เริ่มต้นทริป…บ่ายวันเสาร์ ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ
บ่ายวันเสาร์วันหนึ่ง เรานั่ง ๆ นอน ๆ อยู่บ้าน จู่ ๆ ก็เกิดอาการอยากเดินตลาดน้ำขึ้นมาเฉยเลย อากาศก็ร้อน แต่ใจมันเรียกร้องอยากหาของกินดี ๆ เดินชิลล์ ๆ ถ่ายรูปเพลิน ๆ แล้วก็มีตลาดหนึ่งโผล่ขึ้นมาในหัว
ตลาดน้ำรังสิต ชื่อนี้อาจยังไม่ดังเท่าตลาดน้ำอัมพวาหรือดำเนินสะดวก แต่ขอบอกเลยว่าของดีอยู่ใกล้ ๆ กรุงเทพแบบนี้ ต้องลองสักครั้ง
คิดว่าการไปเดินตลาดน้ำใกล้กรุงฯ แบบนี้น่าจะเป็นไอเดียที่ดี เพราะไม่ต้องขับรถไกล ใช้เวลาน้อย ได้พักผ่อนแบบช้า ๆ ไม่รีบเร่ง แถมยังได้กลิ่นอายความเป็นไทยแบบบ้าน ๆ อีกด้วย
ทำเลใกล้เมือง เดินทางสะดวกสุด ๆ
ตลาดน้ำรังสิตอยู่แถวคลองรังสิต ใกล้ ๆ กับดรีมเวิลด์และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ใครไม่มีรถส่วนตัวก็นั่งรถตู้หรือรถเมล์ต่อเดียวถึงแบบสบาย ๆ เลย พอไปถึงเราก็หาที่จอดรถ (ซึ่งมีเพียบ) แล้วก็เริ่มเดินสำรวจแบบตาเป็นประกาย

การเดินทางง่ายและสะดวกแบบนี้ทำให้คนไม่ต้องกลัวเรื่องรถติดหรือหาที่จอดยาก ตลาดจึงเหมาะมากกับคนที่อยากหนีความวุ่นวายแต่ไม่อยากไปไกล แถมยังเหมาะกับครอบครัวที่อยากหาที่พักผ่อนหย่อนใจแบบสงบ ๆ
เดินตลาดน้ำ แต่ไม่ใช่แค่เดินผ่าน
บรรยากาศโดยรวมของตลาดน้ำรังสิตจัดว่า อบอุ่นเป็นกันเองมาก ร้านค้าส่วนใหญ่เป็นคนในชุมชนท้องถิ่น มีทั้งร้านของกินพื้นบ้าน ร้านขายของฝากงานคราฟต์ ไปจนถึงของใช้โบราณหายากที่นี่ไม่ใช่ตลาดน้ำที่มีเรือพายขายของเยอะ ๆ เหมือนบางแห่งนะ แต่มีคลองเล็ก ๆ ไหลผ่านกลางตลาด ซึ่งทำให้เดินแล้วรู้สึกสงบ เย็นสบาย และมีมุมให้ถ่ายรูปเก๋ ๆ อยู่เรื่อย ๆ
เวลาเดินผ่านแต่ละร้าน เหมือนได้ยินเสียงพูดคุยเบา ๆ ของพ่อค้าแม่ค้า มีทั้งเสียงหัวเราะและเสียงเรียกลูกค้าให้แวะชิมของกันอย่างเป็นมิตร เราเดินชมของไปเรื่อย ๆ เหมือนได้ย้อนเวลาไปยังยุคที่ชีวิตยังไม่เร่งรีบ
ของฝาก ของน่ารัก ก็มีให้ช้อปเพลิน
ถ้าใครชอบของแนวงานฝีมือหรือของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่นี่ก็มีหลายร้านน่าสนใจ เช่น
• กระเป๋าผ้าลายวาดมือ
• เทียนหอมทำเอง
• สมุดทำมือเย็บด้ายญี่ปุ่น
• เครื่องประดับแฮนด์เมดแบบวินเทจ
นอกจากนี้ยังมีของเล่นไม้แบบโบราณที่เด็กยุค 90 เห็นแล้วต้องยิ้มออก เช่น งูกินหาง ไม้หมุน กล่องดนตรีแบบไขลาน ฯลฯ
