++++ เงินเดือน 15K... Vs.... AEC+ ปี 2558 ++++

[Temujin]

    ผมศึกษาระเบียบเกี่ยวกับประชาคมเศรฐกิจอาเซี่ยนคร่าวๆ มาครับ  ผมว่ามันเป็นทั้งวิกฤติและโอกาสของคน (รัฐ) ที่พร้อม

เห็นว่ามีทั้ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ด้วยรึเปล่าไอ้ที่หลัง AEC (+) แปลว่าต่อไปนี้ทุกคนมีแค่พาสปอร์ตเล่มเดียวก็ตลุยได้หมด

ไม่จำเป็นต้องมี Visa (เล่มแดง   ) ก็ไปได้จะทำงาน เที่ยว ฯลฯ โอ้...เห็นอะไรมั้ยครับ  ต่อไปเราอาจจะสอบแข่งขันเข้าทำงาน

กับประเทศเพื่อนบ้านเราก็ได้ (ยกเว้นราชการ (สัญชาติไทย)) เพื่อที่จะได้เงินเดือนหมื่นห้า (15K) ลำบากละซิทีนี้

สำหรับใครที่ไม่พร้อม  อย่าลืมนะครับ ม.รามฯ ม.สุโขทัยฯ ปีนึงเพื่อนบ้านเราจบมิใช่น้อยหนา  หรือต่อไปอาจเห็นหมอมาจากอินเดียก็ได้

เพราะประเทศไทยเราขาด  แล้วผมจะทำอย่างไรละทีนี้ มีเงินยังไม่พอที่จะไปขุดบ่อ สร้างบ้านดิน ปลูกผักกินเหมือนอ้ายโจน จันได

ทำไงดีละทีนี้พี่น้อง สงสัยต้องไปเข้าคอร์สเรียนภาษาเกาหลีเพิ่มแล้ว กับหาตังค์ค่าเครื่องบินไปทำงานที่เกาหลี

เพราะอยู่ทางนี้เงินเดือนยังหมื่นเดียวอยู่เลย ทั้งเก็บทั้งออมก็เริ่มๆ จะไม่พอกับค่าใช้จ่ายจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น

ช่วงน้ำท่วมยิ่งไปกันใหญ่  นี่ผมไม่ได้จิ้มเป็นเล่นไปนะครับ มันจะมีโอกาสเกิดขึ้นจริงๆ ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้

ส่วนหมื่นห้าผมไม่รู้ว่ามันวัน เพลาไหน ผมอยากไปเกาหลีแล้ว เพราะที่นั่นเหลือเก็บเยอะกว่าบ้านเราเยอะต่อให้หักค่าใช้จ่ายไปแล้ว

ซื้อ ไอโฟนยังได้เลย แต่บ้านเรายังผ่อนกับ อี่อ้อน ใช้ก่อนผ่อนทีหลังอยู่เลย...เอ้า...มายืนแจกนามบัตรอยู่แถวงาน มอร์เตอร์โชว์,BOI

ผมก็ไม่ใช่สาวๆ นะ  โอ้  ๆ โอ้ว...ถ้าผมถามมิตรประเทศเราว่า..Are you ready..? เค้าตอบมาว่า...An You ? แล้วผมจะตอบเขาว่าจังได๋ ละเนี้ย....  

[mammon]

เพื่อนผมเค้าเป็นFAEที่ไต้หวันเค้าก็บอกว่าพนักงานเสริฟทุกคนใช้ไอโฟนเป็เรื่องปกติเลยครับทำงานนี่ค่ากินค่าอยู่ฟรีหมดเงินเดือนมาเหลือเก็บเต็มๆ สุดยอดๆๆๆๆๆๆๆ

[Temujin]

  ก็นั่นแหละครับ อย่าคิดว่ามันไกลนะครับ AEC+ แค่ไม่กี่ปี เรียนยังไม่จบ ป.ตรี เลย ต่อไปในหลายๆด้านจะเสรี

จะมีการหลั่งไหลของแรงงาน ทรัพยากรต่างๆ อย่างเสรี แต่ว่าเราพร้อมรึเปล่า จุดประสงค์กระทู้นี้คือ อยากให้ทุกคนเตรียมพร้อม

ส่วนเรื่อง ป.ตรี 15K นั้นอย่าห่วงครับ ถ้าประเทศสารขัณฑ์ไหนไม่ปรับตัว รับรองมีการสมองไหลแน่ๆ ถึงครานั้น

ลองไปเปรียบกับประเทศอื่นที่โตมาพร้อมๆ กัน เค้าไปนานแล้วว่ามั้ย ไม่ว่าจะเป็นพี่สิงห์ฯ พี่เสือ(เหลือง)

แต่(พี่ช้าง)เรากลับไปไม่ถึงไหน หวงกับคำว่าผลประโยชน์อยู่เลย  ก็ลองดูครับต่อไปสินค้าที่ Made in thailand อาจไม่เป็นที่น่าพอใจก็ได้...


