ตุ๊กแกเสือดาวเป็นสัตว์ในกลุ่ม Gekkonidae หรือ Gecko family ซึ่งเป็นสัตว์กลุ่มกิ้งก่าที่มีจำนวนมากมาย มันสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในพื้นที่ แห้งแล้งของอาฟกานิสถาน ปากีสถาน และอินเดีย คำว่า Eublepharis ก็คือเปลือกตาแท้ๆที่ปิดเปิดได้ และ Macularius ก็ประมาณ ลายจุด ตามตัวมันแหละครับ แต่จุดที่แตกต่างกับจิ้งจกตุ๊กแกตามผนังก็คือที่เท้ามันจะไม่ได้เหมือน ตุ๊กแก จิ้งจกที่เกาะผนังตามบ้านเรานะครับ ที่จะมีปุ่มดูดได้ แต่ตุ๊กแกเราจะมีเล็บเท้าแบบกิ้งก่าเอาไว้เกาะเกี่ยว เดินตามพื้นหิน ที่ขรุขระ เพราะฉะนั้นตุ๊กแกเราจึงอาศัยอยู่บนพื้นดินซะเป็นส่วนมาก มันไม่ขึ้นไปบนต้นไม้หรือที่สูงๆมากนักตามลักษณะร่างกายที่มันออกแบบมาแหละ ครับ จะมีปีนก้อนหินกิ่งไม้ในที่เลี้ยงบ้างก็ไม่มากนัก และมันเป็นสัตว์ที่หากินเวลากลางคืนไม่ได้หากินเวลากลางวัน เพระาฉะนั้นเวลากลางวันหรือเวลาที่แสงสว่างมากๆมันจะเข้าไปหลบนอนในโพรงไม้ ซอกหิน หรือกล่อง hide box ของเรานั่นเอง แต่พอเวลากลางคืนมาเยือนเท่านั้นมันก็จะตาลุกตาวาวออกมาหากินอย่างสนุกสนาน แต่ในลูกตุ๊กแกที่เราเลี้ยงไว้จนโตนั้น อาจจะจำเวลาที่เราเอาอาหารมาให้ได้ บางครั้งเวลากลางวันมันก็ออกมารอกินจิ้งหรีดที่เราใส่ให้มันเวลาเดิมๆทุกๆ วันจนเป็นปกติ (น่าร๊ากกกกก~~~)
LPG ของเราจะถึงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 7-8 เดือนขึ้นไปครับ แล้วแต่ความสมบูรณ์ของตุ๊กแกเราด้วย และอายุเต็มที่บางเว็บไซด์ก็บอกไว้ว่าหลายสิบปีเลย (แต่ผมเพิ่งเคยเลี้ยงมาไม่ถึง 2 ปีเอง แหะๆ เลยไม่รู้ข้อมูลอันนี้เลยนะครับ ถ้าผิดไปโทษคนอื่นผมไม่เกี่ยว อิอิ)
ขนาดตัวโตเต็มที่ของมันก็ประมาณ 7-8 นิ้ว รวมหางแต่เท่าที่รู้มาหลังๆนี้มีการเพราะผสมพันธุ์เพื่อให้ได้พันธุ์ใหญ่ กว่าปกติขึ้นมาที่เรียกว่า Giant และ Supergiant นั่นเอง ซึ่งโตเต็มที่ได้ใหญ่เกินกว่า 1 ฟุตอีกครับ เหอๆ
เท่าที่ลองเลี้ยงมาไม่นานนักก็ประมวลความคิดออกมาได้ว่าตุ๊กแก เสือดาวนี้เป็นสัตว์กลุ่มกิ้งก่าที่เลี้ยงง่ายมากๆ แต่ก็ไม่ถึงกับง่ายจนไม่ต้องดูแลอะไรเลย การเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดอย่างน้อยๆวันนึงคุณก็ควรจะมีเวลาให้มันซัก 1-2 ชั่วโมงเพื่อจัดการให้อาหาร เปลี่ยนน้ำ ดูแลเกี่ยวกับสุขภาพต่างๆมันอยู่แล้ว มิฉะนั้นก็อย่าเลี้ยงเลยจะดีกว่า เพราะมันจะสร้างความคิดที่ผิดๆเกี่ยวกับสัตว์ที่เราเอามาเลี้ยง และจะกลายเป็นแค่การสร้างกระแส สีสัน เห่อตามๆกันไปเท่านั้น
