....หลวงพ่อฯ ไปถึงก่อนได้อย่างไร?.....
:)คุณเสดดา อิสลาม เป็นชาวไทยมุสลิม เกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดลำปาง ประมาณ 30 กว่าปี และได้แต่งงานมีหลักมีฐานอยู่ที่จังหวัดลำปาง บ้านเลขที่ 452/3 สวนตะกอน ถ.พหลโยธิน ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง ได้เล่าเรื่องราวของหลวงพ่อเกษม เขมโก ให้ผู้เขียนฟังว่า เขาเป็นคนลำปางไปเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เพราะมาอยู่ลำปาง รักลำปาง มีครอบครัวที่สมบูรณ์ดีและอยู่สุขสบายดีทุกอย่าง แต่พอทราบว่ากำลังจะรวบรวมเรียบเรียงเรื่องของหลวงพ่อเกษม เขมโก เขาได้บอกว่า “ต้องยอมรับว่าคำลำปางเคารพรักท่านมาก ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ดีมาก แม้แต่คนอิสลามต่างศาสนาท่านก็ยังให้เมตตา แล้วพวกเราก็เคารพท่านและท่านก็เป็นพระสงฆ์ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจริง ๆ” เขามาอยู่ลำปางตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อฯ ว่าเป็นพระในหัวใจของคนลำปาง จึงอยากจะเล่าเรื่องของ อับดุลเลาะหะมาน เพื่อนสนิทของเขาให้ฟัง ซึ่งได้แก่เรื่องของเพื่อนเขาตอนเด็ก ๆ เขาได้พบเหตุการณ์แปลกประหลาดคือ อับดุลเลาะหะมาน เป็นชาวอิสลามโดยกำเนิด อยู่บ้านวังหม้อ ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง อยู่ห่างจากสุสานไตรลักษณ์ประมาณ 1 กิโลเมตร อับดุลเลาะหะมานเป็นเด็กอิสลามที่มีความใกล้ชิดกับหลวงพ่อฯ เหมือนกับเด็กชาวพุทธในแถวหมู่บ้านประตูม้า ท่านางลอย ช้างแต้ม ซึ่งเด็กหลายคนก็ต้องวนเวียนไปหาหลวงพ่อฯ ที่สุสานไตรลักษณ์ ไปรับใช้ท่านบ้างในบางโอกาส ที่แน่นอนที่สุดพวกเขาก็ต้องได้รับความเมตตาจากท่าน ได้รับของกินและของใช้และเงินใช้จ่ายเป็นประจำ
:)สิ่งที่แปลกที่สุดในชีวิตของอับดุลเลาะหะมาน ก็คือ มีอยู่วันหนึ่งคุณแม่ของเขาป่วยเป็นไข้ เขาจึงปั่นจักรยานมาเรียนหลวงพ่อได้โปรดทราบและขอให้ไปดูอาการของคุณแม่เขาหน่อย หลวงพ่อฯ รับทราบและได้บอกให้เขากลับไปบ้านก่อน ท่านจะตามไปทีหลัง พอเขาปั่นจักรยานไปถึงบ้านปรากฏว่า หลวงพ่อฯ ได้นั่งอยู่บนบ้านเขาพร้อมญาติ ๆและเพื่อนบ้าน ทำให้เขาแปลกใจจนจำภาพติดตาและงงก็ตรงที่ว่าเขาปั่นจักรยานกลับจากสุสานฯ ไปบ้านโดยตรง ไม่ได้แวะหรือหยุดพักตรงไหนเลย ทำไมหลวงพ่อฯ ไปถึงบ้านเขาก่อน ไปได้อย่างไร ใช้วิธีไหน เล่าให้ใครรู้ก็ทั้งแปลกประหลาด ทั้งงง
;)คุณเสดดาฯ พูดว่า พวกผมเป็นอิสลามโดยกำเนิด โดยส่วนตัวก็เคารพท่านมาก เรื่องที่เล่ามานี้เป็นความจริงที่เกิดขึ้น รับรองว่าไม่ได้สร้างเรื่องแต่งเติมเสริมต่อ พวกเขาเป็นชาวอิสลามและนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของอับดุลเลาะหะมาน ที่ได้พบเห็น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของศาสนาแต่อย่างใด...
“อะโห มหัณณะโว ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ”
ความศักดิ์สิทธิ์ในห้วงมหรรณพนี้ เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
เรื่องเล่า ปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนา
แต่นำมาเผยแพร่ เนื่องจากต้องการให้ระลึกถึงคุณความดีของพระสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เหตุการณ์ต่าง ๆ ล้วนเกิดจากการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และเกิดจากผู้ที่ศรัทธาได้นำมาเผยแพร่ เล่าต่อ
ซึ่งองค์ท่านไม่ได้รู้เห็นหรืออวดอ้างแต่ประการใด
เรื่องเล่า : จากหนังสือประวัติหลวงพ่อเกษม เขมโก จัดพิมพ์ พ.ศ. 2549 โดยคุณบุญหลง ถาคำฟู
ได้ขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่เรียบร้อยแล้วเมื่อ พ.ศ.2551