.....................
......................
.........................
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙ป ๘ ... กลับบ้านเรา..๐๐๐๐๐๐๐๐
" .. นี่งัยคุณที่ชั้นว่าน่ะ .. "
เราเปิดฉากสนทนาเมื่อรถพยายามตะกุยตะกายขึ้นเนิน..เนินแล้วเนินเล่า ไม่มีใครไส่ใจ พขร ปิด ๆ เปิด ๆ ปั๊มน้ำมันตามหน้าที่..พระอาจารย์กับเราก็ทำหน้าที่เป็นผู้โดยสารที่ดี..นั่นคือไม่สนใจใยดีว่ารถจะติดหรือไม่ติด..จะวิ่งได้หรือไม่ได้ เรานั่งลุ้นอยู่ด้วยอาการสงบ..แต่พระอาจารย์ท่านเข้าฌานไปนานแล้ว
" .. ความดีนี่มันทำยากว่ะ..เหมือนการพยายามตะเกียกตะกุยตะกายขึ้นดอยไม่มีผิด.. "
เราหลับตาปิดเปลือกตาลง..ไม่ยากยินดียินร้ายอะไร
" .. แต่เมื่อขึ้นได้ถึงเนินแล้ว..การลงเนินที่สะบาย ๆ มันเหมือนกับเป็นผลที่เกิดจากการขึ้นดอย..เมื่อลงไปแล้วอาจเจอทางเลียบ..หรืออาจเจอดอยสูงชันอีก..แต่ก็ต้องพยายามขึ้น ๆ ๆ ขึ้นไปให้ถึงที่สุด..เพื่อให้พ้นดอยและเจอทางเลียบ..เหมือนเส้นทางชีวิตของคนเสียจริง..บางคนก็ตายตกเหว..บางคนก็ตายอยู่เนินดอย..ชีวิตไปได้ไม่ถึงฝั่ง เฮ๊อ!! .. "
จากนั้นเราก็ผลอยหลับไป...
...............
" .. จารย์ ๆ เราแวะร้านนี้ใหม?..ร้านเขาใหญ่ดีกำลังเปิดใหมด้วย .. "
เรารีบตื่นจากภวังค์ เมื่อเสียง พขร ปลุกเรียกพระอาจารย์ที่นั่งด้านหน้า ซึ่งท่านต้องเป็นเจ้ามือในค่าใช้จ่ายทั้งหมด
" .. แวะก็ดีให้เขาดูให้หน่อย..ดูสิ..เกือบห้าโมงเย็นแล้ว .. "
เราเปรยขึ้น
ช่างแนะนำให้ต่อน้ำมันสายตรงโดยไม่ต้องผ่านปั๊ม แต่ต้องหาแกลลอนไส่น้ำมันมา ๕ ลิตร และนำสายยางในร้านมาต่อให้..
ผลปรากฏว่าเครื่องยนต์ทำงานได้ปกติ ไม่มีตก ต้องขอบคุณช่างท่านนี้อีกครั้งที่ชี้ทางออกให้
" .. ถ้าไปเป่าออก..มันก็ไปได้นิดเดียวก็ดับอีกเพราะวัสดุเช่นสนิมที่อยู่ในถังน้ำมัน ๆ ก็จะขึ้นมาอุดตันอีก..เอางี้หล่ะจนกว่าจะถึงบ้านแล้วหาโอกาสไปล้างถังเสีย .. "
โธ่เอ๋ย..เส้นผมบังตา..บังภูเขาโดยแท้ทำไมไม่คิดถึงข้อนี้นะ??..แล้วทำไมช่างแต่ละร้านซ่อมที่ผ่านมามันจึงไม่แนะนำเช่นนี้บ้างวะ!
รถวิ่งมาได้อีกเพียง ๘ กม. จะถึงบ้านถึงวัด..ข่าวดีก็มาเยือนอีก..น้ำมันเจ้ากรรมทั้ง ๕ ลิตรดันถูกดูดใช้เสียจนเกลี้ยงแกลลอน..อุวะ!..วิธีนี้เปลืองน้ำมันจัง
( โปรดติดตามบทสรุป)