I LOVE ร-ถ-เ-ค-รื่-อ-ง เรื่อง2ล้อ หัวใจทัวร์ริ่ง

[ninja250]

HONDA NC700X
ตัวลุยอัจฉริยะกับระบบ Dual clutchและเกียร์ไฟฟ้า

[ninja250]

HONDA NC700X
ตัวลุยอัจฉริยะกับระบบ Dual clutchและเกียร์ไฟฟ้า

[ninja250]

HONDA NC700X
ตัวลุยอัจฉริยะกับระบบ Dual clutchและเกียร์ไฟฟ้า

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


ผมได้มีโอกาสไปทดลองขี่ Honda NC700X มาเมื่อวันที่ 12 พค ซึ่งฮอนด้าได้จัดให้บุคคลทั่วไปได้ทดลองขี่รถของฮอนด้า 3 รุ่น คือ NC700X VFR1200F DCT และ Integra ที่สนามฝึกขับขี่ปลอดภัยของฮอนด้าบนถนนรามคำแหง

จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ผมไม่ได้สนใจรถกลุ่มนี้คันใดคันหนึ่งเป็นพิเศษ เนื่องจากรูปร่างหน้าตาและราคาที่เปิดตัวออกมาสูงกว่า Kawasaki เกือบเท่าตัว แต่ได้มีโอกาสแวะเข้าไปที่โชว์รูม Honda Big Wing เมื่อสัปดาห์ก่อนและพนักงานฮอนด้าได้อธิบายสรรพคุณของระบบ DCT (Dual Clutch Transmission) หรือผมแปลเป็นไทยเองว่าระบบส่งกำลังแบบคลัทช์คู่ และได้เชิญชวนให้ไปร่วมทดลองขับขี่ในวันดังกล่าว

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


การทดลองขี่ทางฮอนด้าได้จัดให้ผู้สนใจทะยอยขี่ทีละกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ขี่กัน 4 แบบคือ VFR1200F DCT 2 คัน NC700X กับ Integra อย่างละคัน ผมได้เล็ง NC700X ไว้เป็นอันดับแรกเพราะคุ้นเคยกับรถขนาดนี้มากที่สุด เมื่อถึงคิวทดสอบ เจ้าหน้าที่ได้อธิบายการทำงานและการใช้งานของ DCT ซึ่งรถทั้ง 3 แบบมีการติดตั้งปุ่มการทำงานต่างๆ อยู่ในตำแหน่งเดียวกันหมด โหมดหลักของการทำงานคือ Auto และ Manual ซึ่งมีสวิทซ์ติดตั้งอยู่ที่ตำแหน่งใกล้กับคันเร่งโดยใช้นิ้วชี้ขวาควบคุมสวิทซ์ตัวนี้ ในโหมด Auto ยังสามารถเลือกการขับขี่ได้อีกสองแบบคือ D กับ S สำหรับ D คือการขับขี่ทั่วไปและ S คือการขับขี่แบบสปอร์ทซึ่งจะเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงกว่า D ทำให้ได้อัตราเร่งที่สูงกว่าแบบ D สวิทซ์ D/S นี้อยู่ใกล้คันเร่งเหมือนกันแต่อยู่ในตำแหน่งที่ใช้นิ้วโป้งในการควบคุม ในสวิทซ์เดียวกันนี้ยังสามารถเปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์ว่าง N ได้อีกด้วย และสำหรับโหมดการทำงานแบบ Manual เราสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยใช้นิ้วชี้ซ้ายกดสวิทซ์ + เพื่อเปลี่ยนเกียร์ขี้น และนิ้วโป้งซ้ายกดสวิทซ์ – ในการลดเกียร์ลง เหมือน paddle shift ในรถยนต์เลย

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


เราได้ทดสอบขับขี่กันทั้งหมด 5 รอบ รอบแรกเป็นการขับขี่ตามครูฝึกของฮอนด้าเพื่อเรียนรู้เส้นทาง โดยใช้โหมด Auto + D รอบที่สองเปลี่ยนเป็น Auto + S รอบนี้ไม่มีรถนำแต่ปล่อยรถเว้นระยะกันโดยเริ่มจาก VFR1200F DCT สองคัน NC700X และปิดท้ายด้วย Integra รอบที่สามปรับเป็นโหมด Manual และอีกสองรอบที่เหลือให้ผู้ขับขี่เลือกโหมดต่างๆ ได้ตามสะดวก เมื่อผู้ขับขี่ประจำที่กันพร้อม การทดสอบก็เริ่มขึ้น

