เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 14:49:05
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  เรื่องล้านนา ภาษากำเมือง
| | |-+  >>>..วันนี้ในอดีต..เก็บเรื่องเก่ามาเล่าขาน อำลาจอ .. <<<
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 พิมพ์
ผู้เขียน >>>..วันนี้ในอดีต..เก็บเรื่องเก่ามาเล่าขาน อำลาจอ .. <<<  (อ่าน 42487 ครั้ง)
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #40 เมื่อ: วันที่ 19 กรกฎาคม 2012, 05:34:09 »

     วันนี้วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฏาคม 2555
..............
* * * วันนี้ในอดีต พ.ศ. 2441 (ค.ศ. 1898) - วันฉลองพระราชพิธีทวีธาภิเศก ในรัชกาลที่ 5 เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองราชสมบัตินานเป็นสองเท่าของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และถือเป็นวันสถาปนาโรงเรียนทวีธาภิเศก
เนื่องด้วยปี พ.ศ. 2441 (ร.ศ.117) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชในรัชกาลที่ 31 เป็นเวลายาวนาน 2 เท่า ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดจัดงานบำเพ็ญพระราชกุศล ทวีธาภิเษก เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2441 ถวายบรมอัยกาธิราช ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิฉัย และสมโภชสิริราชสมบัติ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท [1]
เหรียญที่ระลึกในงานพระราชพิธีทวีธาภิเศกดังกล่าว พระองค์ได้ทรงโปรดเกล้า ให้ทำเหรียญที่ระลึก รัชกาลที่ 5 เสมอด้วยรัชกาลที่ 2 ทวีคูณ ร.ศ. 117 เพื่อพระราชทานแก่ข้าราชการภายใน และข้าราชบริพารผู้ประกอบคุณงามความดี เหรียญที่ระลึกนี้มีเนื้อเงินกาไหล่ทองและเนื้อเงิน

ลักษณะรูปทรงเหรียญแบบดาวห้าแฉกยกขอเส้นลวดสองชั้นหูเชื่อม แบบขวางภายใน มีลักษณะดังนี้

ด้านหน้า
1.พระอุนาโลม ภายใต้พระอุณหิศ มีความหมายถึง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้ามงกุฎ พระอุณหิศก็คือพระมงกุฎ
2.พระจุลมงกุฎ (พระเกี้ยว) มีความหมายถึง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมรพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์
3.ครุฑยึดนาค มีความหมายถึงพระบรมราชสัญลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศล้านภาลัย ผู้เป็นพระบรมราชอัยกา ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
4.พระแสงขรรค์ไชยศรีและธารพระกรไขว้ มีความหมายถึง เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เนื่องในวโกาส ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติราชาภิเศก เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411 การเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งสองนี้ เพื่อแสดงว่าเป็นของสำหรับพระราชาธิบดี
5.สายสร้อย เป็นรูปดอกประจำยามอยู่เบื้องใต้โล่ คือสังวาลย์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำหรับพระมหากษัตริย์ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลอันสำคัญอย่างยิ่ง
ด้านหลัง
จารึกว่า

 ที่รฤก รัชกาลที่ ๕

เสมอด้วยรัชกาล ที่ ๒

ทวีคูณ รัตนโกสินทร ๓๑

ศก ๑๑๗
 



* 250px-TAWEETHAPISAK (WinCE).jpg (8.82 KB, 240x156 - ดู 1082 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #41 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2012, 14:12:43 »

     วันนี้วันศุกร์ที่ 20 กรกฏาคม 2555
...............
* * * วันนี้ในอดีต พ.ศ. 2436 (ค.ศ. 1893) - ฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้สยามชดใช้ค่าเสียหายภายใน 48 ชั่วโมง
ณ เพลานี้ ทั่วทั้งกรุงสยามต่างเงียบงัน จะมีก็แต่เสียงร้องไห้ที่ดังระงมอยู่ในหัวใจของชาวสยามทุกคน....


20 ก.ค. 2436 ฝรั่งเศสยื่นคำขาดดังนี้ :-


1.ให้เคารพสิทธิของญวนและเขมรเหนือดินแดนบนฝั่งซ้ายลำน้ำโขงและเกาะต่างๆในลำน้ำนี้
2.ให้ถอนทหารไทยที่ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของลำน้ำโขงให้เสร็จสิ้นภายในเวลาไม่เกินหนึ่งเดือน
3.ให้เสียค่าปรับไหมแก่ฝรั่งเศสในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทุ่งเชียงคำ และที่คำม่วน และทั้งในการที่ได้ทำอันตราย และความเสียหายแก่เรือและทหารประจำเรือฝรั่งเศสที่ปากน้ำเจ้าพระยา
4.ให้ลงโทษผู้กระทำผิดและเสียเงินค่าทำขวัญแก่ครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต
5.ให้เสียเงิน 2,000,000 ฟรังค์ เป็นค่าปรับไหมในความเสียหายต่างๆที่เกิดแก่ชนชาติฝรั่งเศส
6.ให้จ่ายเงิน 3,000,000 ฟรังค์ ชำระเป็นเงินเหรียญโดยทันที เป็นมัดจำการจะชดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ และเงินค่าทำขวัญ หรือถ้าไม่สามารถก็ต้องยอมให้รัฐบาลฝรั่งเศสมีสิทธิเก็บภาษีอากรในเมืองพระตะบองและเสียมราฐ
                  โดยให้รัฐบาลไทยตอบให้ทราบภายใน 48 ชั่วโมง ว่าจะรับปฏิบัติตามนี้ได้หรือไม่


