เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 22 กรกฎาคม 2025, 22:52:44
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  การเกษตร,ฟาร์มสัตว์,ปศุสัตว์ (ผู้ดูแล: bm farm)
| | |-+  อยากแบ่งปัน ทำเกษตรตามฝันวันละ 2 ชั่วโมง
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 ... 27 พิมพ์
ผู้เขียน อยากแบ่งปัน ทำเกษตรตามฝันวันละ 2 ชั่วโมง  (อ่าน 31951 ครั้ง)
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #160 เมื่อ: วันที่ 24 ตุลาคม 2012, 13:55:15 »

บ้านในสวนตา ยาย กับซุ้มไก่ชนวังบูรพา เป็นเจ้าของคนเดียวกันครับ
ยินดีรับใช้ หาพันธุ์ ไก่ชนม้าล่อ ให้ครับ มีหลายราคา ตามผีมือ (เท้า)ของไก่
ไก่เก่งราคาย่อมสุงเป็นธรรมดาครับ (เพราะผมใช้พ่อพันหลักหมื่น)แต่ท่าจะคุยกันถูกคอ ราคาไม่ก็ไม่เป็นเป็นปัญหาใช่ไหมครับ อาจจะได้ฟรีก็ได้ 5555

จะอี้ก่า คนเจียงฮาย(เทิง)คนบ้านเดียวกั๋นพันธุ์แต้ ขอบคุณล่วงหน้าครับ อย่างใดจะติดต่อไป อยากได้ของฟรี 555
IP : บันทึกการเข้า
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #161 เมื่อ: วันที่ 24 ตุลาคม 2012, 15:02:37 »

กะเพราะ ไว้ใส่คั่วแห้ม ผัดใส่กบ เป็นสมุนก็แก้ได้สะป๊ะโรค


* _DSC4557.JPG (114.77 KB, 800x533 - ดู 730 ครั้ง.)

* _DSC4554.JPG (210.43 KB, 533x800 - ดู 720 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #162 เมื่อ: วันที่ 24 ตุลาคม 2012, 15:04:11 »

กะเพรา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum sanctum) เป็นไม้ล้มลุก แตกกิ่งก้านสาขา สูง 30 - 60 ซม. นิยมนำใบมาประกอบอาหารคือ ผัดกะเพรา กะเพรามี 3 พันธุ์ คือ กะเพราแดง กะเพราขาว และ กะเพราลูกผสมระหว่างกะเพราแดงและกะเพราขาว

กะเพรามีชื่อสามัญอื่นอีกคือ กอมก้อ (เชียงใหม่) กอมก้อดง (เชียงใหม่) กะเพราขน (กลาง) กะเพราขาว (กลาง) กะเพราแดง (กลาง) ห่อกวอซู (กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน) ห่อตูปลู (กะเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน) อิ่มคิมหลำ (เงี้ยว แม่ฮ่องสอน) และ อีตู่ไทย (ตะวันออกเฉียงเหนือ)

สรรพคุณกะเพรา

ใบ บำรุงธาตุไฟธาตุ ขับลมแก้ปวดท้องอุจจาระ แก้ลมตานซาง แก้จุกเสียด แก้คลื่นเหียนอาเจียน และขับลม
เมล็ด เมื่อนำไปแช่น้ำเมล็ดจะพองตัวเป็นเมือกขาว ใช้พอกบริเวณตา เมื่อตามีผง หรือฝุ่นละอองเข้า ผงหรือฝุ่นละอองนั้นก็จะออกมา ซึ่งจะไม่ทำให้ตาเรานั้นช้ำอีกด้วย
ราก ใช้รากที่แห้งแล้ว ชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม แก้โรคธาตุพิกา
IP : บันทึกการเข้า
ubuntuthaith
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,046



« ตอบ #163 เมื่อ: วันที่ 24 ตุลาคม 2012, 15:23:34 »

แถวบ้านบ่ค่อยหันใครปลูกกระเพราแดงเท่าไร่แล้วน้อครับ   เอามาซ้มน้ำมันฮื้อกรอบใบจะกรอบลำอ๊ะละเน้อครับ เหมาะสำหรับคนที่บ่ค่อยชอบกลิ่นกระเพรา และสามารถนำมาทำได้หลายเมนู หันแล้วหิวข้าวน้อ....



* untitled.jpg (184.53 KB, 800x600 - ดู 720 ครั้ง.)

