เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 28 เมษายน 2024, 10:33:03
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  {{ เรื่องของข้าว การทำนาและเกษตรผสมผสาน }}
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 ... 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 [69] 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 ... 95 พิมพ์
ผู้เขียน {{ เรื่องของข้าว การทำนาและเกษตรผสมผสาน }}  (อ่าน 407078 ครั้ง)
nokpeat
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131


« ตอบ #1360 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 14:58:54 »

 
 ติดตามอ่านกระทู้นี้มานานมากแล้ว ตัวเองและครอบครัวเพิ่งย้ายกลับมาอยู่บ้าน มาทำนา เน้นทำนาแบบปลอดสารพิษ ตอนนี้กำลังปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลูกตามกระแสค่ะ แต่ด้วยความที่เราทำนาเป็นรอบที่ 3 ภาระกิจประจำวันเยอะมากกกกกก เลยลงมือทำนาช้ามาก ชาวบ้านเค้ามาเตือนว่า ระวังเวลาข้าวออกรวงกระทบหนาว ข้าวลีบ ไม่ได้เกี่ยวอะไรทำนองนี้ เริ่มเพาะกล้าวันที่ 1 กันยา เอาข้าวลงนาตั้งแต่วันที่ 14 กันยา เสร็จ 29 กันยา ตอนนี้ข้าวที่ลงนาก่อนกำลังแตกกอ พอจะเป็นไปได้ไหมว่าเราจะแกล้งข้าวให้ตั้งท้องเร็วขึ้น และควรจะเริ่มประมาณไหนดี อยากถามผู้รู้ค่ะ
   
        ขอบคุณค่ะ
IP : บันทึกการเข้า
Auainoi
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 43



« ตอบ #1361 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 18:58:50 »


 
 ติดตามอ่านกระทู้นี้มานานมากแล้ว ตัวเองและครอบครัวเพิ่งย้ายกลับมาอยู่บ้าน มาทำนา เน้นทำนาแบบปลอดสารพิษ ตอนนี้กำลังปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลูกตามกระแสค่ะ แต่ด้วยความที่เราทำนาเป็นรอบที่ 3 ภาระกิจประจำวันเยอะมากกกกกก เลยลงมือทำนาช้ามาก ชาวบ้านเค้ามาเตือนว่า ระวังเวลาข้าวออกรวงกระทบหนาว ข้าวลีบ ไม่ได้เกี่ยวอะไรทำนองนี้ เริ่มเพาะกล้าวันที่ 1 กันยา เอาข้าวลงนาตั้งแต่วันที่ 14 กันยา เสร็จ 29 กันยา ตอนนี้ข้าวที่ลงนาก่อนกำลังแตกกอ พอจะเป็นไปได้ไหมว่าเราจะแกล้งข้าวให้ตั้งท้องเร็วขึ้น และควรจะเริ่มประมาณไหนดี อยากถามผู้รู้ค่ะ
   
        ขอบคุณค่ะ
เท่าที่ทำตอนนี้ ของผมว่านวันที่ ๒๐ มิถุนา ว่าพรุ่งนี้ว่าจะเกี่ยวนะ คาดว่าฝนจะไม่ตก  ตามอายุของข้าวแหละครับเพราะเป็นข้าวไม่ไวต่อแสง  ลองดูก็ได้นะครับ บำรุงต้นให้สมบูรณ์ แล้วแกล้งข้าวโดยปล่อยให้น้ำแห้งเหมือนใกล้จะตาย แล้วเอาน้ำเข้าและฮอร์โมนบำรุง พืชบ้างชนิดกลัวตายจึงรีบออกลูกก่อน แต่ข้าวนี้ไม่รู้นะ  ได้ความอย่างไรบอกกันโดยนะ
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1362 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 20:19:54 »


