งานออนไลน์ ธุรกิจออนไลน์ รูปแบบใหม่ ตอบโจทย์คนออนไลน์ 100% ด้วยระบบอัจฉริยะอันดับ 1 ของไทย

[num919za]

***ความต้องการ 5 ขั้นตามแนวความคิดของ Maslow
       
       ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกาย (Physiological Needs) คือความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
       ขั้นที่ 2 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย (Safety and Security Needs) คือความต้องการที่จะมีชีวิตที่มั่นคง ปลอดภัย
       ขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและการเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม (Love and Belonging Needs) มนุษย์เมื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มใดก็ต้องการให้ตนเป็นที่รักและยอมรับในกลุ่มที่ตนอยู่
       ขั้นที่ 4 ความต้องการได้รับการยกย่องจากผู้อื่น (Self -Esteem Needs) เป็นความต้องการในลำดับต่อมา ซึ่งความต้องการในชั้นนี้ถ้าได้รับจะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจใจตนเอง
       ขึ้นที่ 5 ความต้องการในการเข้าใจและรู้จักตนเอง (Self-Actualization Needs)

[num919za]

***ความต้องการ 5 ขั้นตามแนวความคิดของ Maslow
       
       ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกาย (Physiological Needs) คือความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
       ขั้นที่ 2 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย (Safety and Security Needs) คือความต้องการที่จะมีชีวิตที่มั่นคง ปลอดภัย
       ขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและการเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม (Love and Belonging Needs) มนุษย์เมื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มใดก็ต้องการให้ตนเป็นที่รักและยอมรับในกลุ่มที่ตนอยู่
       ขั้นที่ 4 ความต้องการได้รับการยกย่องจากผู้อื่น (Self -Esteem Needs) เป็นความต้องการในลำดับต่อมา ซึ่งความต้องการในชั้นนี้ถ้าได้รับจะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจใจตนเอง
       ขึ้นที่ 5 ความต้องการในการเข้าใจและรู้จักตนเอง (Self-Actualization Needs)

[num919za]

***ความต้องการ 5 ขั้นตามแนวความคิดของ Maslow
       
       ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกาย (Physiological Needs) คือความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
       ขั้นที่ 2 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย (Safety and Security Needs) คือความต้องการที่จะมีชีวิตที่มั่นคง ปลอดภัย
       ขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและการเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม (Love and Belonging Needs) มนุษย์เมื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มใดก็ต้องการให้ตนเป็นที่รักและยอมรับในกลุ่มที่ตนอยู่
       ขั้นที่ 4 ความต้องการได้รับการยกย่องจากผู้อื่น (Self -Esteem Needs) เป็นความต้องการในลำดับต่อมา ซึ่งความต้องการในชั้นนี้ถ้าได้รับจะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจใจตนเอง
       ขึ้นที่ 5 ความต้องการในการเข้าใจและรู้จักตนเอง (Self-Actualization Needs)

[num919za]

***ความต้องการ 5 ขั้นตามแนวความคิดของ Maslow
       
       ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกาย (Physiological Needs) คือความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
       ขั้นที่ 2 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย (Safety and Security Needs) คือความต้องการที่จะมีชีวิตที่มั่นคง ปลอดภัย
       ขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและการเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม (Love and Belonging Needs) มนุษย์เมื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มใดก็ต้องการให้ตนเป็นที่รักและยอมรับในกลุ่มที่ตนอยู่
       ขั้นที่ 4 ความต้องการได้รับการยกย่องจากผู้อื่น (Self -Esteem Needs) เป็นความต้องการในลำดับต่อมา ซึ่งความต้องการในชั้นนี้ถ้าได้รับจะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจใจตนเอง
       ขึ้นที่ 5 ความต้องการในการเข้าใจและรู้จักตนเอง (Self-Actualization Needs)

[num919za]

อาชีพของคนเราส่วนใหญ่นั้นคงไม่พ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ๆ ต่างก็ประสบปัญหาที่ต่างกัน