* 29-c17f888a92cfdfb6079478b0ec418001.jpg (60.61 KB, 550x360 - ดู 722 ครั้ง.)

* 2008-03-11_125159_Picture_129.jpg (85.04 KB, 400x300 - ดู 711 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #164 เมื่อ: วันที่ 24 ตุลาคม 2012, 15:27:47 »

แถวบ้านบ่ค่อยหันใครปลูกกระเพราแดงเท่าไร่แล้วน้อครับ   เอามาซ้มน้ำมันฮื้อกรอบใบจะกรอบลำอ๊ะละเน้อครับ เหมาะสำหรับคนที่บ่ค่อยชอบกลิ่นกระเพรา และสามารถนำมาทำได้หลายเมนู หันแล้วหิวข้าวน้อ....
โอ้ย....ไค่อยากกิ๋นข้าวขะหนาด
IP : บันทึกการเข้า
pathom-thom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


« ตอบ #165 เมื่อ: วันที่ 24 ตุลาคม 2012, 20:47:52 »

วันนี้ว่างครับเลยเอารูปมาแจม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

นกเอี้ยงปล่อยแล้วไม่หนีจำเป็นเลี้ยง ยิงฟันยิ้ม

สงสัยมันจะอยู่ฮ้องเชียร์เจ้าของมัน ป้อเลี้ยง ป้อเลี้ยง นะก่าท่านปฐม สวนน่าอยู่ขนาดครับ
สาธุ  เป็นป่อเลี้ยงแต้เตอะครับ    นกเอี้ยงตัวนี้กลัวมันจะฮ้อง(ตุกแน่ๆๆๆ)ก่ะครับ  ขยิบตา
IP : บันทึกการเข้า

TEL.085-1079538  ฐมครับ
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #166 เมื่อ: วันที่ 25 ตุลาคม 2012, 15:20:17 »

กบใหญ่แ้ล้วครับ 4-5 ตัวโลก ได้ 1 เดือนกับ 25 วันละ


* _DSC4518.JPG (181.17 KB, 800x533 - ดู 683 ครั้ง.)

* _DSC4519.JPG (254.06 KB, 800x543 - ดู 686 ครั้ง.)

* _DSC4523.JPG (206.91 KB, 800x447 - ดู 693 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #167 เมื่อ: วันที่ 25 ตุลาคม 2012, 19:54:39 »

โหระพา เอาไว้ใส่แก๋งปล๋า แก๋งตูน แ๋ก๋งสะปะ แก้โรคได้โตย


* _DSC4550.JPG (206.81 KB, 800x533 - ดู 674 ครั้ง.)

* _DSC4559.JPG (142.38 KB, 800x533 - ดู 667 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #168 เมื่อ: วันที่ 25 ตุลาคม 2012, 19:56:14 »

โหระพามีชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum basilicum Linn.
วงศ์ Labiatae
ชื่อภาษาอังกฤษ Sweet Basil
      โหระพามีชื่ออื่นๆ คือ อิ่มคิมขาว (ฉาน-แม่ฮ่อง-สอน) กอมก้อ (เหนือ อีสาน) นางพญาร้อยชู้ โหระพาไทย โหระพาเทศ ห่อกวยซวย ห่อวอซู
โหระพาเป็นพืชตระกูลเดียวกับกะเพราและแมงลักแต่กลิ่นรสต่างกัน
ชื่อโหระพาภาษาอังกฤษคำว่า Basil มาจากภาษากรีก basileus แปลว่า "ราชา หรือ ผู้นำของปวงชน" ชื่อนี้เนื่องมาจากกลิ่นดุจเครื่องหอมในราชสำนักของโหระพา

      ชื่ออื่นของโหระพาในภาษาแถบยุโรปมีรากศัพท์มาจากคำว่าราชานี้ทั้งสิ้น เชื่อว่าเป็นส่วนประกอบของสมุนไพรที่ราชวงศ์ยุโรปโบราณใส่ในน้ำอาบ

      โหระพาเป็นไม้ล้มลุก สูง 0.5-1 เมตร ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม กิ่งอ่อนสีม่วงแดง

      ใบ ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปไข่หรือรูปรี กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 4-6 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมน ขอบจักเป็นฟันเลื่อยห่างๆ มีขนอ่อนปกคลุมใบและต้น

