เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 เมษายน 2024, 18:05:05
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  {{ เรื่องของข้าว การทำนาและเกษตรผสมผสาน }}
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 [43] 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 ... 95 พิมพ์
ผู้เขียน {{ เรื่องของข้าว การทำนาและเกษตรผสมผสาน }}  (อ่าน 407036 ครั้ง)
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #840 เมื่อ: วันที่ 16 เมษายน 2013, 21:13:52 »

บางแปลงต้นข้าวก็สวยมากครับ แปลงนี้อยู่ใกล้บ้านชาวนาเลยจึงทำให้มีโอกาสดูแลต้นข้าวได้ดี ผลผลิตที่ได้ก็ดีตาม


* DSCN2681.JPG (89.1 KB, 700x525 - ดู 320 ครั้ง.)

* DSCN2682.JPG (103.72 KB, 700x525 - ดู 309 ครั้ง.)

* DSCN2683.JPG (108.08 KB, 700x525 - ดู 304 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #841 เมื่อ: วันที่ 18 เมษายน 2013, 16:14:22 »

พาไปเที่ยวชมเมือง ซาปา เวียดนามเหนือ เผื่อใครจะไปเยี่ยมชมนาขั้นบันไดที่นั่นครับ หากเราเดินทางโดยรถจากเชียงของไปก็จะผ่าน บ่อแก้ว-หลวงน้ำทา-อุดมไชย-แยกเข้าเมืองขวาก่อนถึงพงสาลี ระยะทางประมาณ 400 กม. จากนั้นเข้าเดียนเบียนฟูไปซาปาอีก 200 กว่ากม.รวม ๆ แล้วก็ประมาณ 600 กม. ครับ 







IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #842 เมื่อ: วันที่ 18 เมษายน 2013, 21:48:57 »

เอามาทบทวนอีกรอบครับ เชื่อว่าข้าวในนาหลายคนคงออกรวงกันเยอะแล้วแต่อาจยังไม่รู้ว่าจะเก็บเกี่ยววันไหนเลยนำมาทบทวนให้จะได้คำนวณเอาไว้จองคิวรถเกี่ยวข้าวล่วงหน้าได้ครับ

ให้นับตั้งแต่ข้าวแทงยอดประมาณ 70-80 % ของข้าวในนาครับ เช่นข้าวผมแทงยอดออกรวงวันที่ 10 เม.ย. ก็บวกไปอีก 30 วัน ก็จะไปเก็บเกี่ยวในวันที่ 10 พ.ค. ก่อนหน้าหรือหลังได้นิดหน่อย แต่ไม่นับการผิดปกติอันเนื่องจากปัจจัยความสมบูรณ์ของต้นข้าว พันธุ์ข้าว  ปริมาณน้ำในนา อุณหภูมิ โรค แสงแดด ฯลฯ ที่อาจทำให้เมล็ดข้าวแก่เร็วหรือช้ากว่าปกติ ส่วนใหญ่ที่เจอคือการออกรวงไม่พร้อมกันของข้าวในแปลงเช่นมีการปลูกซ่อม การพ่นยาฆ่าหญ้าเป็นจุด ๆ น้ำไม่ทั่วถึง ขาดปุ๋ย จึงต้องรออีกนิดหน่อยให้เมล็ดข้าวแก่พร้อมให้หมด

จากดอกข้าวเป็นเมล็ด
            ดอกข้าวจะบานหลังจากรวงโผล่พ้นกาบใบธงประมาณ 1-2 วัน ดอกบานในช่วงเช้าเวลาประมาณ 8.00-12.00 น. การบานของดอกจะบานจากปลายรวงมาหาโคนรวง ขณะบานเปลือกดอกใหญ่และเปลือกดอกเล็กจะเปิดอ้าออก ดอกข้าวจะบานประมาณ 30-60 นาที ดอกที่บานแล้วจะไม่บานอีก ดอกข้าวทั้งรวงจะใช้เวลาบานประมาณ 7 วัน จึงครบทุกดอก         การผสมเกสรจะเกิดขึ้นหลังดอกบานเล็กน้อย อับเกสรตัวผู้จะแตกตัวออกปล่อยละอองเกสรตัวผู้ตกลงบนพู่รับละอองเกสรของตัวเมีย หลังจากนั้นละอองเกสรตัวผู้จะงอกส่งเชื้อเพศผู้ไปผสมกับเชื้อเพศเมียในรังไข่ และมีการเจริญเติบโตพัฒนาเป็นเมล็ดข้าวตามมา