มนุษย์เงินเดือน ไม่เป็นตัวของตัวเอง โดนเจ้านายดุด่าว่ากล่าว ต้องเข้า-ออกงานเป๊ะ ๆ เหมือนถูกตั้งเวลาเอาไว้ แต่ข้อดีก็คือไม่ต้องเสี่ยงกับชีวิตมากนัก เลิกงานก็กลับบ้าน เช้ามาก็ทำงานต่อ วนเวียนมันไปอยู่อย่างนี้ เห็นรายได้ที่แน่นอน สิ้นเดือนก็ได้เงินเห็น ๆ แต่รายได้มันมีจำกัด รายได้มันคงที่ หรือจะเพิ่มขึ้นก็นิดหน่อยเท่านั้น
ธุรกิจส่วนตัว คนในอยากออก คนนอกอยากเข้าครับ จากมนุษย์เงินเดือนก็อยากจะออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวบ้าง คิดว่าจะได้เป็นเจ้านายตนเองซะที อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องไปสนใจใคร ไม่ต้องไปรับคำสั่งจากใคร เมื่อก่อนผมคิดยังงั้นครับ ว่าแค่มีเงินลงทุนก็สามารถทำธุรกิจส่วนตัวได้แล้ว มาตอนนี้ผมรู้ว่ามันมีปัจจัยอะไรอีก ๆ หลาย ๆ อย่างครับ ทำธุรกิจอะไรที่มันต่อทำรายได้ตลอดรอดฝั่ง หาลูกค้าจากไหน ใครจะมาซื้อ พนักงานไม่ทำงาน โดนเพื่อนโกง และอะไรอีกจิปาถะ ใช่ครับ การทำธุรกิจส่วนตัวมันมีความเสี่ยงครับ แต่ถ้า้เราเสี่ยงแล้วมันมีรายได้ที่มากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนล่ะ มีรายได้ที่มากขึ้นล่ะ และมีโอกาสที่จะได้ร่ำรวยขึ้นได้บ้างล่ะ มันก็น่าเสี่ยงใช่ไหมล่ะครับ ข้อเสียคือคุณอาจจะไม่มีเวลา ต้องคอยบริหารธุรกิจตลอดเวลา

งานทั้งสองด้านที่ผมเขียนมานี้ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งมาแล้วล่ะ หรืออาจจะเคยเป็นทั้งสองอย่าง มันมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกัน

แต่ที่ผมจะเสนอในวันนี้ก็คือ การทำธุรกิจออนไลน์ครับ มันก็คือธุรกิจส่วนตัวแบบทั่วไปนั่นแหละแต่เราย้ายทำเลมาทำการค้าบนอินเทอร์เน็ต มาสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็ต โดยที่เรานั้นสามารถสร้างรายได้แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง แม้กระทั่งยามหลับเราก็ยังมีรายได้เข้ากระเป๋าอีก

อืม...ธุรกิจออนไลน์ มันสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยามหลับก็มีรายได้เข้ากระเป็าอีก หลาย ๆ คนที่ยังไม่รู้ว่ายังมีธุรกิจดี ๆ เช่นนี้ก็คงจะตาลุกวาว บางแห่งเค้าบอกว่าสร้างธุรกิจออนไลน์หรือหาเงินจากอินเทอร์เน็ตนั้นมันง่ายนิดเดียว ผมขอบอกก่อนเลยว่ามันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ และมันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเราหากเรามีความตั้งใจจริง ยอดอดทน มีความพยายามอย่างไม่ท้อแท้ เชื่อว่าต้องประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ครับ มันไม่ได้ง่ายครับ....แต่มันเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับเราครับ ทำงานโดยไม่ต้องออกจากบ้านก็ได้ ทำงานที่ไหนก็ได้ครับ จะไปนั่งทำงานที่ห้างสรรพสินค้านั่งจิบกาแฟไปด้วยก็ยังทำได้ ขอให้มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตครับ งานยุคใหม่ที่เราต้องทำงานผ่านจอคอมพิวเตอร์  รีบศึกษากันครับ ผมว่าอีกไม่กี่ปี ธุรกิจออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตบูมมาก ๆ โพสต์หน้าต่อด้วยเรื่องของธุรกิจออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ กันครับ มันมีธุรกิจอะไรกันบ้าง เว็บใหญ่ ๆ อย่าง sanook kapook google เขามีรายได้จากไหนครับ และทำไมเราถึงต้องมาสนใจการทำธุรกิจออนไลน์หรือธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตกันล่ะ....