      ดอกสีขาวหรือชมพูอ่อน ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาว 7-12 เซนติเมตร มีใบประดับสีเขียวอมม่วงซึ่งจะคงอยู่เมื่อเป็นผล กลีบดอกมีโคนเชื่อมกัน ปลายแยกเป็น 2 ส่วน เกสรตัวผู้ 4 อัน ผลขนาดเล็ก ผลแห้งมี 4 ผลย่อย เมล็ดเล็กเท่าเมล็ดงา สีน้ำตาลเข้ม

      โหระพามีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียและแอฟริกา โหระพาเป็นพืชพื้นเมืองของอินเดีย แต่แพร่หลายทั้งในเอเชียและดินแดนตะวันตก

      โหระพาช้าง Ocimum gratissimum Linn. หรือกะเพราญวน จันทร์หอม เนียมตัน เนียมยี่หร่า เป็นไม้พุ่มสูงคล้ายโหระพาแต่มีขนาดใหญ่กว่า
ใบโหระพาช้างมีข้อแตกต่างจากโหระพาเนื่องจาก มีสารสำคัญในน้ำมันหอมระเหยต่างกัน ใบโหระพาช้างมียูจีนอล (eugenol) เป็นสารหลักทำให้ไม่นิยมใช้ประกอบอาหารเท่าโหระพา

ประโยชน์
      โหระพาเป็นพืชที่มีกลิ่นหอม นิยมนำมาประกอบอาหารหลากชนิดในประเทศไทย ช่วยปรุงแต่งกลิ่นรสของอาหารให้น่ากินยิ่งขึ้น ช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารหลายชนิด เช่น ผัดหอย ผัดเนื้อ ใช้ใบปรุงอาหารเป็นผักโรยชูรสได้หลายชนิด เช่น แกงเผ็ด แกงเลียง ผัด ทอด ใบและยอดอ่อนใช้กินเป็นผักสด เป็นเครื่องแนมอาหารคาวหรืออาหารว่างได้เป็นอย่างดี

      โหระพาเป็นสมุนไพรที่มีรสชาติละเอียดอ่อน ถ้าใช้ปรุงอาหารจะใส่โหระพาแล้วยกลงทันทีเพื่อให้ไม่เสียกลิ่นรสไป

      ประเทศทางตะวันตกนิยมกินใบแห้งเป็นเครื่องเทศ น้ำสลัดที่ใช้โหระพาเป็นส่วนผสม (pesto) เป็นน้ำสลัดที่ใช้ประจำในอาหารอิตาเลียน

      ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็นิยมกินใบโหระพา แต่ใช้โหระพาจากอียิปต์ ฝรั่งเศส และมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีกลิ่นต่างจากโหระพาของไทย น้ำมันโหระพาใช้แต่งกลิ่นซอสมะเขือเทศ ขนมผิง ลูกอม ผักดอง ไส้กรอก และเครื่องดื่ม

      ใบโหระพามีคุณค่าทางยาช่วยย่อยอาหาร ช่วยให้เจริญอาหาร ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องร่วง แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน เด็กปวดท้องให้ใช้ใบโหระพา 20 ใบ ชงน้ำร้อนและนำมาชงนมให้เด็กดื่ม ปลอดภัยกว่ายาขับลมที่ผสมแอลกอฮอล์

      นอกจากนี้ ใบโหระพามีสรรพคุณรักษาโรคหวัด รักษาอาการปวดศีรษะ โดยใช้ยอดอ่อนต้มกับน้ำดื่มเป็นชา หรือกินเป็นผักสด ใช้ร่วมกับขิงแก้ไอ และช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน เมล็ดของโหระพาเมื่อแช่น้ำจะพองตัวเป็นเมือก ใช้กินแก้บิด ช่วยหล่อลื่นลำไส้เป็นยาระบาย เนื่องจากไปเพิ่มจำนวนกากอาหาร (bulk laxative)

องค์ประกอบทางเคมี
      สารสกัดใบโหระพาที่ได้จากการกลั่นด้วยไอน้ำ มีสีเหลืองอ่อนถึงไม่มีสี ใบโหระพามีน้ำมันหอมระเหยอยู่ประมาณร้อยละ 0.1-1.5 เมื่อทำการวิเคราะห์ด้วยวิธีสุ่มตัวอย่างจาก headspace และตรวจสอบด้วย gas chromatography พบว่าในน้ำมันหอมระเหยประกอบด้วยสารเมทิลชาวิคอล (methylchavicol) เป็นสารหลัก (ร้อยละ 93) และสารกลุ่มเทอร์พีน ได้แก่ลินาโลออล (linalool) และซินีออล (1, 8-cineol)

