เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
วันที่ 29 กรกฎาคม 2025, 10:41:20
หน้าแรก ช่วยเหลือ เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก



  • ข้อมูลหลักเว็บไซต์
  • เชียงรายวันนี้
  • ท่องเที่ยว-โพสรูป
  • ตลาดซื้อขายสินค้า
  • ธุรกิจบริการ
  • บอร์ดกลุ่มชมรม
  • อัพเดทกระทู้ล่าสุด
  • อื่นๆ

ประกาศ !! กรุณาอ่านเพื่อทำความเข้าใจ : https://forums.chiangraifocus.com/index.php?topic=1025412.0

+  เว็บบอร์ด เชียงรายโฟกัสดอทคอม สังคมออนไลน์ของคนเชียงราย
|-+  ศูนย์กลางข้อมูลเชียงราย
| |-+  คนเชียงราย สังคมเชียงราย (ผู้ดูแล: bm farm, [ตา-รา-บาว], zombie01, ۰•ฮักแม่จัน©®, ตาต้อม, nuifish, NOtis)
| | |-+  คิดอย่างไร..ถ้าจ.เชียงราย จะจัดการตนเอง เป็น"เชียงรายมหานคร"
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 พิมพ์
ผู้เขียน คิดอย่างไร..ถ้าจ.เชียงราย จะจัดการตนเอง เป็น"เชียงรายมหานคร"  (อ่าน 9428 ครั้ง)
yodying
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 281



« ตอบ #80 เมื่อ: วันที่ 08 ธันวาคม 2011, 17:33:02 »

เห็นด้วยที่จะให้จัดการตนเอง ทรัพยากรในท้องถิ่นจะได้ไม่ถูกส่วนกลางสูบไปทั้งหมด
IP : บันทึกการเข้า
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #81 เมื่อ: วันที่ 08 ธันวาคม 2011, 22:20:49 »



กรุณาผ่อหื้อจบ...ซ้ำขออภัย.. ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #82 เมื่อ: วันที่ 08 ธันวาคม 2011, 22:39:56 »

 วันศุกร์ก่อน ได้ตีตั๋ว กรุงเทพ- นครพนม ทางรถได้เปิดวีดีโอ จำอวดคุณพระให้ดูระหว่างทาง เป็นงงครับ นั่งรถรอบนี้แปลกๆ

ผ่านบางบัวทอง น้ำยังท่วมอยู่เลย ครึ่งบ้านได้มั้ง ไม่ชอบเลย แต่มีสิ่งนี้ที่ชอบ  เพลงผู้ใหญ่ลี เวอร์ชั่นนี้... ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

 

ปล.ผู้ใหญ่ลีปี พ.ศ.๒๕๕๔ มีเกษียณ ๖๐ ด้วย เลือกตั้งอยู่กระทั่งเกษียณ รัฐนี้ก้าวหน้าซะจริง นอกจากมี รธมน.ถึง ๑๘ ฉบับ...บ้านอื่นเมืองอื่น ๔-๖ ปีเอง แม่นบ่.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 08 ธันวาคม 2011, 23:04:24 โดย Temujin » IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
alohapalim
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 108



« ตอบ #83 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2011, 06:51:21 »

http://www.youtube.com/watch?v=kqc3YOe-g_w&feature=related

ผมรู้สึกเห็นด้วยน๊ะครับกับการเปลี่ยนแปลง ถ้ามันทำให้สังคมเราดีขึ้น
IP : บันทึกการเข้า
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #84 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2011, 21:38:38 »



   พ.ร.บ. สภาพัฒนาการเมือง พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓๑-๓๓ ซึ่งตั้งขึ้นตาม รธน. มาตรา ๗๘ อนุ ๗

ให้ "อำนาจ" ไว้แล้ว โดยมีสถาบันพระปกเกล้าเป็นฝ่ายธุรการ ถึงใหนแล้วทั่น...? สำหรับผมไม่ต้องเลือกผู้ว่า

ขอแต่ยุบส่วนภูมิภาคไป รัฐไทยให้เหลือแค่ ๒ ส่วน คือ  ส่วนกลาง (กระทรวง ทบวง กรม) ส่วนท้องถิ่น (อบจ., อบต., เทศบาล...)



ปล.อยากเห็นในปี พ.ศ.๒๕๕๕ ดั่งวิจัยจากสถาบัณที่ผลิตผู้ว่าฯ มากที่สุด ที่ท่านได้ชี้ช่องไว้...จัดเลยมั้ย..เจ้.. ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #85 เมื่อ: วันที่ 20 ธันวาคม 2011, 22:10:58 »



   เรื่องนี้ท้องถิ่นก็จัดการได้...สำหรับผม ถ้า..."คนในพื้นที่ รู้หน้าที่ รู้ปัญหา" รัฐนี้จะเจริญครับ..