อ่านดูแล้วเกิดความรู้สึกกันอย่างไรบ้างครับ .... ใช่แล้ว สัญญาอัปยศอดสูเยี่ยงนี้ ไหนเลยที่สยามจะยอมได้ ทว่าอย่างไรก็ตามคำกล่าวที่ว่า “บางทีเราก็ต้องจำยอมสละแขนขา ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้” ก็เป็นสัจธรรมที่สยามมิอาจปฏิเสธได้ ... ในขั้นแรก สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ทรงยินยอมทำตามข้อเรียกร้องบางประการ ทว่าก็ยังไม่เป็นที่พอใจของฝรั่งเศส ดังนั้นฝรั่งเศสจึงดำเนินการปิดสถานทูต ถอนเรือรบกลับไปรวมกับกองเรือใหญ่ ยึดปากน้ำเจ้าพระยาและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน ตลอดจนทำการปิดอ่าวไทย ทั้งนี้จนกว่ากองทหารไทยที่ตั้งมั่นอยู่บนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงจะถอนไปสิ้นและเกิดความสงบเรียบร้อยขึ้นแล้ว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการห้ามรัฐบาลไทยคงกำลังทหารไว้ที่เมืองพระตะบองและเสียมราฐ รวมทั้งเขตที่ตั้งอยู่ในระยะรัศมี 25 กิโลเมตร บนฝั่งขวาแม่น้ำโขงนับแต่ดินแดนเขมรขึ้นไป ให้มีกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไว้ได้เท่าที่จำเป็น กับห้ามไม่ให้รัฐบาลไทยใช้หรือให้เรือหรือพาหนะทางเรือใดๆที่ติดอาวุธเดินไปมาในทะเลสาบเขมรและในลำน้ำโขง ...ถ้าสยามทำตามที่สั่ง รัฐบาลฝรั่งเศสจะเลิกปิดอ่าวทันที


ทว่าสันดานโจร ก็ย่อมเป็นโจร ไหนเลยที่สยามจะหาสัจจะกับโจรได้... เมื่อเวลาผ่านพ้นไปได้ 9 ปี เศษฝรั่งก็ยังไม่มีทีท่าที่จะถอนทหารออกไปจากจันทบุรี ในการนี้สยามจึงจำยอมยกดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขง คือ แคว้น หลวงพระบาง มโนไพร และจำปาศักดิ์ รวมถึงข้อตกลงที่เสียเปรียบยิบย่อยอีกหลายประการ ...ครับ คราวนี้โดนไปอีก 62,500 ตร.กม.  ....ยังครับ มหากาพย์ชั่วยังไม่จบ จากจันทบุรี มันก็ย้ายก้นของมันไปยึดที่ตราดและเกาะต่างๆเอาไว้ ครั้งนี้มันยื่นข้อเรียกร้องให้สยามยอมยกดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ทั้งนี้เพื่อแลกคืนกับเมืองด่านซ้าย (อยู่ในเขตจังหวัดเลย) เมืองตราด และเกาะทั้งหลายที่อยู่ใต้แหลมลิง ลงไปจนถึงเกาะกูดให้แก่ไทย  ....ท้ายที่สุด เพื่อการคงไว้ซึ่งเอกราชแห่งราชอาณาจักรสยาม สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงก็ทรงยอมยกดินแดนครั้งสุดท้าย อีก 51,000 ตร.กม. เพื่อให้แผ่นดินสยามและชาวสยามได้กลับมารวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้ง ตราบจนปัจจุบัน



* 1_thumbnail.jpg (2.2 KB, 150x84 - ดู 1044 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #42 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2012, 04:56:48 »



     วันนี้วันเสาร์ที่ 21 กรกฏาคม 2555
........................
* * * วันนี้ในอดีต พ.ศ. 2436 (ค.ศ. 1893) - วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 : หลังจากฝรั่งเศสละเมิดอธิปไตยของไทยเมื่อวันที่ 13 ก.ค. จนมีการปะทะกันที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ออกุสต์ ปาวี อัครราชทูตฝรั่งเศส ยื่นคำขาดให้ไทยยกฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ต่อสู้กับทหารฝรั่งเศส และชดใช้ค่าเสียหาย
.............
               ⊙  ปิยมหาจุลจอมเกล้า         ราชา  ปิ่นนเรศ

                  พระครองเขตสยามแดน      ถิ่นแคว้น

                 มหากรุณายิ่งมอบให้           ไพร่ฟ้า เป็นไท

                 ทำนุชาติพระศาสน์ไว้          นำไทย รุ่งเรือง

                 ⊙ สองมือประณมน้อม           กราบพื้น ธรณี               

                  แทนพระบาทพระจักรี         ถิ่นฟ้า

                 ปฎิญาณถวายแด่องค์          พระผู้  สถิตสวรรค์

                 ขอสืบพระปณิธานมั่น           ปักษ์ไทย  ยิ่งชีพ
....................

อยากให้ท่านลูกหลานไทยได้ระลึกถึงเหตุการณ์นี้
แต่เนื่องจากไม่สามารถนำข้อความมาลงได้หมดเพราะขีดจำกัดของเว็ปฯ
จึงนำเครดิตมาวางไว้เพื่อให้ท่านได้ศึกษา ดังนี้...
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=140457                 



* Cr12 (WinCE).jpg (27.04 KB, 240x320 - ดู 1047 ครั้ง.)

* Cr13 (WinCE).jpg (12.07 KB, 240x156 - ดู 1042 ครั้ง.)

* Cr5 (WinCE).jpg (11.93 KB, 240x156 - ดู 1037 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #43 เมื่อ: วันที่ 22 กรกฎาคม 2012, 05:35:31 »

     วันนี้วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฏาคม 2555
.................
* * * วันนี้ในอดีต พ.ศ. 2520 (ค.ศ. 1977) - เติ้งเสี่ยวผิง ก้าวขึ้นสู่อำนาจในสภาของประเทศจีนอีกครั้ง
เติ้ง เสี่ยวผิง (จีนตัวเต็ม: 鄧小平; จีนตัวย่อ: 邓小平; พินอิน: Dèng Xiǎopíng; เวด-ไจลส์: Teng Hsiao-p'ing) (22 สิงหาคม พ.ศ. 2447 - 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540) เป็นผู้เปลี่ยนแปลงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน และดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงต้นทศวรรษ 2520 ถึง พ.ศ. 2540 นับเป็นชนชั้นผู้นำรุ่นที่สองของพรรคคอมมิวนิสต์ ภายใต้การนำของเติ้งเสี่ยวผิง ประเทศจีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นชาติที่พัฒนาด้านเศรษฐกิจเร็วที่สุดในโลก

