เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 00:13:59
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  มหัศจรรย์พระพุทธบาทสี่รอย (ไปมาแล้ว)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน มหัศจรรย์พระพุทธบาทสี่รอย (ไปมาแล้ว)  (อ่าน 7426 ครั้ง)
thawat32
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 17


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 26 สิงหาคม 2012, 18:08:08 »

อนุโมทนาสาธุครับ
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2012, 22:08:52 »

วิ่งตามรถทะเบียน กทม.ไป ลุ้นๆว่าเมื่อไหร่จะถึงซะทีน๊อ ยิ้มกว้างๆ
ทางขึ้นเขาค่อนข้างชันและแคบ พอไปถึงแล้วรถเยอะมากกว่าที่คิด
และไม่ผิดหวังเลยที่ดั้นด้นไปให้ถึงจุดหมาย


* 1.jpg (149.07 KB, 700x525 - ดู 205 ครั้ง.)

* 3.jpg (84.83 KB, 700x525 - ดู 187 ครั้ง.)

* 8.jpg (120.03 KB, 700x525 - ดู 190 ครั้ง.)

* 6.jpg (138.11 KB, 700x525 - ดู 188 ครั้ง.)

* 7.jpg (107.9 KB, 700x525 - ดู 177 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2012, 23:21:53 »

...ขอบคุณภาพสวย ๆ ครับ อนุโมทนาบุญครั้งใหญ่ด้วยครับ... ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 11 พฤศจิกายน 2012, 23:59:40 »

...ขอบคุณภาพสวย ๆ ครับ อนุโมทนาบุญครั้งใหญ่ด้วยครับ... ยิ้มกว้างๆ
สาธุ ที่วัดมีห้องน้ำไว้บริการเยอะและสอาดมากๆ ด้วยครับ


* IMG_0605.JPG (124.67 KB, 700x525 - ดู 171 ครั้ง.)

* IMG_0625.JPG (143.17 KB, 700x525 - ดู 169 ครั้ง.)

* IMG_0598.JPG (83.26 KB, 700x525 - ดู 171 ครั้ง.)

* IMG_0538.JPG (126.15 KB, 700x525 - ดู 169 ครั้ง.)

* IMG_0546.JPG (117.07 KB, 700x525 - ดู 173 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 12 พฤศจิกายน 2012, 01:25:02 »


 :)ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอุทิศผล
บุญกุศลนี้แผ่ไปให้ไพศาล
ถึงบิดามารดาครูอาจารย์
ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน
คนเคยร่วมทำงานการทั้งหลาย
ขอจงได้ในกุศลผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ
ขอให้ท่านได้กุศลผลนี้เทอญฯ
IP : บันทึกการเข้า
GAme Phan
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 13 พฤศจิกายน 2012, 21:30:49 »

จัตตุป๋าต๊ะ พุทธป๋าตั๋ง ป๋าต๊ะลำนี้ศรีลานัง กะกุสันทัง โก๋นาคะมะนัง กัตสปั๋ง โคตะมัง                ป๋าต๊ะเจ๋ติยังชินะธาตุจ๋ะทะเป๋ตะวาอะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิศรีล่าสาร่                               คำไหว้กราบนมัสการพระพุทธบาทเจ้าสี่รอย  ซึ่งกระผมได้เคยไปเป็นผ้าขาวเมื่อปี๋2536ดีใจมากที่ได้เจอกระทู้นี้พระพุทธบาทสี่รอยเจริญไปมากทีเดียว อยากกลับไปสวดทำนองสารพันญะ            นั่งสมาธิสูตรกลิ่นไอหมอกเข้าปลายจมูก ลมหนาวพัดมากระทบตัวเป็นระยะๆทำให้จิตนิ่งอยู่ในช่วงอารมที่ปลาสจากสิ่งอื่นไดมายึดติดว่างนิ่ง กระผมพอจำได้เลยเอามาไห้พี่น้องผู้ใจบุญได้อ่านกันนะครับ     ต๋ามหน้าบุญเต๋อเจ้าเฮ้ย
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2013, 04:24:07 »

จัตตุป๋าต๊ะ พุทธป๋าตั๋ง ป๋าต๊ะลำนี้ศรีลานัง กะกุสันทัง โก๋นาคะมะนัง กัตสปั๋ง โคตะมัง                ป๋าต๊ะเจ๋ติยังชินะธาตุจ๋ะทะเป๋ตะวาอะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิศรีล่าสาร่                               คำไหว้กราบนมัสการพระพุทธบาทเจ้าสี่รอย  ซึ่งกระผมได้เคยไปเป็นผ้าขาวเมื่อปี๋2536ดีใจมากที่ได้เจอกระทู้นี้พระพุทธบาทสี่รอยเจริญไปมากทีเดียว อยากกลับไปสวดทำนองสารพันญะ            นั่งสมาธิสูตรกลิ่นไอหมอกเข้าปลายจมูก ลมหนาวพัดมากระทบตัวเป็นระยะๆทำให้จิตนิ่งอยู่ในช่วงอารมที่ปลาสจากสิ่งอื่นไดมายึดติดว่างนิ่ง กระผมพอจำได้เลยเอามาไห้พี่น้องผู้ใจบุญได้อ่านกันนะครับ     ต๋ามหน้าบุญเต๋อเจ้าเฮ้ย
สาธุ


