ไม่เกี่ยวกับโลหะหรอก มันอยู่ที่ตำแหน่ง ขนาด ความสูงและจังหวะเวลาด้วย ประจุจำนวนมหาศาลจะถ่ายเทจากฟ้าสู่ดิน ดินสู่ฟ้า มันขึ้นอยู่กับว่า จังหวะนั้น ตรงไหนความต้านทานต่ำสุดต่างหาก
เกี่ยวสิ ไม่เคยได้ยินข่าวเหรอ ครอบครัวชาวนานั่งกินข้าวกันในฮ้างกลางทุ่งตอนฝนตก แม่ใส่แหวนสลึงเดียว ฟ้าผ่าแหวนตายเลย โทรศัพท์มือถือก็ผ่า ลองไปยืนโทรตอนฝนตกดูสิ
มันอยู่ที่สภาพนำไฟฟ้าขณะนั้น ศักย์ไฟฟ้าจากก้อนเมฆมันมหาศาล มันถึงวิ่งแหวกอากาศได้ เพราะอากาศแตกตัวเป็นไอออนนำไฟฟ้าได้ดีขึ้น
เปรียบเสมือนคนกระโดดจากตึกหนีไฟไหม้เลยหล่ะ ไม่ว่าจะใช้อะไรพาด เชือก ไม้ส้าว รึบันไดหนีไฟ คนรีบลงแทบจะรูดลงมาละครับ เพราะรีบ
พราะเหตุนี้ เมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ประจุจะถ่ายเทระหว่างเมฆกับเมฆ รึเมฆกับพื้น เราจึงเห็นทั้งฟ้าแล็บ ฟ้าผ่า
กรณีผ่าเมฆสู่ดิน รึดินสู่เมฆ ประจุจะหาระยะทางที่ใกล้ที่สุด ที่จะถ่ายเทได้ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาตึก(จึงต้องมีสายล่อฟ้า ประมาณว่าเอ็งอยากผ่าน ก็ไปเลย...)
รึต้นไม้สูงๆบริเวณนั้น เราก็จะเห็นว่าทำไมมันถึงผ่าต้นไม้ได้ เพราะเหตุนี้ และถ้ามันโล่งสุดๆ คราวนี้ ใครยืนก็มักจะโดนผ่าไง
เพราะฉะนั้น ถ้าอยู่ในที่โล่ง อย่ายืนครับ อย่าวิ่ง ให้หมอบคลานเป็นดีที่สุด...
และกระต๊อบกลางทุ่งนาก็เหมือนกัน อันตรายสุดๆ ถึงได้มีข่าวผ่ากระต๊อบกลางทุ่งได้ไง....(ถ้ากระต๊อบใกล้ชายป่าก็ค่อยยังชั่ว...เพราะมีต้นไม้รับความเสี่ยงแทน....แต่อย่าใกล้ต้นไม้สูงๆอีกล่ะ)
ที่อยู่ได้และไม่ผ่า มันเป็นโชคดีของคนในนั้น ที่ปัจจัยเกี่ยวข้องไม่เอื้ออำนวยต่อการผ่า
และถ้าให้คนใส่แหวนใส่สร้อย(ทองจริงๆนี่แหละ) นอนหลบตามร่องน้ำ แล้วให้อีกคนไม่ใส่อะไรเลย(เสื้อผ้าใส่อยู่) ยืนกลางที่โล่งแจ้งพร้อมกัน ในสภาวะที่ว่านี้ .....ท่านว่าใครจะเสี่ยงกว่าใครเอ่ย....?
(เอาแค่นี้ก่อนเนาะ..เด๋วค่อยคุยเรื่องมือถือ....)