รถไฟแสนซนเท่าไหร่คะPMมาหน่อยน๊า อยากรับมาขายที่เชียงรายอะคะไม่รู้แนวทางการตลาดที่นี่จะยังไงเนอะ
ต้องขอโทษทีนะคะ ตอบช้าไปมากๆๆ เรื่องรถไฟน้อยแสนซนตอนนี้ของไม่มีแล้วนะคะ เรื่องการตลาดที่เชียงราย ก็ต้องบอกเลยว่า ที่เชียงราย เด็กๆเยอะมากกก ดูได้จากรรเทศบาลมีเยอะมากจิงๆ แต่ก็จะแบ่งเป็นหลายๆกลุ่มไป ถ้าเอาให้เมาะกับของเล่นทางร้านแมงปอก็จะเหมาะกับเด็กอนุบาล หรือก่อนอนุบาล และก็จะมีโตกว่านั้นนิดหน่อย แล้วก็ต้องมาแบ่งอีกว่าในจำนวณเด็กกลุ่มนี้ เป็นคนชนชั้นแบบไหน รวย กลาง จน พอเรารู้ว่าเราก็จะเลือกเกรดสินค้าได้ ถ้าเลือกขายคนรวย ก็จะต้องเลือกสินค้าระดับค้อนข้างดี เพราะลูกค้ามีเงินในการซื้อของและเขาก็จะเลือกดูที่คุณภาพ ราคา เป็นตัวตั้ง ของดี ราคาก็มักจะแพง และคนชนชั้นนี้ก็จะมีความรู้ และสามารถเทียบเคียงราคาจากเวปอื่นหรือห้างได้ เราก็ต้องเลือกของดี และหายาก หรือของห้าง ราคาเบาลงมา พอสินค้ามีราคาสูงก็อาจจะขายยากหน่อย นานหน่อยกว่าสินค้าจะหมดสต๊อก แต่แน่นอน กำไรก็ดีกว่า ตามแต่สินค้าที่เลือกสรร ถ้าเป็นชนชั้นกลาง คือมีเงิน และชั่งเลือกมาก คนชนชั้นนี้สามารถซื้อของได้ทั้งของแพง และ ของถูก คือแล้วแต่เขาจะอยากซื้อ ไม่มีอะไรบ่งชี้เขาได้แน่ชัดว่าเขาจะซื้อหรือไม่ซื้อ จากประสบการณ์ บอกตามตรงเราขายของชนชั้นกลางได้เยอะกว่า ชนชั้นสูง เพราะเขาจะเชื่อถือและให้ใจแม่ค้าเป็นที่สุด พูดง่ายๆถ้าเราหาของดีให้เขาเเละเราขายให้เขา ไม่โกหก จริงใจ และเขาใช้แล้วมัน เอ่อ ดีตามที่โม้ เขาจะเชื่อใจและเชื่อถือ วันข้างหน้าเขาก็ยังอยากจะมองของที่เราขายอยู่ และก็ซื้อบ่อยมาก เคยขายของเล่นได้ประมาณห้าชิ้น และเป็นสินค้าฟรีเมียมมาก เกือบ1หมื่นบาท ในครั้งเดียว ทั้งๆที่เราเอาไว้ขายให้ ลูกค้าประจำ มันเลยไม่ค่อย มีอะไรตายตัวในการขายของเท่าไหร่
ถ้าถามถึงตลาดในเชียงราย คนเชียงรายมีเงินนะและเลี้ยงลูกได้ดีมากๆและก็คอยหาของดีให้ลูกอยู่เสมอ จากที่เคยขายๆได้ ของเล่นเด็ก จะแบ่งเป็นสองกลุ่มเลย คือกลุ่มแรกคนมีเงินที่มีการศึกษา ของทุกชิ้นที่ขายได้ จะมี 4 ประเภท 1.จะเป็นสินค้ามาตราฐาน เกรดเอ(มีขายตามห้าง แต่ราคาเบากว่า ) 2.เป็นสินค้าตามกระแส(ที่ผ่านมาแองกี้เบิร์ด เบนเทน) 3.เป็นสินค้าหายาก 4.สินค้าตระกูลอมตะ(บาร์บี,hello kitty)
