
....................MP JVC KD-461.............NEW PRODUCT 2015........................

กลุ่มตลาดเฮดยูนิต ซิงเกิ้ล ซีดี ในปัจจุบันยังคงเป็นตลาดที่มีการแข่งขันในระดับสูง และผู้ที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ จะเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ญี่ปุ่น ซึ่ง JVC เป็นผลิตภัณฑ์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในระดับต้นๆ ของตลาดเครื่องเสียงรถยนต์
JVC KD-R461 เป็นเฮดยูนิต ซิงเกิ้ล ซีดี รุ่นใหม่ปี 2015 ของ JVC ในอนุกรม KD-R ที่ได้รับการออกแบบพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การฟังเพลงของนักเล่นเครื่องเสียงรถยนต์ ภายใต้การคัดสรรและเลือกเฟ้นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาบรรจุเอาไว้ภายในตัวเครื่องอย่างพร้อมมูล โดยยังคงไว้ซึ่งความสามารถในการถ่ายทอดรายละเอียดความเป็นดนตรี
บรรจุภัณฑ์คุ้นตา
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ของ KD-R461 ยังคง ใช้แนวทางเดียวกันกับปีที่ผ่านมา คือ ใช้โทนสี ขาว และ ดำ โดยจัดวางสีพื้นให้สอดคล้องกันเพื่อให้เกิดการตัดกันของสี กลายเป็นความสวยงามที่ดูแปลกตาไปอีกแบบ และดูคลาสิคอีกด้วย
ด้านหน้ากล่องใส่เครื่อง นอกจากจะมีรูปด้านหน้าตัวเครื่องของแล้ว ยังมีเส้นลายกราฟฟิคพาดที่กึ่งกลางกล่องเพิ่มความสวยงามมากยิ่งขึ้น สังเกตว่า ที่ตัวกล่องจะเน้นเรื่องการชูประเด็นของฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ คือ ระบบช่องต่อ USB และ AUX Input ด้านหน้าเครื่อง...รูปตัวเครื่องที่มีการนำมาลงที่ด้านข้างของกล่อง มีอยู่หลายด้านด้วยกัน รูปภาพหน้าปัดเครื่องของ KD-R461มีอยู่หลากหลายมุมมองเห็นชัดเจนในระยะไกล เรียกว่าสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นมิใช่น้อย
อุปกรณ์มาตรฐานประจำเครื่อง
อุปกรณ์มาตรฐานประจำเครื่องของ วิทยุซิงเกิ้ล ซีดี รุ่นนี้ มีให้ค่อนข้างครบ ประการแรก คือ การออกแบบระบบป้องกันตัวเครื่องชำรุดเสียหายขณะขนส่งหรือขนย้าย ด้วยระบบโฟมป้องกันการกระแทก ในสไตล์ของ JVC คือ การฉีดขึ้นรูปโฟม ครอบทับตามแนวยาวของตัวเครื่อง ทั้ง 2 ด้าน...อุปกรณ์มาตรฐานประจำเครื่องของเฮดยูนิตรุ่นนี้ประกอบด้วย ซองใส่หน้าปัดเครื่อง, รีโมทคอนโทรลไร้สาย สไตล์พวงกุญแจ ขนาดเล็กกะทัดรัด, ชุดสายไฟ และคู่มือติดตั้งเดินสาย คู่มือการใช้งานเครื่อง
ด้านหลังเครื่องเรียบง่ายระบายความร้อนได้ดี
ตัวเครื่องของ KD-R461ดูสะอาดตามากขึ้นนอกจากหน้าปัดเครื่อง ที่ออกแบบได้อย่างสวยงาม มีเอกลักษณ์แล้ว ในส่วนด้านหลังเครื่องก็ได้รับการออกแบบ ให้ดูโล่งตามากยิ่งขึ้น โดยด้านหลังเครื่อง มีการออกแบบชุดแผ่นระบายความร้อน (Heat Sink) อยู่กึ่งกลางด้านหลังของเครื่อง ที่แตกต่างจากไลนือัพล่าสุดคือ ตัวครีบระบายความร้อนมีการออกแบบให้มีครีบและเป็นแบบอุโมงค์ลม มีจุดเด่นในการดึงความร้อนออกจากตัวเครื่อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้วต่อ ช่องต่อ ด้านหลังเครื่องของ วิทยุซิงเกิ้ล ซีดี รุ่นนี้ มีการออกแบบจัดวางในตำแหน่งมาตรฐานที่ JVC นิยมใช้งาน กล่าวคือ เมื่อหันหน้าเข้าด้านหลังเครื่อง มุมด้านซ้าย จะเป็นช่องต่อ สายอากาศ ภาครับวิทยุ ถัดเข้าเป็นช่องต่อ สัญญาณ Line Output 1 คู่ ซึ่งตามข้อมูลผู้ผลิตสามารถส่งสัญญาณออได้ทั้งแบบฟูลเรจน์ หรือ จะปล่อยออกเป็นสัญญาณซับวูฟเฟอร์ (LPF) ก็สามารถทำได้
รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสไตล์ใหม่
KD-R461ได้รับการออกแบบรูปลักษณ์ในสไตล์สีดำทะมึนดูดุดันขณะเดียวกันแฝงความหรูหราโฉบเฉี่ยวเอาไว้ด้วย แม้ช่องใส่แผ่นจะเป็นแบบSlot In แต่การออกแบบที่ลงตัวทำให้ไม่ดูแปลกแยก การวางตำแหน่งของปุ่มควบคุมบนหน้าปัด มีการจัดระเบียบให้ควบคุมสั่งการได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มของปุ่มควบคุมการทำงานหลักเป็นปุ่มทรงกลมที่ดูสวยงามและควบคุมสั่งการได้ง่าย
ที่โดดเด่นและสร้างความสวยงามให้กับหน้าปัดเครื่องรุ่นนี้คือ การออกแบบปุ่ม POWER ออกแบบจัดวางไว้กึ่งกลางแถวล่างคั่นระหว่างชุดปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นการกดเลือกปรีเซ็ทจูนเนอร์และแทรคเพลงของเครื่อง ชุดจอแสดงผลการทำงานซึ่งออกแบบให้มีฝาครอบดิสเพลย์แบบโค้งนูน ซึ่งทำให้ตัวเครื่องดุหรูหรา เมื่อสอดรับกับชุดปุ่มควบคุมที่ออกแบบเป็นปุ่มกดสไตล์โค้งมนทำให้สอดรับลงตัวอย่างยิ่ง
ฟังก์ชั่นครบครัน
ในแง่ของฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกในการใช้งานพบว่า มีให้มาค่อนข้างครบ ระบบปรับเสียงทุ้ม,แหลม เพิ่มการปรับความถี่เสียงย่านเสียงกลางมาให้ แถมด้วยฟังก์ชั่นพาราเมตริกอีควอไลเซอร์ 3 ย่านความถี่ ตั้งปรีเซ็ทเสียง / หน่วยความจำ ซึ่งสามารถปรับตั้งค่าความถี่ได้หลากหลาย เพื่อปรับตั้งค่าร่วมกับฟังก์ขั่นลาวด์เนส ภาครับวิทยุ ระบบAM/FM ควอทซ์ ซินธิไซธ์ ภาครับFM ระบบ HS Tuner เน้นเรื่องความไวการรับสัญญาณ
ภาคเครื่องเล่น รองรับการเล่นแผ่นCD มาตรฐาน แผ่นCD-R แผ่นCD MP3/WMA ช่องต่อ AUX Input มีมาให้ 1 ชุด ที่หน้าปัดเครื่อง ช่องต่อ Line Output 1 คู่ มีภาคขยายไฮ-เพาเวอร์ มอสเฟท กำลังขับ 50 วัตต์x4 ในตัว ให้รีโมทคอนโทรลไร้สายขนาดกะทัดรัดมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ช่องต่อ USB รองรับการเชื่อมต่อ USB Handy drive รองรับ iPod iPhone รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนต่างๆ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เมื่อโหลดApp.ใน Playstore อย่างเช่น แอพ JVC Smart Music Control ver.3 จะเพิ่มความสามารถในการควบคุมสั่งการได้หลากหลายมายิ่งขึ้น
การทดสอบ/ผลการทดสอบ
เครื่องนี้, ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ก็ต้องเบิร์นอินไป-ฟังกันไปเรื่อยๆ โดยใช้ชุดทดสอบขาประจำ เปลี่ยนเฉพาะเฮดยูนิตเท่านั้น...แต่แรกที่ได้ยินนั้นบอกได้เลยว่า โอบะเต็งบ่องตง เสียงกรีดกีตาร์ก็ให้ความนวนเนียน มีความกระด้างของเส้นสายโลหะอยู่ค่อนข้างน้อย เสียงเบสและเสียงร้องตรึงอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง คงที่ มีความกังวาลเนียนนุ่มอย่างที่ควรเป็น พร้อมให้น้ำหนักเสียงโดยรวมในระดับที่รับได้ แต่ก็มีความรู้สึกว่า มันยังไม่เข้าที่ เข้าทางดีนัก
..............จุดเด่นเครื่องเล่น CD ของ JVC ที่ไม่เคยเปลี่ยน และยังคงเข้มขลังอยู่เสมอก็คือ..........................
