เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 25 เมษายน 2024, 13:29:43
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  ศาสนา กิจกรรมทางวัด (ผู้ดูแล: ap.41, ลุงหนาน)
| | |-+  เรื่องร้อนทางพระพุทธศาสนา
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์
ผู้เขียน เรื่องร้อนทางพระพุทธศาสนา  (อ่าน 4794 ครั้ง)
เทพบุตรดาวเหนือ เคนชิโร่
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,614


เฮาจะฮักคนที่ฮักเฮา@^__^@


« ตอบ #20 เมื่อ: วันที่ 20 พฤษภาคม 2010, 10:06:44 »

อืม..มีหลายเรื่องที่เราไม่เข้าใจ ถามไปก็ไม่ได้คำตอบ ยิงฟันยิ้ม

IP : บันทึกการเข้า

ขายปลีกและส่ง
       - Micro SD Card,Flash Drive ยี่ห้อKingston Sandisk Apacer
       - Power Bank ,สายชาร์ท สายซิงค์ทุกรุ่น
       - ลำโพงกระป๋อง ,ลำโพงรถ
James Kung
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 474


มุมอับ


« ตอบ #21 เมื่อ: วันที่ 22 พฤษภาคม 2010, 10:45:15 »

นานาจิตตั๋ง
IP : บันทึกการเข้า
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #22 เมื่อ: วันที่ 22 พฤษภาคม 2010, 16:20:43 »

 ยิ้ม คิดดี พูดดี ทำดี
สังคมก็สงบสุขแล้วครับ
พี่น้องงงงงงงงง.. ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
we two
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 995


wetwo


« ตอบ #23 เมื่อ: วันที่ 03 มิถุนายน 2010, 19:03:08 »

-พระพุธเจ้าท่านว่าทำบุญดูที่เจตนาค่ะ  ต่อให้เราไม่ถวายเงินทองถวายเป็นอย่างอื่นแต่เจตนาไม่ดีมีข้อเคลือบแคลงในใจก็ใช่ว่าจะได้บุญ....ทำบุญ ไม่ต้องมีข้อสงสัย.....
IP : บันทึกการเข้า

เทพบุตรดาวเหนือ เคนชิโร่
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,614


เฮาจะฮักคนที่ฮักเฮา@^__^@


« ตอบ #24 เมื่อ: วันที่ 12 มิถุนายน 2010, 09:25:38 »

ทุกวันนี้พระสงฆ์ที่ปฎิบัติดีส่วนมากจะเป็นพระป่า พระธุดงค์ เพราะไม่มีอะไรมากวนใจ
IP : บันทึกการเข้า

ขายปลีกและส่ง
       - Micro SD Card,Flash Drive ยี่ห้อKingston Sandisk Apacer
       - Power Bank ,สายชาร์ท สายซิงค์ทุกรุ่น
       - ลำโพงกระป๋อง ,ลำโพงรถ
มงคล
สมาชิกลงทะเบียน
ระดับ ป.ตรี
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,104


เหนื่อยการ แต่ใจอย่าท้อ


« ตอบ #25 เมื่อ: วันที่ 12 มิถุนายน 2010, 09:41:16 »

สมัยนี้พระเณรก็ต้องใช้เงินเหมือนกันครับ ยิ่งพระ-เณร ที่กำลังศึกษาอยู่  เรื่องศิล เคร่งนักมักขาด หย่อยนักมักยาน เดินสายกลางดีที่สุด
IP : บันทึกการเข้า

นายมงคล หมื่นเกี๋ยง
ร้านถ่ายเอกสารมงคล หน้าวิทยาลัยเทคนิคเชียงราย
โทร.087-6614381, 053-752795
ปุถุชน(ทุกหยาดเหงื่อเพื่อลูกเมีย)
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,041



« ตอบ #26 เมื่อ: วันที่ 12 มิถุนายน 2010, 13:20:11 »

ละเอียดอ่อนมากๆ
IP : บันทึกการเข้า
ลุงหนาน
ผู้ดูแลบอร์ด
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 249



« ตอบ #27 เมื่อ: วันที่ 14 มิถุนายน 2010, 10:32:47 »

