กลุ่มคนรัก Exotic Pet เชียงราย - Lanna Beetle Festival 2012 @ Central Chiang Rai

อ้างจาก: Angel007_SpectrumAquarium ที่ วันที่ 05 กรกฎาคม 2012, 18:18:00

ความคิดเห็นเรื่องกบพิษ (Poison Dart Frog) ให้ถูกต้องหน่อยนะครับ

ที่เราเห็น เราทราบ และได้ข้อมูล จากหนัง สารคดี และเวปต่างๆ
โดยมากจะกล่าวว่าเจ้ากบชนิดนี้มีพิษร้ายแรง พิษของมัน 1 หยด สามารถล้มเสือตัวใหญ่ได้เพียงแค่ไม่กี่นาที

พิษเพียงแค่ไม่กี่มิลลิกรัม สามารถฆ่าหนูได้เป็น 100 ตัว นั่นเป็นเรื่องจริงๆ และผมไม่ขัดแย้งใดๆ

แต่ การที่จะนำพิษของมันมาฆ่าเสือ วัว หรือ เพื่อล่าสัตว์นั้น ตัวกบเองไม่สามารถทำได้เลยครับ
มนุษย์นี่แหละครับ ที่จับมันมาสกัดพิษเพื่ออาบลูกดอก อาบธนู เพื่อใช้ในการล่าสัตว์

ลำพังตัวกบเองก็มีขนาดเล็กมากๆ กบกลุ่มนี้มีขนาดเพียงแค่ 2 - 4 เซนติเมตรเท่านั้น
และตัวเล็กๆ บอบบางแบบนี้ จำเป็นต้องหาทางป้องกันตัวจากการตกเป็นเหยื่อของนักล่าต่างๆ
ดังนั้นธรรมชาติจึงสร้างให้พวกมันสามารถสกัดพิษจากอาหารที่มันกิน.

มาถึงตรงนี้ อยากให้ทราบว่า ลำพังตัวกบเอง ไม่สามารถผลิดพิษเองได้
แต่พิษดังกล่าวมาจากอาหารที่กบกินนั้นคือมด แมงมุม หรือ
แมลงปีกแข็งขนาดเล็กที่มีพิษ Batrachotoxin ซึ่งแมลงดังกล่าวเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของทวีปอเมริกาใต้เท่านั้น.

กบพิษที่นำมาเลี้ยง นำมาขาย มาจากการเพาะพันธุ์ขึ้นทั้งสิ้น และกบพวกนี้ไม่ได้กินมดพิษ
แมลงพิษที่สามารถผลิดพิษ Batrachotoxin จากป่าอเมซอนเข้าไป จึงไม่ต้องกังวลเรื่องพิษเลยแม้แต่น้อย

ถึงแม้ว่าเราจะให้กินมดตะนอย มดแดงไฟ หรือปลวกจากประเทศไทยเข้าไปก็ไม่มีผลอะไรทั้งสิ้น เพราะมดบ้านเราไม่สามารถผลิตพิษ Batrachotoxin ได้เลย.
นอกจากนี้ทำไมถึงไม่นำกบที่มาจากป่า และยังมีพิษอยู่เข้ามาเลี้ยงถ้าต้องการพิษของมัน.....?
คำตอบก็คือ กบที่ถูกจับมาจากป่า จะมีความเปราะบางสูงมาก ไม่มีภูมิต้านทานโรค การผันแปรของสภาพแวดล้อมอย่างกะทันหัน
และจะเสียชีวิตจากภาวะความเครียดในที่สุด. ดังนั้นกบที่เห็นขายๆกันอยู่ จึงเป็นกบที่เกิดจากการเพาะพันธุ์ขึ้นทั้งสิ้น

นอกจากนี้พิษที่สะสมจะสลายหมดไปจากตัวภายในเวลาไม่ถึงวัน ดังนั้นใครอยากจะสกัดพิษกบมาอาบลูกดอกธนู
ไปลองล่าสัตว์แบบชนเผ่าในป่าอเมซอน ก็คงต้องไปจับกันสดๆกลางป่าอเมซอนนะครับ.

