เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 กรกฎาคม 2025, 11:59:19
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนหางาน-งานหาคน
| | |-+  อยากสะท้อนให้ฝ่ายประกาศหางานหรือรับสมัครงานฟังบ้าง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] 2 พิมพ์
ผู้เขียน อยากสะท้อนให้ฝ่ายประกาศหางานหรือรับสมัครงานฟังบ้าง  (อ่าน 1425 ครั้ง)
dr.kuay
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88


« เมื่อ: วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2013, 12:10:19 »

ผมเห็น ฝ่ายจ้างงานเข้ามาเปิดประเด็นเชิงต่อว่า บรรดาผู้สมัครงานหรือลูกจ้างที่ยังเคว้งคว้างและหางานกันอยู่ก้อยากจะสะท้อนมุมมองอีกด้านบ้างน่ะครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันไปด้วย

ประเด็นที่1 การแต่งกายไปสัมภาษณ์งานของผู้สมัครงาน
      หากเป็นเงื่อนไขในการสัมภาษณ์ก็ควรระบุให้ชัดเจน  จะอย่างไรก็ไม่ควรตำหนิใครหรือบุคคลใดที่แต่งกายไม่เหมาะสมในการสัมภาษณ์มันเป็นเหตุเป็นผลที่คุณจะไม่เลือกเขาหรือบุคคลเหล่านี้เข้าทำงานหรือร่วมงานกับคุณอยู่แล้วน่ะครับ มันได้แต่สะท้อนการไม่เคารพตัวเองของคนสัมภาษณ์เท่านั้นเองะครับ ที่มองผู้คนเพียงแต่เปลือก น่าจะสนใจแต่คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน

ประเด็นที่สอง  การโกหกเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร
....ก้เช่นเดียวกันครับ กับประเด็นแรก  คุณสมบัติไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ้างเขาหรือเด็กๆเหล่านี้ ไม่เห็นต้องมาบ่น

ประเด็นที่สาม  เด็กมาทดลองงาน ฝึกงานแล้วก็ทิ้งงานไม่ไปทำงานต่อ
    ต้องกลับมาดุฝ่ายนายจ้าง เจ้าของกิจการแล้วล่ะครับว่าคุณเอาเปรียบ ลุกจ้างพนักงานอย่างไร สื่อสารลักษณะงานขอบเขตความรับผิดชอบต่อตำแหน่งและหน้าที่ของงานชัดเจนหรือยัง  ผมเห็นทำผิดกฎหมายแรงงานกันแทบทั้งนั้น
ยกตัวอย่าง  การทดลองงาน ไม่ได้หมายความว่าต้องจ่ายค่าจ้างถูกลงพอพ้นการทดลองแล้วถึงจะขึ้นค่าแรง อันนี้เข้าใจผิดแล้วครับ ศึกษาข้อกฎหมายกันให้ดี ตัวอย่างที่สอง  ชอบเรียกเก็บเงินคำ้ประกันทั้งที่ตำแหน่งหน้าที่ของงานไม่เกี่ยวข้องกับเงินทองโดยตรง อันนี้ก้ผิดกันไปหมด
     ประเด็นทิ้งท้ายในช่วงนี้ ซึ่งเป็นมุมมองของผมเอง การคิดอัตราจ้างไม่สอดคล้องและเอาเปรียบพนักงานและลูกจ้างมากเกินไป ข้อนี้สำคัญที่สุด คุณคิดจะให้เขาเหล่านี้ทุ่มเทจริงใจ หรือซื่อสัตย์ต่อการทำงานแต่จ่ายด้วยราคาแสนถูก มันก็ไปด้วยกันลำบากแล้วครับ พวกเขาเหล่านี้ก็คงต้องทดลองหรือแสวงหางานที่ดีและมีความมั่นคงต่อไปเรื่อยๆ จะใส่เสื้อผ้าให้ดูดีติดกระดุมเม้ดแรกต้องติดให้ถูกน่ะครับ..
IP : บันทึกการเข้า
Sanchez
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 844


True Love Never Grows Old. "รักแท้ไม่เคยแก่ชรา"


« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2013, 14:48:19 »

อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองนะครับ

แต่ส่วนมาก ขึ้นอยู่นายจ้างเค้าแหล่ะ เค้ามีสิทธิ์เลือก

การแต่งกายสำคัญนะ ถึงจะไม่มีในเงื่อนก็จริง
เพราะมันเป็นสิ่งแรกที่เห็น

ถ้าเป็นคนเก่ง คนขยันจริงๆ ไม่ต้องกลัวเรื่องพวกนี้ครับ


ปล. เปลี่ยนชื่อ username หน่อยดีมั้ย dr.kuay
อ่านแล้วแปลกๆ เปลี่ยนตัว k เป็นตัว g ค่อยเพราะหน่อย  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
dr.kuay
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88


« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2013, 20:25:09 »

ชื่อผมก็ขึ้นอยู่กับมุมมองครับ..
IP : บันทึกการเข้า
dr.kuay
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88


« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2013, 20:27:34 »

มันถูกเลือกจากทั้งสองฝ่ายแหล่ะครับน้อง..นายจ้างมีสิทธิ์แต่ไม่ได้หมายถึงทำผิดกฎหมาย(แรงงาน)น่ะครับ..
IP : บันทึกการเข้า
rathaphon
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 49



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013, 13:27:34 »

ผมเห็น ฝ่ายจ้างงานเข้ามาเปิดประเด็นเชิงต่อว่า บรรดาผู้สมัครงานหรือลูกจ้างที่ยังเคว้งคว้างและหางานกันอยู่ก้อยากจะสะท้อนมุมมองอีกด้านบ้างน่ะครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันไปด้วย

ประเด็นที่1 การแต่งกายไปสัมภาษณ์งานของผู้สมัครงาน
      หากเป็นเงื่อนไขในการสัมภาษณ์ก็ควรระบุให้ชัดเจน  จะอย่างไรก็ไม่ควรตำหนิใครหรือบุคคลใดที่แต่งกายไม่เหมาะสมในการสัมภาษณ์มันเป็นเหตุเป็นผลที่คุณจะไม่เลือกเขาหรือบุคคลเหล่านี้เข้าทำงานหรือร่วมงานกับคุณอยู่แล้วน่ะครับ มันได้แต่สะท้อนการไม่เคารพตัวเองของคนสัมภาษณ์เท่านั้นเองะครับ ที่มองผู้คนเพียงแต่เปลือก น่าจะสนใจแต่คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน

