เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 30 กรกฎาคม 2025, 07:46:49
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ตลาดกลางซื้อขายสินค้าออนไลน์
| |-+  ตลาดรถซื้อขายรถมือสอง
| | |-+  อะไหล่รถยนต์,อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ (ผู้ดูแล: chiohoh, NOtis, Krit_66, Active Oper, chatchaij)
| | | |-+  CAR-ACCS เกจ์วัดDEFI Advance RS by NS,Greddy Multi D/A Gauge เปลี่ยน 7 สี
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 ... 36 พิมพ์
ผู้เขียน CAR-ACCS เกจ์วัดDEFI Advance RS by NS,Greddy Multi D/A Gauge เปลี่ยน 7 สี  (อ่าน 33636 ครั้ง)
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #60 เมื่อ: วันที่ 08 มกราคม 2012, 23:12:24 »

โปรโมชั่นเดือนนี้ติดตั้งBi-Xenon Projectorฟรี!!! เริ่มแล้วนะครับ
เข้าชมรายละเอียดได้ที่ www.car-accs.com
สอบถามโทร 0866009753-โบ๊ต
BB pin 22B88F02
caraccs.info@gmail.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #61 เมื่อ: วันที่ 09 มกราคม 2012, 09:46:44 »

โปรโมชั่นเดือนนี้ติดตั้งBi-Xenon Projectorฟรี!!! เริ่มแล้วนะครับ
เข้าชมรายละเอียดได้ที่ www.car-accs.com
สอบถามโทร 0866009753-โบ๊ต
BB pin 22B88F02
caraccs.info@gmail.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #62 เมื่อ: วันที่ 09 มกราคม 2012, 11:52:12 »

โปรโมชั่นเดือนนี้ติดตั้งBi-Xenon Projectorฟรี!!! เริ่มแล้วนะครับ
เข้าชมรายละเอียดได้ที่ www.car-accs.com
สอบถามโทร 0866009753-โบ๊ต
BB pin 22B88F02
caraccs.info@gmail.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #63 เมื่อ: วันที่ 09 มกราคม 2012, 20:16:53 »

โปรโมชั่นเดือนนี้ติดตั้งBi-Xenon Projectorฟรี!!! เริ่มแล้วนะครับ
เข้าชมรายละเอียดได้ที่ www.car-accs.com
สอบถามโทร 0866009753-โบ๊ต
BB pin 22B88F02
caraccs.info@gmail.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #64 เมื่อ: วันที่ 10 มกราคม 2012, 10:21:57 »

เข้าชมรายละเอียดได้ที่ www.car-accs.com
สอบถามโทร 0866009753-โบ๊ต
BB pin 22B88F02
caraccs.info@gmail.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #65 เมื่อ: วันที่ 10 มกราคม 2012, 22:22:49 »

เข้าชมรายละเอียดได้ที่ www.car-accs.com
สอบถามโทร/What Apps 0866009753-โบ๊ต
BB pin 22B88F02
caraccs.info@gmail.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #66 เมื่อ: วันที่ 11 มกราคม 2012, 09:30:58 »

เข้าชมรายละเอียดได้ที่ www.car-accs.com
สอบถามโทร 0866009753-โบ๊ต
BB pin 22B88F02
caraccs.info@gmail.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #67 เมื่อ: วันที่ 11 มกราคม 2012, 15:48:20 »

เข้าชมรายละเอียดได้ที่ www.car-accs.com
สอบถามโทร 0866009753-โบ๊ต
BB pin 22B88F02
caraccs.info@gmail.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #68 เมื่อ: วันที่ 12 มกราคม 2012, 09:05:30 »

เข้าชมรายละเอียดได้ที่ www.car-accs.com
สอบถามโทร 0866009753-โบ๊ต
BB pin 22B88F02
caraccs.info@gmail.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #69 เมื่อ: วันที่ 12 มกราคม 2012, 20:14:04 »