การถวายปัจจัยให้พระ เห็นหนังสือมาเหมือนกัน อ้างจากพุทธพจน์ในพระไตรปิฏก แท้จริงในพระไตรปิฏกมีหลายแง่มุมที่ผู้ศึกษาต้องตีความหมายให้ออก คนที่เอาเรื่องนี้มาอ้าง คือลูกศิษย์ของพระรูปหนึ่ง จว.เพชรบูรณ์ ที่ท่านบังอาจเอาเท้าไปเหยียบเข่าพระพุทธรูป แล้วชี้บอกว่า นี่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า แต่เป็นเพียงอิฐเพียงปูน..  ท่านว่าถูกต้องไหม.. แล้วที่ว่าพระรับเงินทองไม่ได้นั้น ทำไมจะไม่ได้เพราะสมัยพุทธกาล กับสมัยปัจจุบันเทียบกันไม่ได้ พระแต่ก่อนท่านบวชเพื่อศึกษาธรรมวินัยอย่างเดียว คือบวชเพื่อความพ้นทุกข์ แต่พระปัจจุบันท่านไม่ได้มีแค่นั้น ท่านต้องเรียนหนังสือ แล้วรัฐบาลส่งเสริมไหม.. แม้แต่ทุนให้พระเณรยังไม่มีเลย. กู้เรียนก็ยังไม่มีเลย.ข้าวก็ยังต้องขอชาวบ้านฉัน แล้วจะให้พระท่านขอเงินชาวบ้านเรียนหนังสืออีกหรอ  แม้แต่การขึ้นรถของพระ ก็ต้องอาศัยปัจจัย เพราะเขาไม่ได้ให้พระขึ้นฟรี ข้าวบางทีก็ต้องซื้อกิน
IP : บันทึกการเข้า

อย่ายึดมั่นกับสิ่งใดๆ เพราะอะไรๆ ก็ไม่แน่นอน
ap.41
ตอบแทนคุณแผ่นดิน
ผู้ดูแลบอร์ด
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19,008


ไม่มีเทพไม่มีโปร..มีแต่เราที่จะก้าวไปพร้อมกัน...


« ตอบ #28 เมื่อ: วันที่ 14 มิถุนายน 2010, 13:32:15 »

การถวายปัจจัยให้พระ เห็นหนังสือมาเหมือนกัน อ้างจากพุทธพจน์ในพระไตรปิฏก แท้จริงในพระไตรปิฏกมีหลายแง่มุมที่ผู้ศึกษาต้องตีความหมายให้ออก คนที่เอาเรื่องนี้มาอ้าง คือลูกศิษย์ของพระรูปหนึ่ง จว.เพชรบูรณ์ ที่ท่านบังอาจเอาเท้าไปเหยียบเข่าพระพุทธรูป แล้วชี้บอกว่า นี่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า แต่เป็นเพียงอิฐเพียงปูน..  ท่านว่าถูกต้องไหม.. แล้วที่ว่าพระรับเงินทองไม่ได้นั้น ทำไมจะไม่ได้เพราะสมัยพุทธกาล กับสมัยปัจจุบันเทียบกันไม่ได้ พระแต่ก่อนท่านบวชเพื่อศึกษาธรรมวินัยอย่างเดียว คือบวชเพื่อความพ้นทุกข์ แต่พระปัจจุบันท่านไม่ได้มีแค่นั้น ท่านต้องเรียนหนังสือ แล้วรัฐบาลส่งเสริมไหม.. แม้แต่ทุนให้พระเณรยังไม่มีเลย. กู้เรียนก็ยังไม่มีเลย.ข้าวก็ยังต้องขอชาวบ้านฉัน แล้วจะให้พระท่านขอเงินชาวบ้านเรียนหนังสืออีกหรอ  แม้แต่การขึ้นรถของพระ ก็ต้องอาศัยปัจจัย เพราะเขาไม่ได้ให้พระขึ้นฟรี ข้าวบางทีก็ต้องซื้อกิน
+1
IP : บันทึกการเข้า

nwtk4u
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 313


« ตอบ #29 เมื่อ: วันที่ 16 มิถุนายน 2010, 11:59:40 »