      นอกจากนี้ ยังมีสารยูจีนอล (eugenol) กรดกาเฟอิก (caffeic acid) และกรดโรสมารินิก (rosmarinic acid) เป็นต้น
น้ำมันหอมระเหยจากโหระพาช่วยการย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ช่วยคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงช่วยการย่อยอาหาร ขับลมแก้ท้องอืดเฟ้อ ลดการปวดเกร็งในระบบทางเดินอาหาร และแก้หวัด น้ำมันโหระพามีกลิ่นหอมหวาน เมื่อสูดดมมีคุณสมบัติช่วยให้เกิดความสงบ มีสมาธิ ลดอาการซึมเศร้า มีข้อควรระวังในการใช้ในสปาคือทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยง

      องค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญของใบโหระพาพันธุ์ไทย คือเมทิลชาวิคอล สกัดได้จากการกลั่นด้วยไอน้ำ มีลักษณะเป็นของเหลวใสสีเหลืองอ่อน หรือเหลืองอมน้ำตาลปราศจากตะกอนและสารแขวนลอย ไม่มีการแยกชั้นของน้ำ มีกลิ่นเฉพาะตัว มีคุณสมบัติแก้จุกเสียดแน่นท้อง

      ใบโหระพามีบีตาแคโรทีนสูง สามารถช่วยป้องกัน โรคหัวใจขาดเลือดและมะเร็งได้ โหระพา 1 ขีด มีบีตาแคโรทีน 452.16 ไมโครกรัม

      ร่างกายผู้ใหญ่ต้องการบีตาแคโรทีนวันละ 800 ไมโครกรัม บีตาแคโรทีนมีอยู่ในผักใบเขียวเข้มทุกชนิด เมื่อกินโหระพาไปด้วยจะได้บีตาแคโรทีนเพียงพอใน 1 วัน

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของโหระพาและการทดสอบทางคลินิก
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
      เมื่อสกัดน้ำมันหอมระเหยจากใบโหระพาด้วยเมทานอล พบว่ากรดโรสมารินิกในใบโหระพามีประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระเมื่อทดสอบโดยวิธี DPPH scavenging activity

      นอกจากนี้ การทดสอบน้ำมันหอมระเหยและสารสกัดด้วยน้ำจากใบโหระพาต่อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจที่ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระในห้องทดลอง พบว่าสารสกัดน้ำและน้ำมันหอมระเหยจากโหระพามีฤทธิ์ป้องกันความเสียหายจากการทำลายของอนุมูลอิสระได้
งานวิจัยของตุรกีพบว่า ชาโหระพามีฤทธิ์ต้านออกซิเดชันสูงกว่าชาเขียวที่จำหน่ายในตุรกี

ฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลและแผ่นคราบ (พลัค) ในกระแสเลือด
      งานวิจัยการใช้ใบโหระพาเป็นยาลดคอเลสเตอรอล ในเลือดของสัตว์ทดลองที่ประเทศโมร็อกโกพบว่า สารสกัดโหระพามีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลในเลือดของหนูทดลองที่ถูกทำให้มีปริมาณไขมันสูง เนื่องจากการสะสมไขมันของแม็กโครฟาจที่เหนี่ยวนำโดยแอลดีแอล-คอเลสเตอรอล (LDL-C) หรือไขมันไม่ดี มีบทบาทสำคัญในการเกิดแผ่นคราบ (พลัค) ของโรคหลอดเลือดอุดตัน

      คณะทำงานที่ประเทศอิตาลีจึงทดสอบฤทธิ์ของสารสกัดกับการต้านออกซิเดชันของไขมันไม่ดี งานวิจัยพบว่าสารสกัดเอทานอลของโหระพามีฤทธิ์ต้านไขมันไม่ดี ออกซิเดชันจากการเหนี่ยวนำของ Cu (2+)