ปล.เครดิตกระทู้ในห้องนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 20 ธันวาคม 2011, 22:19:09 โดย Temujin » IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #86 เมื่อ: วันที่ 21 ธันวาคม 2011, 21:28:30 »

มาตรา ๑๖ ให้เทศบาล เมืองพัทยา และองค์การบริหารส่วนตำบลมีอำนาจและ
หน้าที่ในการจัดระบบการบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเองดังนี้

(๑) การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
(๒) การจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ และทางระบายน้ำ
(๓) การจัดให้มีและควบคุมตลาด ท่าเทียบเรือ ท่าข้าม และที่จอดรถ
(๔) การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ
(๕) การสาธารณูปการ
(๖) การส่งเสริม การฝึก และประกอบอาชีพ
(๗) การพาณิชย์ และการส่งเสริมการลงทุน
(๘) การส่งเสริมการท่องเที่ยว
(๙) การจัดการศึกษา
(๑๐) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก สตรี คนชรา และ
ผู้ด้อยโอกาส
(๑๑) การบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรมอัน
ดีของท้องถิ่น
(๑๒) การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
(๑๓) การจัดให้มีและบำรุงรักษาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
(๑๔) การส่งเสริมกีฬา
(๑๕) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(๑๖) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
(๑๗) การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
(๑๘) การกำจัดมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และน้ำเสีย
(๑๙) การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล
(๒๐) การจัดให้มีและควบคุมสุสานและฌาปนสถาน
(๒๑) การควบคุมการเลี้ยงสัตว์
(๒๒) การจัดให้มีและควบคุมการฆ่าสัตว์
(๒๓) การรักษาความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการอนามัย โรง
มหรสพ และสาธารณสถานอื่นๆ
(๒๔) การจัดการ การบำ รุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดิน
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(๒๕) การผังเมือง
(๒๖) การขนส่งและการวิศวกรรมจราจร
(๒๗) การดูแลรักษาที่สาธารณะ
(๒๘) การควบคุมอาคาร
(๒๙) การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(๓๐) การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนกา
รป้องกันและ
รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(๓๑) กิจการอื่นใดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นตามที่
คณะกรรมการประกาศกำหนด


มาตรา ๑๗ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๖ ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีอำนาจและ
หน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง ดังนี้

(๑) การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง และประสานการจัดทำแผนพัฒนา
จังหวัดตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
(๒) การสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในการพัฒนาท้องถิ่น
(๓) การประสานและให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นอื่น
(๔) การแบ่งสรรเงินซึ่งตามกฎหมายจะต้องแบ่งให้แก่องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นอื่น
(๕) การคุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม
(๖) การจัดการศึกษา
(๗) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(๘) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
(๙) การส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม
(๑๐) การจัดตั้งและดูแลระบบบำบัดน้ำเสียรวม
(๑๑) การกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลรวม
(๑๒) การจัดการสิ่งแวดล้อมและมลพิษต่างๆ
(๑๓) การจัดการและดูแลสถานีขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ
(๑๔) การส่งเสริมการท่องเที่ยว
(๑๕) การพาณิชย์ การส่งเสริมการลงทุน และการทำกิจการไม่ว่าจะดำเนินการ
เองหรือร่วมกับบุคคลอื่นหรือจากสหการ
(๑๖) การสร้างและบำรุงรักษาทางบกและทางน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น
(๑๗) การจัดตั้งและดูแลตลาดกลาง
(๑๘) การส่งเสริมการกีฬา จารีตประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น
(๑๙) การจัดให้มีโรงพยาบาลจังหวัด การรักษาพยาบาล การป้องกันและ
ควบคุมโรคติดต่อ

(๒๐) การจัดให้มีพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุ
(๒๑) การขนส่งมวลชนและการวิศวกรรมจราจร
(๒๒) การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(๒๓) การจัดให้มีระบบรักษาความสงบเรียบร้อยในจังหวัด
(๒๔) จัดทำกิจการใดอันเป็นอำนาจและหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อื่นที่อยู่ในเขต และกิจการนั้นเป็นการสมควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นร่วมกันดำเนินการ
หรือให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดจัดทำ ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

 เยอะมั้ย..? ครับ หน้าที่ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น...แต่ทำได้ยากครับ เพราะ"คน งาน เงิน" ไม่พร้อมและถูกกั๊กไว้อยู่ในหลายๆ ด้าน.

ปล.ส่วนหนึ่งจาก พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  พ.ศ. ๒๕๔๒

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 21 ธันวาคม 2011, 21:34:57 โดย Temujin » IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
chitchit
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #87 เมื่อ: วันที่ 02 มกราคม 2012, 19:11:49 »

ผมเห็นด้วย ในการยุบภูมิภาค

แต่ผมเห็นว่า ควรปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่นทุกรูปแบบในประเทศไปพร้อมกัน
โดยยุบ อบต.  เทศบาล  อบจ.  กทม.  ...