จากผู้ตั้งกระทู้นะครับ....คนกลุ่มนี้เป็นใคร? มีภูมิธรรมภูมิรู้ในเรื่องพระพุทธศาสนามากน้อยเพียงไร?
มีจุดประสงค์แอบแฝงในการกระทำแบบนี้หรือไม่ (หวังดีแต่ประสงค์ร้าย)
คำว่าเงิน ทอง ในครั้งพระพุทธกาลเป็นแบบปัจจุบันหรือเปล่า? (มันคนละเรื่องกันเลยครับ)
เคยได้ศึกษาพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าอย่างละเอียดชัดเจน และปรับใช้กับยุคกาลสมัยที่ไปหรือไม่?
....ประเด็นแบบนี้เราต้องศึกษาถึงความมุ่งหมาย เป้าประสงค์ที่จริงแท้ของคนกลุ่มนั้นด้วยนะครับ

ถ้าเขาบอกว่า....ญาติโยมไม่ควรทำบุญด้วยเงิน (ทอง นาค เพชร ฯลฯ ของมีค่าต่างๆ)
ขอสมมตินะครับ ถ้าเป็นพระสงฆ์ สามเณร ก็จะบอกกับคนกลุ่มดังกล่าวว่า
- ถ้าพระเดินไปร้านหนังสือ ไปหยิบหนังสือโดยไม่ต้องจ่ายเงิน
- ถ้าพระขึ้นรถ ไปเรือ ขึ้นเหนือ ล่องใต้ เขาไม่เก็บเงินค่ากับพระ
- ถ้าพระเรียนหนังสือในทุกๆ ระดับตั้งแต่มัธยมถึงดุษฏีบัณฑิต เขาให้พระเรียนฟรี
- ถ้าพระจะสร้างวัด เสนาสนะ ถาวรวัตถุต่างๆ ไปร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง เขาให้หยิบของไปสร้างฟรีๆ
- ถ้าพระมีความจำเป็นต้องเดินทางด่วนๆ ไปขึ้นเครื่องบินฟรีๆ
- ถ้าพระอาพาธ (เจ็บป่วยไม่สบาย) ด้วยโรคร้ายต่างๆ เช่น มะเร็ง ไต หัวใจ คุณคิดหรือว่าจะได้รับการรักษาฟรี
- ถ้าพระสายตาสั้น คิดหรือว่าร้านแว่นเขาจะถวายให้ฟรีๆ
- และเหตุผลอีกเป็น ฯลฯ ที่พระต้องอาศัยเงิน(ตามสมควร) เพื่อดำรงตนให้งดงามในพระพุทธศาสนา

ถ้าเหตุผลข้างต้นที่กล่าวมา....ถ้าคนกลุ่มที่ว่ายอมจ่ายให้ทุกเหตุผล....ญาติโยมก็คงไม่ต้องถวายเงินกับพระก็ได้

นี่เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นนะครับ...ที่สุดแล้วสิ่งต่างๆ บนโลกนี้มันเป็นเพียงสิ่งสมมติ
ของที่เป็นสาธารณะ มันก็เป็นสาธารณะ ของที่มันมีอยู่แล้วหรือเกิดขึ้นมาใหม่บนโลกใบนี้
มันก็ยังคงเป็นสมบัติของโลก...ใครก็ไม่มีเดชฤทธิ์อำนาจใดๆ ที่จะนำพาข้ามภพข้ามชาติได้
นอกจากความดีชั่วที่เราทำไว้ทั้งชีวิต
ถ้าคนกลุ่มนั้นอยากให้พระไม่ใช้จ่ายเงินปัจจัย...คุณก็ลองไม่ใช้จ่ายเงินดูบ้างถ้าทำได้จะมีคนสรรเสริญอีกหลายคณา
ถ้าคุณอยากให้คนอื่นดี....คุณดีพอหรือยัง??? ฝากถึงคนกลุ่มนั้นด้วยนะครับ

จากใจคนหัวใจสีขาว
IP : บันทึกการเข้า
Auto IT Service
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 309



« ตอบ #30 เมื่อ: วันที่ 16 มิถุนายน 2010, 12:06:45 »