และเนื่องจากการเพาะเลี้ยงที่ง่าย และอัตราการฟักไข่ที่สูงมากพอดู ใช้สถานที่ในการเลี้ยงไม่มากนัก จึงทำให้ตุ๊กแกเสือดาวน่าจะเป็นกิ้งก่าอีกตระกูลนึงที่เพื่อนๆห้อง Lizard and Gecko น่าจะสนใจกับมันไม่มากก็น้อยนะครับ (ช่วงนี้ก็เห็นมีลูกๆเล็กๆออกมาขายกันบ้างแล้ว )
การเลือกซื้อ Leopard gecko
แหล่งที่เราสามารถหาซื้อได้ก็มีหลากหลายทาง หลากหลายที่ อาจจะจากอินเตอร์เน็ต ตามเว็บไซด์ต่างๆ สวนจตุจักร สั่งมาเองจากต่างประเทศ หรือว่าฝากเพื่อนหิ้ว(แอบ)เอาเข้ามาเองจากต่างประเทศก็ได้ อย่างน้อยสถานที่ที่เราไปเลือกซื้อตุ๊กแกก็พยายามเอาที่เชื่อใจได้ ไม่หลอกลวง และราคาก็ไม่สูงจนเกินไปนัก เพราะบางช่วงกระแสมันมาแรง บางทีพ่อค้าเค้าก็อาศัยช่วงเวลาจังหวะนั้นขึ้นราคาซะดื้อๆทั้งที่เมื่อก่อน ตัวนึงไม่เท่าไหร ่(เรื่องราคาเช็คดูเทียบกับเว็บไซด์ต่างประเทศบางเว็บก็ได้ครับ เช่น
http://www.kingsnake.com เอาราคาของเค้ามาลบออกนิดหน่อยก็จะประมาณราคาบ้านเราแหละครับ แต่ก็ดูเป็นตัวๆไปด้วยนะครับ) และเลือกร้านที่เก็บตุ๊กแกไว้อย่างสะอาด เปลี่ยนที่รองพื้นบ่อยๆ น้ำที่ให้ตุ๊กแกสะอาดไม่มีจิ้งหรีดลงไปนอนตาย ไม่รวมลูกตุ๊กแกไว้ในตู้เดียวหลายๆตัว ....
มาถึงตัวของ LP ของเราล่ะครับ ข้อแรกสุดเลยที่เราควรดู คือดูที่สภาพโดยรวมภายนอก พยายามเลือกตัวที่อ้วน ไม่ผอม (ผอมๆเอามาเลี้ยงให้อ้วนยากครับ ส่วนอ้วนๆเอามาเลี้ยงให้ผอมง่ายนิดเดียว อิอิ) ที่บอกให้ไม่เลือกตัวที่ผอมนั้นเพราะว่าตุ๊กแกพวกนี้ติดโรคท้องร่วงง่ายมากๆ ครับ อาจจะแค่อากาศเปลี่ยน ความเครียด จากอาหารที่สกปรก หรือจากจิ้งหรีดหรือหนอนนกที่กินขี้ตุ๊กแกเข้าไปมันก็สามารถเป็นโรคท้องร่วง ได้ง่าย และการรักษาก็ยากมาก แทบจะถึงขั้นต้องทำใจเลยทีเดียว (ตอนนี้ยังหายาที่แก้โรคนี้ไม่ได้แบบตรงจุดซะทีเดียวครับ สัตวแพทย์ที่จัดการด้านนี้ได้ก็น้อยมาก)เพระาฉะนั้นพยายามเลือกตัวที่ไม่ผอม ไว้ก่อนดีที่สุด ต่อมาก็ดูตุ๊กแกที่เราสนใจ เลือกตัวที่เล็บครบ นิ้วเท้าครบ (4 นิ้ว) หางไม่ขาด หรือมีรอยขาดมาก่อน ที่ตัวไม่มีแผล