มีความเป็นกลางในน้ำเสียงสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดุลเสียง การถ่ายทอดท่วงทำนองและลีลาของศิลปิน ถ่ายทอดดุลเสียงออกมา แฝงไว้ด้วยความสะอาด ราบรื่น และต่อเนื่อง มีมวลเสียงเข้มข้นพอเหมาะ คือไม่หนาไม่บาง ให้โฟกัส ความเป็นตัวตนชัดคม แต่ไม่ขึ้นขอบ มีลีลาค่อนไปทางขยันขันแข็ง อิมแพ็คและการย้ำเน้น ที่ทำออกมาได้ดี หรือแม้แต่ความนุ่มนวลอ่อนหวานในน้ำเสียง ที่พอเพียงต่อความเพลิดเพลินในการรับฟังเพลงต่างๆ...ถ่ายทอดความเป็นดนตรีออกมาได้ดี เปี่ยมด้วยรายละเอียดความถี่เสียงในย่านต่างๆ ที่ค่อนข้างครบถ้วน โดยเฉพาะความเป็นดนตรี นั้นต้องยอมรับว่าภาคเครื่องเล่น ของเฮดยูนิตรุ่นนี้มีศักยภาพการถ่ายทอดความเป็นดนตรีในระดับสูงประดุจเครื่องเล่น CD บ้านก็ไม่ปาน ที่สำคัญการสวิงไดนามิกเสียงถือว่าน่าประทับใจกว่ารุ่นพี่ๆ
ประเด็นของโทนัล แอคคูเรซี่ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ทำให้การฟังเพลงได้อรรถรส ส่วนเมื่อฟังเพลงประเภทไฟล์เพลงMP3 จาก แผ่น หรือจาก USB ก็ทำได้ไม่เลว แต่ถ้าต้องการมวลเบสที่ดูมีน้ำหนักแนะนำว่า ให้ใช้ฟังก์ชั่นลาวด์เนสช่วยจะทำให้ได้อรรถรสในการฟังเพลงได้ดีกว่าการฟังแบบแฟลต...ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ แยกแยะได้ดังนี้
ย่านเสียงกลาง
มีความสด สะอาด เปิดเผย และแม่นยำ สามารถตรึงตำแหน่งได้นิ่ง พร้อมทั้งให้ทรวดทรวงเป็นสามมิติไม่บี้แบน ปราศจากอาการบีบเค้น ตรงข้ามกลับให้ความรู้สึกปลดปล่อย แต่แฝงไว้ด้วยความหนักแน่นและรายละเอียด ที่ถึงพร้อมด้วยความ ต่อเนื่องเป็นดนตรี...จากเสียงร้องในหลายๆอัลบั้ม เป็นเสียงร้องไม่ได้ออกหวาน พิรี้พิไรในทันทีที่แรกฟัง
แต่ก็น่าสนใจและน่าติดตาม ด้วยรายละเอียดอันเปิดเผย ชัดถ้อยชัดคำ และการย้ำเน้นหนักเบาอย่างมีศิลป์ เสียงเครื่องดนตรีอย่างแซกโซโฟน มีความปลดปล่อย มีมวลเสียงที่อิ่มเอิบ และหนักแน่นด้วยลีลาการย้ำเน้นหนักเบา อย่างน่าติดตาม...เสียงพวกเครื่องสาย ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีไม่แพ้กัน สามารถถ่ายทอดอากัปกิริยาของเครื่องดนตรีประเภทนี้ได้อย่างมีอรรถรส มีลีลาเป็นไปตามท่วงทำนอง มีความสงัดแยกแยะเสียงต่อเสียง เป็นพยางค์ๆและมีวรรคตอนอย่างน่าสนใจยิ่ง!
