ความยุติธรรม น่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วครับ เพราะไม่ได้ปั๊ม เทปผี ซีดีเถื่อนขายและ เพื่อการเผยแพร่ แสวงหาผลประโยนช์กำไรโดยตรง โดยเฉพาะ เหล่าวิฉาชีพ จะอาศัยจุดนี้
เช่น พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 31 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ (2) เผยแพร่ต่อสาธารณชน....” ความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวจึงต้องเป็นการเผยแพร่งานนั้นต่อสาธารณชน “เพื่อหากำไร”
แต่ดันไปจับ ร้านอาหาร ที่เปิดเพลงให้ลูกค้าฟังฟรี
แต่ดันไปขอค้นบ้านค้นร้านเกมส์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเพลง
สิ่งที่ถูกต้องคือ บ้านหรือตึกหลังนั้น มีการก๊อปปี้ CD เถื่อนละเมิดลิขลิทธิ์ ขาย หรือไม่
เจ้าของลิขสิทธิ์ หรือผู้ได้รับมอบอำนาจ --->ไปแจ้งร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงาน
เจ้าพนักงาน --->ไปขอหมายจากศาล ศาลก็คือศาลเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ --->แล้วศาล จะระบุสิ่งที่ต้อง ตรวจค้น ชัดเจน ระบุวันที่ ระบุเวลา เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ระบุเจ้าพนักงานแต่งตั้งจากศาลไป กำกับดูแล นี่คือหมายจากศาล ,
หากเป็นเคหะสถานไม่สามารถเข้าตรวจค้นได้ทันที
สิ่งที่ถูกต้องคือ คนเหล่านั้น มีการเสนอ เผยแพร่ ขาย และมีการ ซื้อจ่ายเงินสด โดยของกลางเป็น CD DVD TAPE ฯลฯ เจ้าของลิขสิทธิ์ หรือ ผู้ได้รับมอบอำนาจแทน
--->ไปร้องทุกข์ กับเจ้าพนักงาน
--->เจ้าพนักงาน รับเรื่องแจ้งร้องทุกข์ พร้อมกับไป สถานที่เกิดเหตุได้ หากสถานที่นั้น
เป็นสถานที่สาธารณะ เช่นตลาดนัด ฯลฯ และเห็นการ เสนอ เผยแพร่ ชื้อ-ขาย สามารถจับได้ทันทีเพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า
ซึ่งร้านเกมส์ ร้านสถานบันเทิง บ้าน ตึก บ้านร้าง ตึกร้าง เยอะแยะมากมายเหล่านี้
คือ เคหะสถาน จะตรวจได้ ก็ต้องมีหมายจากศาล ทั้งสิ้น หากไม่มี เจ้าของ สามารแจ้งความกลับได้ ข้อหาบุกรุก หากมีมากกว่าสามคนขึ้นไป ก็สามารถแจ้งข้อหา กระทำการปล้นทรัพย์ได้ ยกเว้นมีเหตุอันควร เช่นเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย เจ้าพนักงานสามารถ เข้าได้ทันทีโดยไม่ต้องมีหมายค้น
อย่างที่สอง ที่สาธารณะประโยนช์ เจ้าพนักงานไม่ต้องมีหมายจากศาล สามารถไป ณ ที่เกิดเหตุได้ทันที
....................
ถ้า วงเหล้ากำลังร้องรำทำเพลง ถ้าพวกนี้เข้ามา ระวังลูกกุ๋ยหมู่เน้อ