ไม่มีรอยถลอก ที่รูจมูกไม่มีคราบน้ำมูก ดวงตาไม่ปูดโปดหรือบอด ขากรรไกรไม่บิดเบี้ยว ปากสบกันสนิท ไม่มีคราบติดที่ตัวที่ยังลอกไม่ออกซักที ไม่ซึม นิ่งอยู่กับที่ ซึ่งบ่งบอกถึงอาการไม่สบายหรือความเครียดของมันนั่นเองครับ ซึ่งตุ๊กแกแบบนี้ให้สวยแทบตายก็ไม่น่าเอามาเลี้ยงครับ เพราะอาจจะเอาโรคต่างๆมาติดตุ๊กแกที่เราเลี้ยงอยู่ได้ ต่อมาก็ดูสีสันความงดงามของมันต่อไปที่พิจารณาให้มันตรงตามชื่อเสียงเรียง นามที่คนขายเค้าบอกมา ไม่มั่ว เอาสีแบบนึงไปตีราคาให้มันเวอร์ๆเป็นอีกแบบนึง
สถานที่เลี้ยง
เอาง่ายๆเลยสถานที่เลี้ยงมันจะเป็นที่ไหนก็ได้ที่สามารถเก็บมัน ไม่ให้หนีออกไปไหนได้ มีฝาปิดมิดชิด เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากสุนัข แมว หนู ฯลฯ ที่จะมาทำอันตรายกับมันได้ ผมใช้กล่องอคริลิคและกล่องพลาสติกตามซูปเปอร์มาเก็ตเอามาเจาะรูประบายอากาศ ก็ใช้ได้ดีครับ รองพื้นด้วยทราย (ในตุ๊กแกเล็กๆฝรั่งเค้าแนะนำว่าไม่ควรใช้ทรายเพราะว่าเมื่อตุ๊กแกกินอาหาร จะมีทรายติดไปด้วยและอาจจะทำให้ลำไส้อุดตันได้) กระดาษหนังสือพิมพ์ (ผมว่าดีที่สุดแล้วนะเพราะว่าทำความสะอาดง่าย ดูแลง่าย ไม่มีสิ่งหมักหมม) ดิน ซังข้าวโพด ฯลฯ ~~~ และก็ใส่ hide box ไว้ให้มันเข้าไปหลบนอนได้ในเวลากลางวัน ใส่ถาดน้ำที่ก้นไม่ลึกนักไว้และพยายามเปลี่ยนน้ำทุกๆวันจะช่วยให้ตุ๊กแกเรา มีสุขภาพดีไม่ติดเชื้อโรคต่างๆได้ง่าย อีกอย่างที่น่าจะต้องมีอยู่แล้วคือถาดอาหารผมเอาไว้ใส่หนอนนกคลุกวิตามินและ แคลเซียมผง (กระดองปลาหมึกอันละ 10 บาทมาขูดเป็นผงๆง่ายที่ซู๊ดดด~~!~~~! ไม่ต้องไปซื้อยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ให้เปลือง)ใส่ให้มันลงไปกินได้เมื่อหิว เท่าที่ลองดูการจัดตู้สวยๆงามๆมักจะดูแลยากและก่อให้เกิดการติดเชื้อโรคตาม มาได้อย่างง่ายดายครับ ซึ่งตรงนี้บางท่านอาจจะเถียงว่า "ทำไมตุ๊กแกตามธรรมชาติมันก็อยู่แบบนั้นไม่เห็นติดโรคตายเลย" ก็ต้องขอบอกว่าตุ๊กแกเสือดาวที่เราเอามาเลี้ยงกันตอนนี้เป็นตุ๊กแกเพาะ เลี้ยง ในสถานที่เลี้ยงทั้งนั้น (Captive breeding:CB) เพระาฉะนั้นเรื่องภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆก็ต้องน้อยกว่าอย่างแน่นอน การดูแลก็ควรต้องมากกว่าแน่ๆ และตามธรรมชาติมันมีระบบต่างๆคอยจัดการกับของเสียต่างๆของตุ๊กแกเราอยู่แล้ว ไม่เหมือนระบบปิดของเรา ที่มีแต่ตัวตุ๊กแกเท่านั้น