และจากสถิติต่างๆที่บอกว่าพิษของมันสามารถฆ่าอะไรได้กี่ตัวบ้าง ซึ่งได้อ่านแล้วทำให้หลายคนต่างหวาดกลัวมากๆ
แต่นั่นคือการเปรียบเทียบเท่านั้นครับ มันใช้พิษเพื่อการป้องกันตัว ไม่ได้ใช้พิษเพื่อล่าเหยื่อแต่อย่างใด
ถ้าคุณ search เจอสถิติดังกล่าวนั้นแล้ว ลอง search เพิ่มดูอีกนิดสิครับ ว่ามีคนโดนกบพิษชนิดนี้ทำร้ายจนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตปีละกี่ราย คิดเป็นสถิติเท่าใด???
ถ้าคุณหาเจอลองเอาลิงค์นั้นมาแชร์ให้เพื่อนๆและผมดูหน่อย จะเป็นพระคุณอย่างมากครับ.

คนในทวีปอเมริกาใต้ต่างรู้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับกบพิษพวกนี้อย่างสันติ
การที่พวกมันจะปล่อยพิษออกมาได้นั้นต้องถูกบีบเค้นอย่างหนัก
ใช่ว่าแค่ไปจับ ไปโดนตัวมันแล้วก็จะโดนพิษแล้วตายเลย
เช่นเดียวกับชนเผ่าที่นำพิษของพวกมันมาอาบลูกดอกธนู ใช่ว่าเอาลูกดอกไปถูๆกับตัวมันแล้วจะได้พิษมาเลย แต่ต้องนำมันไปบีบขยี้ ผิงไฟ
สกัดให้เข้มข้นจนเป็นหยดพิษสีน้ำนม.

กบลูกดอกพิษถือว่า เป็นกบที่ต้องการความละเอียด และพิถีพิถันในการเลี้ยงเป็นอย่างมาก
ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อม การควบคุมความชื้น การควบคุมอุณหภูมิ และอาหารต้องมีขนาดเล็กมากๆ
พูดง่ายๆว่า เลี้ยงยาก ปราบเซียนเลยก็ได้ มันจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักในประเทศไทย เพราะนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ)
ชอบอะไรที่ง่ายๆ สำเร็จรูป จัดใส่พานมาวางในมือให้เรียบร้อย อะไรยากๆฉันขอผ่าน.

แต่สำหรับในต่างประเทศ หลักๆคือ อเมริกา / อังกฤษ / เยอรมัน / ญี่ปุ่น เจ้าพวกนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายมากๆ
ทำกันเป็นฟาร์ม มีระบบอย่างดี. เพราะอะไรเขาถึงทุ่มเทให้พวกมันหรอครับ เพราะสีสันที่สด และงดงาม ยากที่จะหาสัตว์อะไรมาเปรียบเทียบ
นอกจากนี้ขนาดของพวกมันสำหรับคนบางกลุ่ม ยิ่งเล็ก ยิ่งน่าสนใจ ยิ่งได้เห็นโลกขนาดเล็กที่น้อยคนนักจะเล็งเห็นความสวยงามของมัน.

ชาวต่างชาติส่วนมากสอนลูกให้ลูกเข้าใจธรรมชาติ ยำเกรงธรรมชาติ ไม่เหมือนบ้านเรา สอนให้หวาดกลัวธรรมชาติอย่างไร้เหตุผล…….
คุณยังจำคำเตือนตอนคุณเด็กๆได้หรือปล่าวครับ “อย่าออกไปเล่นนอกบ้านตอนกลางคินนะ เดี๋ยวตุ๊กแกจะมากินตับ”
“อย่าอย่างนู้น อย่าอย่างนี้ ……..……..เดี๋ยวงูจะมาฉก” นี่แหละครับ เหตุผลที่ตอนน้ำท่วมใหญ่ครั้งที่แล้วและมีข่าวลือว่า
งูกรีนแมมบ้าหลุด ถึงได้ตื่นตูมกันทั้งประเทศ จนเจ้ากบพิษผู้บริสุทธิ์ถูกลากคอมาร่วมวงเป็นตัวอันตรายไปด้วย.

