ต้องขอให้ทำความเข้าใจกับคำว่า "เจอ ตอ" สำหรับคนไม่คุ้นเคย
ยกตัวอย่าง มีการสอบสวนหาคนผิด ในหน่วยราชการแห่งหนึ่ง
พอกำลังสอบไปถึง คาดว่าคนผิดมีส่วนร่วมเป็นผู้บริหารระดับสูง
ฝ่ายสอบสวนก็ได้รับคำสั่งลับๆ (จากทางไหนไม่รู้) ให้ยกเลิกการสอบสวน
นี่ล่ะคือ ความหมายของการ "เจอ ตอ"
...แต่ที่สงสัยคือ พ่อเด็กตาย เขามีทะเบียนราษฎร์หรือเปล่า ถ้ามีคนตาย ต้องมีการ
แจ้งความ มีหมอมาตรวจรับรองการตาย ออกใบมรณะบัตร ไปคัดชื่อออกจากทะเบียนราษฎร์
นั่นน่าจะเป็นหลักฐานไปอ้างอิงสำหรับเด็กได้แล้วนะ หรือว่าตายเงียบๆ ไม่ทำหลักฐาน
เด็กก็ไม่อยู่ในทะเบียน ไม่มีการแจ้งเป็นลูก มีกรณีสงสัย เอาเด็กข้ามดอยมาอ้างอิง
ยังไม่พอ คนตายมีเลขประชาชนไทย ไม่แจ้งตาย มีการสรวมแทนบุคคล (อยู่ พ.ล.)
อันนี้ ก็ต้องระวังไว้ด้วย คนต่างด้าว คนข้ามฟากดอยมาฝั่งไทย แล้ว มีบัตรประชาชนไทยได้ยังไง
ฝ่ายทำทะเบียนบัตร อ่านความของผม คงเข้าใจดีครับ....
ชี้แจงนะครับ
-เด็กและพ่อเด็ก ได้ขึ้นทะเบียนแล้วครับ(เหมือนคนไทยทั่วไปครับ..เพียงแต่เลขนำหน้า 13 หลัก เป็นเลข 6 ครับ)
-ส่วนหลักฐานการตาย ..ผมคิดว่าน่าจะมาจาก
1.พ่อเด็กน่าจะเสียชีวิตก่อนปี 45 ครับ เพราะที่ค้นประวัติมีประวัติของน้องชายเสียชีวิตปี 48
2.ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเอกสาร..ต้องยอบรับว่าภาษาชาวเขาจะเป็นภาษาที่กำกวมครับ เช่น อายือ/อายื่อ/อาผื่อ...ส่วนหนึ่งมาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันครับทำให้การค้นประวัติ..ชื่อไม่ตรง/13 หลักไม่ตรง..ก็ไม่สามารถระบุตัวตนได้ครับ
3.แต่ที่แน่คือ...ทางอำเภอ(ไม่ขอบอกว่าที่ไปหนนะครับ)ได้แจ้งพ่อเด็กออกจากทะเบียนราษฎร์ปี 2552 ครับ
แล้วจะช่วยเหลืออย่างไรต่อไป...อันนี้น่าคิดนะ
สุดท้ายคงต้องอยู่ที่จิตสำนึกของผู้ให้บริการครับ...ยอมรับจริงๆว่าอยากช่วย แต่ด้วยระเบียบ/ระบบ ต่างๆทำให้เราไม่สามารถช่วยเหลือได้มากกว่านี้จริงๆๆๆๆ