ปล.ถ้าดูผลกำไรจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผมว่าประเทศนี้พร้อมมากว่าวันละ 300 อีก

[เมฆพัตร]

แต่ผมข้อคิดต่าง คนที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงหน้าจะเป็นแรงงานไร้ฝีมือมากกว่า (กรรมกรทั่วไป)แรงงานไร้ฝีมือ ก็เกิดการอพยพของแรงงานกลุ่มนี้เข้ามาในเมืองไทยเพื่อมารับค่าแรงขั้นต่ำ ถึงแม้ทุกวันนี้ยังไม่เปิดเขตการค้าเสรีก็เป็นที่ทราบกันดีว่าแรงงานเหล่านี้เข้ามาในเมืองไทยแล้ว แรงงานกลุ่มนี้ ได้แก่ ภาคเกษตร เช่นแรงงงานในสวน ไร่ แรงงานประมง ตามเรือประมง แรงงานในภาคก่อสร้าง กรรมกรก่อสร้างทั่วไป ซึ่งทุกวันนี้ก็เห็นกันโดยทั่วไปทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผย ซึ่งเมื่อเปิดเสรีกันแล้วย่อมมีการอพยพเข้ามาแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ลาว พม่า กัมพูชา เพื่อมารับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ( แต่นายจ้างจะจ่ายจริงเท่าไร ยังสงสัย)
อัตราค่าแรงขั้นต่ำในประเทศกัมพูชา อยู่ที่ 60 บาท/วัน แต่ถ้าข้ามมาฝั่งไทยจะอยู่ที่ 300 บาท/วัน  มากกว่าถึง 5 เท่า
อัตราค่าแรงขั้นต่ำในประเทศลาว อยู่ที่ 61 บาท/วัน
อัตราค่าแรงขั้นต่ำของพม่า   อยู่ที่ 50 บาท/วัน
ซึ่งเปรียบเทียบแล้ว ถ้าหากจ้างแรงงานต่างด้าวที่ 150-200 บาทก็สามารถลดต้นทุนได้ 100-150 บาท/วัน
แต่ถ้าเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC= ASEAN Economic Community) คงไม่มีใครอยากไปทำงานที่พม่าหรือกัมพูชา เอ๊!!!....หรือว่ามี
ส่วนประเทศที่ค่าแรงขั้นต่ำที่สูงที่สุดในอาเซียนอยู่ที่ประเทศ…แน่นอนสิงค์โปร โดยค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 1,830 บาท/วัน หรือประมาณ  55,500 บาท/เดือน    อ่ะๆๆ....หยุดความคิดไว้เลยครับ รู้น่ะคิดอะไรอยู่  หากคิดจะไปรับค่าแรงขั้นต่ำที่สิงค์โปรตอนนี้ หยุดแค่นั้นเลย เพราะปัจจุบันรัฐบาลสิงค์โปรได้ออกมาตรการคุมเข้มแรงงานต่างด้าว โดยจะออกวีซ่าให้แรงงานต่างด้าวทำงานในสิงค์โปรได้ก็ต่อเมื่อมีรายได้ขั้นต่ำต่อเดือนที่ประมาณ 74,790 บาท หรือ 2,493 บาท/วัน  ซึ่งค่าแรงขนาดนี้ก็ประเภทแรงงานมีฝีมือขึ้นไปทั้งสิ้น  
ดังนั้น น้องๆหนูๆ จงตั้งใจขยันเรียนน่ะครับ เพราะ แรงงานมีฝีมือเขารับอีกเยอะไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน   อย่าลืม ภาษาอังกฤษจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ว่าไปประเทศใดไปเที่ยวหรือทำงานได้ใช้แน่นอน อย่างน้อยก็ตอบคำถาม ตม.ละ

