เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 มีนาคม 2024, 04:21:42
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  บอร์ดกลุ่มชมรม
| |-+  ชมรมนักกลอน
| | |-+  .... นำมาฝาก ....
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน .... นำมาฝาก ....  (อ่าน 2326 ครั้ง)
little girl
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,174



« เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2012, 05:36:55 »


รุ้งวันนี้สีหวานกว่าวันไหน
ผสมใจหวามหวิวกว่าทิวสน
ความเย็นคืบจนเยียบเทียบกมล
ละอองฝนยังว่อนอ้อนฟ้างาม

อะไรหรือเป็นใจให้รอบทิศ
สำแดงฤทธิ์โบยโบกโลกอร่าม
วันดีดีศรีวันสรรนิยาม
กับคำถามอาเพศด้วยเหตุใด

ฤาเป็นเพราะบอร์ดกลอนอักษรขวัญ
กระตุ้นวัตรอัศจรรย์จนหวั่นไหว
ฤาถ้อยงามของกลอนอักษรไทย
กระชากใจทวยเทพชวนเสพกัน

รุ้งยามนี้จึงหวานกว่าวันไหน
แม้แต่ใจยังเต้นเน้นสร้างสรรค์
ส่งให้วารต่อไปไฟอนันต์
มีแต่ความหฤหรรษ์เฉิดฉันรอ

ด้วยใจรู้ว่าโลกโชกด้วยฝัน
ทุกทุกวันมีสุขทุกพอศอ
หากมีคนร้อยฝันขวัญลออ
กิ่งกานท์ช่อกวีทวีบาน

ส่งทุกสิ่งงามงดสู่บทฝัน
ส่งใจดั้นโอนอ่อนกับกลอนหวาน
บ้านกลอนน้อยกลอยใจดุจสายธาร
เปรียบอาหารทางใจ..ในโลกกลอน..

พี่ระนาดเอกจ้ะ

ปล.พี่ระนาดเอกมาเยี่ยมบ้านกลอนน้อย บอร์ดกลอนน้องใหม่
ขอให้บอร์ดกลอนแห่งนี้ เป็นที่สังสรรค์ของผู้มีใจรักงานวรรณศิลป์
และขอให้มีความสุข อยู่ในโลกของการสร้างสรรค์งานวรรณศิลป์นะจ๊ะ..





กราบขอบคุณ ท่านครู"ระนาดเอก" เป็นอย่างสูง
ที่กรุณาให้เกียรติมาเยือนบ้านกลอนน้อยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 09 กรกฎาคม 2012, 19:13:07 โดย little girl » IP : บันทึกการเข้า

>_อนัตตา_<
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,367



« ตอบ #1 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2012, 07:54:21 »

ไพเราะจังเลยค่ะยายต้า  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
little girl
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,174



« ตอบ #2 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2012, 07:55:54 »


เราทำได้เพียงครึ่งนี้  ก็หรูแล้วเน๊อะ  น่าอิจฉาจริง.... ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

>_อนัตตา_<
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,367



« ตอบ #3 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2012, 08:02:37 »

หนูเหรอค่ะ ไม่ติดฝุ่นเลยค่ะ แห่ะๆๆๆ อายจัง อายจัง อายจัง

IP : บันทึกการเข้า
little girl
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,174



« ตอบ #4 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2012, 14:05:54 »



เสน่ห์โศก


เมื่อฟ้าหม่น ระคนหมอก หยอกอุษา
สกุณา ถลาร่อน อ้อนฟ้าเหงา
ผกากรอง ผจงกราย คลายกลีบเบา
คิดถึงเจ้า เนาแนบจิต ติดตรึงตรา

อวลละออง เกสรกรุ่น มิอุ่นจิต
คะนึงคิด อวลปรางกรุ่น อุ่นนาสา
วสันต์โปรย โรยอักษร วอนฝากมา
หยาดโลมหล้า หยดเผาะผล็อย เป็นรอยพราว