      นอกจากนี้ สารสกัดโหระพาลดการรวมตัวสะสมของหยดไขมันแม็กโครฟาจที่เกิดจากไขมันไม่ดีที่เปลี่ยนไป สารสกัดโหระพาไม่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเอสเทอร์ ของคอเลสเตอรอลและการสังเคราะห์ไตรกลีเซอรอลในเซลล์แต่อย่างใด แม็กโครฟาจที่ได้รับสารสกัดโหระพาลดการสังเคราะห์คอเลสเตอรอลในสภาพที่ไม่ใช่เอสเทอร์ และลดอัตราการทำงานของ surface scavenger receptor

      สรุปได้ว่าสารสกัดเอทานอลของโหระพาสามารถลดการสร้างโฟมเซลล์ โดยลดการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล และเปลี่ยนแปลงการทำงานของ surface scavenger receptors

ฤทธิ์ต้านจุลชีพ
      ฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย : สารสกัดจากโหระพามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียที่ก่อโรค เช่น Staphylococcus, Enter-ococcus และ Pseudomonas น้ำมันหอมระเหยจากโหระพาที่สกัดด้วยวิธี hydrodistillation มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียแกรมบวก แกรมลบ
 
      ฤทธิ์ต้านการเจริญเติบโตของเชื้อสิว : นอกจากนี้ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวรพบว่า สารสกัดเอทานอลของใบโหระพามีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว Propionibacterium acnes ได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับสารสกัดจากพืชร่วมตระกูลโหระพาอื่นๆ เช่น กะเพรา

      ฤทธิ์ต้านเชื้อรา : น้ำมันโหระพามีสารสำคัญคือ linalool และ eugenol ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้ง Sclerolinia sclero-tiorum, Rhizopus stolonifer and Mucos spp. น้ำมันโหระพาในขนาด 1.5 ml/l มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของไมซีเลียมเชื้อรา 22 ชนิด รวมถึงสายพันธุ์ที่สร้างไมโคท็อกซินของ Aspergillus flavus และ Aspergillus parasiticus ด้วย
 
      ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส : โหระพามีการใช้งานมานานในการแพทย์แผนจีน การศึกษาฤทธิ์สารสกัดโหระพาและสารสำคัญในการต้านไวรัสพบว่าสารสกัดน้ำและเอทานอลของโหระพา และสารสำคัญคือเอพิจีนิน
ลินาโลออล และกรดเออเซลิกมีฤทธิ์ต้านไวรัสแบบ broad sprectrum ครอบคลุมดีเอ็นเอไวรัส (herpes viruses (HSV), adenoviruses (ADV) hepatitis B virus) และ RNA ไวรัส (coxsackievirus B1 (CVB1) and enterovirus 71 (EV71)

      ฤทธิ์ต้านปรสิต : น้ำมันโหระพามีฤทธิ์ต้านปรสิต Giardia lamblia สารออกฤทธิ์ต้าน G. lamblia คือ ลินาโลออล

ฤทธิ์ต้านสารก่อมะเร็ง
      น้ำมันโหระพาสามารถเพิ่มฤทธิ์ของเอนไซม์ glutathione-S-transferase มากกว่าร้อยละ 78 ในกระเพาะ ตับ และหลอดอาหารของหนูทดลองและสามารถต้านการก่อมะเร็งของหนูได้ โดยมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของสารซึ่งเหนี่ยวนำให้เกิด squamous cell carcinoma ในกระเพาะอาหารของหนูทดลอง และพบว่าน้ำมันโหระพามีพิษต่อเซลล์มะเร็งเมื่อทดสอบด้วยวิธี MTT ในเซลล์มะเร็ง murine leukemia และ human mouth epidermal carcinoma

ฤทธิ์ต้านการก่อกลายพันธุ์
      น้ำมันสกัดจากใบโหระพามีฤทธิ์ต้านการก่อกลายพันธุ์ของ Samonella typhimurium มีฤทธิ์ต้านการก่อกลายพันธุ์ได้ดีใกล้เคียงกับฤทธิ์ของวิตามินอี ฤทธิ์ดังกล่าวเกิดจากฤทธิ์ต้านออกซิเดชันของน้ำมันโหระพา

ฤทธิ์ต้านการอักเสบ
      สารสกัดจากใบโหระพามีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ cyclooxygenase และ lipoxygenase ซึ่งไปเหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบในเมตาบอลิกของกรดอาราชิโดนิก (arachidonic acid) พบว่าสารกลุ่มเทอร์พีนที่แยกได้จากรากและลำต้นของโหระพามีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