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต)

แก้ไข เข้ามาใส่แหล่งข้อมูลอ้างอิง
แก้ไข 2 AEC ประชาคมเสรษฐกิจอาเซียน
http://news.voicetv.co.th/thailand/14000.html
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=740694
http://news.voicetv.co.th/global/15601.html
http://www.statelessperson.com/www/?q=node/418
http://news.voicetv.co.th/business/14224.html

[Temujin]

  ถูกต้องตามข้อความข้างบนส่วนนึงครับ  แต่ถ้าประเทศไหนไม่สามารถแข่งขันได้ตอนนั้นก็ลำบากแหละครับ

  กรณีศึกษา...อย่างในตอนนี้ บ.โซ่นี่ คอร์ปฯ ได้ถอนการผลิตจากประเทศเวียดนาม จะคงเหลือไว้แต่การตลาด ที่จะมุ่งเน้น บ.อื่นก็ด้วย

ด้วยสาเหตุไหนนะเหรอครับ น่าจะฝีมือแรงงานไม่ถึงรึเปล่า..?  ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ประเทศนี้ก็จะขาดดุลการค้ากับประเทศที่เป็นเจ้าผลิต

เพราะ เราๆ ก็รู้ว่าประชากรเวียดนามเยอะกว่าไทย ต้องกินต้องใช้ไม่ได้แตกต่างกันกับคนทั้งโลก (คนเหมือนกันทั้งโลก)

ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมว่าผู้นำเค้าคงหาแผนรองรับ อาจตอนแรกๆ ผลิตนักศึกษาหรือแรงงานพวกนี้ไม่ทันก็ต้องนำเข้าโดยเอาค่าแรงนี้เป็นตัวดึง

เช่นกันกรณีประเทศไทย ในเมื่อตอนนั้นแรงงานเราถูกดูด (สมองไหล) ไปญี่ปุ่น เกาหลี สิงฯ มาเลฯ หมด เหลือแต่แรงงานไร้ฝีมือ (ต่างด้าว)

จะเกิดอะไรขึ้น...?  นี่แหละครับ ที่เราจะต้องปรับ  อย่าลืมนะครับอาชีวะของเรานี่พัฒนากันมานานนะครับกว่าจะได้เท่านี้

ทั้งเยอรมัน ญี่ปุ่น อเมริกาได้มาวางแผนไว้ ราชมงคลแต่ก่อนเป็นเทคนิคไทย-เยอรมัน วิทยาลัยเทคนิคต่างๆ แถวบ้านผม

แต่ก่อนเป็นโรงเรียนช่างไม้ของอเมริกา สมัยต่อสู้กับเวียดกง อื่นๆ อีกมาก  นี่แหละครับที่ประเทศเราจะเสียโอกาส

ถ้าไม่ปรับ ถึงตอนนั้น พม่าอาจขึ้นค่าแรงให้คนที่จบ ปวช. ปวส.สูงกว่า ปริญญาที่บ้านเราก็ได้ ได้ยินว่าที่ทวายที่อิตาเลียนไทยกำลังลุงทุนอยู่

ไกล้ๆ จะเสร็จน่าจะทันกับตอนนั้น  อย่าลืมว่าไม่มีประเทศไหนยอมเสียเปรียบให้ใครหรอกครับถึงเวลานั้น

เราจะมากุมเป้าตัวเองแล้วไปปาฐกถา เรื่องการเมืองภายในอยู่ ไม่มีใครฟังนะทั่น เพราะผลประโยชน์ของประเทศเค้าสำคัญกว่า


ปล.สมัย ๑๐๐ กว่าปีที่แล้วพี่ช้างเรา นำหน้าพี่สิงห์ พี่เสือ อีก ๑๐๐ ข้างหน้าจะเหลืออะไรให้ลูกหลานน้อ...มันน่าคิด.