สว่างเศร้า เสน่ห์โศก โบกสบัด
พระพายพัด พรมระบาย ถึงปลายหาว
ส่งเศษเหงา เคล้าเสน่ห์ เร่หาดาว
เมื่อโรยร้าว แสงตะวัน ยังพลันเลือน

ปีกแห่งรัก บินคว้างไป ในฟ้ากว้าง
โบกปีกบาง ร่างระเห เล่ห์รักเฉือน
นับนาที กี่วันผ่าน นานปีเดือน
วนเวียนว้าง แรมทางเถื่อน หวังเยือนเธอ

เมื่อฝนพรำ ฉ่ำน้ำฟ้า อุษาเศร้า
แฝงรักเฝ้า รอตะวัน ฝันจิตเผลอ
ตะวันลืม อุษารอ พ้อละเมอ
พร่างฝนพรำ น้ำตาเอ่อ เพ้อครวญคำ



โดย...ท่านกิมอุดั่น
ok nation


IP : บันทึกการเข้า

little girl
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,174



« ตอบ #5 เมื่อ: วันที่ 02 มิถุนายน 2012, 14:24:59 »




กาพย์ยานี ๑๑   หนาวเหนือ  














โดย..ท่านอิมกุดั่น  จาก ok nation  





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มิถุนายน 2012, 14:40:30 โดย little girl » IP : บันทึกการเข้า

little girl
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,174



« ตอบ #6 เมื่อ: วันที่ 06 มิถุนายน 2012, 08:47:51 »




รอยนาง


ครั้งจำจากพรากลาน้ำตาหลั่ง
ถะโถมถั่งพรั่งพรูลงสู่เบื้อง
ตระกองโลมโจมจิตมิคิดเคือง
หมายปลิดเปลื้องเรื่องช้ำที่กล้ำกลืน

ดั่งปักษาคราบินพลัดถิ่นฝูง
ป่ายางยูงสูงงามกลับคร้ามขืน
ความว้าเหว่เอกาต้องฝ่ายืน
กลั้นสะอื้นฝืนแท้ดวงแดครวญ

คอยวันโบยบินคืนป่าผืนเก่า
รวงรังเนาเหย้าสถิตครุ่นคิดหวน
มาครองเคียงเพียงขวัญรื่นรัญจวน
ให้สิ้นอวลมวลเหงาที่เคล้าเคย

ห้วงเพรงกาลวารผันแม้นสั้นนัก
หมายมั่นจักภักดีพี่เฉลย
ในอ้อมอุ่นกรุ่นรื่นคะครื้นเชย
กระซิบเผยเอ่ยความเจ้าทรามวัย

ยึดถือคำจำนรรจ์ที่กลั่นถ้อย
สลักร้อยรอยนางแต่ปางไหน
พิไรร่ำคำขานเข้าดาลใจ
อย่ายอมให้ชายอื่นได้ชื่นชม

เยื่อใยรักถักทอต่อผสาน
อาจร้าวรานพานทุกข์ฤๅสุขสม
จงพร้อมรับสรรพแห่งระทม
จักกี่ขมข่มกลั้นอย่าหวั่นตาม

จึงกรองกานท์จารถ้อยเรียงร้อยพจน์
เอื้อนเพียงบทรสหวานบนลานหวาม
เฝ้ารังสรรค์ปันส่งสู่นงราม
แม้นในยามความทุกข์รุกกมล



โดย "ท่านปภัสร์" จากเวป natpapas

IP : บันทึกการเข้า

little girl
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,174



« ตอบ #7 เมื่อ: วันที่ 08 กรกฎาคม 2012, 14:54:09 »


นกขมิ้น

เขาคลอขลุ่ยครวญเสียงเพียงแผ่วผิว
ชะลอนิ้วพลิ้วผ่านจากมานหมอง
โอดสะอื้นอ้อยอิ่งทิ้งทำนอง
เป็นคำพร้องพริ้งพรายระบายใจ