[num919za]

อาชีพของคนเราส่วนใหญ่นั้นคงไม่พ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ๆ ต่างก็ประสบปัญหาที่ต่างกัน

มนุษย์เงินเดือน ไม่เป็นตัวของตัวเอง โดนเจ้านายดุด่าว่ากล่าว ต้องเข้า-ออกงานเป๊ะ ๆ เหมือนถูกตั้งเวลาเอาไว้ แต่ข้อดีก็คือไม่ต้องเสี่ยงกับชีวิตมากนัก เลิกงานก็กลับบ้าน เช้ามาก็ทำงานต่อ วนเวียนมันไปอยู่อย่างนี้ เห็นรายได้ที่แน่นอน สิ้นเดือนก็ได้เงินเห็น ๆ แต่รายได้มันมีจำกัด รายได้มันคงที่ หรือจะเพิ่มขึ้นก็นิดหน่อยเท่านั้น
ธุรกิจส่วนตัว คนในอยากออก คนนอกอยากเข้าครับ จากมนุษย์เงินเดือนก็อยากจะออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวบ้าง คิดว่าจะได้เป็นเจ้านายตนเองซะที อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องไปสนใจใคร ไม่ต้องไปรับคำสั่งจากใคร เมื่อก่อนผมคิดยังงั้นครับ ว่าแค่มีเงินลงทุนก็สามารถทำธุรกิจส่วนตัวได้แล้ว มาตอนนี้ผมรู้ว่ามันมีปัจจัยอะไรอีก ๆ หลาย ๆ อย่างครับ ทำธุรกิจอะไรที่มันต่อทำรายได้ตลอดรอดฝั่ง หาลูกค้าจากไหน ใครจะมาซื้อ พนักงานไม่ทำงาน โดนเพื่อนโกง และอะไรอีกจิปาถะ ใช่ครับ การทำธุรกิจส่วนตัวมันมีความเสี่ยงครับ แต่ถ้า้เราเสี่ยงแล้วมันมีรายได้ที่มากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนล่ะ มีรายได้ที่มากขึ้นล่ะ และมีโอกาสที่จะได้ร่ำรวยขึ้นได้บ้างล่ะ มันก็น่าเสี่ยงใช่ไหมล่ะครับ ข้อเสียคือคุณอาจจะไม่มีเวลา ต้องคอยบริหารธุรกิจตลอดเวลา

งานทั้งสองด้านที่ผมเขียนมานี้ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งมาแล้วล่ะ หรืออาจจะเคยเป็นทั้งสองอย่าง มันมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกัน

แต่ที่ผมจะเสนอในวันนี้ก็คือ การทำธุรกิจออนไลน์ครับ มันก็คือธุรกิจส่วนตัวแบบทั่วไปนั่นแหละแต่เราย้ายทำเลมาทำการค้าบนอินเทอร์เน็ต มาสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็ต โดยที่เรานั้นสามารถสร้างรายได้แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง แม้กระทั่งยามหลับเราก็ยังมีรายได้เข้ากระเป๋าอีก

อืม...ธุรกิจออนไลน์ มันสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยามหลับก็มีรายได้เข้ากระเป็าอีก หลาย ๆ คนที่ยังไม่รู้ว่ายังมีธุรกิจดี ๆ เช่นนี้ก็คงจะตาลุกวาว บางแห่งเค้าบอกว่าสร้างธุรกิจออนไลน์หรือหาเงินจากอินเทอร์เน็ตนั้นมันง่ายนิดเดียว ผมขอบอกก่อนเลยว่ามันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ และมันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเราหากเรามีความตั้งใจจริง ยอดอดทน มีความพยายามอย่างไม่ท้อแท้ เชื่อว่าต้องประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ครับ มันไม่ได้ง่ายครับ....แต่มันเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับเราครับ ทำงานโดยไม่ต้องออกจากบ้านก็ได้ ทำงานที่ไหนก็ได้ครับ จะไปนั่งทำงานที่ห้างสรรพสินค้านั่งจิบกาแฟไปด้วยก็ยังทำได้ ขอให้มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตครับ งานยุคใหม่ที่เราต้องทำงานผ่านจอคอมพิวเตอร์  รีบศึกษากันครับ ผมว่าอีกไม่กี่ปี ธุรกิจออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตบูมมาก ๆ โพสต์หน้าต่อด้วยเรื่องของธุรกิจออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ กันครับ มันมีธุรกิจอะไรกันบ้าง เว็บใหญ่ ๆ อย่าง sanook kapook google เขามีรายได้จากไหนครับ และทำไมเราถึงต้องมาสนใจการทำธุรกิจออนไลน์หรือธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตกันล่ะ....