      การศึกษาฤทธิ์ต้านอักเสบของทิงเจอร์โหระพา พบว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยออกฤทธิ์ที่ไขกระดูกอย่างเฉียบพลัน การศึกษาผลของทิงเจอร์โหระพา (1:10) ในการลดการอักเสบที่เกิดจากเทอร์เพนไทน์ของหนู เทียบกับการใช้ไดโคลฟีแนก (30 มก./100 ก.) โดยการวัดเม็ดเลือดขาวโดยรวมและแยกชนิด ทดสอบฟาโกไซซิสในหลอดทดลอง และการวัดการสังเคราะห์ไนตริกออกไซด์ พบว่าทิงเจอร์โหระพาลดปริมาณเม็ดเลือดขาวสุทธิปริมาณโมโนไซต์ ลดการกระตุ้นฟาโกไซต์ แต่ลดการสร้างไนตริกออกไซด์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทิงเจอร์โหระพาให้ผลน้อยกว่าการใช้ไดโคลฟีแนกเล็กน้อย

ฤทธิ์รักษาแผลกระเพาะอาหาร
      น้ำมันโหระพามีฤทธิ์ยับยั้งฤทธิ์ของแอสไพริน ที่เหนี่ยวนำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร โดยยับยั้งเอนไซม์ lipoxygenase และต้านฮิสทามีนที่ทำให้เกิดการอักเสบและเกิดแผล

ฤทธิ์ฆ่าไรและแมลง
      สารสกัดจากใบโหระพามีฤทธิ์ฆ่าไร Tetranychid mites (Tetranychus urticae) และ Eutetranychus orientalis ฆ่าแมลงวันบ้าน แมลงวันปากคมที่ตอมกินเลือดปศุสัตว์ และยุงพาหะโรคชนิดต่างๆ น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากโหระพามีฤทธิ์ฆ่ายุงและลูกน้ำยุงหลายชนิด รวมถึงยุงที่เป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออกด้วย

      ไม่น่าเชื่อว่าพืชพื้นๆ เช่นโหระพาจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพได้มากถึงเพียงนี้ เมื่อส่งต้นฉบับนี้แล้วคงต้องไปซื้อก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมาจากตลาดนัด ขอโหระพาเขาแถมมาหน่อย เป็นอาหารว่างจานผักเพื่อสุขภาพไงคะ

ขอขอบคุณ ที่มาวิชาการดอดคอม
IP : บันทึกการเข้า
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #169 เมื่อ: วันที่ 26 ตุลาคม 2012, 12:49:12 »

มะเขือกรอบ ไว้กับลาบปล๋า น้ำพริก แหมหลายอย่างแล้วแต่คนมักครับ


* _DSC4545.JPG (196.85 KB, 800x533 - ดู 643 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า
pathom-thom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


« ตอบ #170 เมื่อ: วันที่ 26 ตุลาคม 2012, 20:26:17 »

มะเขือกรอบ ไว้กับลาบปล๋า น้ำพริก แหมหลายอย่างแล้วแต่คนมักครับ
รบกวนฝากบอร์ด>>>>จิ้งหรีด<<<<ด้วยนะครับ  ขอบคุณครับ ยิงฟันยิ้ม
(เศรษฐกิจพอเพียงต้องพึ่งพาอาศัยกันครับ  ใครมีพืชผลทางการเกษตรเอามาแลกกันได้นะครับ) ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=321562.0
IP : บันทึกการเข้า

TEL.085-1079538  ฐมครับ
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #171 เมื่อ: วันที่ 26 ตุลาคม 2012, 20:57:27 »


รบกวนฝากบอร์ด>>>>จิ้งหรีด<<<<ด้วยนะครับ  ขอบคุณครับ ยิงฟันยิ้ม
(เศรษฐกิจพอเพียงต้องพึ่งพาอาศัยกันครับ  ใครมีพืชผลทางการเกษตรเอามาแลกกันได้นะครับ) ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=321562.0
[/quote] ขอเวลาศึกษาผ่อก่อน ถ้าพอมีเวลาขั้นตอนบ่ยุ่งยาก ผมจะทดลองเลี้ยงผ่อไว้ทอดขายเป็นอาชีพเสริมแหมอย่าง
IP : บันทึกการเข้า
Tonwai
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,762