เติ้งจบการศึกษาในประเทศฝรั่งเศส โดยเข้าเรียนโครงการสำหรับนักเรียนจีน ซึ่งมีนักปกครอง - นักปฏิวัติหลายคนของเอเชียเคยเรียน เช่น โฮจิมินห์ และโจวเอินไหล

เติ้งเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญของเหมาเจ๋อตุง และได้รับตำแหน่งสำคัญของพรรคหลายตำแหน่ง แต่ในภายหลังด้วยนโยบายที่ขัดแย้งกัน เติ้งเสี่ยวผิงจึงถูกขับจากตำแหน่ง และไปเป็นกรรมกรอยู่ที่โรงงานใน มณฑลเสฉวน เมื่อนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลขึ้นครองอำนาจและพบว่าตัวเองป่วยด้วยโรคมะเร็ง โจวเอินไหลได้เรียกเติ้งกลับมาอีกครั้งเพื่อเป็นทายาททางการเมืองของเขา



* 200px-Deng_Xiaoping (WinCE).jpg (12.38 KB, 267x320 - ดู 1670 ครั้ง.)

* imagesCAZH91RP (WinCE).jpg (7.65 KB, 240x169 - ดู 1051 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 22 กรกฎาคม 2012, 05:43:08 โดย Siranoi » IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #44 เมื่อ: วันที่ 23 กรกฎาคม 2012, 05:29:25 »

     วันนี้วันจันทร์ที่ 23 กรกฏาคม 2555
..............
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ.2528 เปิดการจราจร สะพานพระนั่งเกล้า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตอำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี โดยเชื่อมการเดินทางระหว่างพื้นที่ ตำบลไทรม้ากับตำบลบางกระสอเข้าด้วยกันตามแนวถนนรัตนาธิเบศร์***
 โครงการก่อสร้างทางหลวงเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลตามแนวถนนรัตนาธิเบศร์ – งามวงศ์วาน – เกษตรฯ-นวมินทร์

          นายธงไชย วีระสมัย หัวหน้าช่างโครงการ ได้เปิดเผยว่า "กรมทางหลวงดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 302 สายบางใหญ่ – แคราย ส่วนที่ 2 (สะพานพระนั่งเกล้าใหม่ส่วนของสะพานกลางน้ำ) นั้นมีขึ้นสืบเนื่องมาจากในปัจจุบันสะพานพระนั่งเกล้าเดิมที่เปิดการจราจรมาตั้งแต่วันที่
21 กรกฎาคม 2551 โดยความรับผิดชอบของกรมโยธาธิการ ในขณะนั้น ซึ่งสะพานมีความยาวรวม 545.10 ม. มีขนาด 4 ช่องจราจร ไม่สามารถรองรับปริมาณจราจรที่มีเพิ่มมากขึ้นในถนนรัตนาธิเบศร์ระหว่าง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ กรมทางหลวงจึงได้วางแผนปรับปรุงถนนรัตนธิเบศร์ตลอดเส้นทาง ให้เป็นส่วนหนึ่งของแนวถนน East – West Corridor ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างจุดตัดถนนวงแหวนตะวันตก – ถนนวิภาวดีรังสิต – จุดตัดถนนวงแหวนตะวันออก โดยได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จไปในส่วนของสะพานกลับรถ 4 แห่ง และกำลังดำเนินการก่อสร้างสะพานลอยข้ามแยกไทรม้าและบางพลู รวมทั้งการขยายช่องจราจรเดิม 4 ช่องจราจร ให้เป็น 10 ช่องจราจร ตลอดระยะทางประมาณ 12 กม.





* construction (WinCE).jpg (5.32 KB, 240x103 - ดู 1020 ครั้ง.)

* imagesCADO0AKL (WinCE).jpg (8.01 KB, 240x191 - ดู 1032 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #45 เมื่อ: วันที่ 24 กรกฎาคม 2012, 06:06:05 »

     วันนี้วันอังคารที่ 24 กรกฏาคม 2555
..............
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ.2508 อาภัสรา หงสกุล ได้รับเลือกเป็นนางงามจักรวาล ในการประกวดที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา***


ปุ๊ก อาภัสรา หงสกุล นางงามจักรวาลคนแรกของไทย ปัจจุบันเธอยังคงอยู่ในแวดวงความงามโดยได้เปิดอาภัสรา บิวตี้ สลิมมิ่ง สปา ลาดพร้าวซอย 23 และทำธุรกิจส่วนตัว ขายนาฬิกาและเครื่องสำอาง ....

ประวัติครอบครัว
ชื่อ นางอาภัสรา หงสกุล
ชื่อเล่น : ปุ๊ก
วันเกิด : 16 มกราคม 2490
บิดา : นาวาอากาศเอก (พิเศษ) เพิ่ม หงสกุล (เสียชีวิต)
มารดา : นางเกยูร (กาญจนาคม) หงสกุล (เสียชีวิต)
ถิ่นกำเนิด : ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 5 คน ของ น.อ.(พิเศษ) เพิ่ม และแม่ชีเกยูร หงสกุล (เสียชีวิตทั้งคู่)
ชื่อพี่-น้อง
1. นางดนยา หงสกุล (แป๋ว) มีบุตรชาย ชื่อนายนนทิวัฒน์ ประภานนท์ สมรสกับ ณัฐวดี มีบุตรชาย 2 คน
2. นางอาภัสรา หงสกุล (ปุ๊ก) สมรสกับ ม.ร.ว.กิตติคุณ กิติยากร (หย่า)
มีบุตรชาย 1 คน ชื่อ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร (โจ้)
สมรสใหม่กับ นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ (หย่า)
มีบุตรชาย 1 คน ชื่อ นายภัสสกรณ์ จิราธิวัฒน์ (ป๊อก)
3. นางธนัดดา หงสกุล (ปิ้ง)
4. นางปวีณา หงสกุล (ปิ๊ก) สมรสกับนายประมวล หุตะสิงห์ (หย่า) มีบุตรชาย ชื่อนายษุภมน หุตะสิงห์ (ต้าร์)
5. นายฉมาดล หงสกุล (โป๊ป)