11/1/12
EI788935265TH - K.วิรุฬกาญจน์ - ศรีสำโรง

12/1/12
RF679956193TH - K.สมเกียรตื - ขอนแก่น

ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #70 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2012, 10:31:04 »

CAR-ACCS มีสินค้าใหม่
- Xenon H3 องศาสี 3000k,4300k,6000k,8000k,10000k ราคาเซ็ตละ 2000 บาท
- Xenon H4 Slide(สูง-ต่ำ Xenon) องศาสี 4300k,6000k,8000k,10000k ราคาเซ็ตละ 2500 บาท
- Xenon HB4 องศาสี 3000k,4300k,6000k,8000k,10000k ราคาเซ็ตละ 2000 บาท
- HKS Turbo Timer ราคาเซ็ตละ 1100 บาท
- pivot stabilizer กล่องม่วง ราคาเซ็ตละ 1100 บาท
หากต้องการซื้อสินค้าตัวให้กรุณาเข้าไปตรวจสอบที่ www.car-accs.com เพื่อเช็คว่าสินค้าหมดหรือไม่
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #71 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2012, 16:51:37 »

BI-XENON คืออะไร

โดย ปกติแล้วไฟหน้าแบบซีนอนทั่วไปที่คุ้นเคยกันจะทำหน้าที่เฉพาะในส่วนของไฟต่ำ (Low Beam) เท่านั้น เห็นได้จากรถไม่ว่ารุ่นใดที่ใช้ไฟหน้าแบบซีนอน โคมไฟหน้ามักจะต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเสมอ โดยแยกเป็นไฟต่ำและไฟสูง เฉพาะไฟต่ำเท่านั้นที่เป็นแบบซีนอน ส่วนไฟสูงยังคงเป็นฮาโลเจนตามปกติ เหตุผลก็เพราะไฟซีนอนแม้ว่าจะให้ความสว่างที่มากกว่า แต่ต้องอาศัยเวลามากกว่าเช่นกันจึงจะให้ความสว่างได้เต็มที่เมื่อเทียบกับ หลอดฮาโลเจ
น ซึ่งในกรณีที่คนขับต้องการใช้ไฟสูงในทันที เช่น ไฟขอทาง (Dip Beam) ปกติแล้วเพียงแค่ดึงก้านควบคุมเข้าหาตัวก็จะเป็นการเปิดไฟสูงโดยอัตโนมัติ กรณีนี้หลอดฮาโลเจนจะให้ความสว่างได้รวดเร็วกว่าหากใช้ไฟแบบซีนอนจะต้องใช้ เวลาประมา
ณ 15 วินาทีเพื่อรอให้แสงที่ออกมามีความสว่างเต็มที่ จึงไม่เหมาะสมและไม่ปลอดภัยหากจะใช้เป็นไฟ Dip Beam ในตอนกลางวัน แต่เมื่อขับในตอนกลางคืน โดยเฉพาะบนถนนที่เปลี่ยวและแสงน้อยหลายครั้งที่จำเป็นต้องเปิดไฟสูงตลอดเวลา