แล้วยกจังหวัดทั้งจังหวัด  เป็น อปท. รูปแบบเดียวทั่วประเทศ

ทั้งประเทศไทย  จะมี อปท. เพียง 70 แห่ง

โดยทำพร้อมกันทั้งประเทศ  ...

โดยให้คนลงทะเบียน  ว่า  ประสงค์จะมีภูมิลำเนาที่จังหวัดไหน

จังหวัดหนึ่ง ๆ ดูแลประชากรเพียง 1 ล้าน คน  ถ้าเกิน
ให้ลงทะเบียนความประสงค์ไว้ ...



กรรมการของจังหวัด  จะคัดเลือกให้เข้าอยู่ได้

แค่นี้  คนก็จะเลิกไหล มากระจุกที่ เมืองหลวง

และยังแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ได้อีกเยอะ

IP : บันทึกการเข้า
chitchit
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #88 เมื่อ: วันที่ 02 มกราคม 2012, 19:24:18 »

ขืนปล่อยให้  ยกฐานะกันเฉพาะจังหวัดที่อยาก

ก็จะได้แต่  เชียงใหม่มหานคร  ภูเก็ตมหานคร  ฯลฯ

ปัญหาการกระจุกตัว  ก็จะเกิดขึ้นอีก  ท้องถิ่นไหน  เห็นทำแล้วคุ้ม
ก็จะทำกัน  เพื่อหวังงบประมาณ

ต้องทำไปพร้อม ๆ กันทั้งประเทศ   ลดขนาดการบริหารส่วนกลาง
และยุบภูมิภาค 

เกลี่ยคนลง ไปยัง อปท. ระดับจังหวัด ทั้งหมด

เราก็จะได้ประชากรที่มีคุณภาพ  กลับลงไปอยู่ในภูมิลำเนาของตน


IP : บันทึกการเข้า
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #89 เมื่อ: วันที่ 02 มกราคม 2012, 20:01:04 »

   ตอนนี้ทั้งกฎหมายแม่ (รธน.) กฎหมายลูก (พ.ร.บ. ต่างๆ ที่ยกไป) ก็พร้อมหมดแล้ว ขาดแต่เจ้าภาพ (รัฐบาล) เท่านั้นแหละ

ที่จะเอาจริง เอาจังขนาดไหน  หรือจะรอให้ประชาชนเข้าชื่อสัก ๒ หมื่นชื่อ  การไม่ทำตามกฎหมายก็ผิดนะฮ๊าฟ.. ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม


ปล.ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า ๒๐,๐๐๐ คน สามารถเข้าชื่อถอดถอนบุคคลต่อไปนี้ได้

๑) นายกรัฐมนตรี
๒) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
๓) สมาชิกวุฒิสภา
๔) ประธานศาลฎีกา
๕) ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
๖) ประธารศษลปกครองสูงสุด
๗) อัยการสูงสุด
๘) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
๙) กรรมการการเลือกตั้ง
๑๐) ผู้ตรวจการแผ่นดิน
๑๑) กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
๑๒) ผู้พิพากษาหรือตุลาการ
๑๓) พนักงานอัยการ
๑๔) ผู้ดำรงค์ตำแหน่งระดับสูง ตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

   ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่า ๑๐,๐๐๐ คน สามารถเข้าชื่อร้องขอต่อประธานรัฐสภา

เพื่อให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติตามที่กฎหมายกำหนดในหมวด ๓ ของ รธน. (สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย)

และหมวด ๕ (แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ)  ว่าแต่ใครจะเอาด้วย นอกจาก พ.ร,บ.ปรองดองแห่งชาติ (นี้) ที่กำลังจะเร่งแก้กันอยู่ ชิมิ..ๆ  ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มกราคม 2012, 20:14:17 โดย Temujin » IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
Temujin
ระดับ :ป.โท
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,998


** แบ่งปัน ไม่แบ่งแยก..แตกต่าง ไม่แตกแยก แตกหัก **


« ตอบ #90 เมื่อ: วันที่ 02 มกราคม 2012, 20:39:57 »

ผมเห็นด้วย ในการยุบภูมิภาค

แต่ผมเห็นว่า ควรปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่นทุกรูปแบบในประเทศไปพร้อมกัน
โดยยุบ อบต.  เทศบาล  อบจ.  กทม.  ...

แล้วยกจังหวัดทั้งจังหวัด  เป็น อปท. รูปแบบเดียวทั่วประเทศ

ทั้งประเทศไทย  จะมี อปท. เพียง 70 แห่ง

โดยทำพร้อมกันทั้งประเทศ  ...

โดยให้คนลงทะเบียน  ว่า  ประสงค์จะมีภูมิลำเนาที่จังหวัดไหน

จังหวัดหนึ่ง ๆ ดูแลประชากรเพียง 1 ล้าน คน  ถ้าเกิน
ให้ลงทะเบียนความประสงค์ไว้ ...