การสร้างเมล็ดข้าวแบ่งออกเป็น 3 ระยะคือ
- ระยะข้าวเป็นน้ำนม   ใช้เวลาประมาณ 7 วัน หลังการผสมเกสร ภายในเมล็ดข้าวจะเป็นของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนม เปลือกมีสีเขียว
- ระยะข้าวเม่า   เป็นระยะที่เมล็ดข้าวมีอายุ 14-21 วันหลังจากผสมเกสร เนื้อเมล็ดเริ่มมีน้ำน้อยลงและแข็งขึ้น เปลือกใหญ่และเปลือกเล็กเริ่มแข็ง มีสีเขียวอมน้ำตาล
- ระยะเมล็ดแก่เต็มที่ หรือระยะเก็บเกี่ยว  เป็นช่วงที่เมล็ดข้าวมีอายุประมาณ 30 วัน เปลือกแข็ง เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล น้ำตาลเข้ม น้ำตาลม่วง หรือน้ำตาลดำ แล้วแต่ชนิดของพันธุ์ข้าว เนื้อเมล็ดมีสีขาว อาจจะแข็งมากหรือแข็งน้อยขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าว




* 4.png (155.45 KB, 700x381 - ดู 427 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #843 เมื่อ: วันที่ 19 เมษายน 2013, 22:07:00 »

เย็นนี้เดินสำรวจแปลงนาครับเพื่อตรวจดูลักษณะทั่วไปของแปลงข้าวเช่น

-  ดูระยะเมล็ดข้าวว่าส่วนใหญ่อยู่ในช่วงใด  ดอก น้ำนม ข้าวเม่า เมล็ด

-  ดูว่าต้นข้าวมีความผิดปกติหรือไม่ เป็นโรค  มีแมลง หนู ศัตรูอื่น ๆ รบกวนหรือไม่

-  ระดับน้ำในแปลงนา  ดินแห้งเละเกินไปหรือไม่ปล่อยให้เละมากอาจหล่มไม่เหมาะสำหรับการเก็บเกี่ยวอาจต้องหยุดน้ำก่อนกำหนด


* DSCN2843.JPG (73.37 KB, 700x525 - ดู 397 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #844 เมื่อ: วันที่ 19 เมษายน 2013, 22:10:10 »

สำรวจทุกแปลงครับเดินวนไปรอบ ๆ มองตรงกลางแปลงด้วยครับ  ข้าวช่วงนี้ออกรวงพร้อมกันหมดแล้วบางส่วนก็อยู่ในระยะข้าวเม่า บางส่วนก็ยังเป็นน้ำนมครับ หากเมล็ดเริ่มมีน้ำหนักในระยะข้าวเม่ารวงจะเริ่มตกแล้วครับเนื่องจากน้ำหนักของเมล็ดในรวงข้าวครับ


* DSCN2844.JPG (101.83 KB, 700x525 - ดู 387 ครั้ง.)

* DSCN2846.JPG (105.17 KB, 700x525 - ดู 403 ครั้ง.)

* DSCN2851.JPG (115.24 KB, 700x525 - ดู 384 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #845 เมื่อ: วันที่ 19 เมษายน 2013, 22:16:51 »

ดูคันนาด้วยครับหากมีรูรั่วจะทำให้เก็บน้ำไม่อยู่ก็ต้องอุดครับหากยังต้องการรักษาระดับน้ำในแปลงนาอยู่  ส่วนใหญ่รูจะเกิดจากพวก ปลาไหล  ปลาช่อน ปู งู หนู ที่เจาะรูเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย เมื่อมีแรงดันน้ำมาก ๆ ก็จะไหลไปในระดับที่ต่ำกว่ากลายเป็นรูรั่วทำให้น้ำในแปลงนาลดระดับลงหรือแห้งไปครับ


* DSCN2854.JPG (67.83 KB, 700x525 - ดู 379 ครั้ง.)