 ติดตามอ่านกระทู้นี้มานานมากแล้ว ตัวเองและครอบครัวเพิ่งย้ายกลับมาอยู่บ้าน มาทำนา เน้นทำนาแบบปลอดสารพิษ ตอนนี้กำลังปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลูกตามกระแสค่ะ แต่ด้วยความที่เราทำนาเป็นรอบที่ 3 ภาระกิจประจำวันเยอะมากกกกกก เลยลงมือทำนาช้ามาก ชาวบ้านเค้ามาเตือนว่า ระวังเวลาข้าวออกรวงกระทบหนาว ข้าวลีบ ไม่ได้เกี่ยวอะไรทำนองนี้ เริ่มเพาะกล้าวันที่ 1 กันยา เอาข้าวลงนาตั้งแต่วันที่ 14 กันยา เสร็จ 29 กันยา ตอนนี้ข้าวที่ลงนาก่อนกำลังแตกกอ พอจะเป็นไปได้ไหมว่าเราจะแกล้งข้าวให้ตั้งท้องเร็วขึ้น และควรจะเริ่มประมาณไหนดี อยากถามผู้รู้ค่ะ
   
        ขอบคุณค่ะ

ยินดีครับ...  ยิ้มกว้างๆ  ยิ้มกว้างๆ  ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าข้าวมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งบางสายพันธุ์ไม่ชอบอากาศหนาว หากเจออากาศหนาวจะทำให้ข้าวเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ อาจเจออย่างที่ชาวบ้านว่าคือ ออกรวงแต่ไม่มีเมล็ด หรือออกรวงแล้วรวงไม่ยอมง้มให้เกี่ยวซักที เช่นพวกพันธุ์ ชัยนาท  พิษโลก 2  ปทุมธานี 1 ซึ่งไม่ควรให้ข้าวตั้งท้องในช่วงอากาศเย็นเด็ดขาด  แต่สำหรับโดยสายพันธุ์ดั้งเดิมของข้าวไรซ์เบอรี่ ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105  ซึ่งค่อนข้างชอบอากาศเย็นพอสมควรเพื่อสร้างสีของเมล็ดยิ่งอากาศเย็นมาก ๆ สีก็จะดำมากขึ้น ข้าวจะงามขายได้ราคาดี เคยมีคนนำข้าวไรท์ไปปลูกแต่กลับพบว่าผลผลิตที่ได้สีของเมล็ดไม่สวยเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่นำมาปลูกบางคนโทษเมล็ดว่ากลายพันธุ์ก็มี  ซึ่งหลัก ๆ ก็เพราะอุณภูมิเป็นหลักในการสร้างสีของเมล็ด เรื่องอุณภูมินั้นมีผลต่อ สี ทั้งพืชผักและผลไม้หลายพันธุ์ครับ เช่นทับทิมจีนกับทับทิมไทยก็จะสีต่างกันยิ่งหนาวสียิ่งแดงเข้ม  ฉะนั้นอย่ากังวลเลยครับปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติของเค้า ข้าวพันธุ์นี้ปลูกแบบอินทรีย์ยิ่งดี คอยระวังอย่าให้เค้าเป็นโรค และนกในเดือนมกราคมก็พอครับ
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1363 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 20:25:24 »


 
 ติดตามอ่านกระทู้นี้มานานมากแล้ว ตัวเองและครอบครัวเพิ่งย้ายกลับมาอยู่บ้าน มาทำนา เน้นทำนาแบบปลอดสารพิษ ตอนนี้กำลังปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลูกตามกระแสค่ะ แต่ด้วยความที่เราทำนาเป็นรอบที่ 3 ภาระกิจประจำวันเยอะมากกกกกก เลยลงมือทำนาช้ามาก ชาวบ้านเค้ามาเตือนว่า ระวังเวลาข้าวออกรวงกระทบหนาว ข้าวลีบ ไม่ได้เกี่ยวอะไรทำนองนี้ เริ่มเพาะกล้าวันที่ 1 กันยา เอาข้าวลงนาตั้งแต่วันที่ 14 กันยา เสร็จ 29 กันยา ตอนนี้ข้าวที่ลงนาก่อนกำลังแตกกอ พอจะเป็นไปได้ไหมว่าเราจะแกล้งข้าวให้ตั้งท้องเร็วขึ้น และควรจะเริ่มประมาณไหนดี อยากถามผู้รู้ค่ะ
   