[num919za]

อาชีพของคนเราส่วนใหญ่นั้นคงไม่พ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ๆ ต่างก็ประสบปัญหาที่ต่างกัน

มนุษย์เงินเดือน ไม่เป็นตัวของตัวเอง โดนเจ้านายดุด่าว่ากล่าว ต้องเข้า-ออกงานเป๊ะ ๆ เหมือนถูกตั้งเวลาเอาไว้ แต่ข้อดีก็คือไม่ต้องเสี่ยงกับชีวิตมากนัก เลิกงานก็กลับบ้าน เช้ามาก็ทำงานต่อ วนเวียนมันไปอยู่อย่างนี้ เห็นรายได้ที่แน่นอน สิ้นเดือนก็ได้เงินเห็น ๆ แต่รายได้มันมีจำกัด รายได้มันคงที่ หรือจะเพิ่มขึ้นก็นิดหน่อยเท่านั้น
ธุรกิจส่วนตัว คนในอยากออก คนนอกอยากเข้าครับ จากมนุษย์เงินเดือนก็อยากจะออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวบ้าง คิดว่าจะได้เป็นเจ้านายตนเองซะที อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องไปสนใจใคร ไม่ต้องไปรับคำสั่งจากใคร เมื่อก่อนผมคิดยังงั้นครับ ว่าแค่มีเงินลงทุนก็สามารถทำธุรกิจส่วนตัวได้แล้ว มาตอนนี้ผมรู้ว่ามันมีปัจจัยอะไรอีก ๆ หลาย ๆ อย่างครับ ทำธุรกิจอะไรที่มันต่อทำรายได้ตลอดรอดฝั่ง หาลูกค้าจากไหน ใครจะมาซื้อ พนักงานไม่ทำงาน โดนเพื่อนโกง และอะไรอีกจิปาถะ ใช่ครับ การทำธุรกิจส่วนตัวมันมีความเสี่ยงครับ แต่ถ้า้เราเสี่ยงแล้วมันมีรายได้ที่มากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนล่ะ มีรายได้ที่มากขึ้นล่ะ และมีโอกาสที่จะได้ร่ำรวยขึ้นได้บ้างล่ะ มันก็น่าเสี่ยงใช่ไหมล่ะครับ ข้อเสียคือคุณอาจจะไม่มีเวลา ต้องคอยบริหารธุรกิจตลอดเวลา

งานทั้งสองด้านที่ผมเขียนมานี้ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งมาแล้วล่ะ หรืออาจจะเคยเป็นทั้งสองอย่าง มันมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกัน

แต่ที่ผมจะเสนอในวันนี้ก็คือ การทำธุรกิจออนไลน์ครับ มันก็คือธุรกิจส่วนตัวแบบทั่วไปนั่นแหละแต่เราย้ายทำเลมาทำการค้าบนอินเทอร์เน็ต มาสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็ต โดยที่เรานั้นสามารถสร้างรายได้แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง แม้กระทั่งยามหลับเราก็ยังมีรายได้เข้ากระเป๋าอีก