* DSCN2857.JPG (120.04 KB, 700x525 - ดู 386 ครั้ง.)

* DSCN2863.JPG (66 KB, 700x525 - ดู 389 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 19 เมษายน 2013, 22:36:20 โดย ubuntuthaith » IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #846 เมื่อ: วันที่ 19 เมษายน 2013, 22:29:28 »

ดูแปลงนาตัวเองเสร็จขากลับเห็นแปลงนานี้เลยวนไปดูครับ ข้าวอยู่ในระยะเกือบพร้อมเก็บเกี่ยวแล้วแต่ติดโรคครับ บางส่วนล้มเสียหายเมล็ดบางส่วนจะลีบทำให้ผลผลิตลดลง ส่วนมากเกิดจากการใส่ปุ๋ยที่มากกว่าปกติ และไม่ค่อยตัดหญ้าคันนาเพราะเป็นแหล่งเพราะเชื้อ โรคบางอย่างเกิดจากเชื้อรา บางอย่างเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย และบางอย่างก็เกิดจากแมลงเป็นพาหะเชื้อครับ แต่แปลงนี้เคยสังเกตุหลายครั้งแล้วครับ คือเจ้าของใส่ปุ๋ย N มากใบเขียวเข้มอยู่ตลอดและไม่เคยเห็นตัดหญ้าคันนาเลยครับ  ต่อให้มีความรู้หรือประสบการณ์มากมาย หากไม่ดูแลเอาใจใส่ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรครับ


* DSCN2871.JPG (80.99 KB, 700x525 - ดู 382 ครั้ง.)

* DSCN2872.JPG (71.37 KB, 700x525 - ดู 380 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
chate
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,023


« ตอบ #847 เมื่อ: วันที่ 20 เมษายน 2013, 10:43:32 »

มาแอ่วผ่อเหมือนเดิม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #848 เมื่อ: วันที่ 20 เมษายน 2013, 21:42:35 »

เดินเที่ยวนาตอนเช้าครับดูน้ำในแปลงนา ดูแล้วแปลงนาบางจุดจะต้องหยุดให้น้ำแล้วครับเนื่องจากเกรงว่าจะหล่มเมื่อตอนเก็บเกี่ยว นาปกติอาจหยุดให้น้ำก่อนเก็บเกี่ยวซักสิบกว่าวันก็ได้แล้วแต่หากนาหล่ม ๆ อาจมากกว่านั้นเป็นเท่าตัวเพราะน้ำจะขังบริเวณนั้นนานกว่าตรงดอนครับ 

ภาพถ่ายนาตอนเช้าสงสัยต้องเปลี่ยนกล้องถ่ายรูปใหม่แล้วในบรรดากล้องระดับพันกว่าบาทกล้อง Cannon รหัสA นำหน้าค่อนข้างใช้ได้ดีทั้งมาโคร แถมรูรับแสงต่ำ  ทำให้ถ่ายภาพได้ค่อนข้างชัด หลังจากกล้องตัวเดิมพังไปต้องมาใช้กล้องสำรองยี่ห้ออื่นแล้วภาพไม่ค่อยชัดเมื่อมีการย่อภาพเหมือนเดิม สงสัยเกี่ยวข้าวเสร็จคราวนี้ก็คงได้ซื้อยี่ห้อเดิมมาใช้อีกแล้วครับ


* DSCN2884.JPG (142.08 KB, 700x525 - ดู 376 ครั้ง.)

* DSCN2885.JPG (129.53 KB, 700x525 - ดู 360 ครั้ง.)

* DSCN2886.JPG (76.15 KB, 700x525 - ดู 363 ครั้ง.)

* DSCN2887.JPG (112.66 KB, 700x525 - ดู 355 ครั้ง.)