ซึ่งลำพังแสงของหลอดฮาโลเจนอาจให้ความสว่างไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงเป็นที่มาของไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน (Bi-xenon) เมื่อได้ยินว่าเป็นไฟหน้าแบบไบ-ซีนอน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไฟซีนอนคู่ 2 ดวงในโคมเดียวกัน เพราะชุดไฟหน้าแบบไบ-ซีนอนยังคงใช้หลอดไฟสูงแบบอาโลเจนขนาด 55 วัตต์ควบคู่ไปด้วย เพื่อทำหน้าที่เป็น Dip Beam ตามปกติ ต่อเมื่อต้องการเปิดไฟสูงค้างไว้ในขณะเปิดไฟหน้า (ซึ่งรถส่วนใหญ่ใช้วิธีดันก้านควบคุมไฟข้างหน้า) คราวนี้จึงจะเห็นความแตกต่างของคำว่า "ไบ-ซีนอน" ไฟหน้าแบบไบ-ซีนอนทำงานบนพื้นฐานของไฟซีนอนตามปกติ โดยจะใช้การสะท้อนของแสงคอยปรับการทำงานให้เป็นทั้งไฟสูงค้างไว้ จะมีชิ้นส่วนหนึ่งที่ทำหน้าที่เหมือนเป็น "ชัตเตอร์" เพื่อควบคุมการกระจายของแสงไฟซีนอน โดยชัตเตอร์จะขยับตัวขึ้น-ลงเพื่อให้แสงที่ออกมาเป็นไฟต่ำและไฟสูงตามต้อง การ ดังนั้น ในสภาพการใช้งานจริง ไฟหน้าแบบไบ-ซีนอนนี้จึงนับว่าเป็นการนำข้อดีของไฟซีนอนมาใช้ให้เกิด ประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งความรวดเร็วของชัตเตอร์ในการเปลี่ยนจากไฟต่ำเป็นไฟสูง และความสว่างที่กว้างไกลกว่าเมื่อลำแสงถูกปรับให้เป็นไฟสูงจึงเท่ากับเป็น การเพิ่มระ
ยะการมองเห็นทางเบื้องหน้าที่ชัดเจนกว่าปกติมาก

ปัจจุบัน ไฟหน้าไบ-ซีนอนได้พัฒนาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งเพิ่มระบบปรับความสูงของแสงโดยอัตโนมัติ (Dynamic Headlamp Leveller) และระบบทำความสะอาดไฟหน้ามาให้พร้อม ด้วยความสว่างที่มากกว่าหลอดฮาโลเจน จึงจำเป็นต้องควบคุมแสงของไฟไม่ให้ทำลายทัศนวิสัยของรถที่สวนมา ระบบปรับความสูงของไฟหน้าอัตโนมัติจึงถูกติดตั้งมาให้สำหรับรถที่ใช้ไฟหน้า แบบไบ-ซีนอน ซึ่งระบบนี้จะคอยควบคุมองศาของแสงไฟในแนวดิ่งไม่ให้สูงเกินไป โดยอาศัยสัญญาณจากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้ง อยู่ในชุดช่วงล่างที่จะคอยจับอาการยุบหรือยกตัว เช่น การออกตัว เบรก หรือขณะบรรทุกหนัก เพื่อปรับให้แสงของไฟหน้าอยู่ที่ระดับที่เหมาะสมตลอดเวลา แม้จะขับอยู่ในทางขรุขระก็ยังสามารถรักษา ระดับของไฟหน้าด้วยการส่งสัญญาณที่ไวถึง 1 ส่วน 1,000 วินาที ในรถยนต์ราคาสูงหลายรุ่น เซ็นเซอร์ของระบบปรับความสูงของไฟหน้าอัตโนมัติ และจะรับสัญญาณจากเครื่องยนต์และระบบเบรกด้วย นอกเหนือจากระบบกันสะเทือนเพียงอย่างเดียว
เพื่อการทำงานที่รวดเร็วขึ้น เช่น เมื่อมีการเร่งเครื่องทันทีทันใดจะทำให้ตัวรถมีอาการหน้าเชิดขึ้น หรือการเบรกกะทันหันก็จะทำให้รถมีอาการหน้าทิ่มลงนั่นเอง สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งช่วงล่างแบบถุงลมที่ปรับความสูงตัวถุงได้องศาของไฟ หน้าก็ยังส
ามารถปรับตัวเองให้ต่ำลงเมื่อรถอยู่นาระดับสูงสุด แม้ขณะจอดนิ่ง เป็นการรักษาระดับของไฟหน้าไม่ให้สูงขึ้นจนแยงตารถคันอื่น



บทความนี้อ้างอิงจาก :
ขอขอบคุณ: นิตยสาร GM CAR MAGAZINE เอื้อเฟื้อข้อมูล
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #72 เมื่อ: วันที่ 13 มกราคม 2012, 18:50:38 »

DAYTIME RUNNING LIGHT LED (DAYLIGHT)