        ขอบคุณค่ะ
เท่าที่ทำตอนนี้ ของผมว่านวันที่ ๒๐ มิถุนา ว่าพรุ่งนี้ว่าจะเกี่ยวนะ คาดว่าฝนจะไม่ตก  ตามอายุของข้าวแหละครับเพราะเป็นข้าวไม่ไวต่อแสง  ลองดูก็ได้นะครับ บำรุงต้นให้สมบูรณ์ แล้วแกล้งข้าวโดยปล่อยให้น้ำแห้งเหมือนใกล้จะตาย แล้วเอาน้ำเข้าและฮอร์โมนบำรุง พืชบ้างชนิดกลัวตายจึงรีบออกลูกก่อน แต่ข้าวนี้ไม่รู้นะ  ได้ความอย่างไรบอกกันโดยนะ

จะได้เกี่ยวแล้วยินดีด้วยครับ  ราคาตอนนี้เป็นไงบ้างบอกกันด้วยนะครับ  จะได้พอทราบราคารับจำนำของโรงสีแต่ละพื้นที่ครับ
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1364 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 20:33:34 »

สำรวจท้องนายามเย็น ตอนนี้ข้าวแปลง 13 ไร่กลับมางามกว่าแปลง 9 ไร่ซะงั้น  หญ้าและวัชพืชยุบตายไปเยอะ เพราะด้วยที่อายุสั้นกว่าข้าวนาปี  แต่ข้าวนาปรังน่าจะมีอายุพอ ๆ กัน   ลองไม่พ่นยากำจัดวัชพืชก็อยู่ได้ครับประหยัดต้นทุนไปได้พอสมควร ไม่เสียสุขภาพด้วย แม้จะดูไม่สวยในช่วงการปลูกครับ


* 20131008_180000.jpg (43.05 KB, 700x525 - ดู 342 ครั้ง.)

* 20131008_180220.jpg (53.8 KB, 700x525 - ดู 329 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1365 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 20:50:08 »

ช่วงนี้ปล่อยให้น้ำแห้งบ้าง แต่ไม่ถึงกับแห้งซะทีเดียวต้องมีความชื้นและน้ำในดินบ้าง นอกจากช่วยแก้ปัญหาเรื่องโรคที่เกิดจากความชื้น อีกส่วนหนึ่งคือหากหน้าดินแห้งและแน่นจะช่วยเรื่องไม่ให้ข้าวล้มง่ายและกระตุ้นการหาอาหารเพราะรากจะยาวขึ้นอีก ข้าวล้มจะทำให้ผลผลิตที่ได้ลดลง ทั้งเสียหายจากแช่น้ำ และอาจเสียค่าจ้างเกี่ยวข้าวที่แพงขึ้นด้วย พืชหลายชนิดเมื่อเจอสภาวะที่เปลี่ยนไปจะมีการปรับตัวบางคนเลยเอาวิธีนี้มาทำนอกฤดูโดยเฉพาะไม้ผล ส่วนข้าวก็มีการเร่งหรือชลอการเจริญเติบโตเช่นกันโดยการควบคุมเรื่องแสงและอุณหภูมิโดยเฉพาะสถานีวิจัยข้าวที่ต้องการควบคุมเรื่องการผสมพันธุ์ข้าวของเกสรตัวผู้และตัวเมีย   


* 20131008_175838.jpg (97.6 KB, 700x525 - ดู 339 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1366 เมื่อ: วันที่ 08 ตุลาคม 2013, 20:53:01 »

ข้าวในนาเริ่มแทงยอดออกมาให้เห็นแล้วครับวันนี้


* 20131008_180149.jpg (73.99 KB, 525x700 - ดู 329 ครั้ง.)