 โอ้ดอกเอ๋ยเจ้าดอกขจร
นกขมิ้นเหลืองอ่อน จะนอนไหน
ค่ำลงแล้วแนวพนาและฟ้าไกล
เจ้านอนได้ทุกเถื่อนท่าไม่อาทร

 แล้วหวนเสียงเรียงนิ้วขึ้นหวิวหวีด
เร่งอดีตดาลฝันบรรโลมหลอน
ถี่กระชั้นสั่นกระชากใจจากจร
ระเรื่อยร่อนเร่มาเป็นอาจิณ

  โอ้ใจเอ๋ยอ้างว้างวังเวงนัก
ไร้แหล่งพักหลักพันจะผันผิน
เพิ่มแต่พิษผิดหวังยังย้ำยิน
ระด่าวดิ้นโดยอนาถแทบขาดใจ

 ข้าเคยฝันถึงฟ้ากว้างกว่ากว้าง
ฝันถึงปางทับเปลี่ยวเรี่ยวน้ำไหล
ถึงช่อเอื้องเหลืองระย้าคาคบไม้
ในแนวไพรนึกเหมือนเป็นเพื่อนเนา

  รู้รสแรงแห่งทุกข์และสุขสิ้น
บนแผ่นดินแผ่นเดียวเปลี่ยวและเหงา
จิบน้ำใจจนทั่วเจียนมัวเมา
ไร้ร่มเงารังเรือนและเพื่อนตาย

  เขาเคลียนิ้วเนิบนุ่มเสียงทุ้มพร่า
เหมือนหวนหาโหยไห้น่าใจหาย
เจ้าขมิ้นเหลืองอ่อนนอนเดียวดาย
จะเหนื่อยหน่ายหนาวน้ำค้างที่กลางดง

 เสียงฉับฉิ่งหริ่งรับขยับเร่ง
จะพรากเพลงเพื่อนยินสิ้นเสียงส่ง
เขาเบือนนิ้วผิวแผ่วแล้วราลง
เสียงนั้นคงเน้นครางอย่างห่วงใย

  เจ้าดอกเอยดอกขจรอาวรณ์ถวิล
นกขมิ้นเหลืองอ่อนจะนอนไหน
เขาวางขลุ่ยข่มน้ำตาว้าเหว่ใจ
ตอบไม่ได้ดอกหนาข้าคนจร



เนาวรัตน์  พงษ์ไพบูลย์
จาก"คำหยาด"



IP : บันทึกการเข้า

little girl
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,174



« ตอบ #8 เมื่อ: วันที่ 09 กรกฎาคม 2012, 19:13:22 »



                 ดาวลวง



ราตรีที่เนิ่นนานรัตติกาลที่ยาวไกล
ฉุดลากกระชากใจให้หวั่นไหวในเอกา
น้ำตาเริ่มท่วมท้นความหมองหม่นยลเยือนหา
อ้างว้างค้างดวงหน้าดั่งเมฆาพร่าดวงเดือน

ยามร้างห่างไกลรักอกกระอักจักย้ำเตือน
ตอกซ้ำความปนเปื้อนกระจายเกลื่อนเคลื่อนในทรวง
ความท้อความถดถอยทีละน้อยค่อยคืบล่วง
ให้รักหักทั้งดวงเช่นสายบ่วงควงบาดคา

มองดาวเหมาทึกทักว่าเราจักเอื้อมไขว่คว้า
แท้จริงสิ่งลวงตาแค่มายาล่อลวงจินต์
ทำได้เพียงแค่มองกับเสียงร้องก้องถวิล
ยามใจใกล้ดับสิ้นไร้แม้กลิ่นรักอาวรณ์

สุดท้ายเหลือเพียงฝันเฝ้ารำพันปั้นหลอกหลอน
ขาดทรวงห่วงอาทรพาริดรอนก่อนจากจาง
ฝากดาวแลเดือนจ้าเก็บน้ำตาคราอ้างว้าง
ให้คนเคยเคียงข้างที่ทิ้งขว้างอย่างเย็นชา....



โดย....ท่านเมฆา


IP : บันทึกการเข้า

หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!