ประเด็นที่สอง  การโกหกเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร
....ก้เช่นเดียวกันครับ กับประเด็นแรก  คุณสมบัติไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ้างเขาหรือเด็กๆเหล่านี้ ไม่เห็นต้องมาบ่น

ประเด็นที่สาม  เด็กมาทดลองงาน ฝึกงานแล้วก็ทิ้งงานไม่ไปทำงานต่อ
    ต้องกลับมาดุฝ่ายนายจ้าง เจ้าของกิจการแล้วล่ะครับว่าคุณเอาเปรียบ ลุกจ้างพนักงานอย่างไร สื่อสารลักษณะงานขอบเขตความรับผิดชอบต่อตำแหน่งและหน้าที่ของงานชัดเจนหรือยัง  ผมเห็นทำผิดกฎหมายแรงงานกันแทบทั้งนั้น
ยกตัวอย่าง  การทดลองงาน ไม่ได้หมายความว่าต้องจ่ายค่าจ้างถูกลงพอพ้นการทดลองแล้วถึงจะขึ้นค่าแรง อันนี้เข้าใจผิดแล้วครับ ศึกษาข้อกฎหมายกันให้ดี ตัวอย่างที่สอง  ชอบเรียกเก็บเงินคำ้ประกันทั้งที่ตำแหน่งหน้าที่ของงานไม่เกี่ยวข้องกับเงินทองโดยตรง อันนี้ก้ผิดกันไปหมด
     ประเด็นทิ้งท้ายในช่วงนี้ ซึ่งเป็นมุมมองของผมเอง การคิดอัตราจ้างไม่สอดคล้องและเอาเปรียบพนักงานและลูกจ้างมากเกินไป ข้อนี้สำคัญที่สุด คุณคิดจะให้เขาเหล่านี้ทุ่มเทจริงใจ หรือซื่อสัตย์ต่อการทำงานแต่จ่ายด้วยราคาแสนถูก มันก็ไปด้วยกันลำบากแล้วครับ พวกเขาเหล่านี้ก็คงต้องทดลองหรือแสวงหางานที่ดีและมีความมั่นคงต่อไปเรื่อยๆ จะใส่เสื้อผ้าให้ดูดีติดกระดุมเม้ดแรกต้องติดให้ถูกน่ะครับ..
+1 ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
iorawan
ชีวิตนี้ ใช้หนี้อย่างเดียว .. จิง จิ๊งงง ..
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 68


It's Not Me It's You


« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013, 14:59:37 »

ผมเห็น ฝ่ายจ้างงานเข้ามาเปิดประเด็นเชิงต่อว่า บรรดาผู้สมัครงานหรือลูกจ้างที่ยังเคว้งคว้างและหางานกันอยู่ก้อยากจะสะท้อนมุมมองอีกด้านบ้างน่ะครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันไปด้วย

ประเด็นที่1 การแต่งกายไปสัมภาษณ์งานของผู้สมัครงาน
      หากเป็นเงื่อนไขในการสัมภาษณ์ก็ควรระบุให้ชัดเจน  จะอย่างไรก็ไม่ควรตำหนิใครหรือบุคคลใดที่แต่งกายไม่เหมาะสมในการสัมภาษณ์มันเป็นเหตุเป็นผลที่คุณจะไม่เลือกเขาหรือบุคคลเหล่านี้เข้าทำงานหรือร่วมงานกับคุณอยู่แล้วน่ะครับ มันได้แต่สะท้อนการไม่เคารพตัวเองของคนสัมภาษณ์เท่านั้นเองะครับ ที่มองผู้คนเพียงแต่เปลือก น่าจะสนใจแต่คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน

ประเด็นที่สอง  การโกหกเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร
....ก้เช่นเดียวกันครับ กับประเด็นแรก  คุณสมบัติไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ้างเขาหรือเด็กๆเหล่านี้ ไม่เห็นต้องมาบ่น

ประเด็นที่สาม  เด็กมาทดลองงาน ฝึกงานแล้วก็ทิ้งงานไม่ไปทำงานต่อ
    ต้องกลับมาดุฝ่ายนายจ้าง เจ้าของกิจการแล้วล่ะครับว่าคุณเอาเปรียบ ลุกจ้างพนักงานอย่างไร สื่อสารลักษณะงานขอบเขตความรับผิดชอบต่อตำแหน่งและหน้าที่ของงานชัดเจนหรือยัง  ผมเห็นทำผิดกฎหมายแรงงานกันแทบทั้งนั้น
ยกตัวอย่าง  การทดลองงาน ไม่ได้หมายความว่าต้องจ่ายค่าจ้างถูกลงพอพ้นการทดลองแล้วถึงจะขึ้นค่าแรง อันนี้เข้าใจผิดแล้วครับ ศึกษาข้อกฎหมายกันให้ดี ตัวอย่างที่สอง  ชอบเรียกเก็บเงินคำ้ประกันทั้งที่ตำแหน่งหน้าที่ของงานไม่เกี่ยวข้องกับเงินทองโดยตรง อันนี้ก้ผิดกันไปหมด
     ประเด็นทิ้งท้ายในช่วงนี้ ซึ่งเป็นมุมมองของผมเอง การคิดอัตราจ้างไม่สอดคล้องและเอาเปรียบพนักงานและลูกจ้างมากเกินไป ข้อนี้สำคัญที่สุด คุณคิดจะให้เขาเหล่านี้ทุ่มเทจริงใจ หรือซื่อสัตย์ต่อการทำงานแต่จ่ายด้วยราคาแสนถูก มันก็ไปด้วยกันลำบากแล้วครับ พวกเขาเหล่านี้ก็คงต้องทดลองหรือแสวงหางานที่ดีและมีความมั่นคงต่อไปเรื่อยๆ จะใส่เสื้อผ้าให้ดูดีติดกระดุมเม้ดแรกต้องติดให้ถูกน่ะครับ..

++++ 1000000000000 +++++ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

เวลาใดเรา "พอใจ" เราก็มีความสุข ความสบาย
เวลาใด "ไม่พอใจ" ก็เกิดความทุกข์ ความเดือดร้อน
....​เป็นอย่างนี้ เสมอ ...