* 20131008_180727.jpg (54.75 KB, 525x700 - ดู 331 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
nokpeat
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 131


« ตอบ #1367 เมื่อ: วันที่ 09 ตุลาคม 2013, 19:26:36 »


   ยินดีกับคุณ Auainoi ด้วยค่ะ ที่จะได้เกี่ยวข้าวแล้ว ปลูกเยอะไหมค่ะพอจะแบ่งขายได้ไหมไปรับถึงนาเลยค่ะ ยิ้มกว้างๆ ยิ้มกว้างๆ

       
โล 20บาท ถูกไปไหมน้อ เหมาหมดเลย
IP : บันทึกการเข้า
Hi-tech Farm.
Hi-Tech Farm.
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


สินค้าเกษตร ปลอดภัย


« ตอบ #1368 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2013, 11:30:52 »

รบกวนถามท่านผู้รู้ทุกท่านนะครับ พอดีจะหาซื้อเครื่องพ่นยาสะพายหลังสักเครื่อง
น่าจะซื้อแบบไหนดีครับ เครื่องซ้ายพ่นได้ทั้งปุ๋ย และน้ำ สำหรับเครื่องขวา พ่นได้เฉพาะน้ำ ใช่รึปล่าวครับเท่าที่ศึกษาดู
รบกวนบอกข้อดีข้อเสียหน่อยครับ ถ้าจะซื้อควรซื้อ ยี่ห้อไรดีครับ


IP : บันทึกการเข้า

Hi-Tech Farm. tufagkai@gmail.com
ton-ao
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 328


« ตอบ #1369 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2013, 14:20:46 »

รบกวนถามท่านผู้รู้ทุกท่านนะครับ พอดีจะหาซื้อเครื่องพ่นยาสะพายหลังสักเครื่อง
น่าจะซื้อแบบไหนดีครับ เครื่องซ้ายพ่นได้ทั้งปุ๋ย และน้ำ สำหรับเครื่องขวา พ่นได้เฉพาะน้ำ ใช่รึปล่าวครับเท่าที่ศึกษาดู
รบกวนบอกข้อดีข้อเสียหน่อยครับ ถ้าจะซื้อควรซื้อ ยี่ห้อไรดีครับ


     เครื่องซ้ายพ่นนำ้ไปได้ไม่ไกลครับ  พ่นปุ๋ยได้ดี  เครื่องขวาพ่นนำ้ได้ดี  ซื้อแยกกันครับพ่นปุ๋ยเครื่องพ่นนำ้เครื่อง ของผมมิตซูทั้งสองเครื่อง 3 ปีแล้วยังใช้ดีอยู่เลย
IP : บันทึกการเข้า
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,575


canon eos


« ตอบ #1370 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2013, 15:59:57 »

รบกวนถามท่านผู้รู้ทุกท่านนะครับ พอดีจะหาซื้อเครื่องพ่นยาสะพายหลังสักเครื่อง
น่าจะซื้อแบบไหนดีครับ เครื่องซ้ายพ่นได้ทั้งปุ๋ย และน้ำ สำหรับเครื่องขวา พ่นได้เฉพาะน้ำ ใช่รึปล่าวครับเท่าที่ศึกษาดู
รบกวนบอกข้อดีข้อเสียหน่อยครับ ถ้าจะซื้อควรซื้อ ยี่ห้อไรดีครับ




 ยิ้มกว้างๆ...มายืนยัน..ใช้แบบแยกเฉพาะดีกว่าครับ....
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1371 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2013, 19:47:12 »