กรรมการของจังหวัด  จะคัดเลือกให้เข้าอยู่ได้


แค่นี้  คนก็จะเลิกไหล มากระจุกที่ เมืองหลวง

และยังแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ได้อีกเยอะ



    ผมว่ามันขัดหรือแย้งกับ กฎบัตรฯ UN,รัฐธรรมนูญอยู่นะครับ ที่ให้ประชาชนมีเสรีภาพ

ในการเลือกที่อยู่อาศัย ไหนจะมี ประชาคมเศรฐกิจอาเชี่ยน AEC ในปี 58 อีก แต่ผมก็เห็นด้วย

ที่จะทำการสังคายนาพร้อมกันทั่วประเทศ อปท.ไหนดี จังหวัดไหนเด่น หาจุดด้อย จุดเด่นแต่ละจังหวัด

และเป็นการก้าวไปพร้อมๆ กัน เผลอๆ มีการแข่งขันกันอีก (ในทางที่ดี) เพราะ แต่ละภูมิภาคเราต่างกัน

แต่พื้นฐานประเพณีก็ใกล้เคียงกัน ไม่ได้ ๔๐๐ กว่าภาษาเหมือนอินเดีย หรือหลายรัฐเหมือนพม่า  เช่น บ้านผมแล้งแต่ทำปศุสัตว์เก่ง

บ้านคุณมีโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ฯลฯ จะได้แลกเปลี่ยนทรัพยากรกัน พัฒนาจุดเด่นแต่ละพื้นที่ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

ไม่ใช่แผนเดียวทั้งประเทศอย่างนี้ อบต.ก็ลอกออกมาจาก อำเภอ ๆ ก็เอามาจากจังหวัด ๆ ก็เอามาจาก สภาพัฒน์ฯ (เห็นความทับซ้อนกันรึยัง..? ระหว่าง ๒ ส่วน)

   เชี่ยงใหม่ กับ ปัตตานี แตกต่างกันมั้ยล่ะ ในความคิดทั่น...สำหรับผมแตกต่างไม่ใช่แค่คน... ดิน น้ำ ฯลฯ ก็ด้วย

แต่ทำไมเราถึงใช้แผนเดียวกัน ทำไมไม่ค้นหาศักยภาพของและละพื้นที่ แล้วพัฒนาล่ะ  มันจะไม่ดีกว่าหรือ..?

โดยมีสโลแกนว่า "คนพื้นที่ รู้หน้าที่ รู้ปัญหา"    ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม

ด้วยความเคารพ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 02 มกราคม 2012, 22:40:26 โดย Temujin » IP : บันทึกการเข้า

สัตว์มีสัญชาตญาณ   มนุษย์มีวิตจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (หลัก กาลามสูตร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3)
chitchit
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #91 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2012, 08:52:03 »

รูปแบบ  (รูปแบบ)  อปท.  แม้ส่วนกลางจะลดขนาดแล้ว
แต่เรายังต้องควบคุมไว้  มิฉะนั้น

หากมณฑลเชียงใหม่รวมกัน  มณฑลปัตตานีรวมกัน  เป็นรัฐอิสระ  ...
จะทำลาย  รัฐไทย

จึงต้องกำหนดไว้ ราษฎรจังหวัดละ 1 ล้านคน
อันนี้  ไม่ใช่การจำกัดสิทธิ  แต่เป็นการรักษามาตรฐานการดูแลราษฎร
หากเราปล่อยให้คนไหลเข้าไปเชียงใหม่  ก็จะเป็นอีหรอบเดียวกับ
กทม.  กระแสการเคลื่อนมาตั้งรกราก  ทำลาย ผังเมือง  ก่อปัญหาสังคม
จราจร  สภาวะสิ่งแวดล้อง ยาเสพติด ฯลฯ

ให้คนกระจายออกจาก กทม. ในปัจจุบัน  กลับไปยังภูมิลำเนาเดิมของตน
ที่เหลือ  ให้เสรีในการเลือก ...  แต่เมื่อเต็มแล้ว  ...

หากมีคนตาย คนย้าย  ... กรรมการจังหวัด  ก็จะพิจารณาให้คนที่
ประสงค์ย้ายเข้ามาอยู่ในจังหวัด  และมีคุณภาพ ...

คนก็จะพัฒนาตนเอง  เพื่อให้เป็นตัวเลือกของจังหวัดต่าง ๆ
และจังหวัดในระดับ ล้านคน  จะไม่มีปัญหาแข็งเมือง  เพราะเล็กเกินไป

 
IP : บันทึกการเข้า
chitchit
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #92 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2012, 09:51:20 »

เรื่องวัฒนธรรม  วิถีชีวิต  ...

ส่วนกลางที่ลดขนาดแล้ว  จะไม่แตะ
แต่ขนาด  จำนวนประชากร  ... ต้องกำหนดไว้
จะขยับขึ้นหรือลง  ต้องเท่าเทียมกัน  ในภาพรวมทั้งประเทศ

สินทรัพย์ หลักทรัพย์  ส่วนกลาง ภูมิภาค  ท้องถิ่น  ประเมินเป็นมูลค่า
แล้วหาร  เท่า ๆ กัน เป็น เจ็ดสิบส่วน  ...