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


การขับขี่ในโหมด Auto + D รถสามารถออกตัวได้อย่างนุ่มนวลและได้อัตราเร่งที่ดี จะไม่พุ่งหรือกระชากออกไปแบบการใช้คลัทช์มือ เมื่อรอบสูงขึ้นก็จะมีการเปลี่ยนเกียร์ให้รู้สึกได้เหมือนรถยนต์เกียร์ออโต้ทั่วไป NC700X มี 6 เกียร์แต่ในสนามทดสอบคงไปได้ไม่เกินเกียร์สามก็สุดทางตรงแล้ว เมื่อเบรกรถจะรู้สึกได้ว่าระบบ DCT มีการลดเกียร์ลงด้วยสอดคล้องตามความเร็ว ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยรเกียร์แต่อย่างใดพอจะออกจากโค้งก็แค่เติมคันเร่งเข้าไปรถก็ออกตัวไปได้อย่างราบรื่น แต่ผู้ขับขี่จะไม่สามารถลดเกียร์ลงเพื่อใช้เอ็นจิ้นเบรกได้ และจะมีอยู่บ้างที่ระบบ DCT ลดเกียร์ลงในโค้งซึ่งจะรู้สึกกระตุกเบาๆ ทำให้ผมตกใจเล็กน้อย และแอบเสียวอยู่เหมือนกันว่ามันจะทำให้รถสไลด์หรือเปล่า แต่ในวันที่ทดสอบก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆที่เป็นอันตรายจากเหตุดังกล่าว

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0

หลังจากวนไปครบรอบแรกรถทุกคันก็ทะยอยมาหยุดที่จุดเริ่มต้นและเปลี่ยนเป็นโหมด Auto + S หรือการขับขี่แบบสปอร์ต จริงๆ แล้วการเปลี่ยนโหมดต่างๆ สามารถกระทำได้ในขณะขับขี่ ไม่ต้องหยุดรถก็ได้ แต่ด้วยความไม่เคยชิน การหยุดรถเพื่อปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่จะปลอดภัยกว่า ที่น่าประทับใจในความเฉลียวฉลาดของระบบ DCT นั้น เมื่อรถหยุด ระบบ DCT จะเปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์ 1 ให้เลย และถ้าจะเปลี่ยรเป็นเกียร์ว่างก็แค่กดสวิทซ์ N ระบบ DCT ก็จะเปลี่ยนเกียร์ว่างให้ในทันที ไม่ต้องไล่เกียร์ขึ้นๆ ลงๆ เมือนในรถเกียร์ธรรมดาทั่วไป ในโหมดนี้ระบบ DCT จะเปลี่ยรเกียร์ที่รอบสูงกว่าอย่างชัดเจน ทำให้ได้ความรู้สึกที่สนุกกว่าโหมด D เหมือนกับขี่รถคนละคันกันเลยทีเดียว การเปลี่ยนเกียร์ก็สามารถทำได้อย่างนุ่มนวลไม่แตกต่างจากโหมด D เช่นกัน

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


มาถึงโหมดสุดท้ายคือ Manual เปลี่ยนโหมดจาก Auto เป็น Manual โดยใช้นิ้วชี้ขวากดสวิทซ์ก็จะได้รถที่เปลี่ยนเกียร์ได้ตามใจผู้ขับขี่ ในรอบแรกที่ทดลองระบบ Manual ผมยังไม่ได้บิดเต็มที่สักเท่าไหร่ จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ก็ใช้หูฟังเป็นหลัก ไม่ได้เหลียวมองดูรอบเครื่องยนต์เลย การเปลี่ยนเกียร์ก็แค่เหนี่ยวสวิทซ์ + ด้วยนิ้วชี้ขวา ระบบ DCT ก็จะเปลี่ยนเกียร์ให้อย่างนุ่มนวลไม่แพ้ในโหมด Auto คันเร่งก็บิดแช่ไว้ได้เลยไม่ต้องผ่อน อะไรจะง่ายขนาดนี้ ข้อดีมากๆ ในโหมดนี้คือผู้ขับขี่สามารถลดเกียร์ลงด้วยการกดสวิทซ์ด้วยหัวแม่โป้งขวาเพื่อใช้เอ็นจิ้นเบรกได้มากกว่าระบบ Auto และเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการ แต่ไปๆ มาๆ แล้วกลายเป็นว่าการทดสอบในสนามนี้ใช้เกียร์ 2 ยืนพื้น ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์เลย การควบคุมความเร็วในวันนั้นเลยใช้คันเร่งกับเบรกเป็นหลัก แต่สนามที่มีโค้งยูเทิร์นค่อนข้างเยอะทำให้ผมจินตนาการไปถึงการขับขี่บนภูเขาที่มีโค้งพับไปพับมา ถ้าได้เอา NC700X คันนี้ไปวิ่งด้วยโหมด Manual คงจะสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