ยืนยันอีกคนครับ  เครื่องด้านซ้ายใช้หลักการลมเป่าซึ่งจะมีใบพัดอยู่ภายในนิยมใช้พ่นปุ๋ยมากกว่าใช้พ่นน้ำเพราะใช้เครื่องนี้จะพ่นน้ำได้ไม่ไกล แม้ละอองเป็นฝอยดีประหยัดน้ำยาแต่ได้งานช้ากว่า หนักมากกว่าและเปลืองน้ำมันมากกว่า  ด้านขวาเป็นเครื่องพ่นชนิดปั้มลูกสูบ สามารถปรับแรงดัน ปริมาณการดูดน้ำได้ซึ่งค่อนข้างใช้งานได้ดีสำหรับงานพ่นยา เพราะพ่นได้ไกลกว่ามาก เอามาฉีดล้างรถยังได้เลย ปรับแต่งหัวฉีดได้หลายแบบให้เหมาะสมกับงานได้ ประหยัดน้ำมันกว่า ถังเก็บน้ำอยู่ต่ำกว่าศีรษะทำให้เดินในนาง่ายกว่าแบบแรกครับ
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1372 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2013, 20:09:55 »

ต้นข้าวแทงยอดออกรวงมากขึ้นแล้วครับ  ตอนนี้ก็คำนวณได้แล้วว่าจะเกี่ยวข้าวได้วันไหนคือการนับข้าวออกดอกหรือแทงยอดไปอีก 1 เดือนที่เหมาะสมคือระยะพลับพลึงคือประมาณ 28-30 วันครับ


* 20131010_180052.jpg (94.56 KB, 700x525 - ดู 272 ครั้ง.)

* 20131010_180100.jpg (74.95 KB, 700x525 - ดู 265 ครั้ง.)

* 20131010_180201.jpg (74.33 KB, 700x525 - ดู 271 ครั้ง.)

* 20131010_180248.jpg (51.65 KB, 700x525 - ดู 284 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
Hi-tech Farm.
Hi-Tech Farm.
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


สินค้าเกษตร ปลอดภัย


« ตอบ #1373 เมื่อ: วันที่ 11 ตุลาคม 2013, 23:46:37 »

ยืนยันอีกคนครับ  เครื่องด้านซ้ายใช้หลักการลมเป่าซึ่งจะมีใบพัดอยู่ภายในนิยมใช้พ่นปุ๋ยมากกว่าใช้พ่นน้ำเพราะใช้เครื่องนี้จะพ่นน้ำได้ไม่ไกล แม้ละอองเป็นฝอยดีประหยัดน้ำยาแต่ได้งานช้ากว่า หนักมากกว่าและเปลืองน้ำมันมากกว่า  ด้านขวาเป็นเครื่องพ่นชนิดปั้มลูกสูบ สามารถปรับแรงดัน ปริมาณการดูดน้ำได้ซึ่งค่อนข้างใช้งานได้ดีสำหรับงานพ่นยา เพราะพ่นได้ไกลกว่ามาก เอามาฉีดล้างรถยังได้เลย ปรับแต่งหัวฉีดได้หลายแบบให้เหมาะสมกับงานได้ ประหยัดน้ำมันกว่า ถังเก็บน้ำอยู่ต่ำกว่าศีรษะทำให้เดินในนาง่ายกว่าแบบแรกครับ


 ยิ้มกว้างๆ...มายืนยัน..ใช้แบบแยกเฉพาะดีกว่าครับ....

เครื่องซ้ายพ่นนำ้ไปได้ไม่ไกลครับ  พ่นปุ๋ยได้ดี  เครื่องขวาพ่นนำ้ได้ดี  ซื้อแยกกันครับพ่นปุ๋ยเครื่องพ่นนำ้เครื่อง ของผมมิตซูทั้งสองเครื่อง 3 ปีแล้วยังใช้ดีอยู่เลย


ขอบคุณมากครับ คุณ bm+    ton-ao.  Ubuntuthait
IP : บันทึกการเข้า

Hi-Tech Farm. tufagkai@gmail.com
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1374 เมื่อ: วันที่ 12 ตุลาคม 2013, 20:46:23 »