* DSCN2892.JPG (93.33 KB, 700x525 - ดู 365 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #849 เมื่อ: วันที่ 20 เมษายน 2013, 21:50:07 »

ตอนนี้บางแปลงก็ยังคงปล่อยน้ำเข้าอยู่เพราะยังไม่อยู่ในระยะข้าวเม่า แต่มาดูที่ท่อกาลักน้ำ หยุดไหลครับ  ตรวจดูพบว่ามีขวดน้ำอัดลมอุดอยู่ก็ต้องเอาออกครับ  ส่วนใหญ่จะเกิดจากการไหลมาตามคลองชลประทาน บางทีก็เป็นเศษลูกมะพร้าว เศษถุงพลาสติก หากพบการไหลของน้ำผิดปกติก็ต้องลองตรวจดูครับ


* DSCN2891.JPG (169.55 KB, 700x525 - ดู 353 ครั้ง.)

* DSCN2890.JPG (162.2 KB, 700x525 - ดู 369 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #850 เมื่อ: วันที่ 21 เมษายน 2013, 20:52:38 »

ดูเว็ปกรมอุตุว่าช่วงนี้จะมีฝนประมาณ 2-3 วันครับ พื้นที่ไหนฝนตกมาก  ๆ หากมีลมแรงด้วยข้าวในนาอาจเสียหายได้ แถวบ้านผมปลายเดือนนี้ก็จะเริ่มมีการเก็บเกี่ยวข้าวกันแล้วเอาไว้จะเก็บภาพมาฝากครับ  หากเก็บเกี่ยวเสร็จชาวนาก็คงได้มีเวลาพักผ่อนประมาณ 1 เดือนจากนั้นก็คงจะเริ่มทำนาปีต่อครับ


* 6512194459_be2e1562ae_z.jpg (269.15 KB, 640x480 - ดู 352 ครั้ง.)

* 125972_b48dc586ba3047863fb087084af64265_large.jpg (71.2 KB, 640x425 - ดู 347 ครั้ง.)

* sapa-vietnam-three-village-girls-hill-tribe-nikon-d700-david-lazar.jpg (50.6 KB, 640x427 - ดู 355 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #851 เมื่อ: วันที่ 22 เมษายน 2013, 21:02:21 »

วันนี้ไปนาผ่านแปลงนาแปลงนี้แล้วรู้สึกเป็นห่วงเจ้าของนาครับ ข้าวเป็นโรคค่อนข้างรุนแรง แปลงข้าง ๆ เป็นกันหมดครับ 


* SAM_0055.JPG (98 KB, 700x525 - ดู 337 ครั้ง.)

* SAM_0053.JPG (118.73 KB, 700x525 - ดู 332 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #852 เมื่อ: วันที่ 22 เมษายน 2013, 21:03:56 »

ข้าวที่นิยมปลูกแถวบ้านจะเป็นพิษณุโลก 2 , กข 41  , กข 47  ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกนาปรังของ จ.เชียงรายครับมารู้จักข้อเด่นข้อด้อยของพันธุ์ยอดนิยมกันนิด

พิษณุโลก 2
ลักษณะเด่น 
- ผลผลิตสูง และมีเสถียรภาพในการให้ผลผลิต
- ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพลี้ยกระโดดหลังขาว และเพลี้ยจักจั่นสีเขียว
- คุณภาพการสีดี ท้องไข่น้อย
ข้อควรระวัง 
- ไม่ต้านทานโรคไหม้ และโรคใบหงิก
- ไม่ต้านทานแมลงบั่ว
- เมล็ดค่อนข้างร่วงง่าย

กข.41
ลักษณะเด่น
- ผลผลิตสูง มีเสถียรภาพดี ให้ผลผลิตเฉลี่ย 894 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าสุพรรรบุรี 1(795 กก./ไร่)
พิษณุโลก 2(820 กก./ไร่) สุพรรณบุรี 3(768 กก./ไร่) กข29(835 กก./ไร่) และชัยนาท 1(812 กก./ไร่)คิดเป็นร้อยละ 23,5,13,4 และ 20 ตามลำดับ
- ค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและโรคไหม้
- คุณภาพเมล็ดทางกายภาพดี เป็นข้าวเจ้าเมล็ดยาว เรียว ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดี
สามารถสีเป็นข้าวสาร 100 เปอร์เซนต์ได้
ข้อควรระวัง
            อ่อนแอต่อโรคขอบใบแห้ง ไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนในระดับสูงเกินไปจะทำให้เกิดโรครุนแรง