(ให้สตาร์ท  ที่เส้นพร้อมกัน  ด้วยประชากรที่เท่ากัน  )
IP : บันทึกการเข้า
wiichy
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 349


« ตอบ #93 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2012, 11:13:20 »

^^

ความจริงไม่จำเป็นต้องแบ่งจังหวัดล่ะล้านอะไรทำนองนี้หรอกครับ

ถามว่ามีที่ไหนทำบ้าง...ก็ไม่มี แต่ละที่มีประวัติ มีที่มา ถามว่าคนในท้องที่ต้องการสิ่งไหน อยากเป็นคนที่ไหน ตย. คนโคราช ก็ยังอยากเป็นลูกย่าโม โคราชมีประชากรสองล้านเศษ แล้วอีกล้านคนจะไปเป็นคนที่ไหน คนเชียงรายมีล้านสอง อีกสองแสนจะไปไหน ไปรวมกับพะเยาหรอครับ ด้วยการแบ่งการปกครองแบบทุกวันนี้ทางกายภาพแล้ว มันก็ค่อนข้างเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศแล้วน่ะครับ

แต่สิ่งที่คุยกันนี้ คือทำให้ระบบการกระจายอำนาจนั้นเป็นไปอย่างแท้จริง ลดการปกครองส่วนภูมิภาค ให้ท้องถิ่นจัดการตนเองได้ ถ้าสามารถทำได้ ถามว่าจะจัดการเรื่องต่างๆเร็วขึ้นมั๊ย....ต้องตอบว่าเร็วขึ้น จะตัดถนนก็ทำได้เลย จะสร้างอะไรก็ทำได้ จะวางแผนโครงการต่างๆย่อมทำได้ เพราะเรามีงบประมาณของเรา สิ่งที่เราทำไม่ได้คือการศาล การต่างประเทศ การทหาร เป็นต้น เรื่องต่างๆไม่ต้องเข้าสู่ส่วนกลาง ไม่ต้องถูกส่งเข้าถึงกระทรวง เรามีสิทธิในการบริหารตนเอง อยากได้อะไรที่ต้องการ ไม่ใช่ให้ส่วนกลางยัดเยียดให้แล้วเป็นปัญหาแบบทุกวันนี้อย่างนิคมที่ตั้งผิดที่ โรงไฟฟ้าตั้งใกล้ชุมชน รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ล้าช้าเพราะทุกอย่างต้องไปส่วนกลาง ซึ่งงานก็ล้นมือ

ลองย้อนกลับไปดูแรกๆน่ะครับ มีคลิป มีข้อมูลมากมายดูแล้วจะเข้าใจ

ต่อให้สตาร์ทพร้อมกัน ที่ประชากรเท่ากัน แต่...ถามว่าความเจริญที่มีอยู่แล้วก็เทียบกันไม่ได้ จำนวนวิสาหกิจ ผู้ประกอบการ และปัจจัยอื่นๆ เราไม่สามารถบังคับได้ว่าเราจะกำหนดให้อย่กันกี่คนในหนึ่งแห่ง
ถามว่าหากเชียงรายมีล้าน พะเยามีล้าน แล้วนานไปความเจริญเท่ากันมั๊ย ก็ไม่อย่ดี เพระาเชียงรายก็มีต้นทุนทีดีกว่ามาก่อนอยู่แล้ว แต่ถ้าเราให้สิทธิแต่ล่ะท้องถิ่นเลือกในสิ่งที่ต้องการ พัฒนาในแนวที่ตนเองอยากจะเป็น นั้นคือแนวคิด จังหวัดจัดการตนเองนี้แหละครับ
IP : บันทึกการเข้า
wiichy
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 349


« ตอบ #94 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2012, 11:23:06 »

ผมเห็นด้วย ในการยุบภูมิภาค

แต่ผมเห็นว่า ควรปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่นทุกรูปแบบในประเทศไปพร้อมกัน
โดยยุบ อบต.  เทศบาล  อบจ.  กทม.  ...

แล้วยกจังหวัดทั้งจังหวัด  เป็น อปท. รูปแบบเดียวทั่วประเทศ

ทั้งประเทศไทย  จะมี อปท. เพียง 70 แห่ง

โดยทำพร้อมกันทั้งประเทศ  ...

โดยให้คนลงทะเบียน  ว่า  ประสงค์จะมีภูมิลำเนาที่จังหวัดไหน

จังหวัดหนึ่ง ๆ ดูแลประชากรเพียง 1 ล้าน คน  ถ้าเกิน
ให้ลงทะเบียนความประสงค์ไว้ ...