การศึกษา และดูงาน
- เริ่มเรียนที่บ้านครูพวงมาลัย (แถวบ้าน)
- อนุบาลประถมวัย
- อนุบาลฤทธิยะ (ใกล้บ้านดอนเมือง)
- ประถมศึกษา โรงเรียนศึกษาวิทยา
- มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนศึกษาวิทยา
- ศึกษาต่อที่ประเทศปีนัง
- พฤศจิกายน 2546 ปริญญาบัตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ปริญญาโท (ไทยรัฐ คัทลียา 7 ก.พ.2548 (24)

การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่
2507 นางสาวไทย
2508 นางงามจักรวาล ที่ไมอามี่ สหรัฐอเมริกา
- เจ้าหน้าที่ของสถานเสริมความงามย่านราชดำเนิน
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย ที่งานเอ๊กซโป โอซาก้า
ประเทศญี่ปุ่น
- ก่อตั้งบริษัท อารยะพร็อพเพอตี้ จำกัด ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รับออกแบบและสร้างบ้านรวมทั้งรับ
จัดหาที่ดินในเขตกรุงเทพมหานคร
- ทำธุรกิจส่วนตัว ขายนาฬิกาและเครื่องสำอาง
- เจ้าของ อาภัสรา บิวตี้ สลิมมิ่ง สปา ลาดพร้าวซอย 23 และ สาขา 2 ชั้น 3 เซ็นทรัลเวิลด์
เปิดเดือนสิงหาคม 2552
- อาสาสมัครช่วยขายสินค้ามูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพที่พระที่นั่งอภิเศกดุสิต


* 3992 (WinCE).jpg (12.95 KB, 241x320 - ดู 1053 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #46 เมื่อ: วันที่ 25 กรกฎาคม 2012, 06:12:42 »

     วันนี้วันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2555
..................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ.2521 วันเกิดหลุยส์ บราวน์ เด็กหลอดแก้วคนแรกของโลก เกิดที่ประเทศอังกฤษ ***
25 กรกฎาคม พ.ศ. 2521 หลุยส์ บราวน์ (Louise Joy Brown) เด็กหลอดแก้ว (Test-Tube Baby) คนแรกของโลกถือกำเนิดขึ้น ที่โรงพยาบาล Royal Oldham Hospital โดยฝีมือของแพทย์สองคนได้แก่ โรเบิร์ต เอ็ดเวิร์ดส์ (Robert Edwards) และ แพทริค สเต็ปโท (Patrick Steptoe) จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันบราวน์ทำงานที่ที่ทำการไปรษณีย์แห่งเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ เธอแต่งงานในปี 2547 และให้กำเนิดบุตรชายคนแรกในอีกสองปีต่อมา ทั้งนี้เด็กหลอดแก้วคือเทคนิคการของการปฏิสนธิสังเคราะห์ที่เรียกว่า “In vitro fertilization” หรือ "IVF” โดยการนำอสุจิของพ่อและไข่ของแม่มาทำการปฏิสนธิในหลอดทดลอง จากนั้นจึงค่อยนำตัวอ่อนไปฝังในมดลูกเพื่อให้เติบโตตามธรรมชาติต่อไป ตั้งแต่นั้นมา วิทยาการทางด้านการเจริญพันธุ์ก็เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว การทดลองประสบความสำเร็จมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีการประท้วงการทดลองเด็กหลอดแก้วกันอย่างกว้างขวาง ศาสนจักรบางแห่งถึงกับออกมาประณามนักวิทยาศาสตร์ว่าเป็น “ซาตาน” ที่บังอาจทำตัวไปเทียบเคียง “พระเจ้า” ในการให้กำเนิดมนุษย์ อย่างไรก็ตามเทคนิคการทำเด็กหลอดแก้วก็ได้พิสูจน์ยืนยันว่าปลอดภัย นำความหวังมาให้พ่อแม่ที่มีปัญหามีบุตรยาก ทุกวันนี้การผสมเทียมในหลอดแก้วกลายเป็นเรื่องธรรมดาของคู่สมรสทั่วโลกที่ไม่สามารถมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติ ส่วนในประเทศไทย เด็กหลอดแก้วรายแรกเกิดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หลังจากบราวน์ 9 ปี โดยฝีมือของ ศาสตราจารย์นายแพทย์ประมวล วีรุตมเสน


* 192025jul03 (WinCE).jpg (10.59 KB, 240x176 - ดู 1039 ครั้ง.)

* 192025jul02 (WinCE).jpg (15.75 KB, 240x175 - ดู 1008 ครั้ง.)

* 1sikijijijijijeff (WinCE).jpg (11.62 KB, 193x320 - ดู 1039 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #47 เมื่อ: วันที่ 27 กรกฎาคม 2012, 09:57:29 »

     วันนี้วันศุกร์ที่ 27 กรกฏาคม 2555
...............
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ.2554 เป็นวันสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี***
พลเอกหญิง พลเรือเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี (24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554) เป็นพระราชธิดาเพียงพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ประสูติ ณ พระที่นั่งเทพสถานพิลาส ในหมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง ก่อนที่สมเด็จพระบรมชนกนาถจะเสด็จสวรรคตในอีกหนึ่งวันต่อมา

พระนาม เพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี นั้น พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้ในพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่และยังโปรดให้ใช้คำนำหน้าพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ออกคำนำหน้าพระนามเป็น สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ และคำนำหน้าพระนามนี้ยังใช้จนถึงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน

หลังจากเสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการถาวร พระองค์ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจเพื่อแบ่งเบาพระราชภาระในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่เป็นนิจ จนกระทั่งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอและสมเด็จพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลปัจจุบันทรงเจริญพระวัยและทรงสามารถแบ่งเบาพระราชกรณียกิจได้ กอปรกับพระองค์มีพระชนมายุสูงขึ้นจึงเสด็จออกทรงเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารน้อยลง นอกจากนี้ พระองค์ทรงรับสถาบันและองค์กรต่างๆ ทั้งในส่วนที่สืบสานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และโดยส่วนพระองค์เองไว้ในพระอุปถัมภ์มากกว่า 30 แห่ง

สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.37 นาฬิก


* 270px-Bejaratana_Rajasuda.jpg (14.34 KB, 270x336 - ดู 1187 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
samurai_ฅนเมือง
VIP
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,120



« ตอบ #48 เมื่อ: วันที่ 27 กรกฎาคม 2012, 13:28:50 »

แจ่มมากเลยคับ
IP : บันทึกการเข้า

หลายคนเรียนไม่จบแต่พบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นคนใฝ่เรียนรู้ด้วยตนเอง ปัญญาไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยแต่อยู่ในจิตใจที่ใฝ่รู้
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #49 เมื่อ: วันที่ 28 กรกฎาคม 2012, 06:20:36 »


ขอพระองค์ทรงพระเจริญ  ขอพระองค์ทรงพระเจริญ  ขอพระองค์ทรงพระเจริญ     วันนี้วันเสาร์ที่ 28 กรกฏาคม 2555
................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ.2495 เป็นวันประสูติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร***
พระราชสมภพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ มีพระนามเมื่อแรกประสูติว่า "สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ เทเวศรธำรงสุบริบาล อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัตติยราชกุมาร"[2] เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17 นาฬิกา 45 นาที ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 28 กรกฎาคม 2012, 06:25:01 โดย Siranoi » IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #50 เมื่อ: วันที่ 29 กรกฎาคม 2012, 05:57:45 »



     วันนี้วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฏาคม 2555
...........
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีก่อฤกษ์พุทธมณฑล ณ บริเวณใต้ฐานองค์พระประธานพระศรีศากยะทศพลญาณ ก่อนเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปีพ.ศ.2500***
"พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์" เป็นพระพุทธรูปยืนปางลีลาขนาดใหญ่ ประดิษฐานเป็นองค์พระประธาน ณ พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
การก่อสร้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีก่อฤกษ์พุทธมณฑล ณ บริเวณใต้ฐานองค์พระประธานเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2498 และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2500

แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฯ เสด็จประกอบพิธีสมโภช เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม

[แก้] พุทธลักษณะ"พระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์" เป็นพระพุทธรูปยืนปางลีลาขนาดใหญ่ พุทธลักษณะทรงยกพระบาทขวาจะก้าว ห้อยพระหัตถ์ขวาท่าไกว พระหัตถ์ซ้ายยกเสมอพระอุระป้องไปเบื้องหน้าเป็นกิริยาเดิน หล่อด้วยทองสำริดหนัก 17,543 กิโลกรัม โดยแบ่งหล่อเป็นชิ้นต่างๆ ขององค์พระ รวม 137 ชิ้น แล้วจึงนำไปประกอบกับโครงเหล็กบนฐานพระพุทธรูป เพื่อเชื่อมรอยต่อ และปรับแต่งให้เป็นเนื้อเดียวกัน เป็นพระพุทธรูปสูง 15.875 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปลีลา หล่อด้วยทองสำริดที่มีลักษณะงดงาม และมีขนาดใหญ่ที่สุดในสมัยรัตนโกสินทร์ [1]

โดยประยุกต์พุทธลักษณะ มาจากพระพุทธรูปปางลีลาสมัยสุโขทัย โดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ชาวอิตาลี เป็นผู้ออกแบบ ซึ่งในตอนแรกที่ออกแบบไว้นั้น พระพุทธรูปมีความสูงเพียง 2.14 เมตร แต่เพื่อให้สอดคล้องกับโอกาสที่พระพุทธศาสนาอายุครบ 2,500 ปี จึงได้มีการขยายขนาดเพื่อให้ได้เป็น 2,500 กระเบียด (1 กระเบียดเท่ากับ 1/4 นิ้ว) ดังนั้นพระศรีศากยะทศพลญาณฯ ในปัจจุบัน จึงมีความสูงถึง 15.875 เมตร ใหญ่กว่าขนาดต้นแบบ 7.5 เท่


* 120px-Phutthamonthon_Buddha (WinCE).gif (14.08 KB, 240x180 - ดู 1017 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #51 เมื่อ: วันที่ 30 กรกฎาคม 2012, 05:28:31 »

     วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๓๐ กรกฏาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๑๒  ค่ำ  เดือน ๘/๘ (เดือนสิบ / สิบ เหนือ) ปีมะโรง
......................................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2470 "โชคสองชั้น" ภาพยนตร์ฝีมือของคนไทยเรื่องแรก ออกฉายสู่สาธารณชนที่ โรงภาพยนตร์พัฒนากร กรุงเทพฯ ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก นับว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีมหาชนไปดูกันมากที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังเงียบ ถ่ายทำด้วยฟิล์มขาว-ดำขนาด 35 มม.***
     30 กรกฎาคม พ.ศ. 2470 "โชคสองชั้น" ภาพยนตร์ฝีมือของคนไทยเรื่องแรก ออกฉายสู่สาธารณชนที่ โรงภาพยนตร์พัฒนากร กรุงเทพฯ ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก นับว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีมหาชนไปดูกันมากที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังเงียบ ถ่ายทำด้วยฟิล์มขาว-ดำขนาด 35 มม. ผลิตโดยกลุ่ม "กรุงเทพฯ ภาพยนตร์บริษัท” ของพี่น้องตระกูล "วสุวัต" อำนวยการสร้างโดย นายมานิต วสุวัต บทภาพยนตร์โดย หลวงบุณยมานพพานิช ถ่ายภาพโดย หลวงกลการเจนจิต ตัดต่อโดย นายกระเศียร กำกับโดย หลวงอนุรักษ์รัถการ นอกจากนี้ยังได้จ้างทีมงานบางส่วน และอุปกรณ์การถ่ายทำ จากกองภาพยนตร์เผยแผ่ข่าว กรมรถไฟหลวง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการ ผลิตภาพยนตร์ที่มีศักยภาพที่สุด ในขณะนั้นมาช่วยถ่ายทำด้วย เรื่องราวของ ’โชคสองชั้น’ เป็นเรื่องราวของ กมล นายอำเภอหนุ่มที่ได้รับมอบหมายให้มาจับโจรร้ายที่หลบหนีมาซ่อนตัวในกรุงเทพฯ ในระหว่างนี้ กมลได้พบรักกับ วลี นางเอกที่มีหนุ่มหมายปองอยู่แล้ว คือ วิง ซึ่งเป็นคนร้ายที่พระเอกตามหาอยู่ ในที่สุดพระเอกก็ตามจับคนร้ายได้ จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง ’โชคสองชั้น’ คือได้ทั้งจับคนร้ายและได้พบรักกับนางเอก หอสมุดแห่งชาติได้ค้นพบฟิล์มและพิมพ์สำเนาใหม่เอาไว้ได้เพียง 42 ฟุต คิดเป็นภาพนิ่งทั้งหมด 1,319 ภาพ รวมความยาวประมาณ 1 นาที แต่ก็นับว่าเป็นนาทีที่มีคุณค่า เพราะเป็นประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยในยุคเริ่มต้น