Iam : Orawan --> Living in Chiang Rai
thaifox
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 114



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013, 20:19:17 »

ผมเห็น ฝ่ายจ้างงานเข้ามาเปิดประเด็นเชิงต่อว่า บรรดาผู้สมัครงานหรือลูกจ้างที่ยังเคว้งคว้างและหางานกันอยู่ก้อยากจะสะท้อนมุมมองอีกด้านบ้างน่ะครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันไปด้วย

ประเด็นที่1 การแต่งกายไปสัมภาษณ์งานของผู้สมัครงาน
      หากเป็นเงื่อนไขในการสัมภาษณ์ก็ควรระบุให้ชัดเจน  จะอย่างไรก็ไม่ควรตำหนิใครหรือบุคคลใดที่แต่งกายไม่เหมาะสมในการสัมภาษณ์มันเป็นเหตุเป็นผลที่คุณจะไม่เลือกเขาหรือบุคคลเหล่านี้เข้าทำงานหรือร่วมงานกับคุณอยู่แล้วน่ะครับ มันได้แต่สะท้อนการไม่เคารพตัวเองของคนสัมภาษณ์เท่านั้นเองะครับ ที่มองผู้คนเพียงแต่เปลือก น่าจะสนใจแต่คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน

ประเด็นที่สอง  การโกหกเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร
....ก้เช่นเดียวกันครับ กับประเด็นแรก  คุณสมบัติไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ้างเขาหรือเด็กๆเหล่านี้ ไม่เห็นต้องมาบ่น

ประเด็นที่สาม  เด็กมาทดลองงาน ฝึกงานแล้วก็ทิ้งงานไม่ไปทำงานต่อ
    ต้องกลับมาดุฝ่ายนายจ้าง เจ้าของกิจการแล้วล่ะครับว่าคุณเอาเปรียบ ลุกจ้างพนักงานอย่างไร สื่อสารลักษณะงานขอบเขตความรับผิดชอบต่อตำแหน่งและหน้าที่ของงานชัดเจนหรือยัง  ผมเห็นทำผิดกฎหมายแรงงานกันแทบทั้งนั้น
ยกตัวอย่าง  การทดลองงาน ไม่ได้หมายความว่าต้องจ่ายค่าจ้างถูกลงพอพ้นการทดลองแล้วถึงจะขึ้นค่าแรง อันนี้เข้าใจผิดแล้วครับ ศึกษาข้อกฎหมายกันให้ดี ตัวอย่างที่สอง  ชอบเรียกเก็บเงินคำ้ประกันทั้งที่ตำแหน่งหน้าที่ของงานไม่เกี่ยวข้องกับเงินทองโดยตรง อันนี้ก้ผิดกันไปหมด
     ประเด็นทิ้งท้ายในช่วงนี้ ซึ่งเป็นมุมมองของผมเอง การคิดอัตราจ้างไม่สอดคล้องและเอาเปรียบพนักงานและลูกจ้างมากเกินไป ข้อนี้สำคัญที่สุด คุณคิดจะให้เขาเหล่านี้ทุ่มเทจริงใจ หรือซื่อสัตย์ต่อการทำงานแต่จ่ายด้วยราคาแสนถูก มันก็ไปด้วยกันลำบากแล้วครับ พวกเขาเหล่านี้ก็คงต้องทดลองหรือแสวงหางานที่ดีและมีความมั่นคงต่อไปเรื่อยๆ จะใส่เสื้อผ้าให้ดูดีติดกระดุมเม้ดแรกต้องติดให้ถูกน่ะครับ..
+++++11111111111111
IP : บันทึกการเข้า

Email:tc_boonkob@hotmail.com
โทร.087-7151283
dr.kuay
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88


« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2013, 22:49:29 »

การทดลองงานตามหลักการที่ถูกต้องนั้นเป็นการบอกให้ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง พนักงานหรือจะเรียกว่าอะไรก็สุดแล้วแต่..ว่าคุณยังไม่ได้โอกาสในการทำงานที่ยาวนานมั่นคง เพราะทางบริษัทเราไม่มีสติปัญญาหรือยังไม่แน่ใจถึงคุณสมบัติที่คุณมีมาในตอนที่สมัครงานครั้งแรกกับทางเรา(ผู้ว่าจ้าง)...แต่ไม่ได้หมายความว่า   กฎหมายจะให้โอกาสนายจ้างเอาเปรียบลูกจ้างโดยการจ่ายค่าแรงหรือค่าจ้าง ตำ่กว่ามาตรฐานที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้น่ะครับ(เป็นช่องทางและโอกาสในการเอาเปรียบเล็กๆน้อยๆ)...การดำเนินธุรกิจใดๆก็ตามย่อมมุ่งหวังผลกำไรที่ดีหรือผลประกอบการที่เล็งผลเลิศ ซึ่งหมายถึงความสามารถหรือศักยภาพทั้งหมดที่เจ้าของกิจการหรือธุรกิจจำเป็นต้องมี รวมถึงความสามารถในการแบกรับความเสี่ยงในการบริหารกิจการและธุรกิจด้วย ไม่ใช่การมาหาเศษหาเลยเอากับทรัพยากรบุคคลของตนเอง...ถ้าธุรกิจใดไม่มีกลไกหรือวิธีการคัดเลือกลูกจ้าง พนักงานที่มีประสิทธิภาพหรือมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่ตนต้องการได้แล้วล่ะก็ ไม่ต้องคาดหวังเลยว่าบริษัท ธุรกิจห้างร้านเหล่านี้จะมีกึ๋นในการดำเนินและต่อยอดทางธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน..เชื่อเถอะ..
IP : บันทึกการเข้า
nuifish
ผู้ดูแลบอร์ด
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,755


หนุ่ยครับ


« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2013, 23:12:32 »

