขุดหลุมฝังนี้มันยากตรงไหนครับ ค่าใช้จ่ายจ้างเครื่องบิน กับจ้างรถ 10 ล้อ รถขุดดินอย่าง

ไหนมันประหยัดกว่าครับ

3.โรงงานที่ผลิตยาส่วนมากก็ตั้งอยู่แทบภาคตะวันออกนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ถ้าเป็นของเสียจริง

ขนใส่เครื่องบินแล้วบินมาโปรที่เชียงรายหรือโปรยไปทั่วประเทศนี้กับใส่เครื่องบินแล้วบินออกอ่าว

ไทยไปโปรยลงอ่าวไทยระยะทางก็ใกล้กว่าบินมาเชียงราย นครสวรรค์อีก ซึ่งข้อนี้คุณก็ยังไม่ได้

ตอบคำถามผมเลย ซึ่งเหตุผลต่างๆที่ผมตั้งขอสังเกตุคุณก็ยังไม่ได้ตามคำถามผมสักข้อ

ส่วนตัวผมก็สงสัยกับคุณตั้งแต่คุณแจ้งว่า "เคยเห็นข่าวจากแหล่ง นักวิทย์เขา

บอกว่าน้ำมันที่เราใช้ ที่เขาบอกว่ามันจะหมดโลกหากใช้เยอะ มันเป็นข้ออ้างโก่งราคา   น้ำมัน

ที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากการทับถมของสากพืชสากสัตว์  แต่เกิดจากใต้ผิวโลก ซึ่งมันจะไหลออก

มาไม่มีวันหมดแค่เราไปเจาะในที่ ที่มันมี" ซึ่งน้ำมันเขาก็พิสูจน์จากแหล่งข้อมูลและนัก

วิทยาศาสตร์แล้วว่าเป็นพลังงานฟอสซิล

ที่มาตั้งขอสังเกตุนี้เพราะมีขอสงสัยมากมายในข้อมูลที่คุณเอามาลง ถ้าจะให้ดีขอ link ก็ดีครับ

ผมจะได้ไปถามต้นต่อของบทความเลย ไม่สะดวกก็ PM มาก็ได้



ปล.แก้ไขเพิ่มรูปน้องยุนอาค่ะ

ผมว่าถ้าคุณอยากรู้จริงคุณน่าจะ กอปปี้ คำว่า chemtail ไปวางในกูเกิ้ล ไม่ใช่มาตั้งคำถามขุดคุ้ยโพสเก่าๆมาพูดดูแล้วมันแสดงถึงความมีอคติในตัวผมจนผมรู้สึกได้ ซึ่งคำถามของคุณ ผมตอบไปหมดแล้ว แต่คุณอ่านหรือไม่ ถ้าคุณจะวางยาเบื่อมด คุณจะเอายาเบื่อมดไปโปรยที่อื่นที่ไม่มีมดหรือครับ เรื่องนี้ ผมก็ชี้แจงไปว่าผมตอบตามความคิดของผม ไม่ใช่กอปใครมา ดังนั้นมันอาจไม่ถูกหรือถูก  ส่วนเรื่อง น้ำมันนั้น ผมอ่านมาจากในเฟสแฟนเพจทวงคืนพลังงาน  แต่ผมก็เชื่อไม่มาก แต่สำหรับการค้าธุรกิจ บางทีคำตอบมันไม่จริงเสมอไป  ผมเองก็เปิดปั๊มน้ำมัน ผมก็เลยคิดๆว่าอาจเป็นจริง นัดวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ว่าจะไม่โดนลบล้างทฤษฏี ในทุกๆปี ทฤษฏีต่างๆโดนงานวิจัยใหม่ๆ มาลบล้างได้ทุกๆปี เช่น นักวิทยาศาตร์บอกว่า แสงเดินทางได้เร็วที่สุดในจักวาล แต่ล่าสุด เขาค้นพบว่ามีมวลสาร หรือสิ่งที่เคลื่อนที่เร็วกว่าแสง  และเคยมีนักวิทยาศารต์เคยว่าสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอยู่ในอุณหภูมิจุดเดือดได้ แต่ล่าสุดพบกุ้งอาศัยในน้ำเดือด 1000 องศา (ถ้าจำไม่ผิด)   ดังนั้นอย่ามั่นใจในความคิดของตนเองมาก ผมไม่ได้บอกเลยว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริง แต่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว   ถ้าอยากคุยเรื่องแนวนี้แอดเฟสบุคมาหาผมตามอีเมลในข้อมูลส่วนตัวเลยเดียวผมดึงเข้ากลุ่ม ให้

[bigman power]

ได้มาจากเวปนี้หรือป่าว
http://firstonfire.blogspot.com/2011/05/chemtrail.html

[ooynai 9]

  แม่อุ๊ยเกยหันของเหลวบ่ะหยั๋งก็บ่ะฮู้ตกลงมาจากฟ้าสีเหลืองๆ  หันมาสี่สิบกว่าปี๋ล่ะ  จ๋นบ่ะเด่วนี้ก็ยังหันมีอยู่  จะสังเกตได้ง่ายๆเวลารถยนต์จอดอยู่กลางแจ้งจะมีหยดของเหลวสีเหลืองๆ ตกใส่รถเป๋นประจ๋ำ  ถ้ารถสีขาวจะสังเกตหันได้ง่าย (บ่ะไจ่ขี้นกแน่ๆ) แม่อุ๊ยลองเอากระดาษทิสชู่เช็ดแล้วดมผ่อ มันเหม็นเหมือนขี้น่ะ  ไผ๋ตี้จอดรถยนต์ไว้กลางแจ้งลองสังเกตผ่อเน้อ ต๋ามกระจกหน้ารถหรือหลังคารถ จะมีหยดสีเหลืองน้อยๆอยู่ ยิ่งรถตี้จอดอยู่กลางแจ้งเมินๆแซ้มฮ้าย  บ่ะฮู้ว่ามันจะไจ่ฝนเหลืองสารเคมีที่เป๋นพิษตี้ไจ้ในสงครามมืดก่อ