หน้าหลัก > ทดสอบผลิตภัณฑ์ > JVC KD-R461
JVC KD-R461
ส่งบทความนี้ต่อ พิมพ์หน้านี้
กลุ่มตลาดเฮดยูนิต ซิงเกิ้ล ซีดี ในปัจจุบันยังคงเป็นตลาดที่มีการแข่งขันในระดับสูง และผู้ที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ จะเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ญี่ปุ่น ซึ่ง JVC เป็นผลิตภัณฑ์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในระดับต้นๆ ของตลาดเครื่องเสียงรถยนต์
JVC KD-R461 เป็นเฮดยูนิต ซิงเกิ้ล ซีดี รุ่นใหม่ปี 2015 ของ JVC ในอนุกรม KD-R ที่ได้รับการออกแบบพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การฟังเพลงของนักเล่นเครื่องเสียงรถยนต์ ภายใต้การคัดสรรและเลือกเฟ้นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาบรรจุเอาไว้ภายในตัวเครื่องอย่างพร้อมมูล โดยยังคงไว้ซึ่งความสามารถในการถ่ายทอดรายละเอียดความเป็นดนตรี
บรรจุภัณฑ์คุ้นตา
การออกแบบบรรจุภัณฑ์ของ KD-R461 ยังคง ใช้แนวทางเดียวกันกับปีที่ผ่านมา คือ ใช้โทนสี ขาว และ ดำ โดยจัดวางสีพื้นให้สอดคล้องกันเพื่อให้เกิดการตัดกันของสี กลายเป็นความสวยงามที่ดูแปลกตาไปอีกแบบ และดูคลาสิคอีกด้วย
ด้านหน้ากล่องใส่เครื่อง นอกจากจะมีรูปด้านหน้าตัวเครื่องของแล้ว ยังมีเส้นลายกราฟฟิคพาดที่กึ่งกลางกล่องเพิ่มความสวยงามมากยิ่งขึ้น สังเกตว่า ที่ตัวกล่องจะเน้นเรื่องการชูประเด็นของฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ คือ ระบบช่องต่อ USB และ AUX Input ด้านหน้าเครื่อง...รูปตัวเครื่องที่มีการนำมาลงที่ด้านข้างของกล่อง มีอยู่หลายด้านด้วยกัน รูปภาพหน้าปัดเครื่องของ KD-R461มีอยู่หลากหลายมุมมองเห็นชัดเจนในระยะไกล เรียกว่าสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นมิใช่น้อย
อุปกรณ์มาตรฐานประจำเครื่อง
อุปกรณ์มาตรฐานประจำเครื่องของ วิทยุซิงเกิ้ล ซีดี รุ่นนี้ มีให้ค่อนข้างครบ ประการแรก คือ การออกแบบระบบป้องกันตัวเครื่องชำรุดเสียหายขณะขนส่งหรือขนย้าย ด้วยระบบโฟมป้องกันการกระแทก ในสไตล์ของ JVC คือ การฉีดขึ้นรูปโฟม ครอบทับตามแนวยาวของตัวเครื่อง ทั้ง 2 ด้าน...อุปกรณ์มาตรฐานประจำเครื่องของเฮดยูนิตรุ่นนี้ประกอบด้วย ซองใส่หน้าปัดเครื่อง, รีโมทคอนโทรลไร้สาย สไตล์พวงกุญแจ ขนาดเล็กกะทัดรัด, ชุดสายไฟ และคู่มือติดตั้งเดินสาย คู่มือการใช้งานเครื่อง
ด้านหลังเครื่องเรียบง่ายระบายความร้อนได้ดี
ตัวเครื่องของ KD-R461ดูสะอาดตามากขึ้นนอกจากหน้าปัดเครื่อง ที่ออกแบบได้อย่างสวยงาม มีเอกลักษณ์แล้ว ในส่วนด้านหลังเครื่องก็ได้รับการออกแบบ ให้ดูโล่งตามากยิ่งขึ้น โดยด้านหลังเครื่อง มีการออกแบบชุดแผ่นระบายความร้อน (Heat Sink) อยู่กึ่งกลางด้านหลังของเครื่อง ที่แตกต่างจากไลนือัพล่าสุดคือ ตัวครีบระบายความร้อนมีการออกแบบให้มีครีบและเป็นแบบอุโมงค์ลม