จากผู้ตั้งกระทู้นะครับ....คนกลุ่มนี้เป็นใคร? มีภูมิธรรมภูมิรู้ในเรื่องพระพุทธศาสนามากน้อยเพียงไร?
มีจุดประสงค์แอบแฝงในการกระทำแบบนี้หรือไม่ (หวังดีแต่ประสงค์ร้าย)
คำว่าเงิน ทอง ในครั้งพระพุทธกาลเป็นแบบปัจจุบันหรือเปล่า? (มันคนละเรื่องกันเลยครับ)
เคยได้ศึกษาพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าอย่างละเอียดชัดเจน และปรับใช้กับยุคกาลสมัยที่ไปหรือไม่?
....ประเด็นแบบนี้เราต้องศึกษาถึงความมุ่งหมาย เป้าประสงค์ที่จริงแท้ของคนกลุ่มนั้นด้วยนะครับ

ถ้าเขาบอกว่า....ญาติโยมไม่ควรทำบุญด้วยเงิน (ทอง นาค เพชร ฯลฯ ของมีค่าต่างๆ)
ขอสมมตินะครับ ถ้าเป็นพระสงฆ์ สามเณร ก็จะบอกกับคนกลุ่มดังกล่าวว่า
- ถ้าพระเดินไปร้านหนังสือ ไปหยิบหนังสือโดยไม่ต้องจ่ายเงิน
- ถ้าพระขึ้นรถ ไปเรือ ขึ้นเหนือ ล่องใต้ เขาไม่เก็บเงินค่ากับพระ
- ถ้าพระเรียนหนังสือในทุกๆ ระดับตั้งแต่มัธยมถึงดุษฏีบัณฑิต เขาให้พระเรียนฟรี
- ถ้าพระจะสร้างวัด เสนาสนะ ถาวรวัตถุต่างๆ ไปร้านอุปกรณ์ก่อสร้าง เขาให้หยิบของไปสร้างฟรีๆ
- ถ้าพระมีความจำเป็นต้องเดินทางด่วนๆ ไปขึ้นเครื่องบินฟรีๆ
- ถ้าพระอาพาธ (เจ็บป่วยไม่สบาย) ด้วยโรคร้ายต่างๆ เช่น มะเร็ง ไต หัวใจ คุณคิดหรือว่าจะได้รับการรักษาฟรี
- ถ้าพระสายตาสั้น คิดหรือว่าร้านแว่นเขาจะถวายให้ฟรีๆ
- และเหตุผลอีกเป็น ฯลฯ ที่พระต้องอาศัยเงิน(ตามสมควร) เพื่อดำรงตนให้งดงามในพระพุทธศาสนา

ถ้าเหตุผลข้างต้นที่กล่าวมา....ถ้าคนกลุ่มที่ว่ายอมจ่ายให้ทุกเหตุผล....ญาติโยมก็คงไม่ต้องถวายเงินกับพระก็ได้

นี่เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นนะครับ...ที่สุดแล้วสิ่งต่างๆ บนโลกนี้มันเป็นเพียงสิ่งสมมติ
ของที่เป็นสาธารณะ มันก็เป็นสาธารณะ ของที่มันมีอยู่แล้วหรือเกิดขึ้นมาใหม่บนโลกใบนี้
มันก็ยังคงเป็นสมบัติของโลก...ใครก็ไม่มีเดชฤทธิ์อำนาจใดๆ ที่จะนำพาข้ามภพข้ามชาติได้
นอกจากความดีชั่วที่เราทำไว้ทั้งชีวิต
ถ้าคนกลุ่มนั้นอยากให้พระไม่ใช้จ่ายเงินปัจจัย...คุณก็ลองไม่ใช้จ่ายเงินดูบ้างถ้าทำได้จะมีคนสรรเสริญอีกหลายคณา
ถ้าคุณอยากให้คนอื่นดี....คุณดีพอหรือยัง??? ฝากถึงคนกลุ่มนั้นด้วยนะครับ