* lotto2 (WinCE).jpg (20.9 KB, 260x320 - ดู 1086 ครั้ง.)

* lotto3 (WinCE).jpg (23.93 KB, 235x320 - ดู 1006 ครั้ง.)

* reply326051_01 (WinCE).jpg (13.76 KB, 196x320 - ดู 1008 ครั้ง.)

* reply325901_2 (WinCE).jpg (11.19 KB, 240x170 - ดู 1000 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #52 เมื่อ: วันที่ 31 กรกฎาคม 2012, 04:41:07 »

  วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๓๑ กรกฏาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๑๓  ค่ำ  เดือน ๘/๘ (เดือนสิบ / สิบ เหนือ) ปีมะโรง
......................................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2466 รถแท็กซี่ (Taxi) เริ่มมีขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อช่วยทหารอาสาในสงครามโลกครั้งที่ 1 ให้มีอาชีพหลังจากปลดจากราชการ โดยนำเอารถเก๋งออสติน (Austin)ขนาดเล็กออกวิ่งรับจ้าง โดยติดป้ายรับจ้างไว้ข้างหน้า-หลังของตัวรถ คิดค่าโดยสารเป็นไมล์ โดยตกไมล์ละ 15 สตางค์ ซึ่งนับว่าแพงมากเมื่อเทียบราคากับค่าโดยสารในปัจจุบัน ในสมัยนั้นจึงนิยมเรียกกันว่า "รถไมล์" เพราะเก็บค่าโดยสารตามเลขไมล์ระยะทางที่วิ่ง ในสมัยบุกเบิกใหม่ ๆ นั้นมีรถแท็กซี่อยู่เพียง 14 คัน แต่ก็ประสบปัญหาขาดทุนจนต้องเลิกกิจการในที่สุด เนื่องจากค่าโดยสารแพง***
31 กรกฎาคม พ.ศ. 2466  : เริ่มมีรถแท็กซี่ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย
     31 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 รถแท็กซี่ (Taxi) เริ่มมีขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย โดย พลโท พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เพื่อช่วยทหารอาสาในสงครามโลกครั้งที่ 1 ให้มีอาชีพหลังจากปลดจากราชการ โดยนำเอารถเก๋งออสติน (Austin) ขนาดเล็กออกวิ่งรับจ้าง โดยติดป้ายรับจ้างไว้ข้างหน้า-หลังของตัวรถ คิดค่าโดยสารเป็นไมล์ โดยตกไมล์ละ 15 สตางค์ ซึ่งนับว่าแพงมากเมื่อเทียบราคากับค่าโดยสารในปัจจุบัน ในสมัยนั้นจึงนิยมเรียกกันว่า "รถไมล์" เพราะเก็บค่าโดยสารตามเลขไมล์ระยะทางที่วิ่ง ในสมัยบุกเบิกใหม่ ๆ นั้นมีรถแท็กซี่อยู่เพียง 14 คัน แต่ก็ประสบปัญหาขาดทุนจนต้องเลิกกิจการในที่สุด เนื่องจากค่าโดยสารแพง ผู้ใช้บริการยังไม่คุ้นเคยจึงไม่ยอมนั่ง ประกอบกับเมืองกรุงเทพฯ ยังมีขนาดเล็ก และมีรถรับจ้างอื่น ๆ อยู่มากและราคาถูกกว่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 2490 ก็มีผู้นำรถยนต์นั่งมาให้บริการในลักษณะรถแท็กซี่อีกครั้ง รถที่นำมาบริการในช่วงนั้นเป็นรถยี่ห้อ เรโนลต์ (Renault) สมัยนั้นจึงเรียกแท็กซี่ว่า "เรโนลต์" ได้รับความนิยมจากคนทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากสะดวกรวดเร็วกว่ารถจักรยานสามล้อถีบ ซึ่งมีชุกชุมในยุคนั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้อาชีพขับรถแท็กซี่เป็นที่ฮือฮา มีผู้นำรถเก๋งไปทำเป็นรถแท็กซี่กันมากขึ้น จนระบาดไปต่างจังหวัด จนต้องมีการควบคุมกำหนดจำนวนรถมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันแท็กซี่ในเมืองไทยเป็นรถปรับอากาศ ติดมิเตอร์คิดอัตราค่าโดยสารตามระยะทางและเวลา โดยเริ่มต้นที่ 35 บาท พร้อมทั้งมีมีวิทยุสื่อสาร บางคันอาจมีทีวีให้ดูในระหว่างการเดินทางด้วย


* 1_display (WinCE).jpg (13.21 KB, 232x320 - ดู 1024 ครั้ง.)