อืม...ธุรกิจออนไลน์ มันสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยามหลับก็มีรายได้เข้ากระเป็าอีก หลาย ๆ คนที่ยังไม่รู้ว่ายังมีธุรกิจดี ๆ เช่นนี้ก็คงจะตาลุกวาว บางแห่งเค้าบอกว่าสร้างธุรกิจออนไลน์หรือหาเงินจากอินเทอร์เน็ตนั้นมันง่ายนิดเดียว ผมขอบอกก่อนเลยว่ามันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ และมันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเราหากเรามีความตั้งใจจริง ยอดอดทน มีความพยายามอย่างไม่ท้อแท้ เชื่อว่าต้องประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ครับ มันไม่ได้ง่ายครับ....แต่มันเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับเราครับ ทำงานโดยไม่ต้องออกจากบ้านก็ได้ ทำงานที่ไหนก็ได้ครับ จะไปนั่งทำงานที่ห้างสรรพสินค้านั่งจิบกาแฟไปด้วยก็ยังทำได้ ขอให้มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตครับ งานยุคใหม่ที่เราต้องทำงานผ่านจอคอมพิวเตอร์  รีบศึกษากันครับ ผมว่าอีกไม่กี่ปี ธุรกิจออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตบูมมาก ๆ โพสต์หน้าต่อด้วยเรื่องของธุรกิจออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ กันครับ มันมีธุรกิจอะไรกันบ้าง เว็บใหญ่ ๆ อย่าง sanook kapook google เขามีรายได้จากไหนครับ และทำไมเราถึงต้องมาสนใจการทำธุรกิจออนไลน์หรือธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตกันล่ะ....

[num919za]

อาชีพของคนเราส่วนใหญ่นั้นคงไม่พ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ๆ ต่างก็ประสบปัญหาที่ต่างกัน

มนุษย์เงินเดือน ไม่เป็นตัวของตัวเอง โดนเจ้านายดุด่าว่ากล่าว ต้องเข้า-ออกงานเป๊ะ ๆ เหมือนถูกตั้งเวลาเอาไว้ แต่ข้อดีก็คือไม่ต้องเสี่ยงกับชีวิตมากนัก เลิกงานก็กลับบ้าน เช้ามาก็ทำงานต่อ วนเวียนมันไปอยู่อย่างนี้ เห็นรายได้ที่แน่นอน สิ้นเดือนก็ได้เงินเห็น ๆ แต่รายได้มันมีจำกัด รายได้มันคงที่ หรือจะเพิ่มขึ้นก็นิดหน่อยเท่านั้น
ธุรกิจส่วนตัว คนในอยากออก คนนอกอยากเข้าครับ จากมนุษย์เงินเดือนก็อยากจะออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวบ้าง คิดว่าจะได้เป็นเจ้านายตนเองซะที อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องไปสนใจใคร ไม่ต้องไปรับคำสั่งจากใคร เมื่อก่อนผมคิดยังงั้นครับ ว่าแค่มีเงินลงทุนก็สามารถทำธุรกิจส่วนตัวได้แล้ว มาตอนนี้ผมรู้ว่ามันมีปัจจัยอะไรอีก ๆ หลาย ๆ อย่างครับ ทำธุรกิจอะไรที่มันต่อทำรายได้ตลอดรอดฝั่ง หาลูกค้าจากไหน ใครจะมาซื้อ พนักงานไม่ทำงาน โดนเพื่อนโกง และอะไรอีกจิปาถะ ใช่ครับ การทำธุรกิจส่วนตัวมันมีความเสี่ยงครับ แต่ถ้า้เราเสี่ยงแล้วมันมีรายได้ที่มากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนล่ะ มีรายได้ที่มากขึ้นล่ะ และมีโอกาสที่จะได้ร่ำรวยขึ้นได้บ้างล่ะ มันก็น่าเสี่ยงใช่ไหมล่ะครับ ข้อเสียคือคุณอาจจะไม่มีเวลา ต้องคอยบริหารธุรกิจตลอดเวลา

งานทั้งสองด้านที่ผมเขียนมานี้ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งมาแล้วล่ะ หรืออาจจะเคยเป็นทั้งสองอย่าง มันมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกัน

แต่ที่ผมจะเสนอในวันนี้ก็คือ การทำธุรกิจออนไลน์ครับ มันก็คือธุรกิจส่วนตัวแบบทั่วไปนั่นแหละแต่เราย้ายทำเลมาทำการค้าบนอินเทอร์เน็ต มาสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็ต โดยที่เรานั้นสามารถสร้างรายได้แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง แม้กระทั่งยามหลับเราก็ยังมีรายได้เข้ากระเป๋าอีก

