ป 6 จบ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
หลายปีแล้ว…เมื่อถึงวันแม่ 12 สิงหาคม ของทุกปี ข้าพเจ้าจะเดินทางกลับบ้านเพื่อไปเยี่ยมแม่ จัดซี้อข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือนที่คิดว่าขาดและแม่กำลังต้องการอยู่ ไปให้ แม้จะใช้งบประมาณปีละถึง 500 – 600 บาท ก็ตาม แต่ถ้าหากปีใดที่ข้าพเจ้าไม่มีเงิน ก็จะใช้ความพยายามขวานขวายหา แม้จะต้องขอหยิบขอยืมเพื่อนพระด้วยกันก็ยอม
“ จ๊าก – วาซื่อมาเฮ็ดหยัง เปลืองเงินเปลืองทอง มีหลายกะเก็บไว้แนเปี๊ยง…ลูกเอ้ย ”
คำพูดของแม่แม้จะเคยได้ยินได้ฟังอยู่บ่อย ๆ จนชิน แต่ก็เปรียบเสมือนน้ำยาซัลไลด์กระเด็นใส่จานชาม ถึงใจดวงน้อย ๆ ของข้าพเจ้าจะพองโตแช่มชื่น ก็อดที่จะทำตาเขียวค้อนให้แม่ไม่ได้ เพราะนั่นคือสไตล์ของแม่ ปากก็พูดไปงั้น ๆ ดีใจละไม่ว่า …
หลายปีแล้ว…ที่ข้าพเจ้าแอบมองแม่แต่ด้านหลัง วันเวลายิ่งหมุนเวียนเปลี่ยนไป ร่างกายสังขารของแม่ก็ยิ่งย่างเข้าสู่วัยชราไปตามลำดับ เนื้อหนังมังสาที่เคยเต่งตึงกลับหย่อนยาน เรือนผมที่เคยดกดำสลวยเป็นเงา กลับมีสีขาวขึ้นแซม นึกแล้วน่าใจหาย… เมื่อถึงวันนั้น วันที่อายุขัยของแม่คืบคลานมาถึง จนสะดุด และสิ้นสุดลง… คงเป็นวันแห่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ในชีวิตของลูก ๆ
ณ บัดนั้นเป็นตันไป ใครหนอ ? ที่จะมาเฝ้าห่วงหาอาลัยอาวรณ์คอย ไตร่ถาม
สารทุกข์สุกดิบของลูก และหลานของท่าน ใครหนอ ? ที่จะคอยชะเง้อมองลอดผ่านประตูรั้วบ้าน รอคอยการกลับมาของลูก ๆ ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงเป็นใย โอ้อนิจจา… หากวันเวลานั้นมันย่างกรายมาถึงจริง ๆ สักวัน… ใจของลูกคงเปรียบเสมือนจะแตกลาลับ …ดับสลายวายวาง คงจะหมด สูญสิ้นซึ่งความรัก ความเมตตาเอื้ออาทร ความห่วงหาอาลัยอาวรณ์จากแม่ คงจบสิ้นซึ่งสังขารธรรมที่ร่วงโรย เหี่ยวแห้ง เหนื่อยล้า และหย่อนยานของแม่ … คงหมดสิ้น…ซึ่งแม้แต่… ลมหายใจของแม่. !
……………….
กลอน วันผู้ให้กำเนิด
งานวันเกิดยิ่งใหญ่ใครคนนั้น ฉลองกันในกลุ่มผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศสรรเสริญเพลินทะนง วันเกิดส่งชีพสั้นเร่งวันตาย
ณ มุมหนึ่งซึ่งเหงาน่าเศร้าแท้ หญิงแก่แก่นั่งหงอยและคอยหา
โอ้วันนั้นในวันนี้ที่เป็นมา แม่นั้นหนาคลอดตัวเจ้าแทบชีพวาย
วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่ เจ็บท้องแท้เท่าไหร่ก็ไม่บ่น
กว่าอุ้มท้องกว่าคลอดรอดเป็นคน เติบโตจนบัดนี้นี่เพราะใคร
แม่เจ็บเจียนขาดใจในวันนั้น กลับเป็นวันลูกฉลองกันผ่องใส
ได้ชีวิตแล้วก็เหลิงระเริงใจ ลืมผู้ให้ชีวิตอนิจจา
ไฉนเราเรียกกันว่า “วันเกิด” “วันผู้ให้กำเนิด” จะถูกกว่า
คำอวยพรที่เขียนควรเปลี่ยนมา ให้มารดาคุณเป็นสุขจึงถูกจริง
เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ ควรแต่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่
รำลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด อย่ามัวแต่จัดงานประจานตัว
.......................