ตัวอย่างคดียิงผิดตัว (ยังไงก็รอด......แค่รอลงอาญา
รออาญา2ปี 3ตำรวจยิงเด็กตาย
รออาญา- ด.ต.พิพรรธ แสนอินทร์ จ.ส.ต.ภานุมาศ ชนะขำ และ ส.ต.อ.อนุสรณ์ แท่นสุวรรณ ตำรวจสน.บางชัน ขึ้นศาลฟังคำพิพากษาในคดีจับยาบ้าแล้วยิงพลาดไปถูกเด็กเสียชีวิต โดยศาลตัดสินจำคุก 2 ปี แต่ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี เมื่อวันที่ 28 ก.ค.
เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ศาลอาญา ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 และนายสถาพร ศรีสะอาด จำเลยคดียาเสพติด พ่อของด.ช.จักรพันธ์ ศรีสะอาด ผู้ตาย ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ด.ต.พิพรรธ แสนอินทร์ อายุ 42 ปี จ.ส.ต.ภานุมาศ ชนะขำ อายุ 37 ปี และส.ต.อ.อนุสรณ์ แท่นสุวรรณ อายุ 37 ปี จำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย ล่อซื้อยาบ้าจาก น.ส.พรวิภา เกิดบุญเรือง แม่ของด.ช.จักรพันธ์ และใช้อาวุธปืนยิงมาในรถที่ขนยาเสพติด แต่กระสุนมาถูก ด.ช.จักรพันธ์ จนเสียชีวิต
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าก่อนเกิดเหตุจำเลยทั้งสามรับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ขยายผลจับกุมแก๊งค้ายาบ้า โดยติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากโจทก์ร่วม 6,000 เม็ด เมื่อโจทก์ร่วมขับรถยนต์มาถึงได้สลับให้นางพรวิภาเปลี่ยนมานั่งที่คนขับ โดยมี ด.ช.จักรพันธ์นอนหลับอยู่เบาะหลัง ส่วนโจทก์ร่วมลงจากรถและถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ขณะเดียวกันนางพรวิภาพยายามขับรถหลบหนี พวกจำเลยจึงวิ่งตามพร้อมใช้อาวุธปืนยิงสกัด กระสุนถูกกระโปรงรถด้านท้าย ประตูหลังด้านซ้ายและล้อแม็กซ์ ก่อนที่นางพรวิภาจะลงจากรถและหลบหนีไป เมื่อพวกจำเลยเข้าตรวจสอบพบ ด.ช.จักรพันธ์นอนอยู่ในรถถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา จากผลการตรวจพิสูจน์วิถีกระสุนที่ยิงรถพบว่ายิงจากซ้ายไปขวาและหลังไปหน้า ซึ่งเป็นการยิงคนละทิศทาง แต่วิถีกระสุนยิงในระดับต่ำ ไม่ได้หวังผล เชื่อว่าเป็นการยิงเพื่อสกัดรถยนต์ที่พวกจำเลยเข้าใจว่าเป็นผู้ค้ายาจะหลบหนี
ศาลเห็นว่าการกระทำของพวกจำเลยไม่เป็นความผิดฐานเจตนาฆ่า หรือพยายามฆ่าผู้อื่น แต่การปฏิบัติหน้าที่ย่อมต้องมีความระมัดระวังในการใช้ปืน จำเลยทั้งสามจึงมีความผิดฐานกระทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ลงโทษจำคุกเป็นเวลาคนละ 2 ปี ปรับ 10,000 บาท แต่เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าจำเลยทั้งสามกำลังปฏิบัติหน้าที่ และไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี
ถ้าพิเคราะห์ดู มันคนละกรณีครับ กรณีนี้คือเจตนา(หยุดรถ)โดยพลาด เพราะแม่ของเด็กมียาบ้าไว้ในครอบครองจริง
แต่กรณีนี้ เค้านุ่งกางเกงบ๊อกเซอร์แต่มียาบ้าซุกอยู่ใต้อวัยวะเพศ และข้อเท็จริงเค้าเป็นผู้ค้ายาเสพติดจริงๆ ก็ยังไม่ชัดเจน
กรณีข่าวข้างบนเป็นการตั้งใจยิงของตำรวจแต่พลาดไปถูกเด็กตาย โดยทะลุกระโปรงหลังรถฮอนด้า แอคคอร์ด แต่กรณีนี้ Honda Jazz
ถ้าเป็นการใส่ความผู้ตายสำเร็จว่าผู้ตาย มียาบ้าไว้ในครอบครองและค้ายาจริง ชุดปฏิบัติการในครั้งนี้รอด และเป็นพระเอกเลยทันที
แต่ดูๆ ไปข้อเท็จจริงชักจะไม่อำนวย ทั้งการข่าวจากสาย โทรศัพท์ของผู้ตาย ตอนชันศูตรพลิกศพ ฯลฯ คลุมเครือทั้งสิ้น
ถ้าข้อเท็จจริงเป็นดัง
ข่าวข้างบน ตำรวจไม่ผิด เพราะกำลังปฏิบัติหน้าที่ และไม่ถือว่าเกินกว่าเหตุ ถ้ามีอุทธรณ์ หรือฎีกา รับรองไม่ผิด
