เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 26 กรกฎาคม 2025, 10:46:30
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  ลูกหลานใครเป็รโรคแบบนี้บ้างคะ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน ลูกหลานใครเป็รโรคแบบนี้บ้างคะ  (อ่าน 3267 ครั้ง)
whanyen
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2010, 20:32:36 »

เอาใจช่วยนะคะ
IP : บันทึกการเข้า
poopey
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90


สิ่งดีๆมีให้ทำอีกเยอะ


« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2010, 20:36:58 »

เอาใจช่วยนะคะ

ค่ะ ขอบคุณนะคะ
IP : บันทึกการเข้า
ⒷⒼ*
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,368

นิพพานคือนิรันดร์


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2010, 21:07:04 »

ดีใจที่อาการดีขึ้นครับ
 ผมก็เคยเจอว่าไปโรงพยาบาลนี้ วินิจฉัยโรคนี้ แต่รักษาไปอาการก็แย่  ต้องไปอีกโรงพยาบาล ก็วินิจฉัยอีกโรค ถ้าอาการไม่ดีต้องเปลี่ยนครับโรงพยาบาลครับ
IP : บันทึกการเข้า
flashi
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,796


on the internet nobody knows you’re a dog


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2010, 21:27:50 »

เดี๋ยวนี้โรคภัยต่าง ๆ มันแปลกขึ้นทุกวัน  อาจเพราะเมื่อก่อนการเจ็บป่วยจากเชื้อโรคเราจะรู้จักกันดีและมีการป้องกันรักษาไม่ว่าจะวัณโรคหรือโปลิโอ  แต่โรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคนี่สิคะ ไม่ว่าจะจากอาหารที่มีสารพิษ เค็มหรือหวานเกิน  หรือจากพันธุกรรม  มันมีโรคอีกมากมายที่เรานึกไม่ถึง  น้องโชคดีที่ได้คุณหมอมาดูแลแล้ว  ขอให้หายไวไวนะคะ และขอบคุณกระทู้นี้ค่ะเพราะเป็นวิทยาทานให้กับอีกหลายครอบครัวที่อาจจะมีน้อง ๆ เป็นอาการใกล้กันนี้จะได้ไม่นิ่งนอนใจ ไปพบแพทย์ได้ทันเวลา  ยิ้มกว้างๆ
หลานของเราคนนึง เกิดมาเป็นโรค "ภาวะไม่มีม่านตา" ตอนแม่เขาเล่าให้ฟังก็งงเหมือนกัน ว่ามีโรคแบบนี้ด้วยเหรอ เท่าที่หาข้อมูลดูก็เป็นโรคที่เกิดจากความบกพร่องทางพันธุกรรมของพ่อและแม่ที่มาเจอกันพอดี อาการหลักๆคือไม่มีม่านตาทั้งสองข้าง(ตอนเกิดมาจะดูไม่ค่อยออกเพราะเด็กทารกตาสีดำสนิท แต่เริ่มสังเกตเห็นตอนที่ 2-3 เดือนแล้ว เวลากินนมหลานไม่มองหน้าแม่ตัวเองเลย เพราะเขามองไม่เห็น) แล้วก็มีอาการพ่วงแถมมาด้วยคือเรื่องพัฒนาการทางสมอง กับมะเร็งที่ตับ ตอนนี้ก็กำลังรักษากันอย่างหนักเหมือนกันค่ะ  ลังเล

ส่วนเจ้าของกระทู้ ยินดีด้วยที่หลานมีอาการดีขึ้น ขอให้วินิจฉัยโรคได้ไวๆนะคะ
IP : บันทึกการเข้า

ทุกอาชีพไม่มีไส้แห้ง ไม่ว่าอาชีพใดทั้งสิ้น ที่เมิงไส้แห้ง เพราะเมิงกระจอกไง มันอยู่ที่ใจเมิง ใจเมิงสูงเมิงก็รอด ใจเมิงกระจอกเมิงก็จน!
--- (เชิญชมคลิปเต็ม)
http://www.youtube.com/watch?v=s-g89WcO6DQ
O-L-Y-G-O-N
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 676


นานาจิตตัง


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2010, 21:56:08 »