วันนี้ตอนเที่ยงไปเอาน้ำเข้านาครับ ดินเริ่มแห้งแล้วว่าจะปล่อยเข้าซัก 2 วันแล้วก็หยุด ซึ่งน่าจะช่วยลดปัญหาโรคที่มาจากเชื้อราได้  เนื่องจากความชื้นมีผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา หากความชื้นไม่เหมาะสมเชื้อราก็จะเจริญเติบโตได้ช้าไม่สามารถทำอันตรายกับต้นข้าวได้ กลับกันยิ่งความชื้นสูงก็ทำให้เกิดโรคจากเชื้อราได้มาก แต่การปล่อยให้ดินแห้งก็ต้องระวังเรื่องหนูด้วยครับ


* 20131012_140523.jpg (80.4 KB, 700x525 - ดู 255 ครั้ง.)

* 20131012_140528.jpg (73.74 KB, 700x525 - ดู 256 ครั้ง.)

* 20131012_140533.jpg (84.5 KB, 700x525 - ดู 252 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
bm farm
หัวหมู่ทะลวงฟัน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,575


canon eos


« ตอบ #1375 เมื่อ: วันที่ 12 ตุลาคม 2013, 21:07:23 »

วันนี้ตอนเที่ยงไปเอาน้ำเข้านาครับ ดินเริ่มแห้งแล้วว่าจะปล่อยเข้าซัก 2 วันแล้วก็หยุด ซึ่งน่าจะช่วยลดปัญหาโรคที่มาจากเชื้อราได้  เนื่องจากความชื้นมีผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา หากความชื้นไม่เหมาะสมเชื้อราก็จะเจริญเติบโตได้ช้าไม่สามารถทำอันตรายกับต้นข้าวได้ กลับกันยิ่งความชื้นสูงก็ทำให้เกิดโรคจากเชื้อราได้มาก แต่การปล่อยให้ดินแห้งก็ต้องระวังเรื่องหนูด้วยครับ

 ยิ้มกว้างๆ....จะเป็นทุ่งรวงทองแล้ว...
IP : บันทึกการเข้า

ยิ้มกว้างๆ .....อ่านกฏ,กติกาการใช้งานเวบบอร์ดด้วยครับ.....
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1376 เมื่อ: วันที่ 12 ตุลาคม 2013, 21:45:15 »

วันนี้ตอนเที่ยงไปเอาน้ำเข้านาครับ ดินเริ่มแห้งแล้วว่าจะปล่อยเข้าซัก 2 วันแล้วก็หยุด ซึ่งน่าจะช่วยลดปัญหาโรคที่มาจากเชื้อราได้  เนื่องจากความชื้นมีผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา หากความชื้นไม่เหมาะสมเชื้อราก็จะเจริญเติบโตได้ช้าไม่สามารถทำอันตรายกับต้นข้าวได้ กลับกันยิ่งความชื้นสูงก็ทำให้เกิดโรคจากเชื้อราได้มาก แต่การปล่อยให้ดินแห้งก็ต้องระวังเรื่องหนูด้วยครับ

 ยิ้มกว้างๆ....จะเป็นทุ่งรวงทองแล้ว...

อีกไม่นานแล้วครับ น่าจะประมาณก่อนกลางเดือนหน้า น่าจะได้เกี่ยวแล้วครับ  ยิ้มกว้างๆ  ยิ้มกว้างๆ
IP : บันทึกการเข้า
Auainoi
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 43



« ตอบ #1377 เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2013, 18:29:20 »