DRL หรือ Daytime Running Light หรือ Daylight เป็นไฟที่จะส่องสว่างระหว่างวัน โดยจะติดทันทีที่สตาร์ทเครื่องยนต์ โดยส่วนมากจะเป็นไฟต่ำ หรือไฟตัดหมอก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ โดยการทำให้รถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ที่อยู่รอบๆ สามารถสังเกตุเห็นรถยนต์ของท่านได้ง่ายยิ่งขึ้น โดย DRL นี้ได้รับการรับรองอย่างแพร่หลาย โดยมีการทำการทดลองแล้วว่าสามารถลดอุบัติเหตุได้จริง และกำลังจะมีกฎหมายบังคับให้ใช้ในยุโรป ซึ่งจะกลายเป็นมาตรฐานของรถยนต์ในอนาคตอันใกล้นี้
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #73 เมื่อ: วันที่ 14 มกราคม 2012, 11:04:02 »

Volt Stabilizer ทำงานคล้าย Groundwire แต่ส่งผล Direct efficiency
ที่ช่วยให้กรองไฟและเก็บประจุเพื่อชดเชยกับกำลังไฟให้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
ส่งผลดีต่อระบบไฟฟ้าในรถโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
ระบบรอบความเร็วไฟฟ้าทำงานได้ตอบสนองดีมากยิ่งขึ้น
รอบไม่สวิง หรือตกมาก
ระบบ audio เสียงใสมากขึ้น
ระบบเสียงแตร ระบบไฟฟ้าที่ต่อเพิ่ม ตอบสนองการใช้งานดีขึ้น
แสงไฟส่องสว่างขึ้นและเสียงตอบสนองดี
ประหยัดพลังงานได้ระดับหนึ่ง
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #74 เมื่อ: วันที่ 14 มกราคม 2012, 13:13:09 »

14/1/12
RF679988559TH - K.ณัฐพร - นครราชสีมา
ขอบคุณครับ
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #75 เมื่อ: วันที่ 14 มกราคม 2012, 22:22:44 »

ผลงานสวยๆ

IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #76 เมื่อ: วันที่ 15 มกราคม 2012, 10:47:42 »

วิธีดูแลระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์


อุปกรณ์ในระบบหล่อเย็นที่สำคัญและจะขาดเสียไม่ได้อีก อย่างหนึ่งก็คือ พัดลมหม้อน้ำ เพราะช่วยในการถ่ายเทความร้อนระหว่างรังผึ้งหม้อน้ำกับอากาศให้สมดุลกับปริมาณความร้อนที่เกิดขึ้น ปัจจุบันพัดลมหม้อน้ำในรถยนต์ส่วนใหญ่จะเป็นชนิดที่ข ับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เพราะการควบคุมการทำงานได้ง่ายกว่าชนิดขับด้วยสายพาน แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถทำให้มีขนาดใหญ่มาก ๆ ได้เนื่องจากกระแสไฟฟ้าในรถมีน้อย รถที่ต้องการอัตราการไหลของอากาศมาก ๆ เนื่องจากอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์สูง เช่น รถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจึงยังจำเป็นต้องใช้พัดลมชน ิดที่ขับด้วยสายพานโดยใช้กำลังจากเครื่องยนต์อยู่
โดยปกติพัดลมหม้อน้ำจะไม่ต้องการการบำรุงรักษาใด ๆ เพราะหากชำรุดขึ้นก็เปลี่ยนใหม่ แต่อย่างไรก็ดีควรหมั่นตรวจดูสภาพและการทำงานเป็นระย ะ ๆ โดยการตรวจสภาพและการทำงานของพัดลมหม้อน้ำ ซึ่งควรทำทุกครั้งที่ตรวจระดับน้ำหล่อเย็น ต่อจากนั้นตรวจดูใบของพัดลมว่าไม่แตกหักเสียหายหรือเ ปลี่ยนรูปไป ตรวจดูโครงยึดและกรอบบังลมว่าตรึงแน่นอยู่ในตำแหน่งอ ย่างถูกต้องและไม่มีร่องรอยของการเสียดสี สายไฟและปลั๊กต่อว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่ขาด แตกหัก หรือหลุดลุ่ย ตรวจการทำงานของพัดลมหม้อน้ำและวงจรควบคุม โดยสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วสังเกตการทำงานของพัดลมหม้อ น้ำในสภาวะปกติ ระหว่างที่ติดเครื่องยนต์ใหม่ ๆ พัดลมหม้อน้ำจะยังไม่ทำงาน พัดลมจะเริ่มหมุนเมื่ออุณหภูมิของเครื่องยนต์เริ่มสู งกว่าอุณหภูมิทำงานปกติ (ประมาณ 85-90 องศาเซลเซียส) และจะหยุดหมุนเมื่ออุณหภูมิของเครื่องยนต์ลดต่ำลงกว่ าระดับดังกล่าว สลับไปมาอย่างนี้ตลอดไป