โอ้น้องคนนั้นเป็นคนเชียงรายเหรอครับ ฮุๆ เห็นอาจารย์หมอนำมาเป็นกรณีศึกษาในเรื่องของโรคที่มันน่าจะ ขอย้ำนะครับว่าน่าจะเป็นโรคที่มี ระบบการซึมซับสารอาหารได้ผิดปรกติ ปอดติดเชื้อ(สีขาวๆที่เห็นนั้นน่าจะเป็นผังผืดนะครับ) จึงทำให้การแลกเปลี่ยน Oxigen กับ Cabon ในกระแสเลือดผิดปรกติไปด้วยอ่าครับเรียกว่า Hyper ครับจึงต้องส่ง Oxigen บริสุทธิ์โดยตรง หรืออีกในยะหนึ่งคือถ้าน้องคนนั้นมีอาการอ้วน(เอานิ้วไปจิ้มดูแล้วนุ่มๆผิดปรกติ)อาจจะเป็นภาวะที่น้ำเกินก็ได้นะครับ Hyper water แต่ตอนนี้กลับมาผอม สงสัยว่าก่อนจะกลับมาผอมพี่หมอเขาให้น้ำเกลือด้วยอะป่าวครับถ้าให้ก็ไม่ต้องตกใจครับเพราะ เกลือแร่ได้ไปแทนน้ำในตัวที่เกินแล้วเกิดการดูดซับเป็นสารอาหารแล้วครับ

เท่าที่เข้าใจนะครับ ขอให้หายไวๆนะครับเด็กน้อย

มันมีชื่อแบบเป็นทางการใหม ไอ้โรคที่ว่าเนี้ยะ จะได้ serch เป็นความรู้ครับ
IP : บันทึกการเข้า

จงเรียนรู้
aunpang
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,111


--อ้อมกอดอันแสนอบอุ่น--


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2010, 22:04:38 »

ขอให้หลานของเจ้าของกระทู้หายเร็ว ๆ นะคะ  บุญรักษา พระคุ้มครองค่ะ
IP : บันทึกการเข้า


อิ่มอร่อยกุ้งเผา
ถนนสนามบินแม่ฟ้าหลวง ตรงกันข้ามโรงแรมทีคการ์เด้นท์
0897559556
นายเหตุผล
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 564



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2010, 22:12:45 »

ลองไป รพ. เฉพาะทางที่เกี่ยวกับทรวงอกดูครับ (กทม จำชื่อ รพ.ไม่ได้ ป้าเคยไปรักษา ดีมาก)
IP : บันทึกการเข้า
i_tung
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 483



« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 22 กันยายน 2010, 22:16:58 »

ขอให้น้องเค้าหายไวๆนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ

IP : บันทึกการเข้า

"น้ำเปล่าหล่อเลี้ยงต้นไม้ฉันได น้ำใจหล่อเลี้ยงความรักฉันนั้น"
Lavieenrosecri_a
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2010, 19:34:55 »

น่าสงสารจัง หลานอายุเท่าไหร่แล้วคะ  ขอให้หลานหายเร็วๆและก็สุขภาพกลับมาดีเหมือนเดิมนะคะ
IP : บันทึกการเข้า
poopey
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90


สิ่งดีๆมีให้ทำอีกเยอะ


« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2010, 23:10:42 »

ตอนนี้ครบ 6 ขวบค่ะ  เพิ่งกลับจาก รพ ที่เชียงใหม่ค่ะ หมอให้เพิ่มยา แต่รู้สึกว่าจะร่าเริงและทานข้าวได้เยอะเลยค่ะ ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะคะ เห็นแบบนี้แล้วก็สบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
setgabell
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2010, 23:15:15 »

ลองไป รพ. เฉพาะทางที่เกี่ยวกับทรวงอกดูครับ (กทม จำชื่อ รพ.ไม่ได้ ป้าเคยไปรักษา ดีมาก)


ไม่ต้องไปถึง กทม หรอกครับเพราะที่เชียงใหม่ มาตรฐานการรักษาเท่าเทียมกับศิริราชหรือ รามาธิบดีทุกๆด้านเน้นว่าทุกๆด้านนะครับ แต่ด้านเกี่ยวกับสมองและเส้นประสาท กทม ยังต้องส่งมารักษาที่เชียงใหม่เลยครับ
IP : บันทึกการเข้า
tukta906
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 337


« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2010, 23:18:44 »

ดีใจด้วยนะคะ  ขอให้น้องหายเร็ว ๆ ค่ะ  ยิ้มกว้างๆ

เดี๋ยวนี้โรคภัยต่าง ๆ มันแปลกขึ้นทุกวัน  อาจเพราะเมื่อก่อนการเจ็บป่วยจากเชื้อโรคเราจะรู้จักกันดีและมีการป้องกันรักษาไม่ว่าจะวัณโรคหรือโปลิโอ  แต่โรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคนี่สิคะ ไม่ว่าจะจากอาหารที่มีสารพิษ เค็มหรือหวานเกิน  หรือจากพันธุกรรม  มันมีโรคอีกมากมายที่เรานึกไม่ถึง  น้องโชคดีที่ได้คุณหมอมาดูแลแล้ว  ขอให้หายไวไวนะคะ และขอบคุณกระทู้นี้ค่ะเพราะเป็นวิทยาทานให้กับอีกหลายครอบครัวที่อาจจะมีน้อง ๆ เป็นอาการใกล้กันนี้จะได้ไม่นิ่งนอนใจ ไปพบแพทย์ได้ทันเวลา  ยิ้มกว้างๆ
หลานของเราคนนึง เกิดมาเป็นโรค "ภาวะไม่มีม่านตา" ตอนแม่เขาเล่าให้ฟังก็งงเหมือนกัน ว่ามีโรคแบบนี้ด้วยเหรอ เท่าที่หาข้อมูลดูก็เป็นโรคที่เกิดจากความบกพร่องทางพันธุกรรมของพ่อและแม่ที่มาเจอกันพอดี อาการหลักๆคือไม่มีม่านตาทั้งสองข้าง(ตอนเกิดมาจะดูไม่ค่อยออกเพราะเด็กทารกตาสีดำสนิท แต่เริ่มสังเกตเห็นตอนที่ 2-3 เดือนแล้ว เวลากินนมหลานไม่มองหน้าแม่ตัวเองเลย เพราะเขามองไม่เห็น) แล้วก็มีอาการพ่วงแถมมาด้วยคือเรื่องพัฒนาการทางสมอง กับมะเร็งที่ตับ ตอนนี้ก็กำลังรักษากันอย่างหนักเหมือนกันค่ะ  ลังเล

ส่วนเจ้าของกระทู้ ยินดีด้วยที่หลานมีอาการดีขึ้น ขอให้วินิจฉัยโรคได้ไวๆนะคะ


ขอเป็นกำลังใจให้น้องและคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ  ขอให้ปาฎิหารย์แห่งรักของคุณพ่อคุณแม่และทุก ๆ คนในครอบครัวรวมถึงพวกเราชาวเชียงรายโฟกัสได้เป็นพลังในการรักษาน้องให้หายขาดจากโรคภัยไข้เจ็บโดยเร็วเทอญ
IP : บันทึกการเข้า
>:l!ne-po!nt:<
~: ดาบราชบุตร :~
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 10,257

~>: แขกดอย :<~


« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 26 กันยายน 2010, 06:57:30 »

หายไวๆนะครับ
IP : บันทึกการเข้า

!!!!!  กว่า ๑,๑๐๐ กม.จากยอดดอยสู่ทะเล...ตะวันออก  !!!!!

www.facebook.com/1100kilometer

||||| ธรรมชาติสร้างอากาศบริสุทธิ์    ส่วนมนุษย์นั้นสร้างอาวุธเพื่อทำลาย |||||
godhao
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 26 กันยายน 2010, 17:06:25 »

