ถึงคุณละอ่อนโบราณครับ หนังสือที่ผมอ่านของอาจารย์ศิริพงศ์ครับ ได้อ่านตอบกระทู้ของคุณละอ่อนแล้วเข้าใจมากครับ ถ้าไม่เข้าใจในหัวข้อธรรมขอความกรุณาท่านละอ่ออนช่วยตอบทีคร้บ ต้องขอขอบคุณมากครับ วรเศรษฐ์
ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
อธิบายเพิ่มเติมอีกนิดนะครับ คำว่าศีล แปลว่า ปกติ หมายถึงความปกติทางกายและวาจา ซึ่งปกติของมนุษย์ (มนุษย์แปลว่าผู้มีใจสูง) จะไม่ฆ่าสัตว์, ไม่ลักโขมยของผู้อื่น, ไม่ประพฤติผิดในกาม, ไม่พูดปด, ไม่เสพของมึนเมา, แต่ถ้าใครทำสิ่งทั้งห้าอย่างดังกล่าวข้างต้น นั่นหมายความว่าผิดศีล คือผิดปกติของมนุษย์นั่นเอง ซึ่งศีลของสาธุชนทั่วไปได้แก่ศีลห้านั่นเอง
ส่วน กุศลกรรมบถนั้นมี ๑๐ อย่าง
จัดเป็นกายกรรม ๓ อย่าง ๑. ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง.
๒. อทินฺนาทานา เวรมณี เว้นจากถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ ด้วยอาการแห่งขโมย.
๓. กาเมสุ มิจฺฉาจารา เวรมณี เว้นจากประพฤติผิดในกาม
( กายกรรมทั้ง ๓ มีความสันนิษฐานไว้ในบทศีลตอนท้ายนี้ ).
จัดเป็นวจีกรรม ๔ อย่าง ๔. มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากพูดเท็จ ( การพูดเท็จชั่วร้ายเพียงไร ก็สันนิษฐานไว้ในบทศีลแล้วเหมือนกัน )
๕. ปิสุณาย วาจาย เวรมณี เว้นจากพูดส่อเสียด ( เช่นยุยงส่งเสริมให้เขาแตกร้าวกัน นำเรื่องของฝ่ายหนึ่ง ไปบอกแก่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นตัวอย่าง ).
๖. ผรุสาย วาจาย เวรมณี เว้นจากพูดคำหยาบ ( คือคำที่ไม่เพราะหู กระทำความรำคาญให้แก่ผู้ฟัง ที่อย่างแรงกระทำให้โกรธเข้าประหัตประหารกันจนถึงแก่ชีวิตก็มาก ).
๗. ผมฺผปฺปลาปา เวรมณี เว้นจากพูดเพ้อเจ้อ ( คือพูดเหลวไหลไม่เป็นสารประโยชน์ ).
จัดเป็นมโนกรรม ๓ อย่าง ๘. อนภิชฺฌา ไม่โลภอยากได้ของเขา.
๙. อพฺยาปาท ไม่พยาบาทปองร้ายเขา.
๑๐. สมฺมาทิฏฐิ เห็นชอบตามคลองธรรม.
การปฏิบัติธรรม ๒ บทข้างต้น จะดำรงอยู่ได้ก็อาศัยธรรมในบทท้ายเป็นผู้อุปถัมภ์จึงจะบรรลุผล คือไม่มีศัตรูก่อให้เกิดภัยเวรในภายหน้า เป็นหนทางนำมาซึ่งสงบสุข.
กรรมทั้ง ๑๐ อย่างนี้ เป็นสามัคคีกับความไม่ประมาทในที่ ๔ สถาน ดังได้นำมาลงไว้นี้ :-
ควรทำความไม่ประมาทในที่ ๔ สถาน ๑. ในการละกายทุจริต ประพฤติกายสุจริต.
๒. ในการละวจีทุจริต ประพฤติวจีสุจริต.
๓. ในการละมโนทุจริต ประพฤติมโนสุจริต.
๔. ในการละความเห็นผิด ทำความเห็นให้ถูก.
ในที่ ๔ สถานนี้ ๒ สถานข้างต้นเป็นแผนกศีล ๒ สถานข้างปลาย เป็นแผนกใจ การรักษาศีล ก็คือ รักษากายวาจาให้สะอาจหมดจด ไม่ละเมิดบทบัญญัติใด ๆ แต่การที่จะรักษาได้เช่นนั้น ก็ต้องอาศัยใจเป็นผู้อำนวย แม้กล่าวถึงผลที่ตรงกันข้าม คือที่จะทำให้ศีลวิบัติสลายก็ด้วยใจเป็นต้นเหตุดุจกัน
(แหล่งอ้างอิง * แบบประกอบนักธรรมตรี - อธิบายคิหิปฏิบัติ ทิศวิภาค - หน้าที่ 39-40 )