มีจุดเด่นในการดึงความร้อนออกจากตัวเครื่อง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้วต่อ ช่องต่อ ด้านหลังเครื่องของ วิทยุซิงเกิ้ล ซีดี รุ่นนี้ มีการออกแบบจัดวางในตำแหน่งมาตรฐานที่ JVC นิยมใช้งาน กล่าวคือ เมื่อหันหน้าเข้าด้านหลังเครื่อง มุมด้านซ้าย จะเป็นช่องต่อ สายอากาศ ภาครับวิทยุ ถัดเข้าเป็นช่องต่อ สัญญาณ Line Output 1 คู่ ซึ่งตามข้อมูลผู้ผลิตสามารถส่งสัญญาณออได้ทั้งแบบฟูลเรจน์ หรือ จะปล่อยออกเป็นสัญญาณซับวูฟเฟอร์ (LPF) ก็สามารถทำได้
รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสไตล์ใหม่
KD-R461ได้รับการออกแบบรูปลักษณ์ในสไตล์สีดำทะมึนดูดุดันขณะเดียวกันแฝงความหรูหราโฉบเฉี่ยวเอาไว้ด้วย แม้ช่องใส่แผ่นจะเป็นแบบSlot In แต่การออกแบบที่ลงตัวทำให้ไม่ดูแปลกแยก การวางตำแหน่งของปุ่มควบคุมบนหน้าปัด มีการจัดระเบียบให้ควบคุมสั่งการได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มของปุ่มควบคุมการทำงานหลักเป็นปุ่มทรงกลมที่ดูสวยงามและควบคุมสั่งการได้ง่าย
ที่โดดเด่นและสร้างความสวยงามให้กับหน้าปัดเครื่องรุ่นนี้คือ การออกแบบปุ่ม POWER ออกแบบจัดวางไว้กึ่งกลางแถวล่างคั่นระหว่างชุดปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นการกดเลือกปรีเซ็ทจูนเนอร์และแทรคเพลงของเครื่อง ชุดจอแสดงผลการทำงานซึ่งออกแบบให้มีฝาครอบดิสเพลย์แบบโค้งนูน ซึ่งทำให้ตัวเครื่องดุหรูหรา เมื่อสอดรับกับชุดปุ่มควบคุมที่ออกแบบเป็นปุ่มกดสไตล์โค้งมนทำให้สอดรับลงตัวอย่างยิ่ง
ฟังก์ชั่นครบครัน
ในแง่ของฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกในการใช้งานพบว่า มีให้มาค่อนข้างครบ ระบบปรับเสียงทุ้ม,แหลม เพิ่มการปรับความถี่เสียงย่านเสียงกลางมาให้ แถมด้วยฟังก์ชั่นพาราเมตริกอีควอไลเซอร์ 3 ย่านความถี่ ตั้งปรีเซ็ทเสียง / หน่วยความจำ ซึ่งสามารถปรับตั้งค่าความถี่ได้หลากหลาย เพื่อปรับตั้งค่าร่วมกับฟังก์ขั่นลาวด์เนส ภาครับวิทยุ ระบบAM/FM ควอทซ์ ซินธิไซธ์ ภาครับFM ระบบ HS Tuner เน้นเรื่องความไวการรับสัญญาณ
ภาคเครื่องเล่น รองรับการเล่นแผ่นCD มาตรฐาน แผ่นCD-R แผ่นCD MP3/WMA ช่องต่อ AUX Input มีมาให้ 1 ชุด ที่หน้าปัดเครื่อง ช่องต่อ Line Output 1 คู่ มีภาคขยายไฮ-เพาเวอร์ มอสเฟท กำลังขับ 50 วัตต์x4 ในตัว ให้รีโมทคอนโทรลไร้สายขนาดกะทัดรัดมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ช่องต่อ USB รองรับการเชื่อมต่อ USB Handy drive รองรับ iPod iPhone รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนต่างๆ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เมื่อโหลดApp.ใน Playstore อย่างเช่น แอพ JVC Smart Music Control ver.3 จะเพิ่มความสามารถในการควบคุมสั่งการได้หลากหลายมายิ่งขึ้น
การทดสอบ/ผลการทดสอบ