กรรมการของจังหวัด  จะคัดเลือกให้เข้าอยู่ได้

แค่นี้  คนก็จะเลิกไหล มากระจุกที่ เมืองหลวง

และยังแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ได้อีกเยอะ


ทุกวันนี้ที่ไหลเข้าเมืองหลวงเพราะอะไรครับ... เพราะว่าทุกสิ่งอย่างถูกรวมเข้าสู่ส่วนกลาง รวมถึงงบประมาณ จังหวัดใหญ่ๆอย่างเชียงใหม่ เก็บภาษีได้ปีล่ะเกือบแสนล้าน แต่เกือบทั้งหมดถูกส่งเข้าส่วนกลางล้วน เหลือให้จังหวัดเพียงไม่ถึงสองเปอร์เซ็น แล้วก็เป็นแบบที่ทกจังหวัด แล้วถามว่าจังหวัดต่างๆจะลืมตาอ้าปากได้มั๊ย นอกจากรอส่วนกลางมาจัดให้ในรูปแบบโครงการต่างๆในแต่ล่ะกระทรวงซึ่งช้า ไม่ทันต่อความต้องการ

แต่ของเสนิของการจัดการตนเองครั้งนี้คือ กำหนดให้ภาษีในสันส่วน 70:30 คือส่งส่วนกลางสามสิบ เจ็ดสิบอยู่ที่ท้องถิ่น หากเชียงใหม่ได้ภาษีเกือบแสนล้าน แสดงว่าจะมีเงินเหลืออย๋ในจังหวัดเกือบๆหกหมื่นล้าน พอจะเห็นภาพมั๊ยครับ เงินหกหมื่นล้านในจังหวัด จะทำอะไรก็ทำได้ สร้างก็ไรก็ได้ ทำอะไรที่ตอบสนองชุมชนก็ย่อมได้ ก็จะเกิดการกระจายตัวของความเจริญ ถ้าเป็นแบบนี้ทุกจังหวัด ประชากรก็จะไหลกลับภูมิลำเนาเอง

ส่วนเรื่องการกระจุกตัวของประชากรตามเมืองใหญ่ๆ ก็เป็นเรื่องปกติของเมืองทั่วโลกครับ เพราะเมืองใหญ่ตอบสนองความต้องการของเขาได้ หากแต่เมืองไทยมีเพียง กทม. เท่านั้นที่พูดได้ว่าใหญ่จริงๆ โดยไม่มีเมืองอันดับสองเลยซักเมืองเดียว ประชากรเลยล้นอยู่ที่นี้ แต่ถ้าเกิดทุกจังหวัดมีการจัดการตนเอง แต่ล่ะจังหวัดก็ค่อยๆพัฒนาตามศักยภาพของตน ค่อยๆเจริญขึ้น ประชาชนก็จะมีทางเลือกมากขึ้น แล้วก็จะลดความแออัดในเมืองหลวงได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 มกราคม 2012, 11:26:11 โดย wiichy » IP : บันทึกการเข้า
chitchit
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #95 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2012, 15:52:14 »

ถ้าเราใช้แนวคิด งบประมาณ หักลบแล้วเหลือตั้งหกหมื่นล้านเป็นตัวตั้ง
ก็จะมีเพียงเชียงใหม่  สมุทรปราการ  และอีกไม่กี่จังหวัด

แต่ถ้าเราทำไปพร้อม ๆ กัน 
เกลี่ยประชากรลง  ลงตามภูมิลำเนาเดิมเป็นอันดับแรก
เกลี่ยข้าราชการภูมิภาคในจังหวัดนั้น ๆ ลงไป

ประชากรเกินล้าน  ลดลงให้ไปอยู่จังหวัดข้างเคียง 
70 จังหวัด  ก็มีประชากรครบแล้ว 70 ล้าน

จังหวัดไหนพื้นที่ยังเล็ก  ก็ขีดเส้นใหม่  ให้ใกล้เคียงกัน

แต่ละจังหวัดมีหน้าที่วางแผนคุมกำเนิดประชากร


ทุกจังหวัด  มีสิ่งจำเป็นทุกอย่าง โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล

สนามบิน  สนามกีฬา  แหล่งท่องเที่ยว  ศาสนสถาน ...

คนของจังหวัด  เกิดแก่เจ็บ ตาย   เผาได้  ภายในจังหวัด

ไม่ต้องไปที่อื่น  ถ้าไม่มีธุระจริง ๆ  หรืออยากไปเที่ยว

ส่วนเรื่องเรียน ตั้งแต่อนุบาล ยันปริญญาเอก  อยู่ภายในจังหวัด

ทำงาน  ในจังหวัด  ...



