** มาลาเซีย ประเทศที่เล็กกว่าเมืองไทยมาก ฉนั้นการที่จะทำอะไรก็ง่ายกว่าประเทศเราเยอะครับ (จำนวนประชากร,รายได้ต่อหัว,การศึกษา)
มาเลเซียเป็นตัวอย่างที่ผมยกขึ้น เพราะง่ายต่อการเปรียบเทียบ และเป็นเพื่อนบ้านเรา ครั้งหนึ่งเราเคยสูสีกัน แต่สุดท้ายเราก็สะดุดล้ม แล้วเขาก็วิ่งแซงหน้าไป
ในแง่ของพื้นที่ มาเลเซียเล็กกว่าเราไม่ถึงเท่าตัว อย่าลืมว่าเขาไม่ได้มีแค่ติ่งๆเดียวปลายด้ามขวาน แต่เขามีพื้นที่อีกส่วนอยู่อีกฝากทะเล
ในแง่ GDP ประชากรเขาน้อยกว่าเราประมาณ 3 เท่า แต่ GDP น้อยกว่าเราไม่ถึงเท่า
หรือหากมองประเทศอื่นๆ ที่กำลังพีฒนาด้วยกัน มีพื้นที่ใหญ่กว่าเรา ประชากรมากกว่าเรา แต่เขามีหลายๆสิ่งที่จัดการดีกว่าเรา ประเด็นเรื่องเนื้อที่ ประชากร อะไรพวกนี้ไม่น่าจะเกี่ยว สำคัญคือการจัดการของเราครับ
ผมว่าไม่ยากเลย เอาเงินที่จะลงทุนสร้างเมืองใหม่ไปพัฒนาความรู้ของคนส่วนใหญ่แล้วก็ปลูกฝังค่านิยมคนไทย ใหม่ที่ไม่ใช่อย่างปัจจุบันแบบทุนนิยมจะทำให้ประเทศและวัฒนธรรมล้มสลายไป แล้วก็ส่งเสริมให้คนรักบ้านเกิดของตัวเองมีอาชีพที่มั้นคง(ทุกอย่างทำอย่างจริงๆจังๆและเป็นรูปธรรม)
ส่วนประเด็นวัฒนธรรมทุนนิยม ก็ไม่ใช่ว่าเลวร้ายเสมอไป ผมว่าเรื่องนี้เรามาถูกทาง เราไม่ได้ทุนนิยมจ๋า แต่เราเป็นแบบผสม เน้นทุนนิยม แบบผสมคือกิจการบางอย่างยังคงเป็นของรัฐ รัฐควบคุมดูแล แบบพวกรัฐวิสาหกิจ เพียงแต่ประเด็นเดิม การจัดการเราไม่ดี มันเลยกระจุกไป
ส่วนเรื่องการล้มสลายของวัฒนธรรม อันนี้ต้องแยกจากระบบเศรษฐกิจ หนึ่งในประเทศที่ทำเรื่องนี้ได้ดีคือ เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรปไม่พูดถึงเพราะเขาเป็นวัฒนธรรมสากล อย่างในญี่ปุ่น ทุนนิยมมาก แต่ถามว่าทำไมเรายังคงเห็นคนใส่กิโมโนเดินกันทั่วเมือง หรือในเทศกาลสำคัญต่างๆ ผู้คนสวมชุดประจำชาติประเด็นนี้อยู่ที่การกระจายอำนาจการปกครอง ในญี่ปุ่นจังหวัดแต่ละจังหวัดมีอำนาจในการปกครองตนเอง เขาเลือกได้ว่าจะพัฒนาแบบไหน ดูแลตนเอง เขาเลยยังรักษาวัฒนธรรมท่องถิ่นของเขาได้ เรื่องนี้เคยคุยในกระทู้เรื่องเชียงรายมหานคร น่ะครับ ลองไปย้อนอ่านดู
สุดท้ายอยู่ที่การจัดการของเรานี้แหละครับ เราคนไทย เราปลูกฝังให้เคารพตะวันตก เราอยากมีอย่างที่ตะวันตกมี เราอยากเป็นอย่างที่ตะวันตกเป็น สุดท้ายเราก็ลืมสิ่งที่เป็นภูมิปัญญาของเรา