กข.47
ลักษณะเด่น 
- ผลผลิตสูง  มีเสถียรภาพดี 
- ค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลดีกว่า กข41 และค่อนข้างต้านโรคไหม้ดีกว่าพิษณุโลก 2
- คุณภาพเมล็ดทางกายภาพดีเป็นข้าวเจ้าเมล็ดยาวเรียว  ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีถึงดีมาก  สามารถสีเป็นข้าวสาร 100 เปอร์เซ็นต์ได้
ข้อควรระวัง 
- อ่อนแอต่อโรคขอบใบแห้ง 
- ไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนในระดับสูงเกินไปจะทำให้เกิดโรครุนแรง และค่อนข้างอ่อนแอต่อเชื้อสาเหตุโรคไหม้ในภาคกลาง
- ไม่ทนอากาศเย็นจึงไม่ควรปลูกในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #853 เมื่อ: วันที่ 22 เมษายน 2013, 21:18:59 »

ช่วงนี้ก็คอยสำรวจแปลงนาไปด้วยวันทำงานก็ไปเฉพาะช่วงตอนเย็นครับตอนแรกตั้งใจจะหยุดให้น้ำแล้วแต่พบว่ามีการแทงยอดออกมาอีกก็เลยต้องรออีกนิดครับ  รถเกี่ยวข้าวนาปรังทางเชียงรายจะมีค่อนข้างมากกว่าช่วงนาปีครับ เพราะนาปีรถเกี่ยวข้าวทาง พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตรจะนิยมไปเกี่ยวทางภาคอีสานในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ที่มีพื้นที่กว่า 2 ล้านไร่ เพราะเกี่ยวง่าย และผลิตน้อยกว่าทางภาคเหนือทำให้เกี่ยวได้เร็วของเราที่มักจะเจอนาหล่มในเขตชลประทาน แต่พอนาปรังทางอีสานมีทำนาไม่มากเลยต้องขึ้นเหนือเพื่อหางานครับ


* SAM_0022.JPG (108.03 KB, 700x525 - ดู 337 ครั้ง.)

* SAM_0045.JPG (142.64 KB, 700x525 - ดู 348 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #854 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2013, 12:44:17 »

เห็นเค้าขายพวกสารย่อยสลายตอซังกัน แถวบ้านผมมากับเกษตรอำเภอ ขายดิบขายดีครับ บางคนซื้อทีหลายสิบซอง ซองนึงก็ใช่ว่าถูก  ๆ เป็นการเพิ่มต้นทุนการทำนาของตัวเองไป ทำให้คิดว่าทำไมของฟรีไม่ค่อยมีคนสนครับ ผมเห็นแต่ละปี สาร พด.มีหมดอายุจำนวนมาก ต้องทิ้ง ไม่ค่อยมีใครนำไปใช้เท่าไหร่ ทั้งที่พื้นฐานมาจากจุลินทรีย์จำพวกเซลลูโลสเหมือนกันเช่นพวก แบคทีเรีย รา แอคติโนมัยซิท และโปรโตซัว คุณภาพก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่  หลักการย่อยสลายตอซังคือ จะต้องย่อยสลายเซลลูโลสที่เป็นองค์ประกอบหลักของลำต้น(ตอ ฟาง) เปลือกเมล็ดข้าวให้ได้จึงต้องใช้จุลินทรีย์จำพวกย่อยสลายเซลลูโลสครับ

สาร พด.http://www.ldd.go.th/menu_5wonder/index.html

ผมเห็นมีแจกหลายที่ครับ ทั้ง พัฒนาที่ดินที่นางแล  เทศบาล  อบต. บางแห่ง  หมอดินอาสา เกษรตรอำเภอ ที่ดินอำเภอ  บางทีบ้านผู้ใหญ่บ้านก็ยังมีเลยครับ  ใช้ไม่หมดปล่อยให้หมดอายุเสียดายของครับ
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #855 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2013, 13:32:02 »