ในรอบถัดไป ผมทดลองเปิดคันเร่งมากขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงขี้นกว่าเดิม พบว่าในช่วงเปลี่ยนเกียร์จะมีแรงดึงของรถมากขึ้นกว่าเดิมมากแต่ไม่ถึงกับกระชากเหมือนตอนปล่อยคลัทช์เร็วๆ และผมก็เป็นคนที่จะปล่อยคลัทช์เร็วเป็นปกติ คือพอใส่เกียร์ได้ก็ปล่อยมืออย่างรวดเร็ว มันจะกระชาก และเวลาลดเกียร์ลงก็จะกระตุก ระบบ DCT ช่วยทำให้การเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงเป็นไปได้อย่างนุ่มนวลกว่าการใช้คลัทช์มือของผมมากทีเดียว คนที่ไม่เคยขี่รถมีคลัทช์มาก่อนก็คงไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เจ้าหน้าที่ของฮอนด้าได้อธิบายไว้ด้วยว่าในโหมด Manual ระบบ DCT จะช่วยลดเกียร์ให้เองถ้าความเร็วต่ำกว่าที่กำหนดไว้ ในรอบสุดท้ายผมจึงได้หยุดรถที่จุดเริ่มต้น ก็ได้เกียร์ 1 กลับมา และได้ลองผ่อนคันเร่งเวลาเปลี่ยนเกียร์ซึ่งผมว่าไม่ดีกว่าที่จะบิดคันเร่งค้างไว้สักเท่าไหร่ ถ้าต้องการความนุ่นวลในการเปลี่ยนเกียร์ ผมคิดว่าเปลี่ยนเกียร์ที่รอบไม่สูงเกินไปจะได้ผลดีที่สุด

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


ในส่วนของประโยชน์สำคัญที่คาดว่าจะได้รรับจากระบบ DCT นี้ก็คือการขับขี่ในการจราจรที่ติดขัดในเมือง การเซ็ทโหมดการขับขี่เป็นระบบ Auto จะช่วยให้การขับขี่บิ๊กไบค์ในเมืองเป็นเรื่องสบายๆ เหมือนการขี่รถ Automatic คันเล็กๆ เลยทีเดียว ผู้ขับขี่ไม่ต้องใส่ใจกับการเปลี่ยนเกียร์ กำคลัทช์ และหาเกียร์ 1 หรือเกียร์ว่างอีกต่อไป แต่ก็อีกแหละครับ การรวมเอาปุ่มต่างๆ มารวมไว้ที่แฮนด์ก็คงต้องใช้ความคุ้นเคยพอสมควร รวมทั้งปุ่ม – ที่อยู่ใกล้กับปุ่มอะไรสักอย่างที่หัวแม่โป้งซ้ายก็อาจทำให้สับสน กดผิดกดถูกได้เหมือนกัน ในสถานะการณ์ฉุกเฉินเราจะชินกับการลดเกียร์ลง แต่เราดันเอาหัวแม่มือไปกดปุ่มอื่น อะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงตอนผมได้ทดลองขี่ VFR1200F DCT เหวอไปเลยครับ ดีที่กลับมากดเบรกทันไม่งั้นคงได้แหกโค้งให้ชมเป็นคนแรกของงาน