เอาแค่เฉพาะที่คุณเล่ามานะผมนึกถึง Graves disease มากที่สุด
โดยผู้ป่วยจะมีภาวะฮอร์โมน Thyroid สูง ทำให้มีการเผาผลาญในร่างกายสูง เลยผอม ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย ตรวจร่างกายมักพบคอโต(แต่ก็ไม่จำเป็นต้องโตทุกราย) ตาโปนก็มักพบในเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก
อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวมีแรง ถ้าเป็นมากอาจทำให้กล้ามเนื้อที่ใช้หายใจไม่มีแรง หายใจเองไม่ค่อยได้ และอาจมีการสำลักและติดเชื้อในปอด (ที่เป็นเป็นฝ้าใน film X-ray) เพราะไม่มีแรงจะหายใจหรือไอเอาเสมหะ/เชื้อโรคออกมา
ร่วมกับที่ว่ามีโลหิตจาง (ซึ่งก็เกิดได้จากหลายสาเหตุมากมาย เช่น อาจเป็นโรคเลือดมาแต่เกิด หรือเกิดจากกินได้น้อย เป็นต้น) ก็ขนส่ง Oxygen ได้ไม่ดี
พอแย่มาก Oxygen ในเลือดต่ำมากจนการหายใจล้มเหลว ก็ต้องใส่ท่อต่อเครื่องช่วยหายใจ

การรักษาก็ประคับประคอง แก้ไขให้กลับมาหายใจได้เอง ที่ติดเชื้ออยู่ก็ให้ยาฆ่าเชื้อซะ
ส่วนการรักษาเฉพาะก็คือให้ยาเพื่อลดระดับฮอร์โมน Thyroid ลง ถ้าให้ยาแล้วเอาไม่อยู่จริงๆก็อาจต้องผ่าตัด
ยาที่ให้ก็เป็น Prophylthiouracil (เม็ดสีขาว) + Propanolol พอยาหมดอาการมันก็เลยกลับมาเป็นอีก
ดังนั้นหมอนัดก็ไปตามนัด ถ้ายาขนาดที่กินอยู่มันไม่พอ ยังมีอาการอะไรก็บอกหมอ จะได้ปรับยา
ส่วนจะหายหรือเปล่าก็ต้องไปดูว่าฮอร์โมน Thyroid มันสูงจากอะไรเพราะสาเหตุมันมีได้ล้านแปด ก็ค่อยว่ากันอีกที

แต่ที่ทำให้ผมไม่แน่ใจก็คือ หมอตรวจแล้วไม่รู้จริงหรือว่าเป็นอะไร เพราะแค่เจาะเลือดดูระดับฮอร์โมน Thyroid ก็น่าจะพอบอกได้คร่าวๆ หรือว่าเคสนี้ไม่ตรงไปตรงมา? หรือว่าหมอน่ะรู้แต่ไม่ได้บอกญาติว่าเป็นโรคอะไร? หรือหมอบอกแล้วแต่ญาติแปลข้อมูลที่หมอบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไรแน่?
แล้วที่ส่งไปสวนดอกนี่เพราะอะไร ไปทำ Thyroid scan มาเหรอ? หรือญาติขอไป?

สรุปที่พูดมาทั้งหมดผมวิเคราะห์เอาจากเท่าที่คุณเล่ามา จะผิดถูกแค่ไหนไม่ทราบได้
ดังนั้นเด็กจะเป็นโรคอะไรแน่ก็ให้ไปถามหมอที่รักษาเอาเองดีกว่านะครับ