เครื่องนี้, ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ก็ต้องเบิร์นอินไป-ฟังกันไปเรื่อยๆ โดยใช้ชุดทดสอบขาประจำ เปลี่ยนเฉพาะเฮดยูนิตเท่านั้น...แต่แรกที่ได้ยินนั้นบอกได้เลยว่า โอบะเต็งบ่องตง เสียงกรีดกีตาร์ก็ให้ความนวนเนียน มีความกระด้างของเส้นสายโลหะอยู่ค่อนข้างน้อย เสียงเบสและเสียงร้องตรึงอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง คงที่ มีความกังวาลเนียนนุ่มอย่างที่ควรเป็น พร้อมให้น้ำหนักเสียงโดยรวมในระดับที่รับได้ แต่ก็มีความรู้สึกว่า มันยังไม่เข้าที่ เข้าทางดีนัก
จุดเด่นเครื่องเล่น CD ของ JVC ที่ไม่เคยเปลี่ยน และยังคงเข้มขลังอยู่เสมอก็คือ มีความเป็นกลางในน้ำเสียงสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดุลเสียง การถ่ายทอดท่วงทำนองและลีลาของศิลปิน ถ่ายทอดดุลเสียงออกมา แฝงไว้ด้วยความสะอาด ราบรื่น และต่อเนื่อง มีมวลเสียงเข้มข้นพอเหมาะ คือไม่หนาไม่บาง ให้โฟกัส ความเป็นตัวตนชัดคม แต่ไม่ขึ้นขอบ มีลีลาค่อนไปทางขยันขันแข็ง อิมแพ็คและการย้ำเน้น ที่ทำออกมาได้ดี หรือแม้แต่ความนุ่มนวลอ่อนหวานในน้ำเสียง ที่พอเพียงต่อความเพลิดเพลินในการรับฟังเพลงต่างๆ...ถ่ายทอดความเป็นดนตรีออกมาได้ดี เปี่ยมด้วยรายละเอียดความถี่เสียงในย่านต่างๆ ที่ค่อนข้างครบถ้วน โดยเฉพาะความเป็นดนตรี นั้นต้องยอมรับว่าภาคเครื่องเล่น ของเฮดยูนิตรุ่นนี้มีศักยภาพการถ่ายทอดความเป็นดนตรีในระดับสูงประดุจเครื่องเล่น CD บ้านก็ไม่ปาน ที่สำคัญการสวิงไดนามิกเสียงถือว่าน่าประทับใจกว่ารุ่นพี่ๆ
ประเด็นของโทนัล แอคคูเรซี่ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ทำให้การฟังเพลงได้อรรถรส ส่วนเมื่อฟังเพลงประเภทไฟล์เพลงMP3 จาก แผ่น หรือจาก USB ก็ทำได้ไม่เลว แต่ถ้าต้องการมวลเบสที่ดูมีน้ำหนักแนะนำว่า ให้ใช้ฟังก์ชั่นลาวด์เนสช่วยจะทำให้ได้อรรถรสในการฟังเพลงได้ดีกว่าการฟังแบบแฟลต...ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ แยกแยะได้ดังนี้
ย่านเสียงกลาง
มีความสด สะอาด เปิดเผย และแม่นยำ สามารถตรึงตำแหน่งได้นิ่ง พร้อมทั้งให้ทรวดทรวงเป็นสามมิติไม่บี้แบน ปราศจากอาการบีบเค้น ตรงข้ามกลับให้ความรู้สึกปลดปล่อย แต่แฝงไว้ด้วยความหนักแน่นและรายละเอียด ที่ถึงพร้อมด้วยความ ต่อเนื่องเป็นดนตรี...จากเสียงร้องในหลายๆอัลบั้ม เป็นเสียงร้องไม่ได้ออกหวาน พิรี้พิไรในทันทีที่แรกฟัง
แต่ก็น่าสนใจและน่าติดตาม ด้วยรายละเอียดอันเปิดเผย ชัดถ้อยชัดคำ และการย้ำเน้นหนักเบาอย่างมีศิลป์ เสียงเครื่องดนตรีอย่างแซกโซโฟน มีความปลดปล่อย มีมวลเสียงที่อิ่มเอิบ และหนักแน่นด้วยลีลาการย้ำเน้นหนักเบา อย่างน่าติดตาม...เสียงพวกเครื่องสาย ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีไม่แพ้กัน สามารถถ่ายทอดอากัปกิริยาของเครื่องดนตรีประเภทนี้ได้อย่างมีอรรถรส มีลีลาเป็นไปตามท่วงทำนอง มีความสงัดแยกแยะเสียงต่อเสียง เป็นพยางค์ๆและมีวรรคตอนอย่างน่าสนใจยิ่ง!