* 00032_26.gif (31.58 KB, 128x128 - ดู 117 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
jirapraserd
magdafVE
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 693


« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2013, 19:43:35 »

เวลาขับรถขึ้นไปช่วงที่จะเข้าสู่ลานจอดรถ ระวังหน่อยครับ ทางชันมาก ๆ ครับ
ยิ่งหน้าฝนต้องระวังด้วยน๊ะครับ
IP : บันทึกการเข้า

ละอ่อนเจียงของ
บทเรียนนอกห้องเรียน
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120


เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป


« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2013, 22:05:29 »

อยากไปจัง ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า

หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2013, 09:57:15 »

ตำนานพระพุทธบาท ๔ รอย

เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ ได้เสด็จจาริกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจันตะประเทศ (ประเทศไทยในปัจจุบัน)

จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศ ชื่อเขา “เวภารบรรพต”
ซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก ๕๐๐ องค์ และได้แวะฉันจังหันอยู่บนเขาเวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จ ขณะประทับอยู่ที่นั้น ก็ได้ทราบด้วยญาณสมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ ได้มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่ คือพระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้ แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระพุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ, พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ, พระพุทธเจ้ากัสสปะ

อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลายมี พระสารีบุตรเป็นประธานเมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่า พระพุทธองค์ทรงเล็ดดูด้วยเหตุใด พระพุทธองค์จึงตรัสตอบว่า ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้แม้ว่าพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ที่ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ทุก ๆ พระองค์ และแม้นว่าพระศรีอริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ และจักประทับรอยพระบาทสี่รอยนี้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว (คือประทับลบรอยทั้งสี่ให้เหลือรอยเดียว)

เมื่อพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์ จึงเกิดเป็นพระพุทธบาทสี่รอย

เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง ๓ พระองค์นั้นแล้ว ก็ทรงอฐิษฐานว่าในเมื่อ (เรา) ตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็จักนำเอาพระธาตุของตถาคต มาบรรจุไว้ที่รอยพระพุทธบาทที่นี่ ในเมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว ๒,๐๐๐ ปี
พระพุทธบาทสี่รอยนี้ก็จักปรากฏแก่ปวงคนและเทวดาทั้งหลาย ก็จัดได้มาไหว้และบูชา เมื่อทรงอธิษฐานและทำนายไว้ดังนี้แล้ว พระองค์ก็เสด็จไปเชตวันอารามอันมีในเมืองสาวัตถีนั้นแล

เมื่อพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็นำเอาพระธาตุของพระพุทธองค์มาบรรจุไว้ที่พระพุทธบาทสี่รอย เมื่อพระพุทธองค์นิพพานล่วงมาแล้วประมาณ ๒,๐๐๐ วัสสา เทวดาทั้งหลายต้องการอยากให้พระพุทธบาทสี่รอยปรากฏแก่คนทั้งหลายตามที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานไว้ ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้งตัวใหญ่ (เหยี่ยว) ก็บินลงจากภูเขาเวภารบรรพต อันป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้ เพื่อบินลงไปเอาลูกไก่ของชาวบ้าน (คนป่า) ที่อยู่ตีนเขาเวภารบรรพต แล้วก็บินกลับขึ้นไปสู่ยอดเขา
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2013, 09:58:04 »

ชาวบ้าน (คนป่า หรือ พรานป่า) มันโกรธมากจึงตามขึ้นไปคิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็ติดตามไปค้นหาดู แต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้นเท่า แต่เห็นรอยพระพุทธบาทสี่รอยอันอยู่พื้นต้นไม้และเถาวัลย์ พรานป่าผู้นั้นก็ทำการสักการบูชาเสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา พอมาถึงหมู่บ้านก็เล่าบอกแก่ชาวบ้านทั้งหลายฟัง

(ความอันนั้นก็ปรากฏสืบๆกันไปแรกแต่นั้น) คนทั้หลายที่ทราบก็พากันไปสักการะบูชามาก แต่นั้นมาจึงได้ชื่อว่า “พระบาทรังรุ้ง” (รังเหยี่ยว)