ปล. คุณ setgabell นี่เป็น นศพ. เหรอครับ หรือทำงานสหสาขาอื่นครับ
เพราะที่บอกว่า อาจเป็นที่ความผิดปกติที่การดูดซึมสารอาหารก็เป็นไปได้ แต่...
พอขึ้นบรรทัดที่ 2 ปุ๊บ -_-" ผมว่ามันมั่วหมดเลยนะ (ถ้าเป็นนศพ.นี่ต้องรีบไล่ไปอ่านหนังสือด่วนนน)
- ฝ้าสีขาวจะเป็นพังพืดหรืออย่างอื่นก็ได้ ถ้าเป็นพังพืดแสดงว่าควรจะเป็นๆหายๆมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งเท่าที่ฟังจากประวัติ ผมว่าน่าจะเป็น Pneumonia มากกว่า
- การแลกเปลี่ยนก๊าซผิดปกติก็ไม่ได้เรียกว่า Hyper นะ (Hyper เฉยๆมันก็แปลได้แค่ว่ามากกว่าปกติ แค่นั้นแหละ - -")
- เวลาสงสัยคนไข้ดูอ้วนเพราะบวมรึเปล่า เวลาจิ้มมันไม่เรียกว่านุ่มๆผิดปกตินะ - -" เราดูกดบุ๋ม-ไม่บุ๋ม
- และบวมน้ำเราก็ไม่เรียกว่า Hyper water นะ (ไม่ได้แปลตรงตัวขนาดน้านนน) จะ Hypervolemic หรืออะไรก็ว่าไป
- น้ำเกลือเฉยๆไม่ให้พลังงานเลย สารอาหารในนั้นมีแต่เกลือแร่ ถ้าผสมน้ำตาลหน่อยก็ยังให้พลังงานน้อยมากกกก ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ยิ่งใส่น้ำเกลือนานๆไม่ได้ให้อาหารทางอื่นเลย ใครอ้วนๆแป๊บเดียวผอมมมม 555
- น้ำเกลือไม่ได้ไปแทนน้ำในตัวที่เกินนะ ยิ่งให้ยิ่งไปออกันเพิ่ม ใครที่ที่มีภาวะน้ำเกินอยู่แล้วต้องจำกัดปริมาณน้ำเกลือที่ให้ (รวมถึงที่กิน ถ้ากินได้) ถ้าเกินมากก็ต้องให้ยาขับปัสสาวะไล่น้ำออก

ปล2. นศพ.ชั้นคลินิกของมช.ไม่ได้หยุดก่อนสอบเป็นอาทิตย์มั้งครับ อย่างมากที่สุดก็วันสองวันก่อนสอบ สอบเสร็จใครมีเวรก็ต้องอยู่เวรต่อ
IP : บันทึกการเข้า
setgabell
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 26 กันยายน 2010, 18:05:25 »

เอาแค่เฉพาะที่คุณเล่ามานะผมนึกถึง Graves disease มากที่สุด
โดยผู้ป่วยจะมีภาวะฮอร์โมน Thyroid สูง ทำให้มีการเผาผลาญในร่างกายสูง เลยผอม ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย ตรวจร่างกายมักพบคอโต(แต่ก็ไม่จำเป็นต้องโตทุกราย) ตาโปนก็มักพบในเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก
อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวมีแรง ถ้าเป็นมากอาจทำให้กล้ามเนื้อที่ใช้หายใจไม่มีแรง หายใจเองไม่ค่อยได้ และอาจมีการสำลักและติดเชื้อในปอด (ที่เป็นเป็นฝ้าใน film X-ray) เพราะไม่มีแรงจะหายใจหรือไอเอาเสมหะ/เชื้อโรคออกมา
ร่วมกับที่ว่ามีโลหิตจาง (ซึ่งก็เกิดได้จากหลายสาเหตุมากมาย เช่น อาจเป็นโรคเลือดมาแต่เกิด หรือเกิดจากกินได้น้อย เป็นต้น) ก็ขนส่ง Oxygen ได้ไม่ดี
พอแย่มาก Oxygen ในเลือดต่ำมากจนการหายใจล้มเหลว ก็ต้องใส่ท่อต่อเครื่องช่วยหายใจ

การรักษาก็ประคับประคอง แก้ไขให้กลับมาหายใจได้เอง ที่ติดเชื้ออยู่ก็ให้ยาฆ่าเชื้อซะ
ส่วนการรักษาเฉพาะก็คือให้ยาเพื่อลดระดับฮอร์โมน Thyroid ลง ถ้าให้ยาแล้วเอาไม่อยู่จริงๆก็อาจต้องผ่าตัด
ยาที่ให้ก็เป็น Prophylthiouracil (เม็ดสีขาว) + Propanolol พอยาหมดอาการมันก็เลยกลับมาเป็นอีก
ดังนั้นหมอนัดก็ไปตามนัด ถ้ายาขนาดที่กินอยู่มันไม่พอ ยังมีอาการอะไรก็บอกหมอ จะได้ปรับยา
ส่วนจะหายหรือเปล่าก็ต้องไปดูว่าฮอร์โมน Thyroid มันสูงจากอะไรเพราะสาเหตุมันมีได้ล้านแปด ก็ค่อยว่ากันอีกที