และในที่เลี้ยงถ้าต้องการให้ตุ๊กแกเราสีสันสวย เหลืองเป็นเหลือง ส้มเป็นส้มสดๆก็อาจจะติดหลอดเซรามิกเพิ่มความร้อนภายในตู้เลี้ยงให้อุณหภูมิ สูงซักประมาณ 32-35 องศาตลอดเวลา (แต่ต้องเลี้ยงแบบนี้ตั้งแต่เล็กๆนะครับ ถ้าใหญ่แล้ว สีทึบๆแล้วเอามาเลี้ยงแบบนี้ก็ไม่ช่วยซักเท่าไหร่) ซึ่งอันนี้ไม่ได้เขียนบอกมาลอยๆ แหะๆ พอดีเจอในเว็บไซด์นี้มาครับ
http://www.leopardgecko.com/color.html ตามนั้นครับ เค้าบอกว่าการเลี้ยงลูกตุ๊กแกที่อุณหภูมิสูงนั้นจะได้ลูกตุ๊กแกที่สีสันสวย งามมากกว่าเยอะครับ ก็ลองตามไปดูละกันครับ
น้ำและอาหาร
ตุ๊กแกเสือดาวถึงแม้จะมาจากเขตทะเลทรายหรือพื้นที่แห้งแล้ง แต่มันก็ต้องการน้ำที่สะอาดกินทุกวัน ในที่เลี้ยงเราก็ควรใส่ถ้วยน้ำถ้วยเล็กๆไว้ให้มันดื่มกินทุกวัน และพยายามเปลี่ยนบ่อยๆจะดีกับสุขภาพมันครับ โดยเฉพาะในลูกตุ๊กแกน้ำต้องมีไว้ตลอดห้ามขาดเลย ตุ๊กแกเสือดาวเป็นสัตว์ประเภทกินเนื้อ กินสัตว์เล็กๆอื่นๆเป็นอาหารไม่ว่าจะเป็น หนอน แมลง สัตว์เลื้อยคลานตัวเล็กๆ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กๆ ฯลฯ อาหารที่นิยมใช้กันก็เป็นอาหารประเภทที่สามารถหาซื้อกันได้ง่ายๆตามสวนจตุ จักรนี่แหละ อย่างหนอนนก แว๊กซ์เวิร์ม ซูปเปอร์เวิร์ม จิ้งหรีด หนูแดง ฯลฯ
**ก่อนให้พวกจิ้งหรีดหรือหนอนนกก็ควร gudload อาหารพวกผลไม้ต่างๆ ผักต่างๆให้มันกินด้วยนะครับ
การให้อาหารควรระวังเรื่องการติดเชื้อโรคจากแบคทีเรีย โปรโตซัวด้วย โดยเฉพาะเมื่อตุ๊กแกเราขี้ออกมาต้องรีบกำจัดโดยเร็ว ก่อนที่พวกหนอนนกหรือจิ้งหรีดที่เราให้มันกินจะเข้าไปกินขี้มันและทำให้ ตุ๊กแกเราติดเชื้อได้ง่าย เพราะฉะนั้นถ้วยน้ำและอาหารของมันจึงควรเป็นอุปกรณ์ประเภทเซรามิกที่พื้นผิว เรียบ ลื่นไม่ขรุขระแบบกระถางดินเผา เพราะอาจจะทำให้เชื้อโรคฝังตัวได้ง่าย
ซึ่งในลูกตุ๊กแกจะเห็นได้ว่ามันกินอาหารและขี้ออกมาทุกวัน ก็หมายความว่ามันกินอาหารเข้าไปทุกๆวันนั่นเองแต่ ในการเคลื่อนย้ายลูกตุ๊กแกหรือตุ๊กแกขนาดใหญ่แล้วมาสถานที่เลี้ยงใหม่มันอาจ จะหยุดไม่กินอาหารเพื่อปรับตัวได้ 3-5 วัน โดยไม่ต้องตกใจครับ ตุ๊กแกพวกนี้สามารถอดอาหารได้นานกว่านี้อยู่แล้ว โดยจะใช้อาหารที่สะสมอยู่ที่หางมันแทนนั่นเองครับ