[moojangjang]

เรื่อง AEC ขอแชร์นะครับ

เข้าใจว่ามีแรงงานไม่กี่กลุ่มที่เข้าข่าย เปิดเสรีครับ 7 กลุ่มหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ

แต่เรื่องเสรีเห็นเริ่มมีเรื่องเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติอยู่บ้างครับ เช่นทำงานมาไม่น้อยกว่ากี่ ปี อะไรทำนองนี้ครับ

ทางสภาวิศวกร กับสภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ คุยกันอยู่ครับ แรงงานเข้ามาคงไม่ง่ายครับ ออกก็ไม่ง่ายเหมือนกันครับ เพราะต่างชาติก็ป้องกันเราเหมือนกันเพราะเราก็แรงงานถูก(ค่าจ้างในประเทศต่ำกว่าเมื่อเทียบประเทศอื่น)

เท่าที่ทราบสินค้าเริ่มปลอดภาษีก็จริงครับ แต่มีค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพิ่มเติมมากมาก ยกเว้นประเทศไทยหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ ที่ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าเพื่อนบ้าน สินค้านำเข้าจึงราคาถูก กระทบหลายอย่างเหมือนกันนะครับ

[Temujin]

  การเดินทางเข้าประเทศต่างๆ ที่ไม่ต้องถือ Visa นั้นมันมีนานแล้ว อย่างอังกฤษ นี่เห็นว่า 160 กว่าประเทศเข้าได้ หรืออเมริกาก็มี

แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า คุณต้องมีเงินในกระเป๋า (บัญชีเท่าไหร่) พูดภาษาเค้าได้ ไม่ใช่ไปเป็นภาระเค้า เป็นต้น  แต่กลับมามองถึงประเทศเรา

ตอนนั้นถ้าไม่ปรับ จะเป็นการเสียโอกาสในเรื่องแรงงาน เพราะตอนนี้ผมว่าในภูมิภาคนี้ถือว่าเราเด่นมากในเรื่องแรงงานฝีมือ

หรือจะให้ประเทศอื่นดูดไปหมด และคิดว่าการพัฒนาคนมันง่ายมากรึยังไง...?  ประเทศอื่นยังหวงเลยด้านทรัพยากรนี้

ถ้าวันนั้นเวียดนามไม่อยากเสียดุลการค้าเรา และให้นำเข้าแรงงานฝีมือแล้วจะรู้สึก  อย่างตอนนึงจำได้ว่าเคยมีเครือนึง

ที่ต้องนำเข้านักวิชาการ นักวิทยาศตร์เข้ามาช่วงแรกๆ คือ CP ถ้าถึงตอนนั้นก็จะไม่ต่างกัน เราก็จะโดนแบนในหลายๆ อย่าง

เช่น กีดกันทางการค้า เรื่องสวัสดิการแรงงานในประเทศคุณไม่เป็นไปตามกฎโน่นกฎนี่ ฯลฯ  สังคมมักสร้างเงื่อนไขเสมอ.

[Temujin]

9 เดือน 442 บจ.กำไรรวมแตะ 5.18 แสนล.ยอดขายรวม 6.43 ล้านลบ.

ตลาดหลักทรัพย์ เผย งบการเงินบริษัทจดทะเบียนงวด 9 เดือน ปี 2554 หลังจากบางส่วนที่ได้รับการผ่อนผันนำส่งงบการเงินช้ากว่ากำหนด

เนื่องจากปัญหาอุทกภัยนำส่งงบการเงินแล้ว พบบริษัทจดทะเบียนใน SET รวม 442 แห่ง คิดเป็น 93.64% จากทั้งหมด 472 แห่ง

สามารถทำกำไรสุทธิรวมสูงถึง 518,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมียอดขายรวมถึง 6,428,534 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 24.89%

เต็มๆ....http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000156089&TabID=2&

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
 บ.จดทะเบียนไหนที่มีกำไรจัดไปก่อนเลยครับ ตามแนวนโยบายที่ได้วางไว้ ส่วน บ.ไหนที่ไม่มีกำไรรัฐต้องออกมาตราการช่วย

เช่น  ออกมาตราการด้านการคลังลดภาษีต่างๆ ที่พอจะช่วยได้ เป็นต้น  ไม่งั้นก็จะมีการเลื่อมล้ำกันอยู่อย่างนี้

บ.โตก็โตไป กระทั่ง บ. เล็กๆ แข่งขันไม่ได้ ภายใต้กฎกติกาเดียวกันอีกต่างหาก แรงงานก็โดนเอารัดเอาเปรียบกันไป

คนที่ได้ประโยชน์คือนักลงทุน ผู้ถือหุ้น ผู้ที่รับภาระคือ รัฐ ที่ต้องดูแล ทั้งสังคม สิ่งแวดล้อม นี่เห็นลดการเก็บเงินเข้ากองทุนประกันสังคมด้วย

จะไม่กำไรมากกว่านี้อีกเหรอ บ.ที่จดทะเบียนต่างๆ  คิดใหม่ ทำใหม่ กันจริงๆ เสียที ผมว่าทำได้ ถ้าจะทำ รู้ๆ กันอยู่...


