เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 27 เมษายน 2024, 01:26:04
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  ช่วยแนะนำ เรื่องการฝึกกสิณ ให้ด้วยค่ะ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] พิมพ์
ผู้เขียน ช่วยแนะนำ เรื่องการฝึกกสิณ ให้ด้วยค่ะ  (อ่าน 4861 ครั้ง)
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 28 สิงหาคม 2012, 23:37:05 »

๑. สักกายทิฏฐิ เห็นตรงข้ามกับอารมณ์นี้ที่เห็นว่า ร่างกายคือขันธ์ ๕ เป็นเรา
เป็นของเรา เรามีในขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ มีในเราเสียได้ โดยเห็นว่า ขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่
ของเรา เราไม่มีในขันธ์ ๕ และขันธ์ ๕ ไม่มีในเรา เพราะถ้าขันธ์ ๕ มีในเรา เรามีในขันธ์ ๕
หรือขันธ์ ๕ เป็นเรา เราเป็นขันธ์ ๕ จริงแล้ว ในเมื่อเราไม่ต้องการความทุกข์อันเกิดจาก
โรคภัยไข้เจ็บและการเปลี่ยนแปลง ขันธ์ ๕ ก็ต้องไม่มีการป่วยไข้และเปลี่ยนแปลง เราไม่
ต้องการให้ขันธ์ ๕ สลายตัว ขันธ์ ๕ ถ้าเป็นของเราจริงก็ต้องดำรงอยู่ ไม่สลายตัว แต่นี่หาเป็น
เช่นนั้นไม่ กลับเต็มไปด้วยความทุกข์ เปลี่ยนแปลงไม่หยุดยั้ง ทั้ง ๆ ที่เราไม่ต้องการ และ
พยายามเหนี่ยวรั้งด้วยวิธีการต่างๆ ขันธ์ ๕ ก็มิได้เป็นไปตามความปรารถนา ในที่สุดก็สลายตัว
จนได้ เพราะขันธ์ ๕ เป็นสมบัติของกฎธรรมดา กฎธรรมดาต้องการให้เป็นอย่างนั้น ไม่มีใคร
มีอำนาจเหนือกฎธรรมดา ฝ่าฝืนกฎธรรมดาไม่ได้ เมื่อจิตยอมรับนับถือกฎธรรมดา ไม่หวั่นไหว
ในเมื่อร่างกายได้รับทุกข์เพราะป่วยไข้ หรือเพราะการงานหนักและอาการเกิดขึ้นเพราะเหตุ
เกินวิสัย อารมณ์ใจยอมรับนับถือว่า ธรรมดาของผู้ที่เกิดมาในโลกที่หาความแน่นอนไม่ได้
โลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ หาความสุขจริงจังมิได้ ที่เห็นว่าเป็นสุขจากภาวะของโลก ก็เป็น
ความสุขที่มีผีสิง คือสุขไม่จริง เป็นความสุขอันเกิดจากเหยื่อล่อของความทุกข์ พอพบความสุข
ความทุกข์ก็ติดตามมาทันที เช่น มีความสุขจากการได้ทรัพย์ พร้อมกันนั้นความทุกข์เพราะ
การมีทรัพย์ก็เกิด เพราะทรัพย์ที่หามาได้นั้นจะมีชีวิตหรือไม่ก็ตาม เมื่อได้มาแล้ว ก็ต้องมีทุกข์
ทันทีด้วยการคอยระวังรักษาไม่ให้สูญหายหรือทำลาย เมื่อทรัพย์นั้นเริ่มค่อย ๆ สลายตัวหรือ
สูญหายทำลายไป ทุกข์เกิดหนักขึ้นเพราะมีความ เสียดายในทรัพย์ แม้แต่ตัวเองก็แบกทุกข์
เสียบรรยายไม่ไหว จะเอาอะไรมาเป็นเครื่องบำรุงความสุขได้จริงจัง ไม่ว่าอะไรก็ต้องตกอยู่
ในอำนาจของกฎธรรมดาสิ้น จิตเมื่อเห็นอย่างนี้ ความสงบระงับจากความหวั่นไหวของการ
เปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้น เป็นจิตที่ประกอบไปด้วยเหตุผล ไม่มีน้ำตาไหล ในเมื่อได้ข่าวญาติ
หรือคนที่รักตาย ไม่หนักใจเมื่อความตายกำลัง คืบคลานมาหาตน และพร้อมเสมอที่จะรอรับ
ความตายที่จะเกิดแก่ตน ตามกฎของธรรมดา รู้อยู่ คิดอยู่ถึงความตายเป็นปกติ ยิ้มต่อความ
ทุกข์และความตายอย่างไม่มีอะไรหนักใจ จิตมีอารมณ์อย่างนี้ ท่านเรียกว่า ละสักกายทิฏฐิ
ได้แล้ว ได้คุณสมบัติของพระโสดาบันไว้ได้หนึ่งอย่าง
IP : บันทึกการเข้า
เมฆพัตร
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,027



« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 28 สิงหาคม 2012, 23:39:30 »

๒. วิจิกิจฉา ละความสงสัยในมรรคผลเสียได้ โดยมีสัทธาเกิดขึ้นเที่ยงแท้มั่นคงว่า
ผลของการปฏิบัตินี้มีผลที่จะพ้นจากวัฏทุกข์ได้จริง