ย่านเสียงสูง
เสียงแหลมก็เช่นกัน, มีความสอดคล้องกลมกลืนไปกับย่านเสียงกลาง เป็นเสียงแหลมที่มีมวล สะอาด กระชับ ให้องศาความเป็นตัวตนที่คมชัด ให้ลีลาการย้ำเน้นที่ดี - เสียงไทรแองเกิ้ล ใสสะอาด มีมวลที่กระชับ ให้ความกังวานที่พอเหมาะ ไม่ทอดหางเสียงฟุ่มเฟือย นอกจากนั้นยังสามารถแยกแยะเสียงต่อเสียงได้ดี แม้แต่ในช่วงที่กระชั้นขึ้น อย่างเสียงตีไตรแองเกิ้ลหรือเสียงเคาะฉาบที่กระหน่ำรัวถี่ขึ้นถี่ขึ้น ไม่ปรากฏการฟุ้งตีรวนเข้าหากันแต่อย่างใด
ย่านเสียงสูงทั้งหมดมีความกระจ่าง สดใส และความเป็นตัวตนที่เด่นชัด พร้อมด้วยมวลเสียงที่กระชับแน่น และให้รายละเอียดได้ในระดับที่น่าพอใจ ทุกเส้นเสียงมีพลังแฝงที่คอยประคับประคองให้เกิดความเป็นตัวตน ซึ่งทำให้ไม่เกิดการฟุ้งและตีรวนเข้าหากัน ในขณะเดียวกันให้การย้ำเน้นหนักเบามีอ่อนแก่ที่รับรู้ได้ พร้อมกับมีประกายสดใส และกังวานอย่างมีชีวิตชีวา เสียงฉาบสามารถรับรู้ได้ว่าเป็นใบ ไม่บี้แบนเป็นเส้นเล็ก อีกทั้งไม่มีอาการพุ่งล้ำออกมา กล่าวคือสามารถแสดงความเป็นตัวตนที่เกิดขึ้นในตำแหน่งที่ถูกต้อง
เสียงย่านต่ำ
เสียงในย่านต่ำ มีความกระชับแน่นเป็นตัวเป็นตน กลมกลืนไปกับย่านเสียงอื่นๆ มีสปีดความฉับไว มีรายละเอียดที่สมบูรณ์ไม่น้อยทีเดียว...เสียงของอคูสติกเบส สามารถรับรู้ถึงเส้นสายที่ถูกเกี่ยวดึง และเสียงเบสที่ดีดตัวออกมาให้เรารับรู้ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม กระชับ รักษาจังหวะจะโคนได้อย่างแม่นยำ ให้จังหวะจะโคน กระแทกกระทั้นย่านความถี่ต่ำออกมาได้ดี แม้จะไม่สุดติ่งกระดิ่งแมว ก็ถือว่าน่าพอใจมากทีเดียว อย่างน้อยๆก็ให้ ความกระชับแน่นของมวลเสียงที่เป็นตัวเป็นตนหลุดออกมาได้ก็แล้วกัน
ท่านไหนสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดสินค้ากันได้ที่เบอร์ 093-0370529หรือ 081-9235308
หรือทางแฟนเพจ.........
https://www.facebook.com/pages/Shop-Caraudio/482987965125673........................