การทดลองงานตามหลักการที่ถูกต้องนั้นเป็นการบอกให้ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง พนักงานหรือจะเรียกว่าอะไรก็สุดแล้วแต่..ว่าคุณยังไม่ได้โอกาสในการทำงานที่ยาวนานมั่นคง เพราะทางบริษัทเราไม่มีสติปัญญาหรือยังไม่แน่ใจถึงคุณสมบัติที่คุณมีมาในตอนที่สมัครงานครั้งแรกกับทางเรา(ผู้ว่าจ้าง)...แต่ไม่ได้หมายความว่า   กฎหมายจะให้โอกาสนายจ้างเอาเปรียบลูกจ้างโดยการจ่ายค่าแรงหรือค่าจ้าง ตำ่กว่ามาตรฐานที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้น่ะครับ(เป็นช่องทางและโอกาสในการเอาเปรียบเล็กๆน้อยๆ)...การดำเนินธุรกิจใดๆก็ตามย่อมมุ่งหวังผลกำไรที่ดีหรือผลประกอบการที่เล็งผลเลิศ ซึ่งหมายถึงความสามารถหรือศักยภาพทั้งหมดที่เจ้าของกิจการหรือธุรกิจจำเป็นต้องมี รวมถึงความสามารถในการแบกรับความเสี่ยงในการบริหารกิจการและธุรกิจด้วย ไม่ใช่การมาหาเศษหาเลยเอากับทรัพยากรบุคคลของตนเอง...ถ้าธุรกิจใดไม่มีกลไกหรือวิธีการคัดเลือกลูกจ้าง พนักงานที่มีประสิทธิภาพหรือมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่ตนต้องการได้แล้วล่ะก็ ไม่ต้องคาดหวังเลยว่าบริษัท ธุรกิจห้างร้านเหล่านี้จะมีกึ๋นในการดำเนินและต่อยอดทางธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน..เชื่อเถอะ..

อืม แล้วใครจะเป็นผู้ต่อสู้เรียกร้องให้กับลูกจ้างเหล่านั้นล่ะครับ เชื่อว่าลูกจ้างเองไม่กล้าแน่นอน
IP : บันทึกการเข้า

 081-1072008 (สนส28/31,ChiangRai Lure Fishing Team)
ⒷⒼ*
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,368

นิพพานคือนิรันดร์


« ตอบ #9 เมื่อ: วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2013, 23:30:18 »

ผมเห็น ฝ่ายจ้างงานเข้ามาเปิดประเด็นเชิงต่อว่า บรรดาผู้สมัครงานหรือลูกจ้างที่ยังเคว้งคว้างและหางานกันอยู่ก้อยากจะสะท้อนมุมมองอีกด้านบ้างน่ะครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันไปด้วย

ประเด็นที่1 การแต่งกายไปสัมภาษณ์งานของผู้สมัครงาน
      หากเป็นเงื่อนไขในการสัมภาษณ์ก็ควรระบุให้ชัดเจน  จะอย่างไรก็ไม่ควรตำหนิใครหรือบุคคลใดที่แต่งกายไม่เหมาะสมในการสัมภาษณ์มันเป็นเหตุเป็นผลที่คุณจะไม่เลือกเขาหรือบุคคลเหล่านี้เข้าทำงานหรือร่วมงานกับคุณอยู่แล้วน่ะครับ มันได้แต่สะท้อนการไม่เคารพตัวเองของคนสัมภาษณ์เท่านั้นเองะครับ ที่มองผู้คนเพียงแต่เปลือก น่าจะสนใจแต่คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน

ประเด็นที่สอง  การโกหกเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร
....ก้เช่นเดียวกันครับ กับประเด็นแรก  คุณสมบัติไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ้างเขาหรือเด็กๆเหล่านี้ ไม่เห็นต้องมาบ่น

ประเด็นที่สาม  เด็กมาทดลองงาน ฝึกงานแล้วก็ทิ้งงานไม่ไปทำงานต่อ
    ต้องกลับมาดุฝ่ายนายจ้าง เจ้าของกิจการแล้วล่ะครับว่าคุณเอาเปรียบ ลุกจ้างพนักงานอย่างไร สื่อสารลักษณะงานขอบเขตความรับผิดชอบต่อตำแหน่งและหน้าที่ของงานชัดเจนหรือยัง  ผมเห็นทำผิดกฎหมายแรงงานกันแทบทั้งนั้น
ยกตัวอย่าง  การทดลองงาน ไม่ได้หมายความว่าต้องจ่ายค่าจ้างถูกลงพอพ้นการทดลองแล้วถึงจะขึ้นค่าแรง อันนี้เข้าใจผิดแล้วครับ ศึกษาข้อกฎหมายกันให้ดี ตัวอย่างที่สอง  ชอบเรียกเก็บเงินคำ้ประกันทั้งที่ตำแหน่งหน้าที่ของงานไม่เกี่ยวข้องกับเงินทองโดยตรง อันนี้ก้ผิดกันไปหมด
     ประเด็นทิ้งท้ายในช่วงนี้ ซึ่งเป็นมุมมองของผมเอง การคิดอัตราจ้างไม่สอดคล้องและเอาเปรียบพนักงานและลูกจ้างมากเกินไป ข้อนี้สำคัญที่สุด คุณคิดจะให้เขาเหล่านี้ทุ่มเทจริงใจ หรือซื่อสัตย์ต่อการทำงานแต่จ่ายด้วยราคาแสนถูก มันก็ไปด้วยกันลำบากแล้วครับ พวกเขาเหล่านี้ก็คงต้องทดลองหรือแสวงหางานที่ดีและมีความมั่นคงต่อไปเรื่อยๆ จะใส่เสื้อผ้าให้ดูดีติดกระดุมเม้ดแรกต้องติดให้ถูกน่ะครับ..

ขอแลกเปลี่ยนกันหน่อยครับ เผื่อเป็นประโยช์นแก่เด็กที่กำลังหางาน
ลูกจ้าง
1.เรื่องการแต่งกาย ผมยังมองเป็นก้าวแรกในการเดินไปทำงาน
  ไม่ว่าที่ไหน องค์กรใด ความเรียบร้อย
  ยังถือว่าให้ความสำคัญ อันดับต้นๆอยู่ดีครับ
  นอกเสียจากว่าท่านจะไปทำงานเกี่ยวกับบันเทิง ครีเอทีฟ เป็นต้น
2.เรื่องคุณสมบัติ การโกหก ปลอมแปลงเอกสาร ถือเป็นโทษขั้นร้ายแรงขั้นสูงสุด
  ผู้สมัครอย่าได้ปลอมแปลงเด็ดขาด ถ้าบริษัทใหญ่ เขาเช็คนะครับ
 นอกจากท่านจะโดนไล่ออก อาจจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ขออย่าได้เสี่ยง
3.เด็กฝึกงาน ทิ้งงาน  ผมเพิ่งเคยได้ยินครับ
   ตามปกติเด็กฝึกงาน จะต้องมีใบรับรองจากสถานศึกษา เพื่อไปฝึกงาน
    แล้วถ้าเด็กทิ้งงาน ไม่มาฝึกงาน แล้วจะเอาใบไหนมาประเมินครับ
นายจ้าง
ต้องชี้แจง กฎระเบียบให้ชัดเจน แต่ถ้ามีเงินประกัน ต้องเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างๆของบริษัท
ถ้าลูกจ้างทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง มีสิทธิ์สอบถามได้
ขอทิ้งทายนะครับ
ไม่ว่าลูกจ้าง  ขอให้ทำงานดี เก่ง อยู่ไปก็เห็นคนทำงาน ผมยาว กางเกงยีนก็เยอะ แนวๆก็มาก
นายจ้าง ที่เคี้ยว โหด เห็นมาเยอะ ไม่โดนไล่ออก ก็ปิดบริษัทครับ
IP : บันทึกการเข้า
AUM_PUKLUK
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 359


