คุณสมบัติของผู้ซื้อเป็นอย่างไรบ้างครับ เห็นว่า อายุ 21 ปีขึ้นไปเท่านั้น พวก การศึกษา เงินเดือน อะไรมีไหมครับ
อย่างผมเนี่ย นายสิบทหาร บรรจุใหม่ เงินเดือนน้อย จะมีโอกาศมั้ยน้อ.......

ลองอ่านดูครับ แต่เห็นว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดเพิ่มเติมอีก อาจเพิ่มในส่วนการเปลี่ยนมือก่อน5ปีในกรณีผ่อนต่อไม่ไหว กับเพิ่มเติมในส่วนรถยนต์ประกอบนอกหรือรถนำเข้าเข้าไป
เปิดรถในเงื่อนไข
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 ให้กรมสรรพสามิตลดหย่อนภาษีสรรพสามิตตามจริงไม่เกิน 1 แสนบาท สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์คันแรกในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มีขนาดไม่เกิน 1,500 ซีซี ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 ถึง 31 ธันวาคม 2555 ภายใต้เงื่อนไขต้องเป็นรถที่ผลิตในประเทศเท่านั้น และผู้ซื้อไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ในระยะเวลา 5 ปี โดยจะได้รับเงินภาษีคืนภายใน 1 ปีนับจากวันที่ยื่น รถอะไรบ้างที่อยู่ในนโยบายนี้ สำหรับรถที่เข้าข่ายโครงการรถคันแรก ต้องมีคุณสมบัติสำคัญคือ รถเก๋งหรือรถกระบะ ที่มีราคาขายปลีก ไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นตลาดรถเก๋งเล็ก กับรถกระบะ ถ้าเป็นเก๋ง ขนาดเครื่องต้องไม่เกิน 1,500 ซีซี ไม่ว่าดีเซลหรือเบนซิน คือรถในกลุ่มบีคาร์ ส่วนรถกระบะ ไม่จำกัดขนาดของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังต้องเป็นรถที่ประกอบในประเทศที่เรียกว่า ซีเคดี ไม่รวมรถนำเข้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศ หรือซีบียู และรถนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบหรือเรียกกันติดปากภาษาชาวบ้านว่า "รถจดประกอบ"
หาซื้อบีคาร์ได้อัตราการคืนภาษีสูง
รถ 1 ล้านบาทจะได้คืนสูงสุด 1 แสนบาท แม้ว่า ภาษีที่ถอดออกมาจะเกิน 1 แสนบาท ก็จะได้คืนแค่ 1 แสนบาท ยกตัวอย่างรถที่จะได้คืนเงินสูงสุดคือ บีคาร์ (วีออส, ยาริส, แจ๊ซ, ซิตี้) เนื่องจากเสียภาษีสรรพสามิตสูงสุด 25% ตามมาด้วย ปิกอัพ 4 ประตู ที่เสียภาษี 12% ซึ่งแม้ว่าจะเป็นอัตราที่ต่ำกว่าภาษีรถอีโคคาร์ ที่จัดเก็บ 17% แต่เนื่องจากมีราคาจำหน่ายที่สูงกว่า ในขณะที่อีโคคาร์ คืนภาษีไม่น้อยเช่นกันเมื่อคิดเป็นเงินที่ได้รับเงินคืนต่ำสุดระดับ 1-2 หมื่น คือ ปิกอัพตอนเดียว และปิกอัพตอนครึ่ง หรือปิกอัพมีแค็บ
ผู้เชี่ยวชาญการประเมินราคาอย่าง เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการสหการประมูล แนะนำว่า ถ้าเลือกซื้อมองในแง่การคืนภาษี จะเห็นว่า กลุ่มรถที่เสียภาษีสูง คือ 25% เป็นรถที่ควรเลือกซื้อเพราะว่าจะได้รับส่วนลดเต็มๆ ในขณะที่ รถเหล่านี้มีมูลค่าขายต่อที่สูงพอสมควรในตลาดประมูล
รถที่ไม่ได้คืนภาษี
รถยนต์นั่งขนาดไม่เกิน 1,500 ซีซี ที่ประกอบมาจากต่างประเทศ ไม่เข้าข่ายรถคันแรก เนื่องจากเป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศ ยี่ห้อที่ไม่ได้รับการคืนภาษีคือ โปรตอน ซาก้า, โปรตอน แซฟวี, เกีย พิคันโต, เกีย พิคันโต เค1, ซูซูกิ สวิฟท์
ขั้นตอนการคืนภาษี
ผู้ซื้อต้องยื่นเอกสารหลักฐานการขอคืนภาษี ประกอบไปด้วย 1.แบบคำขอคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก 2.สำเนาบัตรประชาชน 3.สำเนาทะเบียนบ้าน 4.สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ) 5.สำเนาคู่มือการจดทะเบียน 6.หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี และ 7.หลักฐานการซื้อขายรถยนต์ รัฐบาลจะจ่ายเช็คให้ไว้รอรับการโอนเงินเข้าธนาคารตามกำหนด
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ
คนต้องการซื้อรถที่ได้คืนภาษีต้องไม่เคยมีชื่อเป็นเจ้าของรถมาก่อน ผู้ซื้อต้องมีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สำหรับผู้ที่เคยครอบครองรถมาก่อนปี 2549 ได้รับสิทธิ์ซื้อรถคันแรกได้
ข้อควรระวัง
กรณีผู้ซื้อไปแล้ว มีเหตุไม่สามารถผ่อนชำระเงินกู้กับสถาบันการเงินได้ ส่งผลให้สถาบันการเงินยึดรถ กรมสรรพสามิตจะต้องเรียกคืนภาษีที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ซื้อไปแล้ว โดยผู้ซื้อจะต้องเซ็นยินยอมที่จะคืนภาษีส่วนนี้ในใบแสดงการขอคืนภาษี และรัฐบาลจะดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่งทั้งเงินต้นและอัตราดอกเบี้ย หากผู้ซื้อไม่ยินยอมคืนภาษีกรณีที่ผิดเงื่อนไข (เงื่อนไขกำหนด ต้องครอบครองรถก่อนเปลี่ยนมือเป็นเวลา 5 ปี)
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=khemtid&month=19-09-2011&group=13&gblog=23