อืม...ธุรกิจออนไลน์ มันสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยามหลับก็มีรายได้เข้ากระเป็าอีก หลาย ๆ คนที่ยังไม่รู้ว่ายังมีธุรกิจดี ๆ เช่นนี้ก็คงจะตาลุกวาว บางแห่งเค้าบอกว่าสร้างธุรกิจออนไลน์หรือหาเงินจากอินเทอร์เน็ตนั้นมันง่ายนิดเดียว ผมขอบอกก่อนเลยว่ามันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ และมันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเราหากเรามีความตั้งใจจริง ยอดอดทน มีความพยายามอย่างไม่ท้อแท้ เชื่อว่าต้องประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ครับ มันไม่ได้ง่ายครับ....แต่มันเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับเราครับ ทำงานโดยไม่ต้องออกจากบ้านก็ได้ ทำงานที่ไหนก็ได้ครับ จะไปนั่งทำงานที่ห้างสรรพสินค้านั่งจิบกาแฟไปด้วยก็ยังทำได้ ขอให้มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตครับ งานยุคใหม่ที่เราต้องทำงานผ่านจอคอมพิวเตอร์  รีบศึกษากันครับ ผมว่าอีกไม่กี่ปี ธุรกิจออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตบูมมาก ๆ โพสต์หน้าต่อด้วยเรื่องของธุรกิจออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ กันครับ มันมีธุรกิจอะไรกันบ้าง เว็บใหญ่ ๆ อย่าง sanook kapook google เขามีรายได้จากไหนครับ และทำไมเราถึงต้องมาสนใจการทำธุรกิจออนไลน์หรือธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตกันล่ะ....

[num919za]

อาชีพของคนเราส่วนใหญ่นั้นคงไม่พ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ๆ ต่างก็ประสบปัญหาที่ต่างกัน

มนุษย์เงินเดือน ไม่เป็นตัวของตัวเอง โดนเจ้านายดุด่าว่ากล่าว ต้องเข้า-ออกงานเป๊ะ ๆ เหมือนถูกตั้งเวลาเอาไว้ แต่ข้อดีก็คือไม่ต้องเสี่ยงกับชีวิตมากนัก เลิกงานก็กลับบ้าน เช้ามาก็ทำงานต่อ วนเวียนมันไปอยู่อย่างนี้ เห็นรายได้ที่แน่นอน สิ้นเดือนก็ได้เงินเห็น ๆ แต่รายได้มันมีจำกัด รายได้มันคงที่ หรือจะเพิ่มขึ้นก็นิดหน่อยเท่านั้น
ธุรกิจส่วนตัว คนในอยากออก คนนอกอยากเข้าครับ จากมนุษย์เงินเดือนก็อยากจะออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวบ้าง คิดว่าจะได้เป็นเจ้านายตนเองซะที อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องไปสนใจใคร ไม่ต้องไปรับคำสั่งจากใคร เมื่อก่อนผมคิดยังงั้นครับ ว่าแค่มีเงินลงทุนก็สามารถทำธุรกิจส่วนตัวได้แล้ว มาตอนนี้ผมรู้ว่ามันมีปัจจัยอะไรอีก ๆ หลาย ๆ อย่างครับ ทำธุรกิจอะไรที่มันต่อทำรายได้ตลอดรอดฝั่ง หาลูกค้าจากไหน ใครจะมาซื้อ พนักงานไม่ทำงาน โดนเพื่อนโกง และอะไรอีกจิปาถะ ใช่ครับ การทำธุรกิจส่วนตัวมันมีความเสี่ยงครับ แต่ถ้า้เราเสี่ยงแล้วมันมีรายได้ที่มากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนล่ะ มีรายได้ที่มากขึ้นล่ะ และมีโอกาสที่จะได้ร่ำรวยขึ้นได้บ้างล่ะ มันก็น่าเสี่ยงใช่ไหมล่ะครับ ข้อเสียคือคุณอาจจะไม่มีเวลา ต้องคอยบริหารธุรกิจตลอดเวลา