IP : บันทึกการเข้า
chitchit
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #96 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2012, 15:58:58 »

แต่ละจังหวัด  ที่มีขนาดพื้นที่  เศรษฐกิจ  ประชากร  ใกล้เคียงกัน หรือเท่ากัน
ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง  ส่ง ส.ส.  เข้าสู่สภา

70 คน  ... ระบบรัฐสภาของประเทศไทย  จะมีความมั่นคงมาก

แต่ละจังหวัด  ให้อำนาจเบ็ดเสร็จ  มี ตำรวจ เป็นของตนเอง
เป็นลูกน้องนายกมหานคร  กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  อาจไม่ต้องยุบ  แต่เป็น
ลูกน้องนายกมหานคร เหมือนกัน

ตุลาการ  ก็ให้เป็นหน่วยอิสระในระดับจังหวัด

ส่วนกลางลดคงลงเหลือเพียงหนึ่งในสิบของปัจจุบัน  ทำงานเชิงวิชาการ
และการวางและบริหารโครงสร้างการปกครองประเทศ  การทหาร
การต่างประเทศ  ดีเอสไอ  ปปช  สตง  ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ

แต่การปฏิบัติทั้งมวล  อยู่ในการบริหารของ นายกมหานคร ในแต่ละจังหวัด

IP : บันทึกการเข้า
wiichy
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 349


« ตอบ #97 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2012, 16:13:33 »

ถ้าเราใช้แนวคิด งบประมาณ หักลบแล้วเหลือตั้งหกหมื่นล้านเป็นตัวตั้ง
ก็จะมีเพียงเชียงใหม่  สมุทรปราการ  และอีกไม่กี่จังหวัด

แต่ถ้าเราทำไปพร้อม ๆ กัน 
เกลี่ยประชากรลง  ลงตามภูมิลำเนาเดิมเป็นอันดับแรก
เกลี่ยข้าราชการภูมิภาคในจังหวัดนั้น ๆ ลงไป

ประชากรเกินล้าน  ลดลงให้ไปอยู่จังหวัดข้างเคียง 
70 จังหวัด  ก็มีประชากรครบแล้ว 70 ล้าน

จังหวัดไหนพื้นที่ยังเล็ก  ก็ขีดเส้นใหม่  ให้ใกล้เคียงกัน

แต่ละจังหวัดมีหน้าที่วางแผนคุมกำเนิดประชากร


ทุกจังหวัด  มีสิ่งจำเป็นทุกอย่าง โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล

สนามบิน  สนามกีฬา  แหล่งท่องเที่ยว  ศาสนสถาน ...

คนของจังหวัด  เกิดแก่เจ็บ ตาย   เผาได้  ภายในจังหวัด

ไม่ต้องไปที่อื่น  ถ้าไม่มีธุระจริง ๆ  หรืออยากไปเที่ยว

ส่วนเรื่องเรียน ตั้งแต่อนุบาล ยันปริญญาเอก  อยู่ภายในจังหวัด

ทำงาน  ในจังหวัด  ...





ไม่ได้ตั้งหลักไว้ที่หกหมื่นล้านครับ แต่ยกตัวอย่างจาก ร่าง พรบ.เชียงใหม่มหานคร ที่กำหนดรายได้ที่ต้องส่งเข้าส่วนกลางไว้ที 70:30

ถ้าเชียงรายใช้แบบนี้ก็จะได้ประมาณ 2 หมื่นล้าน ที่เหลืออีกสามส่งไปส่วนกลาง แล้วทีนี้แหละนักการเมือง สส. จะพากันกลับมาสนใจท้องถิ่น เพราะงบอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอนตนเอง ไม่ต้องไปขอส่วนบุญกันในสภา

อำนาจของรัฐบาลกลางจะลดลง เพราะถูกกระจายให้ท้องถิ่นไปเกินครึ่งแล้ว การปฎิวัติ รัฐประหาร แย่งชิงผลประโยชน์จะลดลงเช่นกัน เพราะผลประโยชน์ทั้งหลายไม่ได้อยู่ที่ กทม แล้ว
IP : บันทึกการเข้า
wiichy
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 349


« ตอบ #98 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2012, 16:38:51 »

แต่ละจังหวัด  ที่มีขนาดพื้นที่  เศรษฐกิจ  ประชากร  ใกล้เคียงกัน หรือเท่ากัน
ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง  ส่ง ส.ส.  เข้าสู่สภา

70 คน  ... ระบบรัฐสภาของประเทศไทย  จะมีความมั่นคงมาก

แต่ละจังหวัด  ให้อำนาจเบ็ดเสร็จ  มี ตำรวจ เป็นของตนเอง
เป็นลูกน้องนายกมหานคร  กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  อาจไม่ต้องยุบ  แต่เป็น
ลูกน้องนายกมหานคร เหมือนกัน

ตุลาการ  ก็ให้เป็นหน่วยอิสระในระดับจังหวัด

ส่วนกลางลดคงลงเหลือเพียงหนึ่งในสิบของปัจจุบัน  ทำงานเชิงวิชาการ
และการวางและบริหารโครงสร้างการปกครองประเทศ  การทหาร
การต่างประเทศ  ดีเอสไอ  ปปช  สตง  ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ

แต่การปฏิบัติทั้งมวล  อยู่ในการบริหารของ นายกมหานคร ในแต่ละจังหวัด



70 คน  ... ระบบรัฐสภาของประเทศไทย  จะมีความมั่นคงมาก

นั้นหมายความว่าหากอนาคตประชากรเพิ่มเป็น 80 ล้าน สส. ก็ต้องเพิ่มหรอครับ

ความมั่นคงของรัฐสภาอยู่ที่ตัวผู้แทนทั้งหลายนั้นแหละครับ ไม่ได้อยู่ที่ตัวประชากร เพราะเมื่อเขาได้เข้าสู้สภา ยากนักที่เราจะรู้ว่าเขากำลังทำอะไร เมื่อเห็นแก่อำนาจ และผลประโยชน์ ไม่เห็นแก่ประชาชน ยังไงซะสภาก็ไม่มีความมั่นคงแน่นอน ตราบเท่าที่ สส. บ้านเรายังคงเป็นนี้

ทุกวันนี้ระบบการเลือกตั้งก็กำหนดสัดส่วนของประชากรต่อจำนวน สส. อยู่แล้วครับ ไม่งั้นแต่ล่ะจังหวัดจะได้จำนวน สส. ต่างกันหรอ ประชากรมากได้มาก ประชากรน้อย จังหวัดเล็กจึงมี สส. คนเดียวก็มี

ส่วนบรรทัดอื่นๆ อยู่ในความหมายของการกระจายอำนาจแล้วครับ

ไม่มีประเทศไหนในโลกที่มีการปกครองส่วนภูมิภาคแบบไทย แม้แต่อังกฤษแม่แบบประชาธิปไตยระบอบรัฐสภาที่เราไปลอกเขามาก็ไม่มี แต่เราเติมเอาเอง

หากมีการกระจายไปจริงๆ ก็จะเกิดรัฐบาลสองระดับ คือรัฐบาลกลาง กับรัฐบาลท้องถิ่น

ท้องถิ่นมีอำนาจในการจัดการคมนาคม การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว การกีฬา สาธารณูปโภค สาธารณูปการ การผังเมือง ภาษี เป็นต้น สิ่งที่ไม่มีคือ การศาล การทหาร การต่างประเทศที่เป็นเรื่องของส่วนกลาง ส่วนเรื่องกฏหมายยังต้องยึดหลักกฎหมายเดียวกัน เพราะเราเป็นรัฐเดี่ยว แบ่งแยกไม่ได้

ต้องนึกเสมอครับว่าประชาชนทกคนมีสิทธิเสรีภาพในการเลือกสรรสิ่งต่างๆที่สามารถตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของเขาได้ เราคงไปกำหนดไม่ได้ว่าจะให้จังหวัดละล้าน ถ้าทำจริงคงเกิดยาก ถามว่าหากแบ่งเชียงรายออก แล้วที่เหลือยอมมั๊ย หรืออยากเป็นลูกพ่อขุนแบบเดิม

ส่วนเรื่องอื่นๆผมว่า คุณพี่ Temujin ตอบคุณครบหมดแล้วน่ะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 มกราคม 2012, 17:02:36 โดย wiichy » IP : บันทึกการเข้า
wiichy
ชั้นประถม
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 349


« ตอบ #99 เมื่อ: วันที่ 03 มกราคม 2012, 16:46:23 »



อธิบายความหมายของการจัดการตนเองครับ เอามาลงให้ชมอีกรอบ เผื่อสมาชิกที่มาหลังๆจะได้ชม และเข้าใจ

รธน. กำหนดให้รัฐส่งเสริม ท้องถิ่นนั้นๆ หากมีความพร้อมในการจัดการตนเอง

ตอนนี้ การตัดสินใจ กำหนดทิศทางนโยบายต่างๆมาจากส่วนกลางเป็นหลัก ซึ่งการรวมศูนย์ไว้ที่ส่วนกลางนั้น ไม่เฉพาะรวมอำนาจอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมเอาปัญหาทั้งประเทศเข้าไว้ที่ส่วนกลางเช่นกัน

ทำให้การแก้ปัญหาต่างๆล้าช้า ไม่ตอบสนองท้องถิ่นเต็มที่ ท้องถิ่นต่างๆไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ หรือพัฒนาแต่ผิดประเภทไม่เหมาะสมท้องถิ่น เกิดความขัดแย้ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: วันที่ 03 มกราคม 2012, 16:51:46 โดย wiichy » IP : บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

 
เรื่องที่น่าสนใจ
 

ข้อความที่ท่านได้อ่านบนกระดานข่าวแห่งนี้ เกิดขึ้นจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงต้องใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม พาดพิง ละเมิดสิทธิบุคคอื่น ต้องการแจ้งลบ
กรุณาส่งลิงค์มาที่
เพื่อทีมงานจะได้ดำเนินการลบออกให้ทันที..."

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2013, Simple Machines
www.chiangraifocus.com

Valid XHTML 1.0! Valid CSS!