ดังนั้นถ้าพบว่า พัดลมหม้อน้ำทำงานอยู่ตลอดเวลา แสดงว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นในระบบหล่อเย็น หรืออุปกรณ์ควบคุมการทำงานของพัดลม ลองใช้น้ำฉีดที่หม้อน้ำ (อย่าฉีดไปที่ตัวมอเตอร์โดยตรงเพราะจะทำให้เกิดไฟฟ้า ลัดวงจร หรือชิ้นส่วนภายในเสียหาย) ถ้าฉีดแล้วพัดลมหยุดทำงานก็แสดงว่าการระบายความร้อนข องหม้อน้ำไม่มีประสิทธิภาพ เช่น ปริมาณของสารหล่อเย็นมีไม่พอเพียง เกิดการอุดตันที่ครีมระบายความร้อน มีตะกรันหรือสนิมในหม้อน้ำอุปกรณ์ในระบบหล่อเย็น (ปั๊มน้ำเทอร์โมสตัท) บกพร่อง แต่ถ้าฉีดน้ำจนแน่ใจว่าอุณหภูมิของเครื่องยนต์ลดลงจน ต่ำกว่าอุณหภูมิทำงานแล้ว พัดลมก็ยังไม่หยุดทำงานแสดงว่าอุปกรณ์ควบคุมการทำงาน ของพัดลม (เทอร์โมสวิตช์) บกพร่อง

อาการบกพร่องประการสุดท้าย คือ พัดลมไม่หมุน ลองตรวจดูฟิวส์เสียก่อนเป็นอันดับแรก (ตำแหน่งของฟิวส์ได้จากคู่มือผู้ใช้รถของแต่ละรุ่น) ถัดจากนั้นก็เป็นสายไฟและขั้วเสียบ ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ แสดงว่าตัวพัดลมหรือไม่ก็วงจรควบคุมบกพร่อง สำหรับการแก้ไขในกรณีนี้คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ขอ งช่างที่มีความชำนาญเป็นดีที่สุด ไม่แนะนำให้แก้ไขเองครับ ประเดี๋ยวจะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะวงจรควบคุมพัดลมหม้อน้ำในระบางรุ่นเชื่อมต่ออยู่กับกล่องคอมพิวเตอร์ ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เคราะห์หามยามร้ายเกิดไปทำกล่องที่ว่านั่นเสียจะกลาย เป็นเรื่องใหญ่

การดูแลรักษาระบบหล่อเย็นโดยสังเขปคงมีเท่านี้ ขอให้ใช้รถในหน้าร้อนได้อย่างสบายอกสบายใจและสนุกสนา นทุกท่านครับ

 
 

ที่มา - http://www.auto2thai.com
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #77 เมื่อ: วันที่ 15 มกราคม 2012, 13:34:19 »