๓. สีลัพพตปรามาส ถือศีล ๕ อย่างเคร่งครัด ยอมตัวตายดีกว่าศีลขาด ไม่ยอมให้ศีล
บกพร่อง เมื่อมีคุณสมบัติครบสามประการดังนี้ ท่านก็เป็นพระโสดาบันแล้ว ไม่ต้องรอให้ใครบอก
และออกใบประกาศโฆษณา องค์ของพระโสดาบัน

เพื่อสะดวกแก่การพิจารณาตัวเอง ขอบอกองค์ของพระโสดาบันไว้ เพราะรู้ไว้เป็น
คู่มือพิจารณาตัวเอง
๑. รักษาศีล ๕ เป็นปกติ ไม่ทำให้ศีลขาดหรือด่างพร้อยตลอดชีวิต
๒. เคารพพระรัตนตรัยอย่างเคร่งครัด ไม่กล่าวจ้วงจาบพระธรรมวินัย แม้แต่จะพูด
เล่นๆ ก็ไม่พูด
๓. มีอารมณ์รักใคร่ในพระนิพพานเป็นปกติ ไม่มีความปรารถนาอย่างอื่นนอกจาก
พระนิพพาน

พระโสดาบันตามปกติมีอารมณ์สามประการดังกล่าวมานี้ ถ้าท่านได้ ท่านเป็น
พระโสดา ท่านก็จะเห็นว่าอาการที่กล่าวมานี้เป็นความรู้สึกธรรมดาไม่หนัก แต่ถ้าอารมณ์
อะไรตอนใดในสามอย่างนี้ยังมีความหนักอยู่บ้าง ก็อย่าเพ่อคิดว่าท่านเป็นพระโสดาบันเสียก่อน
สำเร็จ จะเป็นผลร้ายแก่ตัวท่านเอง ต้องได้จริงถึงจริง แม้ได้แล้วถึงแล้ว ก็ควรก้าวต่อไปอย่า
หยุดยั้งเพียงนี้ เพราะ มรรคผลเบื้องสูงยังมีต่อไปอีก


*******************

จบแต่เรื่องกสิณเท่านี้ (จขกท)

อนุโมทนาบุญกับทุกท่ายครับ
IP : บันทึกการเข้า
Be fish aqua shop
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,617


คิดถึง มฟล จัง


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 29 สิงหาคม 2012, 10:20:31 »

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆๆ ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาแนะนำทางในการฝึก ไม่นึกว่าตั้งกะทู้เมื่อคืน วันนี้ก็ได้แนวทางแล้ว ^^
ส่วนตัวได้มโนแล้ว ก็เลยอยากฝึกนั่งกสิณ ด้วย  ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

Number9
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,759



« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 29 สิงหาคม 2012, 10:41:43 »

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆๆ ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาแนะนำทางในการฝึก ไม่นึกว่าตั้งกะทู้เมื่อคืน วันนี้ก็ได้แนวทางแล้ว ^^
ส่วนตัวได้มโนแล้ว ก็เลยอยากฝึกนั่งกสิณ ด้วย  ยิ้ม

เอามาแบ่งปันค่ะ...เรียนกสิณกับท่านอาจารย์ดร.จรูญ
ถ้าหากต้องการแผ่นกสิณสีไว้ฝึกมี เขียว เหลือง แดง ขาว
ยินดีให้ยืมไปฝึกได้ค่ะ (รายละเอียดการฝึกตามลิ้งค์ข้างล่าง)

http://www.kasina.org/2009-09-18-09-35-40


IP : บันทึกการเข้า
jirapraserd
magdafVE
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 693


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 03 กันยายน 2012, 12:47:42 »

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 16 กันยายน 2012, 19:19:07 โดย jirapraserd » IP : บันทึกการเข้า

nantong
ปั๋น กั๋นฮู้ แล้วก่อยเอาไปกึ๊ดอ่าน กั๋น แหมกำ อาจมีผิดถูก ฯ
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,579



« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 25 กันยายน 2012, 08:16:05 »

แนวทาง  อาจารย์อิทธิ ฝึกอบรมจิต  สนใจ  ฝึก ติดต่อ ที่

 นเรศหินอ่อน หน้า วัดสักกาวัน เมืองเชียงราย



  คุณปริญญาภรณ์  089   8  51  61  00                           คุณอรุณ (พี่ชาย  ของ คุณปริญญาภรณ์)  081  95  27  3  87

เน้น ให้ มี ปิติ          เกิดฌาน  ก่อน           บางครั้ง ท่าน  ก็ พาฝึก กสิน มโนมยิทธิ
IP : บันทึกการเข้า

หนานขี้อู้หำยาน : นายจิราวัฒน์  โสรัจพงศ์เกษม / หนานธง   อีเมล : k e n g k a b h e n g @ g m a i l . c o m    มือถือ  081 777  51 76
aook
เตรียมอนุบาล
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 18



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 13 ธันวาคม 2012, 14:55:10 »

ผมแนะนำคับ กสินนั้นสามารถเรียนได้กับคนทุกจริตคับ กสินคือการเพ่งมาเป็นอารมคับไม่ว่าคุณะเพ่งกสินอะไรอยู่เอาแบบง่ายๆขอให้คุณทรงอารมของกสินนั้นใว้ตลอดเวลาก็จะค่อยดีขึ้นคับ ขอให้คิดว่ากสินนั้นเป็นการทำให้เรามีทางหลุดพ้นจากกองทุกข์ ให้คิดว่าอภินยาคือผลพลอยได้เท่านั้นคับ ขอให้ตั้งใจคับ ผมก็ยังมืดอยู่คับ อนุโมทนาคับ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!