ตำนานซอล่องน่าน พญาปูคา ผู้สร้างเมืองปัวและได้สถาปนาตัวเองขึ้นครองเมืองปัว เรียกว่า วรณคร (อำเภอปัว จังหวัดน่านในปัจจุบัน) ต่อมาอีกเป็นเวลานาน จนมีราชบุตร คือ พญาก่านเมือง ขุนนุ่น ขุนฟอง พญาปูคาจึงได้เรียกราชบุตรมาปรึกษาหารือพร้อมทั้งเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย โดยดำริที่จะย้ายเมือง ลงมาตั้งใหม่ทางทิศใต้ของวรณคร ราชบุตรและเสนาอำมาตย์ได้ให้คำปรึกษาหารือเห็นพ้องในการย้ายเมืองลงมาตั้ง ณ ที่ดอยภูเพียง (พระธาตุแช่แห้ง อำเภอเมือง จังหวัดน่านในปัจจุบัน)เมื่อประชุมกันแล้วก็ได้ไปตัดไม้ในป่ามาทำเป็นแพซุงสำหรับเป็นพาหนะบรรทุกสิ่งของ ในการเดินทางล่องตาม ลำแม่น้ำน่าน ( สมัยนั้นการเดินทางบกคงลำบากเพราะไม่มีถนนหนทางอย่างปัจจุบัน)ในการเดินทางได้จัดเป็นขบวรต่างๆ ถึง 7 ขบวนคือ ขบวนที่ 1 เป็นที่ประทับของพญาก๋านเมือง กับข้าราชการบริวาร พร้อมทั้งพระบรมธาตุเจ้าที่นำลงมาบรรจุ ณ พระธาตุแช่แห้ง ขบวนที่ 2 เป็นขบวรข้าราชการน้อยใหญ่และเสนาอำมาตย์ ขบวนที่ 3 เป็นคณะพระสงฆ์องค์เจ้า และสมณชีพราหมณ์ ขบวนที่ 4 เป็นพวกขุนนาง ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ท่านท้าว หัวเมือง ขบวนที่ 5 เป็นพวกดนตรี มีการประโคมและมโหรีต่างๆ ขบวนที่ 6 เป็นพวกประชาชน พลเมือง ขบวนที่ 7 เป็นขบวนของพวกกลอง พวกฆ้องและผู้คนปนเปกัน ร้องรำทำเพลงสนุกสนานในขบวนนี้มี ชายหญิงคู่หนึ่ง ชื่อ ปู่คำมา และย่าคำบี้ ซึ่งมีศิลปไหวพริบปฎิภาณอันดีเยี่ยมในการขับกล่อม ร้องรำทำเพลง ทั้งสองจึงได้ว่าทำนองเพลง "ซอ" บรรยาย ร่ำรำพัน บรรยายถึงการโยกย้าย ครั้งนี้ โดยบรรยาย ตั้งแต่ต้นตลอดลำน้ำ ลำห้วย ป่าไม้ พันธุ์ไม้นานาชนิด ชมธรรมชาติอันงดงามของสองฟากฝั่งลำน้ำน่านตลอดทางที่ผ่าน บรรลุถึงที่จะตั้งเมืองใหม่ และได้สร้างบ้านแป๋งเมืองลง ณ ดอยภูเพียง (พระธาตุแช่แห้งปัจจุบัน) "ซอล่องน่านก็ได้เกิดขึ้นตั้งแต่บัดนั้นสืบต่อกันมา จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ยังมีทำนองซอล่องน่าน นี้อยู่
เอื้อเฟื้อบทเพลงซอ และการขับขานโดย อ้าย กฤษฏิ์ ชัยศิลป์บุญ คนเจียงฮายเน้อ