ผมเอาประสบการณ์ของตนเองมาร่วมแบ่งปันนะครับ
ผมก็มีประสบการณ์ที่คล้ายกับเจ้าของกระทู้ เพียงแต่ว่าผมนั้นเต็มใจที่จะทำประกันเอง
โดยเงื่อนไขที่ทำให้ผมตกลงใจ ก็คือ เขาบอกว่าความคุ้มครองจะครอบคลุมไปถึงคู่สมรสด้วย ทั้งถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่จดทะเบียนก็ได้ เขาก็จะมีบัตร VIP ในการเข้ารักษา ให้ทั้งสองคน ผมก็ตกลงโดยเข้าใจว่าเป็นประกันสุขภาพด้วย จากนั้นก็รอกรมธรรม์ที่เขาส่งมาให้ตามที่อยู่ที่แจ้งจากการพูดคุยนั้น
แต่พอถึงเวลาที่ได้รับกรมธรรม์แล้วปรากฏว่าเป็นประกันอุบัติเหตุ แถมยังได้บัตรมาแค่คนเดียว เมื่อไม่เป็นไปตามความตั้งใจของเรา ผมจึงอยากจะยกเลิกประกันเสีย และก็ได้ค้นหาข้อมูลได้ว่า
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ “คปภ.” ได้ออกระเบียบในการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัย เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนในการทำประกันภัย โดยมีเงื่อนไขสำคัญที่ประชาชนควรทราบสำหรับการเสนอขายผ่านทางช่องทางโทรศัพท์ ดังนี้
1.ผู้เสนอขายต้องแจ้งชื่อ-นามสกุล เลขที่ใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย พร้อมทั้งแจ้งว่า เป็นการขายประกันภัย และหากประชาชนไม่มีความประสงค์จะรับฟังต้องยุติการสนทนาทันทีและไม่ติดต่อกลับอย่างน้อย 6 เดือน
2. กรณีที่ได้ทำประกันภัยไปแล้วจากช่องทางนี้ สามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับกรมธรรม์ประกันภัย โดยจะได้รับเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
3. บริษัทต้องโทร.กลับหาผู้เอาประกันภัยอีกครั้ง ภายใน 7 วันนับจากวันที่บริษัทส่งกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อยืนยันความต้องการทำประกันภัยอีกครั้ง
4. ผู้เสนอขายจะต้องขออนุญาตบันทึกการสนทนากรณีที่ประชาชนมีความประสงค์ที่จะรับฟังการเสนอขายซึ่งถ้าเกิดข้อโต้แย้งขึ้นภายหลัง สามารถนำเทปที่บันทึกบทสนทนานั้นมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดที่เกิดปัญหาสำหรับการซื้อประกันภัยผ่านช่องทางโทรศัพท์แบบนี้ สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่ สำนักงานคปภ.และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186 จะมีเจ้าหน้าที่ของคปภ. คอยให้คำปรึกษาอยู่
ซึ่งผมได้เห็นแนวทางตามข้อที่ 2 และได้ทำตามนั้น ผลที่ได้ คือ เราสามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 30 วัน หลังจากที่ตกลงกันในโทรศัพท์ โดยในช่วงประมาณ 1-2 เดือนแรกที่เราตกลงทำประกันนั้น เราจำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันไปก่อน เพื่อรักษาเครดิตไว้ (ซึ่งเซ็งกับมันมากๆ) จากนั้นเราก็จะได้รับเงินค่าเบี้ยประกันคืน ในกรณีของผมนั้นได้เงินคืนมาในรูปแบบหักลบหนี้ที่เรามีอยู่ (คือยังไงๆเราก็ไม่ได้เงินคืนในรูปแบบเงินสดแน่นอน) ณ จุดนี้ เราก็ต้องคอยเช็คดีๆครับว่า เงินที่เราจ่ายไปเป็นเท่าไหร่ แล้วมันคืนมาแบบไหน คืนมาเมื่อไหร่ (ซึ่งมันจะชวนให้สับสนมากๆ)
วิธีที่จะยกเลิกนะครับ ถ้าได้กรมธรรม์มาแล้วก็จะดีหน่อย เพราะจะมีเลขกรมธรรม์ ที่ทำให้เราแจ้งยกเลิกง่ายหน่อย แต่ถ้าไม่อยากรอ ก็กดไปที่ call center Cigna 1758 (ตามรูปที่แนบ) ต้องรีบดำเนินการหน่อยครับ
ครั้งนี้พลาดไปก็ถือว่าเป็นครูครับ ครั้งต่อไปถ้าไม่เอาก็ไม่ต้องฟังครับ
หากเราบอกว่าไม่เอา แล้วเขาไม่ยอมเลิกตื้อ วางสายใส่ได้ครับ
หรือว่า สามารถร้องเรียนได้ครับ เนื่องจากเขากำหนดให้ว่า ถ้าเราบอกไม่เอา
จะต้องยุติการสนทนาทันทีครับ
มีประโยชน์มากเลยครับ
เป็นแนวทางช่วยแก้ปัญหาได้ดีเยี่ยม ขอบคุณครับ