แต่ที่ทำให้ผมไม่แน่ใจก็คือ หมอตรวจแล้วไม่รู้จริงหรือว่าเป็นอะไร เพราะแค่เจาะเลือดดูระดับฮอร์โมน Thyroid ก็น่าจะพอบอกได้คร่าวๆ หรือว่าเคสนี้ไม่ตรงไปตรงมา? หรือว่าหมอน่ะรู้แต่ไม่ได้บอกญาติว่าเป็นโรคอะไร? หรือหมอบอกแล้วแต่ญาติแปลข้อมูลที่หมอบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไรแน่?
แล้วที่ส่งไปสวนดอกนี่เพราะอะไร ไปทำ Thyroid scan มาเหรอ? หรือญาติขอไป?

สรุปที่พูดมาทั้งหมดผมวิเคราะห์เอาจากเท่าที่คุณเล่ามา จะผิดถูกแค่ไหนไม่ทราบได้
ดังนั้นเด็กจะเป็นโรคอะไรแน่ก็ให้ไปถามหมอที่รักษาเอาเองดีกว่านะครับ


ปล. คุณ setgabell นี่เป็น นศพ. เหรอครับ หรือทำงานสหสาขาอื่นครับ
เพราะที่บอกว่า อาจเป็นที่ความผิดปกติที่การดูดซึมสารอาหารก็เป็นไปได้ แต่...
พอขึ้นบรรทัดที่ 2 ปุ๊บ -_-" ผมว่ามันมั่วหมดเลยนะ (ถ้าเป็นนศพ.นี่ต้องรีบไล่ไปอ่านหนังสือด่วนนน)
- ฝ้าสีขาวจะเป็นพังพืดหรืออย่างอื่นก็ได้ ถ้าเป็นพังพืดแสดงว่าควรจะเป็นๆหายๆมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งเท่าที่ฟังจากประวัติ ผมว่าน่าจะเป็น Pneumonia มากกว่า
- การแลกเปลี่ยนก๊าซผิดปกติก็ไม่ได้เรียกว่า Hyper นะ (Hyper เฉยๆมันก็แปลได้แค่ว่ามากกว่าปกติ แค่นั้นแหละ - -")
- เวลาสงสัยคนไข้ดูอ้วนเพราะบวมรึเปล่า เวลาจิ้มมันไม่เรียกว่านุ่มๆผิดปกตินะ - -" เราดูกดบุ๋ม-ไม่บุ๋ม
- และบวมน้ำเราก็ไม่เรียกว่า Hyper water นะ (ไม่ได้แปลตรงตัวขนาดน้านนน) จะ Hypervolemic หรืออะไรก็ว่าไป
- น้ำเกลือเฉยๆไม่ให้พลังงานเลย สารอาหารในนั้นมีแต่เกลือแร่ ถ้าผสมน้ำตาลหน่อยก็ยังให้พลังงานน้อยมากกกก ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ยิ่งใส่น้ำเกลือนานๆไม่ได้ให้อาหารทางอื่นเลย ใครอ้วนๆแป๊บเดียวผอมมมม 555
- น้ำเกลือไม่ได้ไปแทนน้ำในตัวที่เกินนะ ยิ่งให้ยิ่งไปออกันเพิ่ม ใครที่ที่มีภาวะน้ำเกินอยู่แล้วต้องจำกัดปริมาณน้ำเกลือที่ให้ (รวมถึงที่กิน ถ้ากินได้) ถ้าเกินมากก็ต้องให้ยาขับปัสสาวะไล่น้ำออก

ปล2. นศพ.ชั้นคลินิกของมช.ไม่ได้หยุดก่อนสอบเป็นอาทิตย์มั้งครับ อย่างมากที่สุดก็วันสองวันก่อนสอบ สอบเสร็จใครมีเวรก็ต้องอยู่เวรต่อ

เอาไว้เรียกตาความเข้าใจในตัวเองอะจร้า ใช้การคาดคะแนในการเดาไว้ก่อนนน ไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่แล้วอยู่ที่ลำปางคร้าบบคุณพี่
IP : บันทึกการเข้า
poopey
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 90