* 584_thumbnail (WinCE).jpg (9.83 KB, 240x200 - ดู 988 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #53 เมื่อ: วันที่ 01 สิงหาคม 2012, 13:20:32 »

     วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ ขึ้น ๑๔  ค่ำ  เดือน ๘/๘ (เดือนสิบ / สิบ เหนือ) ปีมะโรง
......................................
1สิงหาคมในอดีต

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้พลโท เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) คุมกองทัพจากกรุงเทพฯ สมทบด้วยกำลังจากมณฑลพิษณุโลกแลพมณฑลพายัพ ไปปราบปรามกบฏโจรเงี้ยวที่จังหวัดแพร่ ได้เป็นผลสำเร็จ

๒๔๖๐

วันสถาปนา กรมจเรทหารเรือ โดยที่จอมพลเรือ สมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ได้ตราข้อบังคับกระทรวงทหารเรือให้จัดตั้ง กรมจเรทหารเรือ ขึ้น โดยมีจเรทหารเรือเป็นประธาน ขึ้นตรงต่อเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ

๒๔๗๔

วันเกิด พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)



* imagesCA5UYK5T (WinCE).jpg (10.07 KB, 289x320 - ดู 1169 ครั้ง.)

* imagesCAMSUHK9 (WinCE).jpg (9.52 KB, 243x320 - ดู 1166 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #54 เมื่อ: วันที่ 03 สิงหาคม 2012, 07:17:03 »

    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๑  ค่ำ  เดือน ๘/๘ (เดือนสิบ / สิบ เหนือ) ปีมะโรง
....................................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2500 การประกาศผลรางวัลตุ๊กตาทอง จัดขึ้นเป็นครั้งแรก***

การประกวดภาพยนตร์ ชิงรางวัลตุ๊กตาทอง และสำเภาทอง ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2500 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2500 ณ เวทีลีลาศ สวนลุมพินี จัดโดยหอการค้ากรุงเทพ โดยมีนายสงบ สวนสิริ เป็นประธานกรรมการ

เนื่องจากการประกวดครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีแรก ทางผู้จัดงานจึงไม่ได้จำกัดปีของภาพยนตร์ ทำให้มีภาพยนตร์ไทยทั้งเก่าและใหม่เข้าประกวดปะปนกัน ทั้งสิ้น 52 เรื่อง มีภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในระบบ 35 มม.เข้าประกวด 4 เรื่อง คือ ชั่วฟ้าดินสลาย (2498) (หนุมานภาพยนตร์) จอมไพร (2500) (วิจิตรเกษมภาพยนตร์) ถ่านไฟเก่า (2500) และ สองพี่น้อง (2501) (อัศวินภาพยนตร์) และภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในระบบ 16 มม. จำนวน 48 เรื่อง

ผลการประกวดภาพยนตร์มีการประกาศอย่างเป็นทางการในงานบอลรูม ณ สวนลุมพินีสถาน เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2500 มีการชุมนุมดาราภาพยนตร์ นักแสดงและผู้ประกอบอุตสาหกรรมภาพยนตร์ มีการลีลาศชิงรางวัล แต่ปรากฏว่าผลการประกวดภาพยนตร์ไทยในครั้งนี้ กลับมีการตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ และนิตยสารก่อนวันงาน

ประวัติการประกวดภาพยนตร์ชิงรางวัลตุ๊กตาทอง มีแนวคิดเริ่มแรกมาจากบทความของนายสงบ สวนศิริ ในนิตยสารตุ๊กตาทอง เมื่อ พ.ศ. 2496 [1] ที่จะจัดการประกวดภาพยนตร์ในปีนั้น แต่แล้วก็ไม่ได้จัด

การประกวดภาพยนตร์ เกิดขึ้นได้ในที่สุด ในปี พ.ศ. 2500 โดยการสนับสนุนของ หอการค้ากรุงเทพ โดยเป็นส่วนหนึ่งของ "งานสัปดาห์แห่งการแสดงอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และเกษตรกรรม" ของหอการค้ากรุงเทพฯ ที่จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2500 มีการแต่งตั้งคณะทำงานประกอบด้วย คณะกรรมการดำเนินงาน มีนายสงบ สวนสิริ เป็นประธาน และคณะกรรมการตัดสินภาพยนตร์ ประกอบด้วย นักประพันธ์ นักวิจารณ์ นักเซ็นเซอร์ นักหนังสือพิมพ์ และผู้ที่ดูภาพยนตร์เป็นประจำ ประกอบด้วย พ.ท.จง แปลกบรรจง, พ.ต.ต.ปรีชา จงเจริญ, พ.ต.ต.ประสัตถ์ ปันยารชุน, แก้ว อัจฉริยกุล, ศักดิ์เกษม หุตาคม, ระบิล บุนนาค, ลมูล อติพยัคฆ์, กาญจนา ศยามานนท์, และเถาวัลย์ มงคล [2]



* 75PX-(~1 (WinCE).JPG (15.3 KB, 202x320 - ดู 1001 ครั้ง.)

* 76PX-(~1 (WinCE).JPG (15.43 KB, 204x320 - ดู 990 ครั้ง.)

* 80PX-_~1 (WinCE).JPG (12.76 KB, 213x320 - ดู 979 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #55 เมื่อ: วันที่ 04 สิงหาคม 2012, 09:37:21 »

     วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๒  ค่ำ  เดือน ๘/๘ (เดือนสิบ / สิบ เหนือ) ปีมะโรง
....................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2426 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งกรมไปรษณีย์และเปิดทำการไปรษณีย์อย่างเป็นทางการ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เหนือปากคลองโอ่งอ่าง เรียกว่า ไปรษณียาคาร***
ยุคเริ่มก่อตั้งระบบไปรษณีย์ของประเทศไทย เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบกิจการไปรษณีย์ในสมัยแรกคือ กรมไปรษณีย์ เปิดให้บริการเป็นครั้งแรก ณ วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2426 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ไปรษณียาคาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ปากคลองโอ่งอ่าง ปัจจุบันรื้อทิ้งเพื่อสร้างสะพานพระปกเกล้า (แต่มีการสร้างใหม่ที่ตำแหน่งใกล้เคียงเพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในอนาคต)