 
 ติดตามอ่านกระทู้นี้มานานมากแล้ว ตัวเองและครอบครัวเพิ่งย้ายกลับมาอยู่บ้าน มาทำนา เน้นทำนาแบบปลอดสารพิษ ตอนนี้กำลังปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลูกตามกระแสค่ะ แต่ด้วยความที่เราทำนาเป็นรอบที่ 3 ภาระกิจประจำวันเยอะมากกกกกก เลยลงมือทำนาช้ามาก ชาวบ้านเค้ามาเตือนว่า ระวังเวลาข้าวออกรวงกระทบหนาว ข้าวลีบ ไม่ได้เกี่ยวอะไรทำนองนี้ เริ่มเพาะกล้าวันที่ 1 กันยา เอาข้าวลงนาตั้งแต่วันที่ 14 กันยา เสร็จ 29 กันยา ตอนนี้ข้าวที่ลงนาก่อนกำลังแตกกอ พอจะเป็นไปได้ไหมว่าเราจะแกล้งข้าวให้ตั้งท้องเร็วขึ้น และควรจะเริ่มประมาณไหนดี อยากถามผู้รู้ค่ะ
   
        ขอบคุณค่ะ
เท่าที่ทำตอนนี้ ของผมว่านวันที่ ๒๐ มิถุนา ว่าพรุ่งนี้ว่าจะเกี่ยวนะ คาดว่าฝนจะไม่ตก  ตามอายุของข้าวแหละครับเพราะเป็นข้าวไม่ไวต่อแสง  ลองดูก็ได้นะครับ บำรุงต้นให้สมบูรณ์ แล้วแกล้งข้าวโดยปล่อยให้น้ำแห้งเหมือนใกล้จะตาย แล้วเอาน้ำเข้าและฮอร์โมนบำรุง พืชบ้างชนิดกลัวตายจึงรีบออกลูกก่อน แต่ข้าวนี้ไม่รู้นะ  ได้ความอย่างไรบอกกันโดยนะ

จะได้เกี่ยวแล้วยินดีด้วยครับ  ราคาตอนนี้เป็นไงบ้างบอกกันด้วยนะครับ  จะได้พอทราบราคารับจำนำของโรงสีแต่ละพื้นที่ครับ
เห็นเค้าขายกี่โล ละ ๕๐ บาทนะ ของผมนี้ไม่ได้ทำขายนะ เอาไว้กินนะ มีแต่คนอยากได้ก็เลยแบ่งคนละ ๔-๕ กำมือ ปลูกไม่มาก ที่เหลือก็เอาไว้ทำพันธุ์ปีหน้า ทำนาปรังไม่ได้นกกินหมด
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1378 เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2013, 20:52:02 »

มาดูภาพท้องนายามเช้า  หมอกลงจัดพอสมควรอากาศค่อนข้างเย็น เสน่อย่างหนึ่งของฤดูหนาว  ผมจะไป สปป.ลาว วันอาคารนี้คงอีกหลายวันไม่ได้มาอัพกระทู้  ไว้จะถ่ายรูปทุ่งนาและพันธุ์ข้าวของลาวมาฝากครับ


* 20131013_074321.jpg (43.63 KB, 700x525 - ดู 223 ครั้ง.)

* 20131013_074353.jpg (46.22 KB, 700x525 - ดู 224 ครั้ง.)

* 20131013_074834.jpg (88.86 KB, 700x525 - ดู 230 ครั้ง.)

* 20131013_075114.jpg (69.16 KB, 700x525 - ดู 231 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,044



« ตอบ #1379 เมื่อ: วันที่ 13 ตุลาคม 2013, 20:59:21 »

ตอนนี้ข้าวแทงยอดออกรวงได้ประมาณ 60% ของพื้นที่แล้วครับคงประมาณวันที่ 10-12 พ.ย. คงได้เกี่ยวข้าวแล้ว  ยิ้มกว้างๆ  ยิ้มกว้างๆ

รูปถ่ายยามเย็นครับ


* 20131013_161105.jpg (111.7 KB, 700x525 - ดู 224 ครั้ง.)

* 20131013_161112.jpg (109.56 KB, 700x525 - ดู 234 ครั้ง.)

* 20131013_161118.jpg (105.96 KB, 700x525 - ดู 254 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 [69] 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 ... 95 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!