ต่ำเราต้องค้ำชู ให้สูง จรูงศรี


« ตอบ #10 เมื่อ: วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2013, 23:11:53 »

ขอแลกเปลี่ยนกันหน่อยครับ เผื่อเป็นประโยช์นแก่เด็กที่กำลังหางาน
ลูกจ้าง
1.เรื่องการแต่งกาย ผมยังมองเป็นก้าวแรกในการเดินไปทำงาน
  ไม่ว่าที่ไหน องค์กรใด ความเรียบร้อย
  ยังถือว่าให้ความสำคัญ อันดับต้นๆอยู่ดีครับ
  นอกเสียจากว่าท่านจะไปทำงานเกี่ยวกับบันเทิง ครีเอทีฟ เป็นต้น
2.เรื่องคุณสมบัติ การโกหก ปลอมแปลงเอกสาร ถือเป็นโทษขั้นร้ายแรงขั้นสูงสุด
  ผู้สมัครอย่าได้ปลอมแปลงเด็ดขาด ถ้าบริษัทใหญ่ เขาเช็คนะครับ
 นอกจากท่านจะโดนไล่ออก อาจจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ขออย่าได้เสี่ยง
3.เด็กฝึกงาน ทิ้งงาน  ผมเพิ่งเคยได้ยินครับ
   ตามปกติเด็กฝึกงาน จะต้องมีใบรับรองจากสถานศึกษา เพื่อไปฝึกงาน
    แล้วถ้าเด็กทิ้งงาน ไม่มาฝึกงาน แล้วจะเอาใบไหนมาประเมินครับ
นายจ้าง
ต้องชี้แจง กฎระเบียบให้ชัดเจน แต่ถ้ามีเงินประกัน ต้องเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างๆของบริษัท
ถ้าลูกจ้างทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง มีสิทธิ์สอบถามได้
ขอทิ้งทายนะครับ
ไม่ว่าลูกจ้าง  ขอให้ทำงานดี เก่ง อยู่ไปก็เห็นคนทำงาน ผมยาว กางเกงยีนก็เยอะ แนวๆก็มาก
นายจ้าง ที่เคี้ยว โหด เห็นมาเยอะ ไม่โดนไล่ออก ก็ปิดบริษัทครับ

[/quote]


++ ยอกซัก..ซาวไลท์...คับ...
IP : บันทึกการเข้า
chokdee
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 39


« ตอบ #11 เมื่อ: วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2013, 23:41:02 »

ถูกต้องคะ เป็นคนหนึ่งที่สมัครงานไว้ประมาณ 1 เดือนแล้วคะ ทิ้งใบสมัครไว้ ก็แล้ว ก็ไม่มีที่ไหนติดต่อมา ส่วนเรื่องการแต่งกายไม่ต้องพูดถึงคะ แต่งกายสุภาพเรียบร้อย เพราะเคยทำงานมาแล้ว เกือบ 6 ปี แต่ต้องการมาหางานทำใกล้บ้าน...ไม่รู้เหมือนกันนะคะ ว่าคัดคนจากอะไร บางอย่างระบุคุณสมบัติไม่ครบ
ทั้งที่ก่อนที่เราสมัครไปนั้น คุณสมบัติตรงทุกอย่าง บางที่เรียกสัมภาษณ์ ประมาณ 2-3 ครั้ง ก็ไม่รับ ในเมื่อเราไม่ใช่ก็อย่าเรียกไปให้เสียเวลาคะ คนทำงานเก่งมีนะคะ แต่ทำไมไม่เปิดโอกาส จะมีที่ไหนให้โอกาสบ้างคะ บางที่ไปสมัคร มีการเรียกเก็บค่าสมัครอีก อะไรจะแย่ปานนั้น....ขอเรียกร้องให้สำหรับคนตกงานทุกคนนะคะ ว่า ขอให้บริษัท เล็งเห็นการให้โอกาสของคนที่เคยมีประสบการณ์แล้วตกงานด้วยคะ อย่าคิดว่า การที่เราออกจากงานเดิมทำไม่ได้ คนเรามีเหตุผลจำเป็นหลายๆ อย่าง
การให้โอกาสคนเป็นสิ่งสำคัญ คนที่คุณคิดว่าเค้าทำไม่ได้ เค้าอาจจะทำได้ดีกว่าที่คุณคิดก็ได้คะ
ขอเป็นกำลังใจให้คนตกงานทุกท่่านนะคะ

----อีกนิดคะ เพราะเหตุผลหลายๆ อย่างทำให้ คนในพื้นที่ ต้องไปทำงานที่จังหวัดอื่น ฝากไว้ให้พิจารณาด้วยคะ ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร ที่ต้องเดินทางไปทำงานจังหวัดอื่นกัน ที่อื่นให้เงินเดือนเยอะนะคะ แต่ดิฉันปฎิเสธ เพราะดิฉันต้องการมาทำงานในจังหวัดเชียงราย จังหวัดที่เป็นบ้านเกิดของดิฉัน มาสร้างบ้านเราให้เจริญดีกว่าคะ ขอบคุณคะ----
IP : บันทึกการเข้า
yod2012
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 00:26:08 »

อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองนะครับ

แต่ส่วนมาก ขึ้นอยู่นายจ้างเค้าแหล่ะ เค้ามีสิทธิ์เลือก

การแต่งกายสำคัญนะ ถึงจะไม่มีในเงื่อนก็จริง
เพราะมันเป็นสิ่งแรกที่เห็น

ถ้าเป็นคนเก่ง คนขยันจริงๆ ไม่ต้องกลัวเรื่องพวกนี้ครับ


ปล. เปลี่ยนชื่อ username หน่อยดีมั้ย dr.kuay
อ่านแล้วแปลกๆ เปลี่ยนตัว k เป็นตัว g ค่อยเพราะหน่อย  ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 00:28:25 โดย yod2012 » IP : บันทึกการเข้า
yod2012
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 00:27:24 »

การทดลองงานตามหลักการที่ถูกต้องนั้นเป็นการบอกให้ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง พนักงานหรือจะเรียกว่าอะไรก็สุดแล้วแต่..ว่าคุณยังไม่ได้โอกาสในการทำงานที่ยาวนานมั่นคง เพราะทางบริษัทเราไม่มีสติปัญญาหรือยังไม่แน่ใจถึงคุณสมบัติที่คุณมีมาในตอนที่สมัครงานครั้งแรกกับทางเรา(ผู้ว่าจ้าง)...แต่ไม่ได้หมายความว่า   กฎหมายจะให้โอกาสนายจ้างเอาเปรียบลูกจ้างโดยการจ่ายค่าแรงหรือค่าจ้าง ตำ่กว่ามาตรฐานที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้น่ะครับ(เป็นช่องทางและโอกาสในการเอาเปรียบเล็กๆน้อยๆ)...การดำเนินธุรกิจใดๆก็ตามย่อมมุ่งหวังผลกำไรที่ดีหรือผลประกอบการที่เล็งผลเลิศ ซึ่งหมายถึงความสามารถหรือศักยภาพทั้งหมดที่เจ้าของกิจการหรือธุรกิจจำเป็นต้องมี รวมถึงความสามารถในการแบกรับความเสี่ยงในการบริหารกิจการและธุรกิจด้วย ไม่ใช่การมาหาเศษหาเลยเอากับทรัพยากรบุคคลของตนเอง...ถ้าธุรกิจใดไม่มีกลไกหรือวิธีการคัดเลือกลูกจ้าง พนักงานที่มีประสิทธิภาพหรือมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่ตนต้องการได้แล้วล่ะก็ ไม่ต้องคาดหวังเลยว่าบริษัท ธุรกิจห้างร้านเหล่านี้จะมีกึ๋นในการดำเนินและต่อยอดทางธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน..เชื่อเถอะ..
สุดยอดไปเลยครับ....ตรงประเด็นและเป็นความจริงอยากมากเหมือนที่ผมเห็นแป๊ะ
IP : บันทึกการเข้า
yod2012
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 00:29:24 »

ผมเห็น ฝ่ายจ้างงานเข้ามาเปิดประเด็นเชิงต่อว่า บรรดาผู้สมัครงานหรือลูกจ้างที่ยังเคว้งคว้างและหางานกันอยู่ก้อยากจะสะท้อนมุมมองอีกด้านบ้างน่ะครับ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันไปด้วย

ประเด็นที่1 การแต่งกายไปสัมภาษณ์งานของผู้สมัครงาน
      หากเป็นเงื่อนไขในการสัมภาษณ์ก็ควรระบุให้ชัดเจน  จะอย่างไรก็ไม่ควรตำหนิใครหรือบุคคลใดที่แต่งกายไม่เหมาะสมในการสัมภาษณ์มันเป็นเหตุเป็นผลที่คุณจะไม่เลือกเขาหรือบุคคลเหล่านี้เข้าทำงานหรือร่วมงานกับคุณอยู่แล้วน่ะครับ มันได้แต่สะท้อนการไม่เคารพตัวเองของคนสัมภาษณ์เท่านั้นเองะครับ ที่มองผู้คนเพียงแต่เปลือก น่าจะสนใจแต่คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงาน

ประเด็นที่สอง  การโกหกเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร
....ก้เช่นเดียวกันครับ กับประเด็นแรก  คุณสมบัติไม่ผ่านก็ไม่ต้องจ้างเขาหรือเด็กๆเหล่านี้ ไม่เห็นต้องมาบ่น

ประเด็นที่สาม  เด็กมาทดลองงาน ฝึกงานแล้วก็ทิ้งงานไม่ไปทำงานต่อ
    ต้องกลับมาดุฝ่ายนายจ้าง เจ้าของกิจการแล้วล่ะครับว่าคุณเอาเปรียบ ลุกจ้างพนักงานอย่างไร สื่อสารลักษณะงานขอบเขตความรับผิดชอบต่อตำแหน่งและหน้าที่ของงานชัดเจนหรือยัง  ผมเห็นทำผิดกฎหมายแรงงานกันแทบทั้งนั้น
ยกตัวอย่าง  การทดลองงาน ไม่ได้หมายความว่าต้องจ่ายค่าจ้างถูกลงพอพ้นการทดลองแล้วถึงจะขึ้นค่าแรง อันนี้เข้าใจผิดแล้วครับ ศึกษาข้อกฎหมายกันให้ดี ตัวอย่างที่สอง  ชอบเรียกเก็บเงินคำ้ประกันทั้งที่ตำแหน่งหน้าที่ของงานไม่เกี่ยวข้องกับเงินทองโดยตรง อันนี้ก้ผิดกันไปหมด
     ประเด็นทิ้งท้ายในช่วงนี้ ซึ่งเป็นมุมมองของผมเอง การคิดอัตราจ้างไม่สอดคล้องและเอาเปรียบพนักงานและลูกจ้างมากเกินไป ข้อนี้สำคัญที่สุด คุณคิดจะให้เขาเหล่านี้ทุ่มเทจริงใจ หรือซื่อสัตย์ต่อการทำงานแต่จ่ายด้วยราคาแสนถูก มันก็ไปด้วยกันลำบากแล้วครับ พวกเขาเหล่านี้ก็คงต้องทดลองหรือแสวงหางานที่ดีและมีความมั่นคงต่อไปเรื่อยๆ จะใส่เสื้อผ้าให้ดูดีติดกระดุมเม้ดแรกต้องติดให้ถูกน่ะครับ..
เยี่ยมจริงๆครับนานๆจะมีผู้รู้มาให้ความรู้และข้อคิดดีๆแบบนี้...เป็นจริงทุกประการครับ
IP : บันทึกการเข้า
yod2012
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 00:37:05 »

อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองนะครับ

แต่ส่วนมาก ขึ้นอยู่นายจ้างเค้าแหล่ะ เค้ามีสิทธิ์เลือก

การแต่งกายสำคัญนะ ถึงจะไม่มีในเงื่อนก็จริง
เพราะมันเป็นสิ่งแรกที่เห็น

ถ้าเป็นคนเก่ง คนขยันจริงๆ ไม่ต้องกลัวเรื่องพวกนี้ครับ


ปล. เปลี่ยนชื่อ username หน่อยดีมั้ย dr.kuay
อ่านแล้วแปลกๆ เปลี่ยนตัว k เป็นตัว g ค่อยเพราะหน่อย  ยิงฟันยิ้ม
จริงครับ...บางที่เสือกเก็บค่าสมัครอีกบอกเป็นค่าเอกสาร คนหางานต้องการรายได้แต่นี่มาเก็บค่าสมัครรูปเราก็ถ่ายไปเป็นโหลๆไหนจะสำเนาเอกสารต่างๆอีก บางที่เก็บเงินประกันทีครึ่งหมื่นหากทำงานไม่ครบ6เดือนถึง1ปีก็ไม่จ่ายคืนแถมหักนู่นหักนี่อีก....นี่หรือกึ๋นของผู้ประกอบการ อยากรู้จริงๆว่าหาก AEU เปิดแล้วพวกนี้มันจะแข่งขันกับเขาได้มั๊ยนะพวกหากินกะลูกน้องนี่....เลยเป็นนายตนเองดีกว่าคุ้มค่ากับทุนและเวลาที่ร่ำเรียนมา..ทุกวันนี้หากมองย้อนไปเมื่อสมัยที่จบใหม่ๆยังเป็นลูกจ้างเขาอยู่ภาพต่างๆนั้นมันยังหลอนอยู่เลยครับกับความประสบการณ์ไม่ดีๆกับบางสถานประกอบการ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 00:41:53 โดย yod2012 » IP : บันทึกการเข้า
dr.kuay
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 88


« ตอบ #16 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 12:41:39 »

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้น่ะครับ

     ต้องขอชี้แจงวัตถุประสงค์ในการนำเสนอประเด็นนี้อีกสักครั้งน่ะครับ
 ประการที่ 1. ผมไม่ได้สนับสนุนลูกจ้างหรือพนักงานให้กระทำผิดเงื่อนไขในการสมัครงานและเลือกงานในการดำเนินชีวิตแต่ประการใดๆผมเพียงสะท้อนมุมมองที่เอียงมาทางกลุ่มผู้สมัครงานหรือกลุ่มลูกจ้างน่ะครับ...ข้อนี้เป็นหลักสำคัญในการเสนอประเด็นนี้
สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับมวลประสบการณ์และการศึกษาเรียนรู้ของแต่ละทันอยู่แล้วครับ  การกระทำของแต่ละบุคคลก็สะท้อนระดับสติปัญญาของท่านนั้นๆเองไม่มีใครไปบังคับกันได้หรอกถ้าไม่เต็มใจ..

ประการที่ 2  ผมต้องการสะท้อนถึงมุมมองในการเลือกปฏิบัติของกลุ่มผุ้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจ หรืออาจกล่าวให้กระชับลงไปในลักษณะเฉพาะเจาะจงได้ว่า เป็นผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการสรรหาว่าจ้างพนักงานหรือลูกจ้างของสถานประกอบการหรือธุรกิจนั้นๆถึงความเป็นมืออาชีพของบุคคลเหล่านี้ ซึ่งสะท้อนออกมาได้ถึงทัศนคติแลัมุมมองที่เค้ามีและปฎิบัติต่อน้องๆที่ไปสมัครงาน

ประการที่ 3 ผมพยายามโยงไปถึงหลักการและวิธีปฏิบัติสองเรื่องที่สำคัญที่ทั้งสองกลุ่ม(ผู้ประกอบการและพนักงาน/ลูกจ้าง)ต้องเกี่ยวข้องต่อกันคือ ศักยภาพหรือแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจ กับ กฏหมายคุ้มครองแรงงาน ตรงนี้ขอยำ้น่ะครับสำหรับท่านที่เข้ามาสะท้อนและไม่ได้ศึกษาข้อมูลหรือข้อเท็จจริงให้ดีก่อน เข้ามาแค่แสดงความรู้สึกของตนเอง มันอาจจะดูดีจากประโยคที่แสดงแต่มันไม่มีประโยชน์ใดๆต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

http://kc.hri.tu.ac.th/index.php?title=%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99_(%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_2)_%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2551

ถ้ายังไงก็ลองคลิีกเข้าไปอ่านดูหน่อยน่ะครับ  ชื่อกฎหมายก็บอกแล้วว่าคุ้มครองแรงงาน ไม่ใช่คุ้มครองนายจ้างน่ะครับ
ผมเตือนเรื่องการเรียกเงินคำ้ประกันอีกครั้ง ซึ่งทำผิดกฎหมายกันแทบจะทุกที่ในจังหวัดเชียงราย ตามคำที่ใช้ ถูกต้อง คือ "การเรียกหลักประกันความเสียหายจากการทำงาน" ครับ ไม่ใช่เรียกได้ทุกตำแหน่งงาน ถ้าพูดแค่ว่าความเสียงในการทำงาน มันเสียงทุกตำแหน่งและครับ เน้นตรงนี้ล่ะกันครับ
“มาตรา ๑๐ ภายใต้บังคับมาตรา ๕๑ วรรคหนึ่ง ห้ามมิให้นายจ้างเรียกหรือรับหลักประกัน การทำงานหรือหลักประกันความเสียหายในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเงิน ทรัพย์สินอื่นหรือการค้ำประกัน ด้วยบุคคลจากลูกจ้าง เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพของงานที่ทำนั้นลูกจ้างต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงิน หรือทรัพย์สินของนายจ้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างได้ ทั้งนี้ ลักษณะหรือสภาพของ งานที่ให้เรียกหรือรับหลักประกันจากลูกจ้าง ตลอดจนประเภทของหลักประกัน จำนวนมูลค่าของ หลักประกัน และวิธีการเก็บรักษา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ในกรณีที่นายจ้างเรียกหรือรับหลักประกัน หรือทำสัญญาประกันกับลูกจ้างเพื่อชดใช้ความ เสียหายที่ลูกจ้างเป็นผู้กระทำ เมื่อนายจ้างเลิกจ้าง หรือลูกจ้างลาออกหรือสัญญาประกันสิ้นอายุ ให้นายจ้างคืนหลักประกันพร้อมดอกเบี้ย ถ้ามี ให้แก่ลูกจ้างภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่นายจ้างเลิกจ้างหรือ วันที่ลูกจ้างลาออก หรือวันที่สัญญาประกันสิ้นอายุ แล้วแต่กรณี"