จากใจคนหัวใจสีขาว

+100 ค่ะ
IP : บันทึกการเข้า

ถ้าคุณมีเหตุผล ในการลดน้ำหนักนี้ ให้เซโอะช่วยดูแลจัดการเรื่องนี้แทนคุณได้อย่างง่ายๆ
jija
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #31 เมื่อ: วันที่ 16 มิถุนายน 2010, 14:06:17 »

คำถามที่หลายคนถามว่า คนกลุ่มนี้เป็นใครหรือคะ ..ก็เป็นประชาชนทั่วไปตามจังหวัดต่างๆที่รวมกลุ่มกันขึ้นมาคะ  *บางคนก็อาจจะได้อ่านใบปลิวก็เลยรู้เรื่องนะคะ
เขาอ้างว่าเค้าศึกษาเรื่องนี้มานานคะ
ไม่แน่ใจว่าเขามีจุดประสงค์อะไร

**เจ้าของกระทู้คือยินมาจากคนๆหนึ่ง แล้วต่อมาก็ได้อ่านใบปลิว
ก็เลยอยากรู้ความคิดเห็นของคนทั่วไป เลยตังกระทู้ถามขึ้นมาคะ
แต่บางคนดันมาขัดแย้งกับเจ้าของกระทู้ 
IP : บันทึกการเข้า
cp.2010
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #32 เมื่อ: วันที่ 25 มิถุนายน 2010, 22:56:58 »

เคร่งไปก็ขาด หย่อนไปก็ยาน .... เดินทางสายกลางกันดีกว่าไหม.
IP : บันทึกการเข้า
mari(รักในหลวง)
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 123


หัวใจ๋ฮอมปอย


« ตอบ #33 เมื่อ: วันที่ 29 มิถุนายน 2010, 16:33:57 »

ไม่ให้ไหว้พระพุทธรูปแล้วทำไงอะ ถ้าคนเราไม่มีพระพุทธศาสนาในใจบ้านเมืองคงยุ่งเหยิงยิ่งกว่านี้
แนะนำให้ทุกท่านในที่นี้อ่านหนังสือ เข็มทิศชีวิตนะคะ อ่านแล้วจะใจเย็นกันกว่านี้ค่ะ (ไม่ใช่หนังสือธรรมมะอ่านง่ายน่าติดตาม)
IP : บันทึกการเข้า
iw
ระดับ ป.ตรี
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,482


« ตอบ #34 เมื่อ: วันที่ 30 มิถุนายน 2010, 10:12:40 »

ขอบคุณครับที่มีคนเข้าใจอย่างผมคิด ผมว่าเป็นภัยกับศาสนาอย่างร้ายแรง ไม่น่าให้พวกนี้เข้ามาแจกใบปลิว และพวกนี้เป็นบ่อนทำลายศาสนาโดยไม่รู้ตัว
    เพราะว่า เกิดจากการศึกษาโดยไม่แน่ชัดแล้วมาขยายความ ผมเคยโทรถามเขายังบอกว่าการถวายบิณฑบาตรกับพระยังเป็นผิดอีก เพราะไม่รู้ว่าพระทุศิลหรือไม่ และทางวัดยังให้คนที่ไม่รู้ ไม่เคยเรียนหลักธรรมทางศาสนามาเป็นคนประชาสัมพันธ์อีก ซึ่งทำไปเพื่ออะไรก็ไม่รู้ กว่าจะรู้ว่าตนเองนั้นแหละที่ทำลายศาสนาก็สายเสียแล้ว
    ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือพระเทวทัตในสมัยพุทธกาล นับถือปฏิบัติตามหลักเคร่งครัดโดยบังคับให้พวกพ้อง ฉันเจ และอยู่ตามโคลนต้นไม้ ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสว่าทำได้แต่ต้องแล้วแต่บุคคล เพราะคนเรานั้นความชอบไม่เหมือนกัน กับดูหมิ่นพระพุทธเจ้าว่า ไม่เคร่งครัด และดูหมิ่นพระสงฆ์ของพระพุทธเจ้าว่าไม่เคร่งครัด และเกลียดชังกัน เกิดการแบ่งแยกออกเป็น 2 พวก จนในที่สุดถูกแผ่นดินสูบด้วยการทำพระสงฆ์ให้แยกออกจากกัน สุดท้ายก็กลับใจนึกถึงความสอนของพระพุทธเจ้าเมื่อโดนแผ่นดินสูบนั่นเอง 
    อย่ากระนั้นเลยครับผม ตั้งแต่ที่พูดเรื่องนี้กระผมยังไม่เห็นหลักธรรมตรงไหนที่พูดเรื่องนี้ว่าผิดห้ามคนทำบุญ และห้ามมิให้ผู้ใดถวายเงินทองแก่พระศาสนาจริง ๆ ผมจบเปรียญธรรม 6 ประโยคครับผม
IP : บันทึกการเข้า
Mylovesss
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 376