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


สำหรับความรู้สึกกับการขับขี่ NC700X นั้น ถือว่าน่าประทับใจครับ เริ่มตั้งแต่ความสูงของเบาะที่ต่ำกว่า Versys และจุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำ เนื่องจากถังน้ำมันถูกเลื่อนมาอยู่ใต้เบาะ ทำให้เมื่อคร่อมเจ้า NC700X แล้วรู้สึกว่ารถเบามาก การเข้าโค้งก็สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนกับการขี่รถเล็กๆ เลยทีเดียว ส่วนในตำแหน่งของถังน้ำมันในรถทั่วไปก็กลายมาเป็นที่เก็บสัมภาระ ซึ่งสามารถเก็บหมวกกันน็อคได้เลย ไม่ต้องกลัวหมวกหายแล้ว เนื่องจากสนามทดสอบไม่มีหลุมบ่อ เลยยังไม่สามารถทราบถึงประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนของรถได้ อัตราเร่งก็ไปได้ดีครับ และความจำกัดของสนามก็ทำให้ไม่สามารถทดสอบเรื่องการขับขี่ด้วยความเร็วปกติในการเดินทางได้ แต่รู้สึกว่าเครื่องยนต์จะนุ่มนวลกว่าเครื่องยนต์ของ Kawasaki 650 อยู่ชัดเจน และเสียงก็เงียบกว่าอีกด้วย หลายคนอาจไม่ชอบเรื่องความเงียบสักเท่าไหร่  จอแสดงผลแบบดิจิตอลมีมาให้ครบครับ ทั้งวัดรอบ ความเร็ว ตำแหน่งเกียร์ โหมดการทำงาน แต่เวลาขี่ทดสอบไม่ได้มองอะไรเลยครับ ทางมันสั้นมาก

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการตัดสินใจซื้อรถสักคันคงเป็นเรื่องของราคาที่ตั้งไว้ที่ 451,000 บาท นั้นแพงกว่า Versys เกือบ 60 เปอร์เซนต์ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นรถที่ประกอบทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่นก็คงเป็นเหตุเป็นผลกันอยู่ คุณภาพในการประกอบนั้นก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเหนือกว่ารถประกอบในประเทศถึงแม้ว่าไม่สามารถจะสังเกตุได้อย่างชัดเจน แต่ในการใช้งานแล้วผมก็เชื่อว่ารถประกอบในญี่ปุ่นคงจะมีคุณภาพที่ดีกว่า

[ninja250]

รีวิวจากเวปhttp://www.er6thailand.com/board/index.php?topic=27701.0


Honda NC700X คงเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งของผู้ที่มีงบประมาณสูงกว่า Versys สำหรับรถในลักษณะใกล้เคียงกัน และคนที่มีความกังวลเรื่องความสูงของรถ รวมทั้งผู้ที่มีความกังวลเรื่องการเข้าเกียร์และการใช้คลัทช์ หรืออยากได้รถที่มีที่เก็บหมวกกันน็อค เราคงได้เห็น NC700X วิ่งกันบนท้องถนนกันในไม่ช้านี้ สำหรับระบบ DCT ผมเชื่อว่าระบบนี้ จะเป็นเทคโนโลยีที่มีให้ใช้กันแพร่หลายมากขึ้นสำหรับรถบิ๊กไบค์ มันคงเป็นเหมือนรถยนต์ในปัจจุบันนี้ที่มีเกียร์ออโตเมติกกันเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับก้านคลัทช์ และคันเกียร์คงต้องคิดถึงมันมากๆ และอาจเผลอกำคลัทช์และเอาเท้าซ้ายตบเกียร์กันบ้างครับ

[ninja250]

HONDA NC700X
ตัวลุยอัจฉริยะกับระบบ Dual clutchและเกียร์ไฟฟ้า

[ninja250]

HONDA NC700X
ตัวลุยอัจฉริยะกับระบบ Dual clutchและเกียร์ไฟฟ้า

[ninja250]

HONDA NC700X
ตัวลุยอัจฉริยะกับระบบ Dual clutchและเกียร์ไฟฟ้า

[ninja250]

HONDA NC700X
ตัวลุยอัจฉริยะกับระบบ Dual clutchและเกียร์ไฟฟ้า

[ninja250]

HONDA NC700X
ตัวลุยอัจฉริยะกับระบบ Dual clutchและเกียร์ไฟฟ้า

[ninja250]

HONDA NC700X
ตัวลุยอัจฉริยะกับระบบ Dual clutchและเกียร์ไฟฟ้า