ที่สำคัญที่สุดกฎหมายนี้มีผลของการกระทำผิดทั้งจำทั้งปรับน่ะครับ...ขอเตือนว่า  ธุรกิจหลายๆแห่งประสบปัญหาจากการทำผิดกฎหมายคุ้มครองแรงงานจนกระทำ เจ๊งไปหลายรายแล้วน่ะครับ...อย่าล้อเล่นครับถ้าไม่เข้าใจจริงๆ ประเด็นอื่นผมไม่กล่าวซำ้น่ะครับ..ขอบคุณ

IP : บันทึกการเข้า
G&B ฟาร์มนกกระทา เชียงราย
คนเลี้ยงนกกระทา และรับขับรถคร้าบบบบ
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 941


สวนเกษตรผสมผสาน


« ตอบ #17 เมื่อ: วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 21:02:31 »

ส่วนมาก ผู้ที่ได้งานทำ ก็เด็กเส้นล่ะครับ
ส่วนนายจ้างที่มองแต่เปลือก ก็เตรียมล่มจมได้เลยครับ จะเอาดูดีอะไรหนักหนา ต่อไปมนุษย์ต้องใส่สูทไปสมัครงานแล้วล่ะครับ
เพราะนายจ้างมองแค่เปลือก รูปร่าง หน้าตา แต่ไม่สนใจความสามารถ และประสบการณ์ของผู้สมัคร เอาแค่วุฒิ แต่ทำอะไรไม่เป็น
แต่ผมโชคดีครับ ที่ได้ทำงานกับบริษัทที่เห็นความสามารถและประสบการณ์ของผมสำคัญกว่าใบวุฒิการศึกษา และหน้าตา
สำหรับผู้ที่กำลังหางานทำ ก็อย่าเพิ่งท้อถอยครับ อย่าไปสนใจกับนายจ้างปัญญาอ่อนพวกนี้ ผมเชื่อว่า สักวันโอกาสที่ดีจะเป็นของคุณ
และคุณ ก็คงจะเป็นที่ต้องการของนายจ้างที่ต้องการพนักงานที่มีคุณภาพอย่างคุณเช่นกันครับ
IP : บันทึกการเข้า

G&B ฟาร์ม เชียงราย สวนผสม ทำเกษตรไปเรื่อยครับ
biki073
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 531


« ตอบ #18 เมื่อ: วันที่ 01 มีนาคม 2013, 18:34:58 »

 ยิ้ม ก็เป็นมุมมองหนึ่งของคนหางาน
อย่างประเด็นเรื่องการแต่งกายก็คงไม่มีคนเถียงอะเนอะว่าจะต้องแต่งตัวให้สุภาพ
แต่ก็มีหลายอาชีพเช่นกัน ที่เค้าไม่ได้ตัดสินกันที่การแต่งกาย แต่อยู่ที่ฝืมือเป็นหลัก
อย่างว่าโลกเรามีหลายอาชีพ หลายๆอาชีพอาจจะต้องอาศัยการมองหาความเชื่อมั่นตั้งแต่แรกเห็นก็เป็นได้
ก็อย่างว่าแหละมีนายจ้างไม่ดีก็เยอะ นายจ้างดีก็เยอะ แล้วแต่ดวงอะเนอะ
ทำงานในที่ๆเรามีความสุขยังไงงานก็ออกมาดี
เป็นกำลังใจให้กับคนหางาน เพราะมันก็ต้องมีจังหวะของเราบ้าง(ฐานนะคนเคยเดินเตะฝุ่น)

งานมันหายากตอนนี้ถ้าได้กันแล้วก็ทำกันให้เต็มที สมกับที่เค้าให้โอกาสเราโชว์ศักยภาพ
ปล.เคยเจอพนักงานทดลองงาน ได้เงินเดือน เดือนแรกปุ๊ปไปเลย เค้าอาจจะไม่ได้คิดอะไรมาก แต่งานที่เค้าทำค้าง
แล้วเราต้องมาช่วงต่อ นึกถึง ใจเค้าใจเราเนอะ เซฟไว้ไหนเราจะรู้มั้ย ?? อันนี้แนะนำสำหรับน้องที่ไม่อยากทำต่อ
IP : บันทึกการเข้า

อยากชิมกล้วยเบรคแตก กล้วยไข่กรอบ อร่อยๆ กด like เลย
https://www.facebook.com/JNbanana
madoovip
บริการ ติดตั้ง ซ่อม แอร์บ้าน ระบบไฟฟ้าบ้าน อาคาร ระบบNetwork
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 318



« ตอบ #19 เมื่อ: วันที่ 02 มีนาคม 2013, 10:46:35 »

หนูเคยทำงานอยู่สถาบันสอนพิเศษมีชื่อเสียงที่หนึ่ง ในเชียงราย อยู่ตำแหน่งครูผู้ช่วย ภาษาอังกฤษหนูไม่รู้เหมือนกันว่าทำไรผิด  ทำ

มาได้เกือบเดือน เขาชมหนูว่าตรวจงานดีตรวจงานเร็ว ชมเกี่ยวกับงานหลายๆอย่าง จ้างวันละ200
แล้วยุมาเช้าวันหนึ่งเค้าก็มาบ่นกีบพนักงานเก่าของเขาและเกิดหงุดหงิดไรไม่รู้ แต่หนูก็ทำตามหน้าที่
พอตกเย็นมา หนูกับรุ่นพี่ที่มาทำงานหลังหนูเพียงอาทิตย์เดียวก็โดนเรียกไปพูด บอกว่าพวกหนูไม่ผ่าน
งาน หนูเสียความรู้สึกกับที่นั้นมากเลย  ขึ้นยุกับอารม์นายจ้างทั้งนั้นเลย แบบนี้ลูกจ้างคงไม่มีกำลัง
ใจในการหางานใหม่ิ งานไม่ได้หาง่ายๆด้วย
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!