วิธีประหยัดน้ำมันรถยนต์
ในเมื่อสถานการณ์ราคาน้ำมันยังคงพุ่งไม่หยุด ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในเวลานี้คือการประหยัดน้ำมัน เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณเอง โดยโครงการรวมพลังหาร 2 ได้แนะนำ 9 วิธีประหยัดน้ำมัน ดังนี้

1.ขับรถในความเร็วที่กฎหมายกำหนด หากขับรถด้วยความเร็ว 90 กม./ชม. แทนการขับรถด้วยความเร็ว 110 กม./ชม. จะประหยัดน้ำมันได้ 25% คิดเป็นเงิน 800 บาทต่อเดือนต่อคัน หรือ 9,600 บาทต่อปีต่อคัน ถ้ารถยนต์จำนวน 7 ล้านคันทั่วประเทศขับรถตามกฎหมายกำหนด ประเทศชาติจะประหยัดเงินได้ไม่น้อยกว่า 67,000 ล้านบาทต่อปี

2.ตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำ การตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ปีละ 1 ครั้ง สามารถประหยัดน้ำมันได้ 10% คิดเป็นเงินที่ประชาชนประหยัดได้ 250 บาทต่อเดือนต่อคัน จะประหยัดได้ถึงปีละ 3,000 บาท หากรถยนต์เบนซิน จำนวน 3 ล้านคันในประเทศไทยดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว จะช่วยชาติจะประหยัดเงินได้ 9,000 ล้านบาทต่อปี

3.เติมลมยางไม่ขาดไม่เกิน ตรวจเช็กความดันลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือทุกๆ ระยะทาง 500 กิโลเมตร เพราะหากความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐานทุกๆ 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มร้อยละ 2

4.หมั่นทำความสะอาดไส้กรองอากาศ ควรทำความสะอาดไส้กรองอากาศทุกๆ 2-4 สัปดาห์ หรือทุกๆ 2,500 กิโลเมตร เพราะถ้าไส้กรองไม่สะอาดแล้วจะทำให้รถยนต์กินน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 10

5.ไม่ขับก็ดับเครื่อง ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเมื่อต้องจอดรถเป็นเวลานาน เพราะการติดเครื่องยนต์จอดรถเป็นเวลาเพียง 10 นาที จะเสียน้ำมันไปฟรีๆ 200-400 ซีซี หรือเสียเงินราว 3.35-7.75 บาท

6.ไม่บรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็น การบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็น นอกจากจะสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ยังทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าที่ควรด้วย หากขับรถโดยบรรทุกของที่ไม่จำเป็นประมาณ 10 กิโลกรัม เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 40 ซีซี

7.บำรุงรักษาเครื่องยนต์ การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดี โดยการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นเมื่อถึงกำหนด และตรวจสอบรอยรั่วในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง

8.ทางเดียวกันไปด้วยกัน หรือ คาร์พูล นอกจากจะทำให้จำนวนรถยนต์ในถนนลดลง การจราจรดีขึ้น ใช้เวลาในการเดินทางลดลงแล้ว ยังทำให้คุณภาพอากาศบนถนนดีขึ้น และผลพลอยได้สุดท้ายคือค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางและบำรุงรักษารถยนต์ลดลงอีก ด้วย

9.จอดรถไว้บ้าน การจอดรถไว้ที่บ้าน เมื่อต้องการเดินทางก็ใช้บริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันก็สะดวกสบายขึ้นมาก หรือจะอยู่ที่บ้านโดยใช้การติดต่อทางโทรศัพท์ โทรสาร และอินเทอร์เน็ตแทน ก็เป็นหนทางหนึ่งในการลดการใช้น้ำมันของตนเองและของประเทศได้
Credit : car-manman
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #78 เมื่อ: วันที่ 16 มกราคม 2012, 12:06:52 »

www.car-accs.in.th ยิ้มเท่ห์
IP : บันทึกการเข้า
projectkk
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 689


« ตอบ #79 เมื่อ: วันที่ 16 มกราคม 2012, 22:36:48 »

ผลงานสวยๆ
IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 ... 36 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!