« ตอบ #35 เมื่อ: วันที่ 01 กรกฎาคม 2010, 13:22:02 »

สังคมทุกวันนี้ เงินคือปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เพราะทุกอย่างมันต้องซื้อมาทั้งนั้น  แม้กระทั่งน้ำก็ยังต้องซื้อเลย มันไม่สามารถหาเองได้ตามป่าเหมือนครั้งพุทธกาล เมื่อสังคมเปลี่ยน ก็ควรจะปรับตัวตามสังคมถึงจะถูก
IP : บันทึกการเข้า
นายเหตุผล
มัธยม
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 564



« ตอบ #36 เมื่อ: วันที่ 14 กรกฎาคม 2010, 18:48:11 »

พระบัญญัติ
อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่งทอง-เงินหรือ ยินดีทอง-เงิน  อันเขาเก็บไว้ให้ก็ดี
เป็น นิสสัคคิปาจิตตีย์.  (ต้องอาบัตินิสสัคคีย์ ต้องสละสิ่งของนั้นออกไป จึงจะพ้นโทษได้)
*จากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปลไทยฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย 91เล่ม

อาบัตินิสสัคคีย์  ตามพุทธบัญญัติ เป็นเพียงความผิดเพียงเล็กๆ น้อยๆ  ที่พระสงฆ์ที่ล่วงละเมิดสามารถทำตนให้บริสุทธิ์ได้  โดยการแสดงอาบัติต่อหน้าพระส่งฆ์รูปอื่น  เพียงแค่นี้ศีลของพระรูปนี้นก็บริสุทธิ์ดังเดิม
*******

ผมอยากให้สติท่านทั้งหลาย  ในฐานะที่เป็นชาวพุทธด้วยกัน คือ
ท่านทั้งหลายจงมีสติ  มีรู้ปัญญารู้เท่าทันกับสิ่งต่าง  อย่าอ่อนไหวไปตามกระแสลมปาก
ให้ท่านทั้งหลายมีใจที่หนักแต่ ตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา
เพราะสิ่งที่เรากำลังเจออยู่นี้  ทางพระพุทธศาสนาเค้าเรียกว่า  "โลกธรรม 8" (ธรรมดาของโลก) คือ

ได้ยศ  เสื่อมยศ
ได้ลาภ  เสื่อมลาภ
สรรเสริญ  นินทา (นี่ไงที่เรากำลังเจอ)
สุข  ทุกข์ (นี่ก็อีกข้อ)

ฉะนั้น  ในเมื่อเค้าโฆษณาบอกว่า  ไม่ให้ถวายปัจจัย (เงิน) แด่พระสงฆ์ 
เราก็ควรสนองตามเจตนารมณ์เค้าหน่อยก็ได้  คือ ไม่ต้องถวายปัจจัย(เงิน) แด่พระ และวัดดังกล่าว

แต่ให้เราไปถวายที่วัดอื่นแทน  ทั้งนี้เพราะ  วัดดังกล่าวเค้าไม่ต้องการเงิน...


