ทำนาเยอะ เวลาขาย ไม่ค่อยคุ้มทุนหรอกครับ
เพราะค่าแรงงาน ก็ทราบๆกันอยู่ มันขึ้นมามากมาย
หากไม่มีอุปกรณ์การเกษตร ใช้แรงงานอย่างเดียว ร้อยทั้งร้อย (ขาดทุน)
และการทำนา ย่อมมีการลงทุน หากท่านใดมีที่นา แต่ไร้ทุน
ก็หมายความว่า ต้องหาทุนเอามาลง อย่าง เชื้อพันธุ์ข้าว ค่ารถไถนา
ค่าแรงปลูกข้าวดำนา ประหยัดหน่อย ก็ลงแขก ปลูกข้าว แต่เราก็แสนเหนื่อยและเสียเงิน
จ้างเพื่อนบ้านไปช่วย ลงแขกอยู่ดี ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ก็เสียเงินเสียทองเหมือนกับคราที่ปลูก
เวลาขาย ก็วัดเรดความชื้น ขายในราคา 12-13 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม แล้วแต่ความชื้นมากน้อยเพียงไร ส่วนหนึ่งเก็บเอาไว้ทานเอง ส่วนหนึ่งก็ขาย ส่วนที่นาผม ให้เพื่อนบ้านแบ่งกัน ทำครับ ผมเอาแค่ค่าที่นา เป็นข้าว (ข้าวปี) ส่วนหลังจากเก็บข้าวข้าวปีเสร็จ ผมจะปลูกข้าวโพด
เมื่อ 5ปีก่อนผมเคยทำเองทั้งหมด ขายข้าวแล้วคำนวนทุนดู ขาดทุน ไปเยอะครับ แต่เดี๋ยวนี้ ถึงแม้ราคาข้าวจะแพงขึ้นมาหน่อย แต่ค่าแรงก็แพงตามไปด้วย ค่าอาหารที่เลี้ยงเพื่อนบ้านยามงานเสร็จตอนเย็น ก็แพงตามราคาตลาด ฉนั้น ชาวนา ไม่มีทางสลัดหนี้ทิ้งลงได้ หากขาย ข้าวทั้งหมด ทั้งปีจะเอาข้าวที่ไหนมาทาน หากขายไป 70 เปอร์เซนต์ หากเพียงพอ คุ้มกับที่หนี้สินกู้เขามา อันนี้ชาวนาก็อยู่ได้ แต่เท่าที่ผมเห็น ชาวนาก็คุ้มบ้างไม่คุ้มบ้างกับหนี้สิน
ที่เขาจำใจทำ ก็คือ มีข้าวทานทั้งปีนี้เอง และนอกเหนือจากนี้ เขาก็จะทำงานรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้านและต่างถิ่น