บางร้านเจ้าของใจดีจะแถมเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ด้วย เช่น ผ้าพันคอเล็ก ๆ หรือของที่ระลึกทำมือที่ไม่ได้ขายตามร้านทั่วไป การได้สัมผัสกับของฝากเหล่านี้ทำให้รู้สึกเหมือนได้ซึมซับวัฒนธรรมไทยแท้ ๆ ไปด้วย ไม่ใช่แค่ซื้อของ แต่ยังได้ความทรงจำดี ๆ กลับบ้าน
ล่องเรือชมคลอง วิวดี๊ดี
ไฮไลต์อีกอย่างของ
ตลาดน้ำรังสิต ก็คือการได้นั่งเรือชมคลอง เป็นเรือพายแบบช้า ๆ ชิลล์ ๆ ผ่านบ้านเรือนริมน้ำและต้นไม้ใหญ่ที่ยังอุดมสมบูรณ์ ราคาแค่คนละ 20-30 บาทเท่านั้นเอง เหมาะกับการถ่ายรูป เล่นน้ำลมเบา ๆ หรือพาเด็ก ๆ มาสัมผัสธรรมชาติ
เรานั่งเรือประมาณ 15 นาที ได้รูปสวย ๆ มาหลายช็อต และยังได้พูดคุยกับพี่คนพายเรือที่เล่าเรื่องเก่า ๆ เกี่ยวกับคลองรังสิตให้ฟังอีกด้วย เหมือนย้อนเวลากลับไปในวัยเด็กเลยแหละ ความรู้สึกตอนนั่งเรือคือสงบมาก ลมพัดเย็น ๆ พัดใบไม้ไหว เสียงน้ำกระทบเรือดังเป็นจังหวะ เราได้ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกกระทบผิวน้ำ ได้เห็นบ้านไม้เก่าแก่ริมคลองที่ยังอนุรักษ์ไว้อย่างดี เป็นภาพที่ประทับใจมาก
คนไม่เยอะ เดินสบาย เหมาะกับวันพักใจ
ข้อดีของ
ตลาดน้ำรังสิต คือ ไม่แออัดเท่าตลาดอื่น ๆ ที่ดัง ๆ เราเดินแบบไม่ต้องเบียดกับใคร มีมุมให้พักขาเยอะ มีเสียงเพลงเบา ๆ ลอยมาตามลม เหมาะกับการมานั่งเล่น คุยกับเพื่อน หรือมาเดินคนเดียวชาร์จแบตใจก็ยังได้ บางร้านมีโต๊ะไม้เล็ก ๆ ให้นั่งริมน้ำ สั่งขนมมากินพลางดูปลาว่ายน้ำ เพลินกว่านั่งร้านกาแฟแพง ๆ อีก

ในวันที่เราไป คนไม่เยอะเลย มีทั้งกลุ่มครอบครัว และวัยรุ่นที่มานั่งทำงานบนโต๊ะไม้ พร้อมเครื่องดื่มเย็น ๆ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบแบบนี้ แค่ได้มานั่งตรงนี้ก็คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแล้ว
จบทริปแบบอิ่มใจ (และอิ่มท้อง)
หลังจากเดินเล่นเกือบ 3 ชั่วโมง ทั้งกิน ถ่ายรูป นั่งเรือ และช้อปของน่ารัก เราก็กลับบ้านแบบอารมณ์ดี เหมือนได้พักใจจริง ๆ ตลาดน้ำรังสิตอาจไม่ใช่ที่เที่ยวสุดฮิตในโซเชียล แต่ถ้าใครชอบความเรียบง่าย ชอบบรรยากาศอบอุ่น และอยากหาที่พักใจในวันธรรมดา ๆ ขอบอกว่า ที่นี่คือคำตอบเลย
ถ้าอยากเปลี่ยนวันธรรมดาให้กลายเป็นวันที่พิเศษ ลองหาเวลาว่างไปเดินเล่นที่นี่ รับรองจะติดใจเหมือนเราแน่นอน