แต่วันอื่นๆ  เค้าัยังคงต้องใช้ปัจจัย(เงิน) อยู่ คือใช้ในการสร้างหรือบูรณะวัด สร้้างพระสงฆ์สามเณร (พระเรียนหนังสือต้องใช้ปัจจัย ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าเอกสารหนังสือ) และเมื่อพระเณรเรียนจน หรือยังไม่เรียนจบก็ตาม  พระเณรเหล่านี้ก็ยังเป็นกำลังสำคัญให้พระพุทธศาสนาอยู่ นับว่าเป็นการสร้างศาสนบุคคล ที่มีคุณภาพนั่นเอง ฯลฯ
IP : บันทึกการเข้า
jija
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #37 เมื่อ: วันที่ 16 กรกฎาคม 2010, 23:19:39 »

ขอบคุณคะ กระทู้นี้ยังมีผู้ติดตาม
แต่จะมีอีกกระทู้นะคะ เป็นเรื่องนี้เช่นกัน
เจ้าของกระทู้ก็ไม่รู้จะแสดงความคิดเห็นยังไงคะ
55+ ยิงฟันยิ้ม
เพระว่าเจอมากับตัว
แล้วไปคุยกับกลุ่มคนนั้นมาแล้ว
แต่ก็ได้รับการอธิบาย
ใครสนใจจะไปคุยก็ได้นะคะ
เดียวเจ้าของกระทู้พาไปคะ

แต่วันก่อนลองไปคุยแล้วก็ลองถามดูว่าจะมี
การเผยแพร่(เขาเรียกว่าเผยแพร่)ในเชียงรายไหม
เขาบอว่าตอนนี้ก็เพิ่งไปม.แม่ฟ้าหลวงมา
ก็เลยบอกว่าเดียวมีที่ไหนในเชียงรายบอกนะคะ
จะไปฟังด้วย คริคริ คืออยากรู้ว่าเป็นยังไง

ส่วนความคิดเห็นของเจ้าของกระทู้คือ
ตอนนี้สมัยนี้ไม่ได้เหมือนสมัยก่อน
คืออะไรมันก็เปลี่ยนแปลงไปมากคะ

เหมือนเขาบอกว่าโทรศัพท์ก็ห้ามใช้
ก็เลยถามเขาไปว่าหากอยู่ไกลกันแล้วทำไง
เพราะแต่ก่อนไม่มีโทรศัพท์

เพระไปคุยกับเขาแต่ละทีไม่ได้ตั้งใจไปคุยนะคะ
คือไปทำเล็บที่ร้านเขาคะ แล้วก็ลองพูดๆๆแนมๆไปคะ
 ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า
phon1982
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 155


« ตอบ #38 เมื่อ: วันที่ 20 กรกฎาคม 2010, 22:58:32 »

ขอย้อนถามว่าท่านทั้งหลายท่านทานข้าวหรือเปล่า
พระสงฆ์ก็เหมือนกันท่านก็ทานข้าวเช่นเดียวกัน

ท่านใช้จ่ายเงินหรือเปล่ามีความจำเป็นที่จะใช้หรือเปล่า
พระสงฆ์ก็เช่นกันท่านก็จำเป็นต้องใช้ในสิ่งที่จำเป็น

IP : บันทึกการเข้า

ความทรงจำที่มองเห็นได้
Ck 401
"....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
แฟนพันธ์แท้
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,267


...งานหนักไม่เคยฆ่าคน...


« ตอบ #39 เมื่อ: วันที่ 21 กรกฎาคม 2010, 12:01:12 »

 โกรธ ตั้งศาสนาใหม่ไปเลยครับ
ดูว่าจะรุ่งเรืองถึง 2500กว่าปีหรือเปล่า
หรืออีกไม่กีปีก็ตายไปกันหมดคนเราอายุไม่ถึง 100 ปี
คนพวกนี้ชอบคัดค้านสิ่งที่ตนเองไม่ได้คิดขึ้นมา
ถ้าดีจริงก็ลองเสนอทางเลือกใหม่ขึ้นมา
ไม่ต้องอิงพุทธศาสนาอิงคำสอนของพระพุทธองค์
ที่คนทั่วโลกยอมรับ ตั้งศาสนาใหม่เลยครับ
ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

"....คณะเรา ไม่ยอมให้ด้อยถอยลง ต่ำเราต้องค้ำชูให้สูงจรุงศรี....."
....เมื่อเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดา  ก็ไม่มีอะไรมาทำให้ทุกข์ได้อีก...."
หน้า: 1 [2] 3 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!