สิ่งดีๆมีให้ทำอีกเยอะ


« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 27 กันยายน 2010, 09:39:09 »

เอาแค่เฉพาะที่คุณเล่ามานะผมนึกถึง Graves disease มากที่สุด
โดยผู้ป่วยจะมีภาวะฮอร์โมน Thyroid สูง ทำให้มีการเผาผลาญในร่างกายสูง เลยผอม ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย ตรวจร่างกายมักพบคอโต(แต่ก็ไม่จำเป็นต้องโตทุกราย) ตาโปนก็มักพบในเด็กโตมากกว่าเด็กเล็ก
อ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวมีแรง ถ้าเป็นมากอาจทำให้กล้ามเนื้อที่ใช้หายใจไม่มีแรง หายใจเองไม่ค่อยได้ และอาจมีการสำลักและติดเชื้อในปอด (ที่เป็นเป็นฝ้าใน film X-ray) เพราะไม่มีแรงจะหายใจหรือไอเอาเสมหะ/เชื้อโรคออกมา
ร่วมกับที่ว่ามีโลหิตจาง (ซึ่งก็เกิดได้จากหลายสาเหตุมากมาย เช่น อาจเป็นโรคเลือดมาแต่เกิด หรือเกิดจากกินได้น้อย เป็นต้น) ก็ขนส่ง Oxygen ได้ไม่ดี
พอแย่มาก Oxygen ในเลือดต่ำมากจนการหายใจล้มเหลว ก็ต้องใส่ท่อต่อเครื่องช่วยหายใจ

การรักษาก็ประคับประคอง แก้ไขให้กลับมาหายใจได้เอง ที่ติดเชื้ออยู่ก็ให้ยาฆ่าเชื้อซะ
ส่วนการรักษาเฉพาะก็คือให้ยาเพื่อลดระดับฮอร์โมน Thyroid ลง ถ้าให้ยาแล้วเอาไม่อยู่จริงๆก็อาจต้องผ่าตัด
ยาที่ให้ก็เป็น Prophylthiouracil (เม็ดสีขาว) + Propanolol พอยาหมดอาการมันก็เลยกลับมาเป็นอีก
ดังนั้นหมอนัดก็ไปตามนัด ถ้ายาขนาดที่กินอยู่มันไม่พอ ยังมีอาการอะไรก็บอกหมอ จะได้ปรับยา
ส่วนจะหายหรือเปล่าก็ต้องไปดูว่าฮอร์โมน Thyroid มันสูงจากอะไรเพราะสาเหตุมันมีได้ล้านแปด ก็ค่อยว่ากันอีกที

แต่ที่ทำให้ผมไม่แน่ใจก็คือ หมอตรวจแล้วไม่รู้จริงหรือว่าเป็นอะไร เพราะแค่เจาะเลือดดูระดับฮอร์โมน Thyroid ก็น่าจะพอบอกได้คร่าวๆ หรือว่าเคสนี้ไม่ตรงไปตรงมา? หรือว่าหมอน่ะรู้แต่ไม่ได้บอกญาติว่าเป็นโรคอะไร? หรือหมอบอกแล้วแต่ญาติแปลข้อมูลที่หมอบอกไม่ได้ว่าเป็นอะไรแน่?
แล้วที่ส่งไปสวนดอกนี่เพราะอะไร ไปทำ Thyroid scan มาเหรอ? หรือญาติขอไป?

สรุปที่พูดมาทั้งหมดผมวิเคราะห์เอาจากเท่าที่คุณเล่ามา จะผิดถูกแค่ไหนไม่ทราบได้
ดังนั้นเด็กจะเป็นโรคอะไรแน่ก็ให้ไปถามหมอที่รักษาเอาเองดีกว่านะครับ


