ข่าวจาก หนังสือพิมพ์เชียงรายธุรกิจ
พม่าเหิมถล่มด่านตำรวจตาย 1 เจ็บ 1

ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง ตั้งด่านตรวจสกัดบริเวณหมู่บ้านใกล้ดอยช้างมูบ เขตชายแดนไทย –พม่า พบชายวัยรุ่น 2 คน ลักษณะเมายาขับขี่ จยย.ผ่านมา เรียกตรวจและจะนำตัวไปหาตรวจหาสารเสพติด โทรฟ้องพ่อที่อยู่พม่าขอให้ปล่อยตัวไม่งั้นมีเรื่อง ตร.ไม่ยอม ขนกองกำลังกว่า 10 คน พร้อมอาวุธปืนอาก้ายิงถล่ม ตร.ผล ตร.ตาย 1 เจ็บ 1 คนร้ายก็ตาย 1 บาดเจ็บไม่ทราบจำนวน พบรอยเลือดเป็นทางยาวข้ามเขตกลับไปฝั่งพม่า
วันนี้เวลา 16.20 น.ขณะที่ ร.ต.ต.ศิระวิทย์ พูลกำลัง อายุ 40 ปี รองสวป.สภ.แม่ฟ้าหลวง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตร. จำนวน 4 นาย ตั้งด่านตรวจสกัด ถนนเลียบชายแดนไทย-พม่า ที่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านจะลอ ใกล้กับดอยช้างมูบ พบชายวัยรุ่นลักษณะเป็นชาวเขาเผ่าอาข่า อายุประมาณ 20 ปี 2 คน ได้ขับขี่รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน คธน 86 ขับมาจากบริเวณหมู่บ้าน จะไปทาง อ.แม่ฟ้าหลวง มาถึงบริเวณด่านตรวจ มีลักษณะอาการสลึมสลือ คล้ายคนเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกตรวจ หลังพบอาการพิรุธ จึงขอนำตัวไปตรวจปัสสวะ แต่ชายหนึ่งใน 2 คนดังกล่าวไม่ยอม จึงเกิดโต้เถียงกันขึ้น
ในระหว่างนั้นชายอีกคนหนึ่ง ได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาพูดกับปลายสาย เป็นสำเนียงชาวเขา ซึ่งฟังไม่รู้เรื่อง หลังจากนั้นได้ยื่นโทรศัพท์ให้ ดต.โยธิน แก้วคำอ้าย โดยได้บอกว่าพ่อจะคุยด้วย ซึ่งมีเสียงผู้ชายพูดมาตามสายกับ ดต.โยธิน ว่า‘ให้ปล่อยลูกชายตนไป ถ้าไม่อยากเกิดเรื่อง’จึงไม่ยอมตามคำขู่ และไม่ได้สนใจอะไร สักครู่ได้มีรถยนต์กระบะไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับผ่านไป ในเวลาไล่เลี่ยกันได้มีรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นภาษาพม่า ข้างท้ายรถบรรทุกชายฉกรรจ์ มาเต็มกระบะท้าย ประมาณ 10 คน ทั้งหมดใช้ผ้าคลุมปกปิดใบหน้า พร้อมอาวุธปืนอาก้า ครบมือ ตรงมาที่บริเวณด่านตรวจ จากนั้นไม่ได้พูดจาได้ใช้อาวุธปืนอาก้า ยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ จึงเกิดปะกันขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่ ตร.ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นประจำตัวยิงตอบโต้ ใส่กลุ่มคนร้ายพร้อมกับเข้าหาที่กำบัง จนกระสุนใกล้จะหมด ร.ต.ต.ศิระวิทย์ พูลกำลัง ได้วิ่งออกมาหยิบอาวุธปืน เอ็ม 16 ที่วางอยู่ในรถยนต์ตราโล่ และได้ยิงตอบโต้กับคนร้ายอย่างกล้าหาญ จนกระทั่งพลาดท่าถูกคนร้ายยิงใส่ที่บริเวณลำคอด้านซ้าย 1 นัด ล้มทรุดลงตรงหน้ารถยนต์ตราโล่ เมื่อเหตุการณ์เป็นดังนั้น ดต.โยธิน จึงวิ่งออกมาจากที่กำบัง พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือ ร.ต.ต.ศิระวิทย์ จึงถูกกระสุนปืนของกลุ่มคนร้ายที่ยิงสาดเข้ามาอย่างหนักที่โคนขาขวา 1 นัด แต่ยังไม่ละความพยายามและเข้าช่วยเหลือต่อ ทำให้ถูกยิงที่ต้นขาอีก 1 นัด และที่สะโพกขวาอีก 1 นัด จนกระทั่งล้มทรุดไปต่อไม่ไหว
หลังจากได้ยิงต่อสู้กันประมาณ 5 นาที กองกำลังดังกล่าวได้ล่าถอยข้ามพรมแดนไปยังฝั่งพม่า พร้อมกับชายวัยรุ่น 2 คนต้นเหตุ ภายหลังเหตุการณ์สงบ ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบ ร.ต.ต.ศิระวิทย์ พูลกำลัง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้า เข้าที่บริเวณลำคอด้านซ้าย 1 นัด เสียชีวิตหน้ารถยนต์ตราโล่ ในที่เกิดเหตุ สภาพมือกำปืนเอ็ม 16 อยู่แนบอก และ ดต.โยธิน แก้วคำอ้าย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้าจำนวน 3 นัดเข้าที่บริเวณต้นขา 1 นัด โคนขา 1 นัด ทางด้านขวา และที่บริเวณสะโพกขวา อีก 1 นัด อาการสาหัส จึงรีบนำตัวส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว และห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบศพชายชาวเขา สวมเสื้อลายสีน้ำตาล กางเกงยีนสีดำ อายุประมาณ 30 ปี มีรอยกระสุนปืนเข้าที่คอหอย 1 นัด ที่บริเวณประตูรถยนต์กระบะวีโก้ ที่คนร้ายจอดทิ้งไว้
