เหมือนปิดเส้นทางจุดหนึ่ง ไปเกิดผลกระทบอีกจุดหนึ่ง
ทำไม เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่คิดถึงจุดนี้บ้าง และนำมาเป็นหนทางแก้ไข
เพิ่มป้าย เพิ่มกรวย แบ่งช่องทางเบี่ยง ให้รถทางตรงช้าลง ให้ทางรถยูเทิร์น
แต่นี่ ไม่มีอะไร ปล่อยให้รถรอยูเทิร์นติดคับคั่ง สะสมจนยาวเหยียด
รถทางตรงก็ไม่มีน้ำใจ ให้ทาง ชะลอหยุดให้รถยูไปบ้าง น้ำใจตรงนี้น่าสร้างมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นที่แยกไหน รถทางตรงมักจะขอไปก่อน ขอไปก่อน จนรถรอมากขึ้น มากขึ้น
สร้างวินัยจราจร ให้ทุกคนมีน้ำใจให้กัน ไม่ต้องรอผู้ตัดสินแบบรถหกล้อมาจัดการให้
ไม่ต้องมีป้าย มีกรวย ให้ทุกคนเผื่อแผ่ให้กันและกันบนถนน
ผมฝันไปหรือเปล่า...?
ไม่ได้เข้ามาแหล่มเสียนาน เพราะได้ย้ายไปอยู่เชียงม่วนแล้ว ขอสนับสนุนความคิดข้างบนนี้ และขอเสริมเรื่องการใช้ทางเลี่ยงบริเวณขัวพญามังรายและเส้นเลียบสนามบินครับ และการอำนวยการจราจรโดยใช้ตำรวจจราจร ตำรวจตู้ยามแม่กก เจ้าหน้าที่แขวงการทาง อปพรและกู้ภัย จัดแบ่งเวลาทำงานกันทั้งวัน ไม่เฉพาะช่วงการจราจรหนาแน่น โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างนั้นแหละ โดยเขียนงบส่วนหนึ่งในเรื่องจัดการจราจรไว้ในงบด้วยและแจกเบี้ยเลี้ยงกันจริงๆตรงไปตรงมา เพื่อจูงใจในการทำงาน(ทำงานฟรี หรือค่าแรงน้อย ถึงเป็นหน้าที่ก็ไม่มีใครอยากทำหรอก) แต่ขอบอกก่อนถูกด่าว่าสมัยผมก็เคยพยายาม แต่ยังไม่เคยทำได้นะ เพราะ....... ขอเป็นแนวคิดให้ผู้มีอำนาจละกันครับ
..อ่อ เป็นอย่างนี้นี่เอง หน่วยงานซ่อมถนน มีแต่งบซ่อม(คงมาแบบจิ๋วกระทัดรัดแล้ว)
เลยต้องรีบปิด รีบทำ ปล่อยปัญหาให้เกิดขึ้น ไปสู่อีกหน่วยงานหนึ่ง แบบไร้น้ำใจกัน
ผลก็คือ ไม่มีใครมาแก้ปัญหาคลี่คลายให้ ไหนจะหมดเวลา หมดหน้าที่ต้องกลับบ้าน
(แค่เช้าเย็น ชั่วโมงเร่งด่วนก็หนักหนาสาหัสแล้ว) ...
..ท่านบิ๊กมัม บอกเคยพยายาม แต่ทำไม่ได้ เพราะอะไรบอกไม่ได้ พวกเราก็คงเดาได้
งานที่ไม่ได้งบ แถมเปลืองงบเปลืองคน ไม่ได้อะไรจากอีกหน่วยงานหนึ่ง ก็คงไม่มี
หัวหน้าหน่วยไหนจะมาสนใจ ...ก็ไม่รู้ว่ามีสภาชา กาแฟ เอาไว้ทำไม?..ไม่คุยกัน
ไม่หาจุดลงตัวกันให้มาตอบสนองแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้าน...
..สุดท้ายชาวบ้าน(คนขับรถหกล้อ) ก็ต้องมาช่วยกันเอง(รถที่ติดรอยูเทิร์น)...