ในสมัยนั้นมีพระยาตนหนึ่งชื่อว่าพรยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจึงมีพระราชศรัทธาอยากเสด็จไปกราบบูชาพระพุทธบาทสี่รอย ก็นำเอาราชเทวีและเสนาพร้อมกับบริวารทั้งหลาย
เมื่อพระยาเม็งรายกราบนมัสการเสร็จแล้ว ก็นำเอาบริวารของตนกลับสู่เมืองเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่เสวยราชสมบัติตราบเมี้ยนอายุขัย

แล้วลูกหลายที่สืบราชสมบัติก็เจริญรอยตามและได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาทสี่รอย ทุก ๆ พระองค์ หลังจากนั้นมาพระบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวนี่ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “พระพุทธบาทสี่รอย” เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึงสี่รอย

มาในสมัยยุคหลังคนทั้งหลายจึงเรียกขานกันว่าพระพุทธบาทสี่รอย คือมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ที่ล่วงมาแล้วในภัทรกัลป์นี้คือ

- รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรก เป็นรอยใหญ่ยาว ๑๒ ศอก
- รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ ๒ ยาว ๙ ศอก
- รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะ เป็นรอยที่ ๓ ยาว ๗ ศอก
- รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ (ศาสนาปัจจุบันนี้) เป็นรอยที่ ๔ รอยเล็กสุดยาว ๔ ศอก

เมื่อมาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือก ผู้ครองนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยบริวาร ๕๐๐ คน ก็ขึ้นไปกราบสักการบูชาพระพุทธบาทสี่รอย และได้สร้างพระวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราว โดยแต่เดิมถ้าใคร จะดูรอยพระพุทธบาทบนยอดหินก้อนใหญ่ ต้องใช้บันไดพาดขึ้นไป หรือปีนขึ้นไปดูซึ่งก็คงจะขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ดังนั้นพระยาธรรรมช้างเผือกจึงตรัสสร้างแท่นยืนคล้ายๆ นั่งร้านรอบ ๆ ก้อนหินที่มีพระพุทธบาทสี่รอย เพื่อที่ผู้หญิงจะได้เห็นรอยพระพุทธบาทด้วย และได้สร้างหลังคาชั่วคราวมุงไว

ต่อมาในสมัยพระชายาเจ้าดารารัศมีก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการ พระพุทธบาทสี่รอย และได้มีพระราชศัทธาก่อสร้างวิหารเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทไว้ ๑ หลัง หลังเล็ก ปัจจุบันได้บูรณปฏิสังขรณ์แล้วทั้งหลัง จะเหลือไว้แต่ผนังวิหาร พื้นวิหารและแท่นพระซึ่งยังเป็นของเดิม

พอมาสมัยเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๒ ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย และได้รื้อพระวิหารที่เจ้าพระยาธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราว และได้สร้างพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทไว้ใหม่และได้ฉาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทไว้ เพื่อรักษาให้อยู่ค้ำชูพุทธศาสนาไปตลอดกาล
IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 02 มีนาคม 2013, 13:59:26 »

 ยิ้มเท่ห์


* 20.jpg (278.54 KB, 555x368 - ดู 96 ครั้ง.)

* 04.jpg (255.25 KB, 555x368 - ดู 90 ครั้ง.)

* 24.jpg (224.66 KB, 555x368 - ดู 91 ครั้ง.)

* 31.jpg (218.2 KB, 555x368 - ดู 95 ครั้ง.)

* 482738_514027251972389_1748434180_n.jpg (176.31 KB, 555x368 - ดู 87 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มีนาคม 2013, 14:16:55 โดย ๋๋P » IP : บันทึกการเข้า
๋๋P
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,917



« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 04 มีนาคม 2013, 05:02:41 »

 เป็นที่อัศจรรย์และเป็นมงคลอย่างยิ่งที่ผืนแผ่นดินไทยได้มีโอกาสเป็นที่
ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าถึงสี่พระองค์มาแล้ว
ในพุทธองค์ได้กล่าวถึงพระพุทธเจ้าในภัทรกัปป์ปัจจุบัน ๔ พระองค์คือ
พระกุกกุสันธะ พระโกนาคมนะ พระกัสสปะ พระสมณโคดม (องค์ปัจจุบัน)
แต่ละพระองค์ล้วนมีพระวรกายแตกต่างกัน เห็นได้จากรอยพระบาทที่มี
ขนาดลดหลั่นกันลงมา เพียงแค่พบเห็นก็เป็นที่อัศจรรย์แล้ว


    สัณฐานโดยประมาณรอยพระบาทเรียงลดหลั่นกัน

    ๑. พระกุกกุสันธะ

    ๒. พระโกนาคมนะ

    ๓. พระกัสสปะ

    ๔. พระสมณโคดม


* fourfootprint.jpg (18.39 KB, 222x373 - ดู 82 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!