ปล. คุณ setgabell นี่เป็น นศพ. เหรอครับ หรือทำงานสหสาขาอื่นครับ
เพราะที่บอกว่า อาจเป็นที่ความผิดปกติที่การดูดซึมสารอาหารก็เป็นไปได้ แต่...
พอขึ้นบรรทัดที่ 2 ปุ๊บ -_-" ผมว่ามันมั่วหมดเลยนะ (ถ้าเป็นนศพ.นี่ต้องรีบไล่ไปอ่านหนังสือด่วนนน)
- ฝ้าสีขาวจะเป็นพังพืดหรืออย่างอื่นก็ได้ ถ้าเป็นพังพืดแสดงว่าควรจะเป็นๆหายๆมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งเท่าที่ฟังจากประวัติ ผมว่าน่าจะเป็น Pneumonia มากกว่า
- การแลกเปลี่ยนก๊าซผิดปกติก็ไม่ได้เรียกว่า Hyper นะ (Hyper เฉยๆมันก็แปลได้แค่ว่ามากกว่าปกติ แค่นั้นแหละ - -")
- เวลาสงสัยคนไข้ดูอ้วนเพราะบวมรึเปล่า เวลาจิ้มมันไม่เรียกว่านุ่มๆผิดปกตินะ - -" เราดูกดบุ๋ม-ไม่บุ๋ม
- และบวมน้ำเราก็ไม่เรียกว่า Hyper water นะ (ไม่ได้แปลตรงตัวขนาดน้านนน) จะ Hypervolemic หรืออะไรก็ว่าไป
- น้ำเกลือเฉยๆไม่ให้พลังงานเลย สารอาหารในนั้นมีแต่เกลือแร่ ถ้าผสมน้ำตาลหน่อยก็ยังให้พลังงานน้อยมากกกก ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ยิ่งใส่น้ำเกลือนานๆไม่ได้ให้อาหารทางอื่นเลย ใครอ้วนๆแป๊บเดียวผอมมมม 555
- น้ำเกลือไม่ได้ไปแทนน้ำในตัวที่เกินนะ ยิ่งให้ยิ่งไปออกันเพิ่ม ใครที่ที่มีภาวะน้ำเกินอยู่แล้วต้องจำกัดปริมาณน้ำเกลือที่ให้ (รวมถึงที่กิน ถ้ากินได้) ถ้าเกินมากก็ต้องให้ยาขับปัสสาวะไล่น้ำออก

ปล2. นศพ.ชั้นคลินิกของมช.ไม่ได้หยุดก่อนสอบเป็นอาทิตย์มั้งครับ อย่างมากที่สุดก็วันสองวันก่อนสอบ สอบเสร็จใครมีเวรก็ต้องอยู่เวรต่อ

ขอบคุณที่ให้ความรู้ค่ะแต่ถามพี่ชายแล้วหมอเค้าไม่บอกค่ะว่าหลานเป็นโรคอะไรแค่แนะนำว่าไม่ควรอยู่ที่ๆมีคนเยอะๆ เช่นห้างสรรพสินค้า หรือที่คนพลุกพล่านน่ะค่ะส่วนเรื่อง รักษาที่รพสวนดอกเราได้ปรึกษาที่รพเชี่ยงรายคือเราขอไปเองด้วยแล้วทางรพเชียงรายก็ส่งตัวไปค่ะแล้วไปรพสวนดอกก็รักษาเป็นเดือนเลยค่ะแต่หลังจากนั้นก็นัดไปทุกเดือน ส่วนชื่อยา คือprednisolone tab 5 mg น่ะค่ะไม่ทราบว่าเหมือนกันรึป่าวทีแรกที่ว่าให้ลดยาคือให้ทานครึ่งเม็ดมื้อเย็นมื้อเดียวแต่หลังจากที่ไปรพมาครั้งล่าสุดให้เพิ่มเป็นเม็ดครึ่ง เช้าและเย็นเลยค่ะ เป็นประโยชน์และความรู้กับเรามากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
IP : บันทึกการเข้า
Jajae
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 29 กันยายน 2010, 10:54:33 »

ขอให้หายไวนะค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
miyoko
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,252



« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 29 กันยายน 2010, 14:22:44 »

อยากให้เจ้าของกระทู้ อัฟเดท ข่าวอาการป่วยไปเรื่อยๆ จะได้เป็นวิทยาทาน แก่ผู้อื่นต่อไปเพื่อเป็นกรณีศึกษาว่าถ้าในครอบครัวเจอผู้ป่วยลักษณะอาการแบบนี้ จะได้ปฎิบัติได้ถูกต้อง
IP : บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!