FatBee ScooterClub ChaingRai Since 1999


« ตอบ #172 เมื่อ: วันที่ 26 ตุลาคม 2012, 22:31:30 »

สุดยอดครับครู
ช่วยดันครับ  ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
pathom-thom
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 319


« ตอบ #173 เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2012, 21:21:29 »


รบกวนฝากบอร์ด>>>>จิ้งหรีด<<<<ด้วยนะครับ  ขอบคุณครับ ยิงฟันยิ้ม
(เศรษฐกิจพอเพียงต้องพึ่งพาอาศัยกันครับ  ใครมีพืชผลทางการเกษตรเอามาแลกกันได้นะครับ) ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=321562.0
ขอเวลาศึกษาผ่อก่อน ถ้าพอมีเวลาขั้นตอนบ่ยุ่งยาก ผมจะทดลองเลี้ยงผ่อไว้ทอดขายเป็นอาชีพเสริมแหมอย่าง
[/quote]
ลองเลี้ยงผ่อก่อนสักบ่อ จะได้รู้ปัญหาและอุปสรรคครับ  เลี้ยงง่ายๆๆผมเอาอาหารให้มื้อเดียวคือมื้อเย็น แต่ต้องมีฟักทองหรือใบกล้วยพวกผักบุ้ง ผักต่างๆ  ให้เค้ากินแทนอาหารหลักที่เราให้ในตอนเย็นครับ  แล้วก็ดูเรื่องน้ำถ้าหมดก็เติมใหม่ส่วนใหญ่กว่าน้ำจะหมดก็นานๆทีครับ ยิงฟันยิ้ม

สอบถามวิธีการเลี้ยงได้ครับไม่ซื้อไม่เป็นไรครับ  มาแบ่งปันความรู้แบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงกันครับ ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

ฝากให้ศึกษาดูนะครับ  ชุดนี้พึ่งออกไม่กี่วันครับ






IP : บันทึกการเข้า

TEL.085-1079538  ฐมครับ
สบายแมน
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,485



« ตอบ #174 เมื่อ: วันที่ 27 ตุลาคม 2012, 21:59:49 »

เห็นกระทู้แล้วมีกำลังใจอยากทำเกษตรครับ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #175 เมื่อ: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 09:22:16 »

เห็นกระทู้แล้วมีกำลังใจอยากทำเกษตรครับ ยิงฟันยิ้ม
เป๋นก๋ำลังใจ๋หื้อครับ แล้วจะฮู้ว่ามีหยังแหมหลายอย่างตี่แฝงอยู่ในเกษตร
IP : บันทึกการเข้า
supakorn kaewchan
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 804


« ตอบ #176 เมื่อ: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 09:59:50 »

กบขายไปบ้างหรือยัง
IP : บันทึกการเข้า
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #177 เมื่อ: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 11:41:56 »

กบขายไปบ้างหรือยัง
รุ่นนี้บ่หวังขายครับอ้ายเชิด เป๋นรุ่นทดลอง เอาไว้แจกจ่ายก่อน รุ่นหน้าค่อยว่ากั๋น
IP : บันทึกการเข้า
ืkn007
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 336


« ตอบ #178 เมื่อ: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 14:05:59 »

ถั่วฝักยาว ถั่วปรู มะนอย เริ่มใหญ่แล้วครับ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์(ขี้ำำำไก่) ไป 1 ครั้ง


* _DSC4582.JPG (210.93 KB, 800x635 - ดู 598 ครั้ง.)

* _DSC4585.JPG (151.92 KB, 800x533 - ดู 592 ครั้ง.)

* _DSC4587.JPG (174.87 KB, 800x533 - ดู 596 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 16:15:10 โดย ืkn007 » IP : บันทึกการเข้า
ตนเมืองแต้
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 45

...ก็แค่อยากมี..ฝันเป็นของตัวเองบ้าง...


« ตอบ #179 เมื่อ: วันที่ 29 ตุลาคม 2012, 14:37:30 »

สุดยอดครับ...ร่วมทำตามฝันด้วยคน...แต่ก่อนอื่นหาที่ก่อน..เฮ้อแพงจริงๆที่เชียงราย....
IP : บันทึกการเข้า

...ทำตามใจ ...แต่ไม่ทำให้คนอื่น...และตัวเอง เดือนร้อนก็พอ...
หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8 [9] 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 ... 27 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!