ปล.ใครว่าประเทศนี้จน กำไรจากผลประกอบการณ์นี่ถือว่าดีอันดับต้นๆ ของเอเชียเลยนะเนี่ย แต่ทำไมค่าแรงมันถูกนักว๋า...สู้พี่สิงห์ พี่เสือ ก็บ่ได้.
      

[เมฆพัตร]

ถ้าพูดถึงสมองไหล มันก็ไม่ได้ไหลมากมายจนแทบจะทะลังปานนั้น เพราะยังไงประเทศไทยเราก็ยังมีการผลิตรแรงงานกึ่ง
ฝีมือ (ผู้ที่จบขั้นต่ำ ปวช หรือ ม.6แต่ไม่เกิน ปวส.) จนถึงมีฝีมืออยู่แล้วปีหนึ่งๆเกินความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศด้วยซ้ำไปดูจากไหนก็ตามสถาบันอาชีวะศึกษา มหาวิทยาลัยต่างๆ เพราะฉะนั้นที่ว่าประเทศจะเหลือแต่แรงงานไร้ฝีมือนั้น ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน ก็ปล่อยให้แรงงานต่างด้าวหาปลา ตัดอ้อย ให้เราน่ะดีแล้ว เราก็มาทำงานที่ต้องอาศัยแรงงานกึ่งฝีมือมีฝีมือ จนถึงเฉพาะทางดีกว่า ส่วนเรื่องสมองไหลนั้น
ไม่ว่าจะเปิดหรือไม่เปิด AEC ( AEC= ASEAN Economic Community ; ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) ปัจจุบันก็มีการเคลื่อนไหวของแรงงานกลุ่มนี้อยู่แล้ว ยกตัวอย่างที่
ชัดเจนและเห็นง่าย อาชีพครูสอนภาษา ไม่ว่าจะเป็น ภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี (ใต้น่ะไม่ใช่เหนือ) อังกฤษ  ซึ่งปัจจุบัน อาจจะพบเห็นบ้าง ตามสถาบันสอนภาษาที่นำเจ้าของภาษามาสอนภาษาเอง แต่ถ้าเปิด AEC แล้วเชื่อว่า เราจะพบเห็นเจ้าของภาษาที่สอนภาษาตัวเองตามสถาบันต่างๆมากขึ้นอาจจะกระตุ้นเล็กน้อย  (สถาบันหมายถึง สถาบันสอนภาษาทั่วๆ ไปน่ะครับ ไม่ได้หมายถึงในระบบการศึกษาไทยแต่ถ้าจะได้รับเป็นอาจารย์พิเศษอันนี้ยังสงสัย)   ซึ่งจากกรณีดังกล่าวจะทำให้อาชีพสอนภาษาได้รับผลกระทบแน่นอน   ทั้งจากเขามาสอนเราและเราไปสอนเขา ข้อดีคือเราได้เรียนกับเจ้าของภาษา ข้อเสียเราโดนแย่งงานในสายงานนี้  แต่สิ่งหนึ่งที่จะมาตัวกีดกันทางอ้อมไม่ให้แรงงานกลุ่มนี้เข้ามามากนั้นคือ นโยบายภาษีเงินได้บุคคลที่เป็นชาวต่างชาติ แต่ทั้งนี้ต้องประกอบด้วยปัจจัยอื่นด้วย เช่น สิ่งอำนวยความสะดวก ระบบสาธารณูปโภค สังคมสิ่งแวดล้อม


แก้ไข AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

[เมฆพัตร]