กลุ่มที่สองคือกลุ่มชนชั้นธรรมดา (ไม่ได้พูดในแง่เหยียดหยามหรืออะไรใดๆทั้งสิ้น) กลุ่มชนชั้นนี้ เขาก็อยากได้นะของดีดี แต่เขาหาเงินได้จำกัด เขาก็จะมองของเล่นที่จำกัดราคาลงมา ก็จะเป็นสินค้าราคาประหยัด เช่นพวกพลาสติก ก็จะมีตั้งแต่ถูกมากชิ้นไม่กี่สิบบาท เรื่อยไปจน199หรือมากกว่านั้น แต่ก็ยังคงเป็นของคุณภาพที่ จะว่าไปก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ความแข็งแรงทนทาน วัสดุที่ใช้หรืออะไรต่ออะไร ถ้าในแง่ของกำไรแม่ค้า สินค้าจำพวกนี้ ราคาขายน้อยก็ได้กำไรน้อยมาก อย่างเช่นปืน ชิ้นละ10บาท แต่ได้กำไร2บาท กว่าเราจะได้1000มันก็ใช้เวลา แต่ของพวกนี้ ขายได้ไวมากไปตามตลาดนัดที่ไหนก็ขายออก
ส่วนตัวแม่ค้า ไปลองตลาดนัดมาแล้วทั้ง สองสินค้า ของเล่นไม้(ไม่ได้เอาฟรีเมียมไปขายนะเพราะมันขายไม่ออกจิงๆๆไม่คุ้มจิงๆ) ราคาเบาๆๆก็มีออกเรื่อยๆ ขายดีบ้างไม่ดีบ้างแล้วแต่ตลาดจิงๆแต่
ส่วนตัวไปเพราะจะออกไปเจอแม่ค้า ที่เขาสนใจและเราจะสามารถขายให้เขาอีกในอนาคตได้ ก็จะมีนามบัตรและเวปไซด์ของเราให้เขาเข้าไปชมมากกว่า ส่วนสินค้าพลาสติกก็จะเอาไปขายเพื่อเป็นตัวหมุนเงิน และดึงลูกค้าที่ไม่ได้สนใจของเล่นไม้ให้ออก จากของเล่นไม้ เพราะว่าถ้าขายของเล่นไม้ ก็จะมีทั้งพวกที่สนใจจิงๆจะซื้อกับดูของเล่น ดูนานดูไม่ซื้อลูกอยากได้ของเล่น แต่แม่ไม่อยากซื้อเพราะมองไม่เห็นความจำเป็น ให้ออกหน้าร้าน บางทีมุงมากไป คนจะซื้อจิงๆเข้าไม่ได้เราก็ืเสียผลประโยชน์ไปเ(เขาก็จะเลือกสินค้าพลาสติกให้ลูกแก้รำคาญแทนคะ) และอย่างน้อยเราก็ไม่ได้ไปนั่งตลาดเปล่าๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคนเพิ่งเริ่มต้น ขายอาจจะไม่สามารถทำแบบที่แม่ค้าทำได้ เพราะค้อนข้างใช้เงินลงทุนที่ค้อนข้างสูง เพราะสินค้า ที่พวกพลาสติกอะ ต้องเยอะมาก เพื่อดึงดูด และเป็นทางเลือกคะ
ขายอะไรก็ต้องอดทนกว่าเราจะจับทางลูกค้าถูกก็ต้องใช้เที่ยวบินค้อนข้างเยอะนะคะ ขายๆไปเราก็จะรู้เองอะไรขายได้ ขายไม่ได้อะไรขายออกไว อะไรขายได้ราคาดี ต้องอดทนเยอะๆๆคะ
เท่าที่ขายของมาก็พอรู้เท่านี้อะนะคะ
ถ้ามีคำถามอยากถาม ถามหลังไมด์ได้นะคะ
แม่ค้าไม่ได้เก่งอะไรนะคะ อะไรที่พอรู้พอทราบก็พอจะบอกกันได้คะ ส่วนมากมาจากประสบการณืล้วนๆแฮะๆๆ อาจจะดูเหมือนแบ่งชนชั้น แต่ไม่มีเจตนาดูถูกคนเด้อคร้าา แค่ให้มองแบบแม่ค้า คะ