หลังได้รับรายงาน พ.ต.อ.สงวน โรงสะอาด ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.เข้าเคลียร์พื้นที่ พบปลอกกระสุนปืนอาก้า ของกลุ่มคนร้ายตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก และยังพบรอยเลือดเป็นทางยาว เข้าไปในหมู่บ้านในเขตพม่า ต่อมาได้หยุดทำการเคลียร์พื้นที่เนื่องจากสภาพอากาศมืด และเกรงว่าอาจมีคนร้ายซุ่มอยู่อีก
ด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงราย กล่าวขณะที่เดินทางมาตรวจเยี่ยม ดต.โยธิน แก้วคำอ้าย เจ้าหน้าที่ ตร.ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จากเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มคนร้ายว่าในเบื้องต้นทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นชาวเขาเผ่าอาข่า ที่ข้ามมาจากหมู่บ้านท่าขาว ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามในเขตพม่า เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเฉพาะผู้เสียชีวิตได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญและสมเกียรติของตำรวจ ในทางการช่วยเหลือครอบครัว ในวันพรุ่งนี้จะดำเนินการอย่างเร่งด่วน มีอะไรที่จะทำได้จะทำทันที ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บก็จะดูแลอย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่
ในวันพรุ่งนี้ เวลาประมาณ 09.30 น.ก็จะเคลื่อนศพส่งให้กับญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และเวลา 17.00 น. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบ.ภาค 5 จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ ร.ต.ต.ศิระวิทย์ พูลกำลัง นายตำรวจผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ที่มีความสนใจเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งมีรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ จะเดินทางมาตรวจสอบพื้นที่ปะทะ และจะเดินทางร่วมงานรดน้ำศพ ร.ต.ต.ศิระวิทย์ พูลกำลัง ที่ตั้งบำเพ็ญกุศล ณ วัดห้วยไคร้ใหม่ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ ยังกล่าวต่อว่า พรุ่งนี้ทางตำรวจภูธร ภาค 5 จะส่งกำลังชุด ชป. จำนวน 3 ชุด มาสมทบกับชุด ชป.ของ นปพ.เชียงราย ที่จัดไว้อีก 3 ชุด ขึ้นเคลียร์พื้นที่ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นจะส่งกำลังขึ้นอยู่ประจำการเพิ่มในจุดเสี่ยง โดยจากนี้ไปจะบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร เมื่อจะทำการตรวจค้นก็ต้องมีกำลังเจ้าหน้าที่ และอาวุธเพิ่มมากขึ้นเต็มอัตรา โดยในวันพรุ่งนี้ ช่วงเช้า พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบช.ภ.ภาค 5 ซึ่งดูแลงานด้านยาเสพติดจะเดินทางไปดูจุดเกิดเหตุ และวางแผนการปฏิบัติงานงานในพื้นที่ดังกล่าวด้วยตัวเองด้วย การทำงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ไม่ถือว่าเป็นการประมาท เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่เคยเกิดเรื่องลักษณะนี้มาก่อน และไม่ทราบว่าเด็กวัยรุ่น 2 คน ไปพูดอะไรกับพ่อของเขา จนนำพวกมาถล่มจุดตรวจดังกล่าว
ส่วนจะมีการปิดทางเข้าออกหมู่บ้านท่าขาว เขตประเทศพม่าที่อยู่ตรงกันข้ามบ้านจะลอ ในฝั่งไทย สามารถเดินทางเข้ามายังฝั่งไทยหรือไม่ ต้องพูดคุยกับหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครองและทหาร เนื่องจากไม่สามารถทำงานเพียงลำพังได้ ต้องบูรณาการร่วมกันหลายฝ่าย ต่อข้อถามที่ว่าจะเป็นการล้างแค้นฝ่ายไทยหรือไม่ ที่ระยะนี้มีการวิสามัญคนร้ายขนยาเสพติด และสามารถจับกุมนักค้ายาเสพติดได้ของกลางทีละมากๆ นั้น ตอบว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ จากลักษณะเป็นการบังเอิญมากกว่า ที่เด็กชายวัยรุ่นทั้ง 2 ได้โทรศัพท์ติดต่อญาติ จนเกิดการปะทะและชิงตัวผู้ต้องหามากกว่าจะเป็นการล้างแค้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ถึงอย่างไรก็ตามจะต้องหาวิธีที่ปลอดภัยกว่านี้ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่อื่นๆ ด้วย
ที่มา
http://www.cr-businessonline.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539360630&Ntype=20