(ข้างบนแบบเรียนภาษาไทย-จีน ไม่ว่าภาษาอะไรก็ต้องแปลไปเป็นอังกฤษก่อนมาเป็นภาษาชาติตน)
แล้วถ้ากลับมาดูแรงงานมีฝีมือหรือเฉพาะทางขึ้นไปแล้ว แน่นอนเรายังมีความได้เปรียบอยู่มาก อยู่มากอย่างไรถ้าหากเอาเกณฑ์ที่ว่าคุณภาพคนคือคุณภาพการศึกษาแล้ว เราก็สามารถดูผ่านระบบการศึกษาคือมหาวิทยาลัยต่าง แล้วเราก็กลับมาดู อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย 200 อันดับแรก จะเห็นว่า ถ้าในระดับอาเซียนแล้วเราสู้ได้ทุกชาติในอาเซียน โดยดูจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัย 200 อันดับแรกของเอเชีย มีมหาวิทยาลัยไทยติดอันดับมากสุด 9 สถาบัน
ถ้าวัดในแถบอาเซียนได้ดังนี้
อันดับ 1  NUS = National University of Singapore ของสิงค์โปร อันดับ 3 ของเอเชีย
อันดับ 2  NTU= Nanyang  Technological University ของสิงค์โปรอันดับที่ 17 ของเอเชีย
อันดับ 3  ม.มหิดล ประเทสไทย อันดับ 34 ของเอเชีย
อันดับ 4  UM= University Malaya  มาเลเซีย อันดับ 39 ของเอเชีย
 แต่ถ้าเทียบในเอเชียแล้วเรายังห่างไกลกับ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี  ไต้หวัน  อีกมาก  อย่าลืมน่ะครับว่าเอเชียเรามีความคลั้งเรื่องสถาบันดีสถาบันเด่น เข้าโรงเรียน มหาลัยดังๆ มากกว่าทวีปใดในโลก  เพราะฉะนั้นถ้าคิดอยากไปทำงานต่างประเทศแบบแรงงานมีฝีมือหรือเฉพาะทาง ต้องเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่เรียนด้วยซ้ำไป

แก้ไขฟร้อนใหม่...

[เมฆพัตร]

มหาวิทยาลัยโซล มหาวิทยาลัยแห่งชาติเกาหลี

**

[เมฆพัตร]

NUS อันดับ 3 ของเอเชีย อันดับ 1(ในภาพ) ของอาเซียน NTU อันดับ 17 ของเอเชีย อันดับ 2 ของอาเซียน...ทั้งหมดอยู่ใน สิงค์โปร

...

[เมฆพัตร]

UM อันดับ 39 ของเอเชีย อันดับ 6 ของอาเซียน..


.....
แก้ไข เข้ามาให้เครดิตแหล่งข้อมูล

http://krooair.blogspot.com/2011/01/blog-post_07.html
http://www.chinahistoryforum.com/index.php?/topic/30896-%26-36234%3B%26-20154%3B%26-27468%3B-yue-ren-ge-thai-language/
http://www.topuniversities.com/university-rankings/asian-university-rankings/2011
http://sorndee.com/node/461
http://web.snuh.org/~urology/home_eng.html

[เมฆพัตร]

NTU  อันดับ 2 ของอาเซียน อันดับ 17 ของเอเชีย


...

[เมฆพัตร]

NTU...อีกมุม

[เมฆพัตร]

มหิดล อันดับ 3 ของอาเซียน อันดับ 34 ของเอเชีย

....

[เมฆพัตร]

ข้อสอบเด็กไทย.....ขำขำ  อย่าคิดมาก


...

[Temujin]

( AEC= ASEAN Economic Community ; เขตการค้าเสรีอาเซียน)

 จัดยาวเลยนะท่าน    AEC= ASEAN Economic Community (ประชาคมเศรฐกิจอาเซียน) ครับ

ส่วน เขตการค้าเสรี นั้นถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็น AFTA แล้วกลายเป็น FTA ที่ลงปลายปากกากันไปแล้วกับหลายๆ ประเทศ

แต่ AEC นี้สำหรับผมว่ามันยิ่งใหญ่กว่า AFTA (สมัยท่าน อนันท์ ปัญยารชุน) อยู่หลายขุม และไทยจะพร้อมขนาดไหน คอยดูกัน...

[Temujin]

   เห็นคำตอบแล้วปวดตับแทนเลยนะนั่น....อย่างนี้ต้องสายตรงถึงคุณครูนาวแล้ว ว่าให้เช็คข่าวด่วน ออกมาห้องนี้บ้าง อย่าเข้าแต่ห้องนั่งเล่น....หลาย   

[เมฆพัตร]

ขอบคุณครับ  ตามนั้น เดี๋ยวไปแก้