ส่วนใครที่กำลังคิดว่ากบพวกนี้หลุดออกไปตอนน้ำท่วมในไทย แล้วจะเป็นอันตราย. ผมขอยืนยันเลยครับ
แค่หลุดออกจากตู้ควบคุมอุณหภูมิ ไปตากแดดได้แค่ 2 นาทีก็ตายสนิทแล้ว ยิ่งเจอน้ำท่วมเน่าๆเข้าไป ตายเรียบครับ
ยังไม่รวมถึงอากาศร้อนๆอีก ยิ่งไม่มีโอกาศรอดเข้าไปใหญ่ นอกจากนี้สีสันที่แปร๊ดๆของพวกมันยังดึงดูดนักล่าของบ้านเราเป็นอย่างดีอีกด้วย
ถึงจะรอดจากสภาพแวดล้อม แต่ไม่รอดจากผู้ล่า อย่างเช่นนกต่างๆ กิ้งก่า ตุ๊กแก งู แมว สุนัข เป็นแน่แท้

เพราะฉนั้นอย่าเพิ่งตัดสินอะไรจากรูปร่างภายนอกก่อนที่คุณจะได้รู้จักมันจริงๆนะครับ. ข้อมูลจาก Search Engine ใช่ว่าจะเสนอทั้งสองด้านเสมอไป.
ยิ่งเรื่องเลวๆ ชั่วๆ ร้ายๆ ยิ่งเรียกเรทติ้งได้ดี เหมือนเจ้ากบพิษ ถ้าไม่มีใครออกมาเสนอในอีกด้านหนึ่งของพวกมัน
คนที่ได้ดูสารคดี และดูการจัดอันดับสัตว์มีพิษร้ายแรงก็คงเข้าใจว่าพวกมันมีพิษต่อไป เพราะถ้าบอกว่ามันไม่มีพิษถ้าไม่ได้กินมดพิษ
ความน่าสนใจก็จะหมดไปทันที เรทติ้งถูกกระชากตกลงเหวฮวบ…….

สุดท้ายนี้ เพื่อนๆ พี่ๆคนไหนได้อ่านแล้ว ช่วยกระจายข้อมูลต่อด้วยนะครับ. ขอบคุณจากใจ……(Angel007)

ความรู้ใหม่เลย ขอบคุณมากครับ ยิงฟันยิ้ม

หน้าหลักเว็บไซต์	ท่องเที่ยว ที่พัก ที่กิน	ข่าวสาร กิจกรรม	ตำแหน่งงานว่าง
ตลาดซื้อขาย	โปรโมชั่น ส่วนลดสินค้า	ติดต่อโฆษณา

คนเชียงราย สังคมเชียงราย	ห้องนั่งเล่น	การเกษตร ในเชียงราย	คุยเรื่องไอที - เทคโนโลยี
นักลงทุน การเงิน การธนาคาร	ศาสนา กิจกรรมทางวัด	เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง	คนหางาน-งานหาคน
งานบ้านงานครัว คลีนิค สุขภาพ ฯลฯ	กีฬา	การศึกษา

แจกของฟรี	ซื้อขายสินค้าจิปาถะ-ทั่วไป	เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น	เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
สัตว์เลี้ยง	คอมพิวเตอร์-สินค้าไอที	กล้องถ่ายรูป - อุปกรณ์ถ่ายภาพ	โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร
ซื้อขาย-เช่า-เซ้ง บ้าน ที่ดิน อาคารพาณิชย์	พระเครื่อง-วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง	ศูนย์กลาง-ซื้อขายรถยนต์	อะไหล่รถยนต์,อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์
ซื้อขาย-รถมอเตอร์ไซด์	อะไหล่ ของแต่ง มอเตอร์ไซด์	ศูนย์กลางซื้อขาย-จักรยาน	จานดาวเทียม-กล้องวงจรปิด-เคเบิ้ลทีวี

ชมรมนักตกปลาเชียงราย	CHIANGRAI 4 LOW	ชมรมคนรักรถ	ชมรมดนตรี
ชมรมนักกลอน