งานทั้งสองด้านที่ผมเขียนมานี้ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งมาแล้วล่ะ หรืออาจจะเคยเป็นทั้งสองอย่าง มันมีข้อดี-ข้อเสียที่ต่างกัน

แต่ที่ผมจะเสนอในวันนี้ก็คือ การทำธุรกิจออนไลน์ครับ มันก็คือธุรกิจส่วนตัวแบบทั่วไปนั่นแหละแต่เราย้ายทำเลมาทำการค้าบนอินเทอร์เน็ต มาสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็ต โดยที่เรานั้นสามารถสร้างรายได้แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง แม้กระทั่งยามหลับเราก็ยังมีรายได้เข้ากระเป๋าอีก

อืม...ธุรกิจออนไลน์ มันสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยามหลับก็มีรายได้เข้ากระเป็าอีก หลาย ๆ คนที่ยังไม่รู้ว่ายังมีธุรกิจดี ๆ เช่นนี้ก็คงจะตาลุกวาว บางแห่งเค้าบอกว่าสร้างธุรกิจออนไลน์หรือหาเงินจากอินเทอร์เน็ตนั้นมันง่ายนิดเดียว ผมขอบอกก่อนเลยว่ามันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ และมันก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเราหากเรามีความตั้งใจจริง ยอดอดทน มีความพยายามอย่างไม่ท้อแท้ เชื่อว่าต้องประสบความสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ครับ มันไม่ได้ง่ายครับ....แต่มันเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับเราครับ ทำงานโดยไม่ต้องออกจากบ้านก็ได้ ทำงานที่ไหนก็ได้ครับ จะไปนั่งทำงานที่ห้างสรรพสินค้านั่งจิบกาแฟไปด้วยก็ยังทำได้ ขอให้มีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตครับ งานยุคใหม่ที่เราต้องทำงานผ่านจอคอมพิวเตอร์  รีบศึกษากันครับ ผมว่าอีกไม่กี่ปี ธุรกิจออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตบูมมาก ๆ โพสต์หน้าต่อด้วยเรื่องของธุรกิจออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ กันครับ มันมีธุรกิจอะไรกันบ้าง เว็บใหญ่ ๆ อย่าง sanook kapook google เขามีรายได้จากไหนครับ และทำไมเราถึงต้องมาสนใจการทำธุรกิจออนไลน์หรือธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตกันล่ะ....

[num919za]

  "ประสบ" หรือ "ประสพ"

          คำ "ประสบ" พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ นิยามว่า เป็นกริยา หมายถึง "พบ, พบปะ, พบเห็น" คำที่มี "ประสบ" ประกอบอยู่ด้วย พจนานุกรมฯ เก็บคำว่า "ประสบการณ์" และ"ประสบการณ์นิยม"

          ส่วนคำ "ประสพ" พจนานุกรมฯ นิยามว่า "การเกิดผล" และบอกที่มาของคำว่ามาจากภาษาสันสกฤตว่า "ปฺรสว" ซึ่งตรงกับภาษาบาลีว่า "ปสว"

          ในภาษาบาลี มีคำหนึ่ง คือ "ปสวติ" ซึ่งเป็นคำกิริยา เช่น ประโยคว่า สทฺโธ กุลปุตฺโต พหุ ปุฺ ปสวติ แปลเป็นไทยว่า กุลบุตรผู้มีศรัทธาจึงประสบบุญเป็นอันมาก ตัวอย่างที่ยกมานี้เพื่อแสดงว่า "ประสพ" มีหลักฐานการใช้คำนี้อยู่ แต่ยังหาตัวอย่างในภาษาไทยไม่ได้ ดังนั้น หากผู้อ่านท่านใดพบตัวอย่างการใช้คำนี้ ขอได้โปรดแจ้งให้ราชบัณฑิตยสถานทราบ เพื่อจะให้เก็บเป็นตัวอย่างของการใช้คำต่อไป

          ส่วนที่มักจะมีคำถามอยู่เสมอว่า จะใช้ "ประสบความสำเร็จ" หรือ "ประสพความสำเร็จ" นั้น ตอบแบบฟันธงได้ทันทีว่า ใช้ว่า "ประสบความสำเร็จ"