แสงสว่าง
ตุ๊กแกเสือดาวเป็นสัตว์ที่ไม่ต้องการแสง UV ช่วงต่างๆในการเจริญเติบโต มันเพียงแต่ต้องการแสงสว่างเป็นช่วงๆตามปกติเพื่อปรับชีวิตความเป็นอยู่ของ มันเท่านั้น เช่นเวลานอนในเวลากลางวันและ เวลาหากินในเวลากลางคืนเท่านั้น และแสงไฟยังช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นเพื่อขบวนการย่อยอาหาร metabolism ต่างๆของสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้อีกด้วย และข้อสำคัญอีกอย่างการเลี้ยงตุ๊กแกเสือดาวกลางแจ้งควรจะมีที่ให้มันหลบแดด และเป็นที่ๆใหญ่พอสมควร มิฉะนั้นมันอาจจะร้อนตายได้ง่ายๆเลยล่ะครับ อย่างน้อยการเลี้ยงในที่ร่มก็ตัดปัญหานี้ไปได้เยอะเลยล่ะครับ
การลอกคราบ
ตุ๊กเสือดาวจะลอกคราบเพื่อการเจริญเติบโตเหมือนกันกับสัตว์เลื้อยคลาน อื่นๆแหละครับ
ก่อนลอกคราบมันจะสีคล้ำลงๆ และซีดลงซัก 3-5 วันหลังจากนั้นคราบเก่าก็จะเริ่มปริออก แล้วตุ๊กแกเราก็จะค่อยๆถูมันกับวัสดุพื้นผิวหยาบต่างๆในที่เลี้ยงเพื่อให้ คราบหลุดออกมาแล้วมันก็จะกินเข้าไปจนหมดเลยครับ ถ้ากินไม่หมดหรือยังเหลือติดที่หัวอยู่ก็น่ากลัวว่ามันจะติดโรคแล้วล่ะซิ เหอๆ ซึ่งช่วงที่มันกำลังจะลอกคราบนั้นมันก็อาจจะกินอาหารเหมือนเดิมหรืออาจจะ หยุดกินอาหารก็ตามแต่ละตัวครับ ในช่วงนี้พยายามอย่าให้ตุ๊กแกของเราขาดน้ำเลยครับ เพราะอาจจะทำให้มันลอกคราบติดที่เล็บ ที่นิ้ว ขา ซึ่งอาจจะพันกันจนทำให้เล็บ นิ้วขาดได้ครับ แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดเอาไปเก็บไว้ในที่ๆชื้นมากๆเลี้ยงเป็นกบฮอร์นฟร๊อกเพระ ากลัวตุ๊กแกจะลอกคราบไม่ออก นั่นก็เกินไป เอาไว้เวลาที่มันลอกคราบไม่ออกจริงๆเราค่อยเอาคีมฟอร์เซ็ป หรือมือเราช่วยดึงมันบ้าง หรือการเอาไปแช่น้ำอุ่นก็ไม่เลวเลยครับ แต่อย่านานไปนะ ไม่งั้นจะได้เลี้ยงจรเข้แทนตุ๊กแก
อายุของตุ๊กแกเสือดาวที่เรานำมาเพาะพันธุ์ได้ก็เริ่มตั้งแต่ 7-8 เดือนแต่ถ้าจะเอาดีๆ ให้พ่อแม่มันมีความสมบูรณ์สุดๆ ควรรอซัก 10-12 เดือนจะดีกว่าครับ
โดยตุ๊กแกเสือดาวจะมีช่วงฤดูการผสมพันธุ์เป็นช่วงๆของปี เริ่มตั้งแต่เดือน มกราคมถึงสิงหาคมของทุกปี และมันจะหยุดพักเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายเพื่อรอผสมพันธุ์ออก ไข่อีกต่อไปในฤดูกาลต่อไป