ช่วงนี้เตรียมความพร้อมสำหรับการทำนาปีรอบต่อไปครับ  ตอนแรกจะจ้างเพาะกล้าซึ่งเค้ารับกันที่ไร่ละประมาณ 600 บาทแต่คุยไปคุยมาเค้าเพาะไม่ค่อยประณีตเท่าไหร่จึงตัดสินใจจะเพาะเองครับ  สาเหตุก็เพราะข้าวนาปีอย่างพวก กข.15 มะลิ105 จะเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ต้านทานต่อโรคไหม้  โรคขอบใบแห้งยิ่งหากนำมาเพาะในถาดซึ่งมีความหนาแน่นสูงจะทำให้ข้าวเป็นโรคจากเชื้อราแม้ไม่แสดงอาการในตอนนั้น แต่ก็แสดงอาการในระยะต่อมา ชาวบ้านบางทีเรียกว่าข้าวเป็นพยาธิ ซึ่งในขั้นตอนการแช่เมล็ดพันธุ์อาจต้องผสมพวกยาป้องกันและกำจัดเชื้อรา หรือแช่ด้วยไตรโครเดอร์ม่าร์ ระหว่างโรยในถาดการรดน้ำก็ต้องพ่นสารป้องกันและกำจัดเชื้อรา หรือเชื้อราไตรโครเดอร์ม่าร์อีกรอบครับ ส่วนระหว่างการเจริญเติบโตก็ต้องมีการพ่นอีกรอบและพวกสารขับไล่แมลงด้วยคล้าย ๆ กับในวีดีโอครับ





IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #856 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2013, 21:40:38 »

วันนี้เลิกงานเสร็จก็ไปนาครับ..หลานชายตามไปดูด้วย ตอนนี้หยุดให้น้ำในแปลงนาแล้วครับเพื่อให้ดินแห้ง ช่วงนี้จะมีฝนตกอาจทำให้ดินแห้งช้าบ้าง  น้ำในคลองชลประทานยังมีมากครับชาวนาหลายคนหยุดให้น้ำในนาแล้ว 


* SAM_0071.JPG (72.27 KB, 700x525 - ดู 309 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #857 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2013, 21:46:25 »

เดินสำรวจทั่วแปลงนาหลานชายก็ตามดูด้วยครับ  อีกประมาณ 15 วันก็คงจะได้เกี่ยวแล้วครับ


* SAM_0072.JPG (79.55 KB, 700x525 - ดู 297 ครั้ง.)

* SAM_0073.JPG (123.78 KB, 700x525 - ดู 322 ครั้ง.)

* SAM_0074.JPG (113.87 KB, 700x525 - ดู 297 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #858 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2013, 21:53:10 »

เดินไปเดินมา มาหยุดที่นาแปลงนี้ครับเมื่อเราลดระดับน้ำ พวกกุ้ง ปลา ก็จะมาอยู่ตามร่องน้ำครับ


* SAM_0080.JPG (94.41 KB, 700x525 - ดู 292 ครั้ง.)

* SAM_0081.JPG (135.85 KB, 700x525 - ดู 303 ครั้ง.)

* SAM_0082.JPG (113.14 KB, 700x525 - ดู 304 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #859 เมื่อ: วันที่ 24 เมษายน 2013, 22:00:20 »

จับปลาได้เยอะพอสมควรครับประมาณเกือบ กิโลกรัมเฉพาะจุดนี้ครับ จับได้ก็นำมาปล่อยหน้าบ้านหากปล่อยให้อยู่ในนารอจนน้ำแห้งก็มีแต่ตายอย่างเดียวครับ พรุ่งนี้จะไปดูอีกทีเผื่อจะจับได้อีกครับ แต่บางคนก็จะอาศัยช่วงนี้จับปลามาทำปลาร้าบ้าง ปลาร้าแห้งบ้างก็ถือเป็นรายได้อย่างหนึ่งครับ


* SAM_0084.JPG (50.12 KB, 700x525 - ดู 303 ครั้ง.)

* SAM_0086.JPG (73.02 KB, 700x525 - ดู 290 ครั้ง.)

* SAM_0089.JPG (52.87 KB, 700x525 - ดู 299 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 [43] 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 ... 95 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!