          ในการประชุมคณะกรรมการวิชาการของราชบัณฑิตยสถานคณะหนึ่ง คณะกรรมการจะบัญญัติภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยว่า "บังคั่น" ได้มีกรรมการท่านหนึ่งถามว่า ในภาษาไทย คำว่า "คั่น" กับ "ขั้น" ใช้ต่างกันอย่างไร ผู้เขียนเห็นว่าทั้ง "คั่น" และ "ขั้น" ก็น่าสนใจ ควรนำมาแสดงให้เห็นถึงข้อแตกต่างของการใช้คำดังกล่าวด้วย

          "คั่น" พจนานุกรมฯ นิยามว่า เป็นกริยา หมายถึง "แทรกหรือกั้นอยู่ในระหว่าง" ส่วน "ขั้น" พจนานุกรมฯ นิยามว่า เป็นนาม หมายถึง "ชั้นที่ทำลดหลั่นกันเป็นลำดับ เช่น ขั้นบันได; ลำดับ, ตอน, เช่น ในขั้นนี้" คำว่า "คั่น" กับ "ขั้น" ถึงแม้จะพ้องเสียงกัน แต่ใช้ต่างกันนะครับ

[num919za]

"ประสบ" หรือ "ประสพ"

          คำ "ประสบ" พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ นิยามว่า เป็นกริยา หมายถึง "พบ, พบปะ, พบเห็น" คำที่มี "ประสบ" ประกอบอยู่ด้วย พจนานุกรมฯ เก็บคำว่า "ประสบการณ์" และ"ประสบการณ์นิยม"

          ส่วนคำ "ประสพ" พจนานุกรมฯ นิยามว่า "การเกิดผล" และบอกที่มาของคำว่ามาจากภาษาสันสกฤตว่า "ปฺรสว" ซึ่งตรงกับภาษาบาลีว่า "ปสว"

          ในภาษาบาลี มีคำหนึ่ง คือ "ปสวติ" ซึ่งเป็นคำกิริยา เช่น ประโยคว่า สทฺโธ กุลปุตฺโต พหุ ปุฺ ปสวติ แปลเป็นไทยว่า กุลบุตรผู้มีศรัทธาจึงประสบบุญเป็นอันมาก ตัวอย่างที่ยกมานี้เพื่อแสดงว่า "ประสพ" มีหลักฐานการใช้คำนี้อยู่ แต่ยังหาตัวอย่างในภาษาไทยไม่ได้ ดังนั้น หากผู้อ่านท่านใดพบตัวอย่างการใช้คำนี้ ขอได้โปรดแจ้งให้ราชบัณฑิตยสถานทราบ เพื่อจะให้เก็บเป็นตัวอย่างของการใช้คำต่อไป

          ส่วนที่มักจะมีคำถามอยู่เสมอว่า จะใช้ "ประสบความสำเร็จ" หรือ "ประสพความสำเร็จ" นั้น ตอบแบบฟันธงได้ทันทีว่า ใช้ว่า "ประสบความสำเร็จ"

          ในการประชุมคณะกรรมการวิชาการของราชบัณฑิตยสถานคณะหนึ่ง คณะกรรมการจะบัญญัติภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยว่า "บังคั่น" ได้มีกรรมการท่านหนึ่งถามว่า ในภาษาไทย คำว่า "คั่น" กับ "ขั้น" ใช้ต่างกันอย่างไร ผู้เขียนเห็นว่าทั้ง "คั่น" และ "ขั้น" ก็น่าสนใจ ควรนำมาแสดงให้เห็นถึงข้อแตกต่างของการใช้คำดังกล่าวด้วย

          "คั่น" พจนานุกรมฯ นิยามว่า เป็นกริยา หมายถึง "แทรกหรือกั้นอยู่ในระหว่าง" ส่วน "ขั้น" พจนานุกรมฯ นิยามว่า เป็นนาม หมายถึง "ชั้นที่ทำลดหลั่นกันเป็นลำดับ เช่น ขั้นบันได; ลำดับ, ตอน, เช่น ในขั้นนี้" คำว่า "คั่น" กับ "ขั้น" ถึงแม้จะพ้องเสียงกัน แต่ใช้ต่างกันนะครับ

[thanabun wong]

สนใจต้องทำไงบ้าง