ในระยะแรกที่ให้บริการ ครอบคลุมเฉพาะกรุงเทพเท่านั้น เมื่อ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2428 จึงเริ่มขยายไปต่างจังหวัดโดยเปิดที่ทำการไปรษณีย์ที่สมุทรปราการและนครเขื่อนขันธ์ (พระประแดง ในปัจจุบัน) และขยายต่อจนถึงเชียงใหม่ในเดือนตุลาคมของปีเดียวกัน ส่วนบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศ เริ่มเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2428 หลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกสหภาพสากลไปรษณีย์

ในปี พ.ศ. 2441 กรมไปรษณีย์ได้เปลี่ยนชื่อเป็น กรมไปรษณีย์โทรเลข หลังจากมีการควบรวมเอา กรมไปรษณีย์ และ กรมโทรเลข ซึ่งดูแลงานด้านโทรเลข เข้าด้วยกัน เมื่อ พ.ศ. 2483 ได้มีการเปิด ที่ทำการไปรษณีย์กลาง ขึ้นบนถนนเจริญกรุง เขตบางรัก และใช้เป็นที่ทำการของกรมไปรษณีย์โทรเลข

[แก้] ยุครัฐวิสาหกิจเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 ได้เปลี่ยนสถานะจากหน่วยงานราชการมาเป็นรัฐวิสาหกิจใช้ชื่อว่า การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.)[1]

และเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2546[2] มีการปรับโครงสร้างอีกครั้งตามนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยแยกการสื่อสารแห่งประเทศไทย เป็น บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบัน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้ดูแล บริการด้านไปรษณีย์ทั้งหมด มีสำนักงานใหญ่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ




* imagesCAST7IH6 (WinCE).jpg (8.88 KB, 240x161 - ดู 953 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #56 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2012, 05:43:30 »

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๔  ค่ำ  เดือน ๘/๘ (เดือนสิบ / สิบ เหนือ) ปีมะโรง
...............................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ (ลิตเติลบอย) ถล่มนครฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 80,000 คน สิ้นปีมีผู้เสียชีวิตอีก 60,000 คน จากการได้รับกัมมันตภาพรังสี คาดว่ามีผู้เสียชีวิตรวมจากเหตุการณ์นี้ราว 200,000 คน ***
...................



...................



..................

IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
@เชียงแสน
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,359


..ทุกลมหายใจคือการเปลี่ยนแปลง..


« ตอบ #57 เมื่อ: วันที่ 06 สิงหาคม 2012, 21:05:04 »

 ยิ้ม...อีกหนึ่งกระทู้ความรู้ดีดี ที่ผมเข้ามาอ่านเสมอ ๆ ครับ...  ยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #58 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2012, 05:37:17 »

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๕
ตรงกับ แรม ๕  ค่ำ  เดือน ๘/๘ (เดือนสิบ / สิบ เหนือ) ปีมะโรง
...............................
***วันนี้ในอดีต เมื่อพ.ศ. 2508 (ค.ศ. 1965) วันเสียงปืนแตก พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้ใช้กำลังอาวุธโจมตีกองกำลังของรัฐบาลไทยเป็นครั้งแรก กองกำลังของพรรคได้เรียกตนเองว่า กองทัพปลดแอก ประชาชนแห่งประเทศไทย (ทปท.) เหตุเกิดที่ บ้านนาบัว ตำบลเรณูนคร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ***
“วันเสียงปืนแตก”


การดำเนินงานของขบวนการคอมมิวนิสต์ เพื่อจะเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทย ให้เป็นรัฐสังคมนิยมคอมมิวนิสต์นั้น


ได้ดำเนินมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้จัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) ขึ้นในปลายปี พ.ศ.2485


เป็นพรรคการเมืองที่ถูกกฎ หมาย แต่ได้ดำเนินการอันเป็นปฏิปักษ์กับการปกครองของไทยเรื่อยมา


ครั้นในปี พ.ศ.2492 เมื่อถูกฝ่ายรัฐบาลปราบปรามจับกุม จึงเคลื่อนไหวออกจากเมืองเข้าสู่ป่า จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ และดำ เนินการต่อต้านอำนาจรัฐรุนแรงขึ้น


จนกระทั่งรัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.การกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ในปี พ.ศ.2495 และเมื่อ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2501 ได้ทำการปราบปรามขั้นเด็ดขาด ได้ประหารชีวิตบุคคลซึ่งเป็นแกนนำของฝ่าย พคท.เช่น นายครอง จันดาวงศ์ และนายรวม วงศพันธ์ เป็นต้น

พคท.จึงปรับยุทธศาสตร์การต่อสู้ โดยใช้แนวคิดของ เหมา เจ๋อ ตุง คือยุทธศาสตร์ “ป่าล้อมเมือง” ปลุกระดมมวลชนชาวไร่ชาวนาในชนบทให้เข้าร่วมขบวนการเป็นแนวร่วม


จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ สถานปนาฐานที่มั่น และขยายเขตงาน จนกระทั่งสถานการณ์เอื้ออำนวย คืองานการเมืองสุกงอม ประชาชนแนวร่วมและกองกำลัง พร้อมที่จะจับอาวุธต่อสู้กับอำนาจรัฐแล้ว สงครามกองโจรจึงระเบิดขึ้นเมื่อ วันที่ 7 สิงหาคม 2508 อันเป็นที่มาของ “วันเสียงปืนแตก”

เครดิตโดย...
http://www.baanmaha.com/community/thread36253.html


* phukitau1 (WinCE).jpg (10.72 KB, 240x190 - ดู 943 ครั้ง.)
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
Siranoi
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,101


เฒ่า! สดใส วัยซน..


« ตอบ #59 เมื่อ: วันที่ 07 สิงหาคม 2012, 05:39:50 »

ยิ้ม...อีกหนึ่งกระทู้ความรู้ดีดี ที่ผมเข้ามาอ่านเสมอ ๆ ครับ...  ยิ้ม
ขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

" ... ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ... "
๘ นาฬิกา และ ๑๘ นาฬิกา Sitiya_por@hotmail.com
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!