signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #720 เมื่อ: วันที่ 30 พฤษภาคม 2016, 10:37:01 » |
|
ผลไม้ 4 ชนิด เป็นมิตรกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เบาหวาน...โรคที่ใครก็ไม่อยากเป็น แต่ใครว่าเป็นเบาหวานจะไม่สามารถรับประทานผลไม้ได้ เพราะผลไม้มีประโยชน์ อุดมไปด้วยไฟเบอร์และที่สำคัญน้ำตาลในผลไม้ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเพราะอะไรก็ตามหากรับประทานมากไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ 1. แอปเปิ้ล เป็นหนึ่งในผลไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือคนที่ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด ซึ่งในแอปเปิ้ลมีน้ำตาลในรูปของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวค่อนข้างสูงทำให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้รวดเร็ว อีกทั้งในแอปเปิ้ลยังมีไฟเบอร์ที่สามารถละลายในน้ำได้ดี คนที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากจะช่วยลดโอกาสเกิดเบาหวานได้น้อยกว่าคนที่รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อย ส่วนใครที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้วไฟเบอร์จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ 2. ฝรั่ง สามารถช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่มีใยอาหารสูง แถมแคลอรี่ต่ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะไม่ควรเกินวันละ1ผลเล็กหรือ ½ ผลใหญ่ 3. ชมพู่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานเนื่องจากชมพู่เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ไม่หวานจัดแถมยังมีเส้นใยอาหารทั้งชนิดที่สามารถละลายน้ำได้และชนิดที่ไม่สามารถละลายน้ำ อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยลดคลอเลสเตอรอลในร่างกาย ลดความเสี่ยงไขมันอุดตันในเส้นเลือด และช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ปริมาณที่พอเหมาะคือไม่เกินมื้อละ 1-2 ผล 4. แก้วมังกร ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด อาทิ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินบี วิตามินซี ฯลฯ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคเบาหวานแต่ควรรับประทานแต่พอเหมาะมื้อละไม่เกิน 10 - 15 คำ ข้อแนะนำ - ผู้ป่วยเบาหวานควรเลือกรับประทานผลไม้มื้อละ 1 ชนิด วันละ 2 - 3 ครั้งหลังอาหาร - ควรรับประทานแต่พอเหมาะเพราะอาจส่งผลทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้แม้จะเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานน้อยก็ตาม - ควรหลีกเลี่ยงผลไม้รสหวานจัด เช่น ทุเรียน ขนุน ละมุด เงาะ มะขาม ฯลฯ และผลไม้แปรรูปทุกชนิดเนื่องจากผลไม้แปรรูปอย่าง ผลไม้กระป๋อง ผลไม้ตากแห้ง ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้กวน นั้นมีน้ำตาลสูงส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงได้
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #721 เมื่อ: วันที่ 31 พฤษภาคม 2016, 05:45:19 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #722 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2016, 11:30:29 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #723 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2016, 10:47:19 » |
|
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #725 เมื่อ: วันที่ 11 มิถุนายน 2016, 10:09:31 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #726 เมื่อ: วันที่ 13 มิถุนายน 2016, 10:24:14 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #727 เมื่อ: วันที่ 15 มิถุนายน 2016, 10:11:33 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #728 เมื่อ: วันที่ 17 มิถุนายน 2016, 08:50:30 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #729 เมื่อ: วันที่ 20 มิถุนายน 2016, 10:11:09 » |
|
วิธีแก้กลิ่นรองเท้าเหม็นอับให้ได้ผลชะงัด บางครั้งกลิ่นเท้าเป็นเรื่องยากที่จะแก้ ยิ่งช่วงอากาศร้อนๆ แล้วเนี่ย บอกเลยว่าสวยๆ หลายคนถึงกับต้องหารองเท้าแบบเปิดหน้าเปิดท้ายเพื่อระบายกลิ่น งั้นไม่เป็นไร วันนี้เรามีวิธีแก้กลิ่นเท้าให้ได้ผลลชะงัดมาแชร์ สิ่งที่ต้องใช้: ถุงชาใช้แล้วกับรองเท้ากลิ่นเน่าๆ ของคุณ สิ่งที่ต้องทำ: นำถุงชายัดเข้าไปในรองเท้าข้างละสองสามถุง ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง ในที่แห้ง แค่นี้แหล่ะ! ทำไมถึงได้ผล: กลิ่นรองเท้านั้นมีสาเหตุมาจากแบคทีเรียในสภาวะอากาศชื้น และชาก็มีสภาวะดูดซึมที่มากถึงมากที่สุด ดังนั้นจึงสามารถดูดความชื้นที่อยู่ในรองเท้าและแทนที่กลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยกลิ่นชาดีๆ นั่นเอง เจ๋งมั้ยล่ะ
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #730 เมื่อ: วันที่ 23 มิถุนายน 2016, 10:58:34 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #731 เมื่อ: วันที่ 24 มิถุนายน 2016, 10:25:50 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #732 เมื่อ: วันที่ 27 มิถุนายน 2016, 11:02:37 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #733 เมื่อ: วันที่ 28 มิถุนายน 2016, 10:56:30 » |
|
ข้าวโพดสุก ต้านมะเร็ง ได้จริงๆ เหรอ จริง เพราะตอนที่แม่เรากำลังรักษามะเร็งช่วงใกล้ๆหาย เริ่มจะทานอาหารได้ เค้าจะกินข้าวโพดต้มทุกวัน ไปเหมาจาก Supermarket ทุก week แล้วเค้าก็ ฟื้นตัวเร็วมาก ช่วงนั้น ลิ้นเค้าจะ Anti เนื้อสัตว์ กลืนไม่ลง ทานได้แต่ผักกะผลไม้ และจะอยากกินข้าวโพดทุกวัน การแทะข้าวโพดหวานต้านโรคมะเร็งมีสารตัวล้างพิษมากกว่าผักผลไม้ นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่า ข้าวโพด หวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด เขาเผยว่าผิดกับที่เคยเชื่อกันมาก่อน ว่าผักและผลไม้หากต้มปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหารลงไป สู้ กินดิบๆ ไม่ได้ แต ่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษคงไว้ได้ แม้ว่าจะเสียวิตามินซีไป เขาได้พบในการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25 และ 50 นาที พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันมีสารอันเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น 22, 44 และ 53 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายกับเซลล์ ของอวัยวะต่างๆ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวพันกับโรคอันเนื่องมาจากความแก่ชรา ต่างๆ อย่างเช่นต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมอีกด้วย คณะนักวิจัยแจ้งว่าข้าวโพดหวานที่ต้มหรือปิ้งจะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก อันเป็นคุณกับร่างกายยิ่งมาก ขึ้นเมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้นกรดเฟรุลิกเป็นพวก พฤกษเคมีซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพดผสมปนเปรวมอยู่กับอย่าง อื่น การทำให้มันสุกจึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น [/b]
|
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #736 เมื่อ: วันที่ 12 กรกฎาคม 2016, 15:39:41 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #737 เมื่อ: วันที่ 13 กรกฎาคม 2016, 10:26:55 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #738 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2016, 11:22:58 » |
|
|
|
|
|
signalsport
ระดับ ป.ตรี
ออฟไลน์
กระทู้: 2,183
|
|
« ตอบ #739 เมื่อ: วันที่ 28 กรกฎาคม 2016, 12:03:21 » |
|
|
|
|
|